จอมบงการเทพยุทธ์ – บทที่ 235 ทั้งสามคนจากไป บทสรุปของความพ่ายแพ้!

จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 235 ทั้งสามคนจากไป บทสรุปของความพ่ายแพ้!

บทที่ 235 ทั้งสามคนจากไป บทสรุปของความพ่ายแพ้!

อันหรานนิ่งเงียบ และไม่สนใจสิ่งใด เขาหันหลังและหนีไป

ในตอนนี้ เขาจะหยิ่งผยองเหมือนตอนที่เพิ่งข้ามพรมแดนมาได้อย่างไร? ตรง กันข้าม เขาเปี่ยมไปด้วยความทุลักทุเล

แต่ในเวลานี้ อันหรานไม่สามารถสนใจเรื่องนี้ได้

และตอนนี้ชีวิตเขาจะตกอยู่ในอันตราย ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องโกหก

เขาได้บรรลุเขตแดนพลังยุทธ์ราชันอมตะ แม้ว่าทําตัวสูงส่ง* แต่เขาก็ไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน

(ทําตัวสูงส่ง สํานวนจีน ไม่ยึดติดกับความเป็นจริง ทําตัวห่างออก ไป นิยมใช้กับ ผู้นําที่ทําตัวเหินห่างและไม่ยอมรับความเป็นจริง มาจากหนังสือ

ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาหวงแหนชีวิตของตนมากกว่าใคร

ชีวิตที่เป็นนิรันดร์อันไร้ที่สิ้นสุด ทําให้พวกเขาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิตมากกว่าใครๆ

“ราชันอมตะอันหรานหนีไปจริงๆ…..”

“ไม่น่าเชื่อ ผู้สูงสุดอย่างราชันอมตะจะตายในสนามรบและพ่ายแพ้เยี่ยงนี้…..”

ทางฝั่งแดนนิรันดร์ ราชันผู้กําแหงจากแดนทมิฬถึงกับพูดไม่ออก มองไปทาง อันหรานที่กําลังออกไป ราชันผู้กําแหงทั้งหมดต่างก็พึมพํากับตัวเอง

ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกลืมไปแล้ว และไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขาเลย

และในฐานะพยานที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ผลกระทบทางจิตใจที่พวกเขาได้รับ นั้นยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ตั้งแต่เริ่มต้น เขาได้เห็นการมาถึงของราชันอมตะ ซึ่งมันช่างน่าตื่นเต้นเป็น อย่างมาก

จนท้ายที่สุด ราชันอมตะทั้งสี่ก็เสียชีวิตลง อันหรานพ่ายแพ้และถอยกลับไป อย่างปลอดภัย

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกินกว่าที่พวกเขาจะทนได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความพ่ายแพ้ของอันหราน มันทําให้ศรัทธาในหัวใจของราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬเหล่านี้เกือบจะพังทลายลง

ราชันอมตะสูงสุด!

ตอนนี้เขาถึงกลับรีบหนีไปอย่างรวดเร็วในสถานการณ์เช่นนี้ เกรงว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ของแดนทมิฬจะต้องมีสภาพจิตใจแบบเดียวกันเมื่อเจอกับเหตุการณ์นี้

“ไม่มีใครมาช่วยพวกเราแล้ว คงจะถูกทอดทิ้งจริงๆ”

ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬกล่าวด้วยความสิ้นหวัง

เหตุผลที่พวกเขากล้าข้ามพรมแดนมา เพราะมีราชันอมตะสนับสนุนและวางแผนอยู่เบื้องหลัง

และตอนนี้ การวางแผนของแดนทมิฬในหลายพันล้านปีนั้นไร้ประโยชน์ ราชัน อมตะพ่ายแพ้ ผู้ใดจะยังสนใจความเป็นความตายของพวกเขากันล่ะ?

ทางฝั่งแดนนิรันดร์ ราชันเฉียนยังคงอยู่ที่นั่น เกรงว่าเพียงแค่ความคิดเดียว เขาก็จะสามารถลบผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬที่มีอยู่ทั้งหมดได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ อันหรานถอยกลับโดยไม่พาพวกเขากลับไปด้วย

เท่านี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ราชันผู้กําแหงเหล่านี้ถูกทอดทิ้ง

แต่เป็นเรื่องปกติที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ราชันผู้กําแหงนั้น ในยุคสมัยหนึ่ง แดนทมิฬที่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตไม่รู้ว่า ถือกําเนิดมาสักกี่ตน

แล้วราชันอมตะล่ะ?

ผ่านยุคสมัยที่นับไม่ถ้วน อาจไม่สามารถถือกําเนิดขึ้นได้เลย

ดังนั้น ชีวิตของสิ่งที่เรียกว่าราชันผู้กําแหงเหล่านี้ เมื่อเทียบกับราชันอมตะที่ ทําตัวสูงส่ง ถือว่าไม่มีความสําคัญเป็นเรื่องปกติ

“ถอยกลับ!”

แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะใกล้ตาย สิ่งมีชีวิตของแดนทมิฬเหล่านี้ก็ยังคงไม่ยอมแพ้

ภายใต้การนําของเทพทมิฬ พวกเขาหนีไปยังที่ชายแดนร้างแดนนิรันดร์ โดย หวังว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดได้

ราชันเฉียนเฝ้าดูทั้งหมดนี้อย่างใจเย็น ไม่รีบร้อนที่จะลงมือ

อันที่จริงแล้ว การสังหารราชันผู้กําแหงของแดนทมิฬเหล่านี้สามารถลดการพัฒนาของแดนทมิฬในอนาคตได้

แต่สําหรับแดนนิรันดร์ในปัจจุบัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือจะคิดหาวิธีจัดการกับราชันอมตะและราชันบรรพบุรุษของอีกฝ่ายที่แข็งแกร่งอย่างไร

การต่อสู้วันนี้ แม้ว่าฝ่ายแดนทมิฬจะพ่ายแพ้ แต่ความแข็งแกร่งของแดนทมิฬ ก็ไม่ควรมองข้าม

ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆอย่างกะทันหัน ก็เกรงว่า ในตอนนี้ เหล่าราชันอมตะและราชันบรรพบุรุษคงพุ่งตรงเข้าไปในดินแดนส่วนล็กของแดนนิรันดร์แล้ว

แดนนิรันดร์ทั้งหมด คงติดอยู่ในสงครามอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ราชันเฉียนไม่เคลื่อนไหว แต่ผู้โดดเดี่ยวเริ่มเคลื่อนไหว

อนุสรณ์โบราณสั่น ร่างของผู้โดดเดี่ยวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าแม่น้ํานิรันดร์

“ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องรีบกลับไป”

ผู้โดดเดี่ยวกระซิบ ในที่สุดก็ไม่มีความเงียบอีกต่อไป เขาถือโอกาสบุกโจมตีเป็นผู้นําสังหารราชันผู้กําแหงทั้งหมดของแดนทมิฬ!

นี่คือการบุกโจมตีครั้งแรกของผู้โดดเดี่ยว มันเหมือนกับการมาถึงของเหล่า

ทวยเทพ พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นผ่านพ้นไม่ได้

นอกจากนี้ ผู้โดดเดี่ยวในตอนนี้ ภาพลักษณ์ของเขาในจิตใจของราชันผู้ กําแหงแห่งแดนทมิฬเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก

พวกเขารู้ว่า ผู้โดดเดี่ยวที่อยู่ตรงหน้าจะกลายราชันเซียนนิรันดร์ในอนาคต

และพลังการต่อสู้ของเขานั้นไร้ขอบเขต

เพียงหนึ่งกระบี่ก็ตัดศีรษะของราชันอมตะเชียนโถว และสังหารเขาทั้งเป็นได้

ตัวตนเช่นนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในเขตแดนใดก็ตาม ก็จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ยง คงกระพันในเขตแดนเดียวกันและแม้แต่การต่อสู้ข้ามพรมแดนก็เป็นเรื่องง่าย

ตัวตนเช่นนี้ ไม่ว่าราชันผู้กําแหงจะมาแบบใด เขาคงทําเพียงแค่ถอนหายใจ

ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬเหล่านี้จะกล้าตอบโต้ผู้โดดเดี่ยวนี้ได้อย่างไร?

ความแตกต่างในพลังการต่อสู้ ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ

ผู้โดดเดี่ยวในตอนนี้ ก็เหมือนกับเสือโคร่งที่ดุร้ายย่างกรายเข้าสู่ฝูงแกะที่ กําลังนองเลือด สังหารในทุกทิศทาง!

“สังหาร! แก้แค้นให้ราชันผู้กําแหงและคนอื่นๆ!”

ในตอนนี้ ด้านหลังของราชันเฉียน ราชันผู้กําแหงของแดนนิรันดร์เหล่านั้นก็ รีบพุ่งไปข้างหน้าด้วยความกระตือรือร้น คํารามลั่นไปทั่วบริเวณต้องการที่จะสังหาร

ความล้มเหลวของราชันอมตะและคนอื่นๆ ในตอนนี้ ทําให้ทุกคนกลั้นหายใจ

เมื่อถึงเวลาและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พวกเขาจะไม่ฉวยโอกาสนี้ไว้ได้อย่างไร

สถานการณ์ของสนามรบด้านล่างเกิดการพลิกผัน ในสนามรบของเขตแดน

ราชันเซียนนิรันดร์ซึ่งเผชิญกับการหลบหนีอย่างบ้าคลั่งของอันหราน จอมจักรพรรดิอู๋จื่อและจอมจักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้หยุดพวกเขาไว้ และร่างทั้งสองของจอม จักรพรรดิก็ค่อยๆพร่ามัวเหนือแม่น้ําแห่งกาลเวลาและค่อยๆหายไป

เช่นเดียวกับผู้โดดเดี่ยว แต่ก่อนที่จะหายตัวไปเขาได้ชักกระบี่ออกมาอีกครั้ง

แสงของกระบี่โบราณ เปี่ยมไปด้วยยุคสมัยและความยิ่งใหญ่ของสมัยโบราณ ได้สร้างความสั่นสะเทือน เกือบจะตัดอันหรานออกเป็นสองส่วน

สุดท้าย อันหรานก็ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลและได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในที่สุดเขาก็สามารถหลบหนีไปได้

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้โดดเดี่ยวก็ไม่ได้ไล่ตามไป เช่นเดียวกับจอมจักรพรรดิ สวรรค์และจอมจักรพรรดิอู๋จื่อ ร่างของเขาค่อยๆ พร่ามัวและหายไป

ที่ด้านข้างของสนามรบ ฉินมู่มองดูทั้งหมดนี้แล้วถอนหายใจเบาๆ

ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของจอมจักรพรรดิสวรรค์ ผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว

800 ล้านแต้มตกใจ สามารถแลกเปลี่ยนผู้โดดเดี่ยว จอมจักรพรรดิสวรรค์และ คนอื่นๆ ได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น เป็นเรื่องปกติที่จะไม่สามารถคงอยู่ได้โดยไร้ขีดจํากัด

สุดท้ายแล้ว แต้มตกใจที่จําเป็นในการแสดงตัวตนของเขตแดนดังกล่าวอย่างแท้จริงคือตัวเลขจํานวนมหาศาล!

จอมบงการเทพยุทธ์

จอมบงการเทพยุทธ์

Status: Ongoing
ฉินมู่เดินทางเข้าสู่โลกแฟนตาซี และได้รับระบบจอมบงการ ซึ่งสามารถเปิด ดินแดนพิศวงหลากหลายและเปลี่ยนความคิดฝันในใจของเขาให้กลายเป็นความจริงในยุคนี้ ได้มีเผ่าพันธุ์มากมายนับพัน เผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและไม่เคยได้มีผู้แข็งแกร่งถือกำเนิดขึ้นมาแม้แต่คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกรังแกกดขี่ข่มเหงตามอำเภอใจเป็นเพราะว่าโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายร้อยชั่วอายุคน ทำให้ประวัติศาสตร์เมื่อหลายล้านปีก่อนได้ถูกลืมเลือนไปจากสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ฉินมู่จึงได้กล่าวว่า ข้าจะสร้างประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดขึ้นมาใหม่ และจะสร้างร้อนฝนหนาวอันรุ่งเรืองให้กับมนุษยชาติในประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยหมอกอันพร่าเลือน โดยมีฉินมู่คอยบงการอยู่ด้านหลัง จัดวางดินแดนพิศวงทีละดินแดน และเปิดเผยมุมมืดอันเร้นลับของพวกมันออกมาเมื่อตำนานของเผ่าพันธุ์ได้ก้าวผ่านยุคดึกดำบรรพ์มาสู่โลกนี้ จะมีใครบ้างไหมที่หาญกล้าพอที่จะออกมาต่อสู้กับทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท