รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 669 ยมบาลหัววัวหัวม้า ยมทูตเฮยไป๋อู๋ฉาง!

บทที่ 669 ยมบาลหัววัวหัวม้า ยมทูตเฮยไป๋อู๋ฉาง!

บท​ที่​ 669 ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้า ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉาง!

ปรโลก​!

หลังจาก​จักรพรรดินี​อ่าน​ชื่อ​นี้​ออกมา​ หยวน​อี​ก็​ร้อง​ลั่น​ทันที​ “ข้า​นึกออก​แล้ว​!”

นาง​นึกออก​แล้ว​จริง ๆ​ ว่า​เคย​ได้ยิน​มาก่อน​อย่าง​ที่​คิด​!

ปรโลก​!

ตำหนัก​ยมราช​ทั้ง​สิบ​!

สะพาน​ไน่​เห​อ!​

แกง​ยาย​เมิ่ง!

ชื่อ​เหล่านี้​ล้วน​เคย​ปรากฏ​ใน​ตำนาน​ไซอิ๋ว​ที่​คุณชาย​เล่า​ให้​ฟัง!

ซุน​หงอ​คง​อาละวาด​ทั่ว​ทั้ง​ปรโลก​ ปรับเปลี่ยน​ทำเนียบ​วิญญาณ​ เป็น​เรื่องเล่า​ที่​ชวน​ฮึกเหิม​มาก​!

นาง​มิเคย​ได้ยิน​จาก​คุณชาย​ แต่​เคย​ได้ยิน​จาก​เซี่ยเหยียน​ และ​เคย​ได้ยิน​ตำนาน​สถาปนา​เทวดา​ด้วย​

“ปรโลก​มีอยู่​จริง​หรือ​นี่​…”

สีหน้า​ของ​หยวน​อี​ประหลาด​ไป​ ก่อน​จะกล่าว​ต่อว่า​ “ใน​ตำนาน​ไซอิ๋ว​ที่​คุณชาย​เล่า​ให้​ฟัง ปรโลก​เป็น​ผู้ควบคุม​ระเบียบ​โลก​หลัง​ความตาย​ วิญญาณ​ของ​สิ่งมีชีวิต​ทุก​ดวง​ล้วน​อยู่​ใน​อาณัติ​ของ​ปรโลก​”

“มีโลก​หลัง​ความตาย​ด้วย​หรือ​?!”

จักรพรรดินี​ขมวดคิ้ว​ “ตาย​ไป​ก็​เท่ากับ​สูญสลาย​มิใช่หรือ​”

นาง​คิด​ไม่ตก​จริง ๆ​ โลก​หลัง​ความตาย​มาจาก​ไหน​กัน​

หาก​ผู้ฝึก​ตน​ตาย​ตกไป​อย่าง​สมบูรณ์​ จะถือ​เป็นการ​มลาย​แตกดับ​อย่าง​แท้จริง​ วิญญาณ​สลาย​ ไม่มีสิ่งใด​เหลือ​ไว้​ ไฉน​เลย​จะมีสิ่งคั่งค้าง​และ​อยู่​ใต้​อาณัติ​ของ​ปรโลก​ได้​

“ข้า​เอง​ก็​ไม่เข้าใจ​นัก​”

หยวน​อี​ส่าย​หัว​ “ปรโลก​ ตำหนัก​ยมราช​ทั้ง​สิบ​ ชื่อ​เหล่านี้​ล้วน​อยู่​ใน​ตำนาน​ไซอิ๋ว​ที่​คุณชาย​เล่า​ ทว่า​เรื่องราว​ที่​เกี่ยวข้อง​นั้น​ คุณชาย​มิได้​บอก​อย่าง​ละเอียด​ ข้า​เอง​ก็​ไม่ทราบ​แน่ชัด​”

ตำนาน​ไซอิ๋ว​ที่​คุณชาย​เล่า​ เน้น​เรื่องราว​ของ​ฉีเทียน​ต้าเซิ่ง​ ปรโลก​เป็นหนึ่ง​บท​ย่อย​ใน​นั้น​ รายละเอียด​ไม่เป็นที่​แน่ชัด​

นาง​รู้​มาไม่มาก​

“เป็น​โลก​หลัง​ความตาย​จริง​ด้วย​!”

สีหน้า​ของ​จักรพรรดินี​เคร่งขรึม​ นาง​พบ​ว่า​ที่มา​ของ​เลือด​และ​เนื้อ​อาจารย์​นาง​อยู่​ใน​ปรโลก​!

เลือด​เนื้อที่​หลอม​รวม​ท่ามกลาง​แสงสีทอง​ล้วน​ลอย​ออกจาก​ปรโลก​!

นี่​อาจารย์​ของ​นาง​เข้าไป​อยู่​ใน​ปรโลก​หลังจาก​จบชีวิต​ลง​อย่างนั้น​หรือ​?!

ปรโลก​!

นาง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ด้วยซ้ำ​ ต่อให้​เป็น​ใน​ภพ​เซียน​ ก็​ไม่มีบันทึก​เกี่ยวกับ​ปรโลก​เลย​สักนิด​ ที่นั่น​เป็น​สถานที่​เช่นไร​กัน​แน่​?

เป็นที่​ที่​ดวงวิญญาณ​ต้อง​เดินทาง​ไป​หลัง​สิ้นชีพ​ลง​จริง​หรือ​?!

“แย่​แล้ว​!”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ สีหน้า​ของ​จักรพรรดินี​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​ เรื่อง​ไม่คาดคิด​เกิดขึ้น​ที่นั่น​ เดิม​เลือดเนื้อ​ของ​อาจารย์​นาง​ลอย​ออกจาก​ปรโลก​เรื่อย ๆ​ ทว่า​บัดนี้​เกิด​ปัญหา​ เลือดเนื้อ​ของ​อาจารย์​นาง​มิได้​ลอย​ออกมา​อีก​ มัน​ถูก​พลัง​บางอย่าง​สกัด​เอาไว้​!

พลัง​ปราณ​มืดมน​อัน​น่า​พรั่นพรึง​คืบคลาน​เข้ามา​ คลื่น​พลัง​สยดสยอง​ซัดสาด​ออกจาก​ปรโลก​ สิ่งมีชีวิต​บางอย่าง​ก้าว​ออกมา​

นี่​คือ​สิ่งมีชีวิต​ที่​มีรูปร่าง​มนุษย์​สอง​ตน​ สูงใหญ่​เหลือแสน​ ร่างกาย​เป็น​มนุษย์​ แต่​ศีรษะ​กลับ​มิใช่มนุษย์​ ตน​หนึ่ง​มีหัว​เป็น​วัว​ ตน​หนึ่ง​มีหน้าเป็น​ม้า!

พวก​มัน​มีเหล็ก​ง่ามใน​มือ​ ก้าว​ออกมา​ช้า ๆ พลัง​ปราณ​ที่​แผ่ซ่าน​อยู่​รอบ​ตัวส่ง​ผลกระทบ​มาถึงจักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​

“ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้า!”

นัยน์ตา​ของ​หยวน​อี​ไหว​ระริก​ นาง​จำได้​ใน​พริบตา​

นี่​คือ​ผู้​ใต้​บัญชา​ของ​ยมราช​ ทูต​ส่งวิญญาณ​ผู้​เลื่องชื่อ​แห่ง​ปรโลก​

“แข็งแกร่ง​ยิ่งนัก​!”

จักรพรรดินี​สูด​ปาก​ ความรู้สึก​ที่​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าให้​นาง​คือ​น่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​ นาง​คิด​ว่า​ กระทั่ง​ยอด​เซียน​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าก็​มิได้​ควรค่า​แก่​การ​พูดถึง​ ไม่อาจ​ทัดเทียม​ได้​เลย​!

พวก​มัน​มีเหล็ก​ง่ามใน​มือ​ สายตา​เย็นยะเยือก​ มองเห็น​จักรพรรดินี​กับ​หยวน​อี​บน​เส้นทาง​โบราณ​

ตึง​! ตึง​! ตึง​!

เห็นได้ชัด​ว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าหมายหัว​สตรี​ทั้งสอง​ พวก​มัน​เดิน​มาทาง​จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​ จะน่ากลัว​เกินไป​แล้ว​ ทุก​ย่างก้าว​ของ​พวก​มัน​สะเทือน​เลือน​ลั่น​ไป​ทั้ง​ผืน​ฟ้าแผ่นดิน​ ภาพ​การณ์​นั้น​น่า​หวาดผวา​เป็น​อย่างยิ่ง​!

ไม่นาน​นัก​ พวก​มัน​ก็​มาถึงที่นี่​

จักรพรรดินี​กับ​หยวน​อี​ก็​ไม่ถอย​เช่นกัน​ ต่าง​คน​ต่าง​เตรียมพร้อม​รับมือ​ต่อสู้​ จักรพรรดินี​มีสมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ใน​มือ​ หยวน​อี​เรียก​สี่กระบี่​ประหาร​เซียน​ออกมา​

ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าสยดสยอง​เป็น​ที่สุด​ พวก​มัน​แทง​เหล็ก​ง่ามออกมา​ ทลาย​ห้วง​มิติ​ได้​ใน​ชั่วพริบตา​ จากนั้น​บุก​มาหา​จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​บน​เส้นทาง​โบราณ​

จักรพรรดินี​กับ​หยวน​อี​เตรียมรับมือ​ ทว่า​ตอนนั้น​เอง​ บน​เส้นทาง​โบราณ​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​ขึ้น​มา พลัง​นิรนาม​บางอย่าง​ซัดสาด​ ขัดขวาง​เหล็ก​ง่ามของ​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าไว้​!

นี่​คือ​อักษร​ลายมือ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ เส้นทาง​โบราณ​ที่​ก่อ​ร่าง​บน​พลัง​ตัวอักษร​เยี่ยง​นี้​ไหน​เลย​จะทลาย​ได้​ง่าย ๆ​

มิได้​ง่าย​เช่นนั้น​แน่​!

อย่าง​น้อย​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​!

“เหอะ​!”

เสียง​แค่น​จมูก​ดัง​ขึ้น​ ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าดูจะ​ไม่พอใจ​ที่​ถูก​ขัดขวาง​

พวก​มัน​ชูเหล็ก​ง่ามขึ้น​อีกครั้ง​ คลื่น​พลัง​น่ากลัว​ซัดสาด​ แทง​ทะลวง​ไป​ยัง​เส้นทาง​โบราณ​อย่าง​ดุดัน​

ตู้​ม! ตู้​ม!

เสียง​ระเบิด​อัน​น่ากลัว​ดัง​ไม่ขาดสาย​ ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าน่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​เป็น​อย่างยิ่ง​ พลัง​จาก​เหล็ก​ง่ามเล่ม​นั้น​เกิน​จะจินตนาการ​ ห้วง​มิติ​พังครืน​ลง​ทันที​!

ทว่า​พลัง​น่ากลัว​เช่นนี้​ ก็​มิใช่เรื่องใหญ่​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​เส้นทาง​โบราณ​

พลัง​ซัดสาด​ออกจาก​เส้นทาง​โบราณ​อีกครั้ง​ ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้ากระเทือน​ออก​ไป​ เหล็ก​ง่ามสอง​ด้าม​แหลกลาญ​ใน​ชั่วพริบตา​ เศษกระจาย​เกลื่อน​พื้น​!

เป็น​ภาพ​ที่​พิลึก​ยิ่ง​

ทั้งที่​การต่อสู้​ดุเดือด​น่ากลัว​ปาน​นั้น​ จักรพรรดินี​ใน​ยุคสมัย​นั้น​ก็​ยัง​ไม่รู้สึก​ถึงสิ่งใด​ ขณะเดียวกัน​ ปริภูมิ​เวลา​ฟาก​นั้น​ก็​มิได้​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ใด​ ๆ

“ศึก​นี้​อยู่​เหนือ​ปริภูมิ​เวลา​นั้น​แล้ว​!”

หยวน​อี​เอ่ย​เสียง​ขึงขัง​ แม้ว่า​นาง​ยัง​ไม่เข้าใจ​เท่าใด​ แต่​เท่าที่​นาง​คาดการณ์​ การต่อสู้​นี้​มิได้​เกิดขึ้น​ใน​ปริภูมิ​เวลา​นั้น​

ขอบเขต​พลัง​ของ​นาง​ต่ำ​เกินไป​ ทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ยาม​นี้​เกิน​กว่า​ขอบเขต​ความเข้าใจ​ของ​นาง​

เหมือนว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าจะได้รับบาดเจ็บ​หนัก​ กระอัก​เลือด​คำโต​ ร่าง​มโหฬาร​เต็มไปด้วย​รอยร้าว​

เคี้ย​ก!​ เคี้ย​ก!​ เคี้ย​ก!​

เวลา​นั้น​เอง​ เสียงหัวเราะ​ชั่วร้าย​ดัง​ออกจาก​ปรโลก​ สิ่งมีชีวิต​อีก​สอง​ตน​ก้าว​ออกมา​

พวก​มัน​ตน​หนึ่ง​ดำ​ ตน​หนึ่ง​ขาว​ เป็น​สิ่งมีชีวิต​รูปร่าง​มนุษย์​ ดู​ไม่ต่าง​จาก​มนุษย์​ทั่วไป​ ทว่า​ลิ้น​ใน​ปาก​กลับ​ยาว​เป็นพิเศษ​ เลื้อย​ลงมา​ได้​ถึงช่วง​เอว​ รูปลักษณ์​ชวน​ขนหัวลุก​ สะท้าน​แม้น​ไม่หนาว​

เห็นได้ชัด​ว่า​ พวก​มัน​แข็งแกร่ง​น่า​พรั่นพรึง​ยิ่งกว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้า ลมปราณ​ขุ่นมัว​ที่​แผ่​ออกมา​นั้น​เหนือกว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้ามาก​ พวก​มัน​ทั้งสอง​ถือ​กระบองกัน​คนละ​ท่อน​ ท่อน​หนึ่ง​ดำ​ ท่อน​หนึ่ง​ขาว​เช่นกัน​ อีก​ทั้ง​ยังมี​โซ่ตรวน​ที่​เท้า​และ​มือ​

“ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉาง!”

เป็น​อีกครั้ง​ที่​หยวน​อี​จำได้​ นี่​คือ​ตัวตน​ใน​ปรโลก​ซึ่งมียศ​สูงกว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้า กระบอง​สอง​ท่อน​ใน​มือ​ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉางคือ​กระบอง​ไว้ทุกข์​

ใน​ตำนาน​ไซอิ๋ว​ที่​คุณชาย​เคย​เล่า​ ใน​ปรโลก​มีการ​แบ่งหน้าที่​แตก​ต่างกัน​ไป​ ทั้ง​ยัง​จำแนก​ด้วย​ตำแหน่ง​และ​ระดับ​ยศ​

สอง​ผู้​นี้​ถือเป็น​ขุนพล​ใหญ่​ใต้​บัญชา​ของ​ยมราช​!

“เจ้าพวก​ไร้ประโยชน์​ ไสหัว​กลับ​ไป​เสีย​!”

“สมควร​แล้ว​ที่​พวก​เจ้าต้อง​ถูก​ลดขั้น​ หาก​พวก​เจ้าไม่ถูก​ลดแล้ว​ผู้ใด​เล่า​ควร​ถูก​ลด”

ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉางหัวเราะ​เสียง​เย็น​ น้ำเสียง​เก่าแก่​กล่าว​สนทนา​กับ​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้า

ใน​อดีต​ ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าเคย​มีศักดิ์​ใน​ปรโลก​เท่าเทียม​กับ​พวก​มัน​ ทว่า​ต่อมา​ ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้ากระทำความผิด​จน​ถูก​ลดขั้น​ ยศ​จึงต่ำกว่า​พวก​มัน​มาก​

หลังจาก​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าได้ยิน​วาจา​ของ​ยมบาล​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉาง ก็​รู้สึก​เคียดแค้น​เกิน​ทน​ กระนั้น​พวก​มัน​ก็​มิกล้า​เอ่ย​อัน​ใด​ไป​มากกว่า​นี้​ พวก​มัน​ใน​ยาม​นี้​ มิอาจ​สอด​มือ​หาเรื่อง​กับ​ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉางได้​จริง ๆ​

ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉางหมายหัว​จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​เช่นเดียวกัน​ พวก​มัน​หัวเราะ​ชั่วร้าย​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​พิลึก​ มือถือ​กระบอง​ไว้ทุกข์​ บุก​สังหาร​ตรง​เข้าหา​จักรพรรดินี​และ​หยวน​อี​

พวก​มัน​กล้าแกร่ง​กว่า​ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้ามาก​นัก​ ทันทีที่​ลงมือ​ก็​ดูออก​เลย​ว่า​ มิได้​อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​ จักรพรรดินี​รู้สึก​ว่า​ แม้แต่​จักรพรรดิ​เซียน​ก็​อาจ​มิใช่คู่มือ​ของ​ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉาง เมื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉาง ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าเหมือน​เป็น​ลิ่วล้อ​สอง​คน​เท่านั้น​

ใน​ปรโลก​ ระดับ​ยศ​นั้น​สำคัญ​มาก​

ยมบาล​หัว​วัว​หัว​ม้าถูก​ลดขั้น​ จึงถูก​ลิดรอน​พลัง​ไป​มาก​ ห่าง​ชั้น​กับ​ยมทูต​เฮย​ไป๋​อู๋​ฉางมาก​โข​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท