บนเวที
อันหงเอ่ยอย่างจนใจ “ทุกคนคงจะสังเกตเห็นแล้วนะครับ ร่างกายของอาจารย์หลานหลิงอ๋องไม่ได้อยู่ในสภาพเต็มร้อย แต่นี่คือการแข่งขัน เราหวังว่านักร้องทุกคนจะพยายามอย่างเต็มที่ และไม่สนใจปัญหาอื่น ต่อจากนี้ขอเสียงปรบมือให้กับนักร้องท่านแรกซึ่งจะขึ้นเวทีในวันนี้ อาจารย์ปลาหัวโตครับ!”
เสียงปรบมือในห้องส่งดังขึ้น
ปลาหัวโตเดินขึ้นเวที สูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
“ฉันรู้สึกเสียใจมากกับสภาพร่างกายของหลานหลิงอ๋อง แต่ฉันจะยังคงแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ฉันทั้งเคารพผู้ชม และเคารพอาจารย์หลานหลิงอ๋องเช่นกัน!”
คณะกรรมการตัดสินพยักหน้า
ในฐานะคู่แข่ง จงทุ่มเทอย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องอื่น ถึงอย่างไรการแข่งขันก็ไม่ใช่เรื่องของคนเพียงคนเดียว
ไม่นาน
การแสดงก็เริ่มต้นขึ้น
ปลาหัวโตขับร้องเพลงบัลลาด
เธอคล้ายกับเกิดมาเพื่อเพลงพ็อป เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันเพียงไม่กี่คนที่ไม่ถนัดเสียงสูง แต่สามารถผ่านเข้ารอบสิบสองคนสุดท้ายได้
……
ในพื้นที่รอคอย
หลินเยวียนฟังคู่ต่อสู้ร้องเพลงอย่างเงียบเชียบ มุมปากใต้หน้ากากยกขึ้นเล็กน้อย
ซย่าฝานสินะ
ในเวทีที่ผ่านมา หลินเยวียนฟังไม่ออกเลย
แต่ในเวทีที่ปลาหัวโตต้องการแสดงความแข็งแกร่งออกมา จะต้องงัดเอกลักษณ์ในเสียงของตนออกมา นี่ไม่ใช่เวลามาห่วงหน้าพะวงหลังเพื่อปกปิดตัวตนอีกต่อไป
การเข้ารอบ!
คือสิ่งที่สำคัญที่สุด!
หลินเยวียนเชื่อว่าต่อให้ซย่าฝานรู้ว่าตนคือหลินเยวียน ก็จะไม่ยอมออมมือ นี่คือวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันของพวกเขา
ในความจริงแล้ว
ซย่าฝานไม่ได้ออมมือจริงๆ
เธอทำผลงานในการแข่งขันเวทีนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม!
เพลงพ็อปอาจถูกบางคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีความหมายหรือเป็นเพลงเชิงพาณิชย์มากเกินไป แต่ต้องยอมรับ ว่าที่เพลงพ็อปคือเพลงพ็อป ก็เพราะสาธารณชนชอบฟัง!
โลกมนุษย์
มีความรู้สึก มีความรัก
ปุถุชนล้วนเป็นเช่นนั้น
ผู้คนมากมายร้องเพลงเกี่ยวกับเรื่องราวระหว่างคู่รัก แม้แต่ผลงานคลาสสิกชิ้นเอกของโลกอย่าง ‘เจน แอร์[1]’ ก็เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไร พันปีร้อยปีผ่านไปผลงานซึ่งเกี่ยวข้องกับความรักก็ไม่มีวันเลือนหายไปจากตลาด
……
หลินเยวียนเดาออกแล้ว
ผู้ชมหลายคนก็เดาออกเช่นเดียวกัน
“เสียงคุ้นมากเลย…”
“ซย่าฝานไง!”
“ใช่แล้ว เสียงของซย่าฝาน!”
“ซย่าฝานร้องเพลงพ็อปเก่งมาก!”
“เสียงของซย่าฝานเหมาะกับเพลงประเภทนี้มาก!”
“ปลาหัวโตต้องเป็นซย่าฝานแน่ๆ เวทีนี้ปิดไม่ได้อีกต่อไป!”
“ยิ่งใกล้รอบชิงยิ่งปิดไม่ได้”
“…”
เมื่อซย่าฝานร้องจบ เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องส่ง
เพลงนี้เป็นเพลงภาษาจีนกลางทั่วไป และยังเป็นเพลงพ็อปทั่วไป ไม่ได้มีเสียงสูง ไม่ได้มีทักษะในการร้องที่ซับซ้อน แม้แต่คนทั่วไปก็สามารถร้องเพลงนี้ในคาราโอเกะได้
มาตรฐานไม่สูง
เป็นเพียงการร้องเพลงเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคู่รักทั่วไป ทว่าบทเพลงซึ่งบรรยายเรื่องราวความรัก ในเวลานี้กลับสร้างความซาบซึ้งให้กับผู้ชมจนทุกคนต่างปรบมือให้โดยไม่ลังเล
ใครบอกว่าร้องเพลงต้องอวดเทคนิค?
ใครบอกว่าบนเวทีต้องร้องเสียงสูง?
เพลงพ็อปเป็นของสาธารณชน เสียงของปลาหัวโตก็เป็นของสาธารณชน เสียงของเธอสร้างความประทับใจอันสมบูรณ์แบบที่สุดของเพลงนี้ให้กับผู้คนนับไม่ถ้วน และความเก่งกาจของปลาหัวโตอยู่ที่ เธอขับร้องเพลงพ็อปซึ่งทุกคนฟังกันไม่รู้กี่ครั้งกี่หน ให้ออกมามีกลิ่นอายที่คนทั่วไปไม่อาจทำได้
……
ถงถงยิ้มขื่น “เพราะมากเลย”
หลานหลิงอ๋องพยักหน้า
ซย่าฝานร้องเพลงนี้บนเวที เหมือนนอนรอคะแนน
ถูกต้อง
นอนรอคะแนน
จุดเด่นของเพลงประเภทนี้คืออาจไม่ได้คะแนนสูงเป็นพิเศษ แต่ตราบใดที่แสดงฝีมือออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายแล้วคะแนนที่ได้จะไม่น้อยอย่างแน่นอน
ก็เพลงกระแสนิยมไงล่ะ
หลินเยวียนลอบใช้ยาที่ได้มาจากระบบจนหมด ยานี้ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูเสียงของหลินเยวียนได้ทันที แต่อย่างน้อยก็สามารถป้องกันไม่ให้เขาไอขณะร้องเพลงได้
……
ช่วงแสดงความคิดเห็นอยู่ด้านหลัง เพราะการดวลหนึ่งต่อหนึ่งเช่นนี้ จำเป็นต้องให้นักร้องทั้งสองคนร้องต่อกัน เพราะฉะนั้นพิธีกรจึงเอ่ยชื่อ ‘หลานหลิงอ๋อง’ หลังจากที่ปลาหัวโตเพิ่งร้องเพลงจบ
“ไปแล้วนะ”
หลินเยวียนเอ่ย จากนั้นจึงเดินขึ้นเวที
ทั้งห้องส่งเงียบลง
ในตำแหน่งคณะกรรมการตัดสิน
จู่ๆ หยางจงหมิงก็กล่าวขึ้นมา “ผมจะไม่ให้คะแนนเห็นใจเพียงเพราะคุณเสียงแหบ เวทีนี้ให้คะแนนตามผลงานของนักร้อง”
“ไม่มีปัญหา”
นี่คือสิ่งที่หลินเยวียนอยากเห็น
หน้าจอ
เมื่อหลานหลิงอ๋องขึ้นเวที คอมเมนต์ก็เริ่มหลั่งไหลมาไม่หยุด
‘จะร้องจริงเหรอ?’
‘ถอนตัวเลยดีกว่า’
‘เสียงแบบนี้ยังแข่งได้อีก?’
‘เสียงแหบเกิ๊น’
‘รู้สึกว่าเสียงแหบกว่าเวทีที่แล้ว’
‘…’
ทุกคนจินตนาการไม่ออก ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หลานหลิงอ๋องจะร้องเพลงอะไร
ในขณะนั้นเอง
แสงไฟพลันมืดลง
ข้อมูลเพลงปรากฏบนหน้าจอ
ชื่อเพลง: เขาคงรักเธอมาก[2]
เซี่ยนอวี๋
ทำนอง:เซี่ยนอวี๋
ขับร้อง: หลานหลิงอ๋อง
หลานหลิงอ๋องถือไมโครโฟน ค่อยๆ เปล่งเสียง
“หลบในรถคันเดิม
กับขวดไวน์ในมือ
อยากมอบให้เธอ
เซอร์ไพรส์ในวันเกิด…”
หลินเยวียนเปล่งเสียงออกไป ตอนนี้ผู้ชมหลายคนอึ้งไป ราวกับถูกโจมตีขึ้นมากะทันหัน
คณะกรรมการตัดสินทั้งสี่ต่างมองหน้ากัน
เสียงนี้…
เห็นชัดๆ ว่าแหบพร่า!
แต่ว่า…
เสียงแหบพร่านี้ เมื่อร้องออกมาแล้วกลับมีเสน่ห์เกินกว่าจะบรรยายได้ ราวกับเพลงนี้ควรใช้เสียงแหบพร่าเช่นนี้มาขับร้อง
“เธอเดินใกล้เข้ามา
เสียงสองคนพูดจา
จะทำยังไงหนา
ตกใจอยู่ตรงนี้…”
ยังคงเป็นเสียงแหบพร่า แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่อาจพรรณนาได้ ทว่าดังขึ้นจากก้นบึ้งในหัวใจของผู้ชมอย่างแผ่วเบา ผู้ชมราวกับเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในรถ มองไปยังหญิงสาวผู้เป็นที่รักปรากฏตัวพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาอย่างสิ้นหวัง ในมือของเขายังคงถือของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดซึ่งตั้งใจมอบให้กับอีกฝ่าย…
ตามมาด้วยเสียงเปียโนเศร้าๆ
หลินเยวียนก้มหน้าลงเล็กน้อย
“ฉันควรอยู่ใต้ท้องรถ
ไม่ควรไปอยู่ในรถ
มองดูความรักอันแสนหวาน
ก็ดีเหมือนกัน
ได้โปรดจงมอบความกล้าหาญ
ถึงเวลาที่ฉันยอมแพ้สักที…”
พรึบๆ!
สีหน้าของผู้ชมเปลี่ยนไปทันที!
สองคำสุดท้ายของหลานหลิงอ๋อง แหบพร่าราวกับกำลังจะทรุดกายลงบนพื้นอยู่รอมร่อ ในสถานการณ์ซึ่งถ่ายทอดผ่านบทเพลง ความเจ็บปวดนี้กลับทำให้ผู้คนรู้สึกเช่นเดียวกัน ปราศจากเสียงสูงเหมือนกัน แต่ทุกคนกลับสัมผัสถึงอารมณ์อันล้นปรี่
เขาคงรักเธอมาก
คงรักเธอมากกว่าฉัน
เป็นเวลาเพียงชั่วพริบตาที่เราเลิกรา
เขาคงรักเธอมาก
เอาใจเธอมากกว่าฉัน
ไม่เหมือนฉันเอาแต่ใจคอยดึงดัน
ให้เธอเหนื่อยใจ…”
เมื่อร้องถึงตรงนี้ ดวงตาของผู้ชมพลันเบิกกว้าง ถึงขั้นที่มีคนอ้าปากค้างอย่างเซ่อซ่า ดนตรีอันไพเราะดังก้องในโสตประสาท กอปรกับเสียงนี้ นำพาความเจ็บปวดและจนใจจากการเลิกรา!
เขาร้องเพลงได้!
เขาร้องเพลงได้จริงๆ!
เห็นชัดๆ ว่าเสียงแหบแห้งแทบแย่ แต่กลับทำให้เสียงนี้สะเทือนอารมณ์ได้อย่างถึงที่สุด!
“พระเจ้าช่วย!”
“นี่มันเสียงอะไรกัน!”
“เสียงแหบขนาดนี้ยังร้องให้เพราะได้”
“เขาทำได้ยังไง!”
“ครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าเสียงแหบแห้งก็เพิ่มเสน่ห์ให้กับเพลงได้มากขนาดนี้ เพลงนี้สุดยอดไปเลย!”
“มีเสน่ห์มาก!”
“ทั้งที่ไม่ได้กินเหล้า แต่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเมา เสียงนี้เป็นเสียงแหบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยฟังมา!”
“…”
ถูกต้อง
เพลงนี้คือ ‘เขาคงรักเธอมาก’ ผลงานชิ้นโบแดงของของอาตู้
เอ่ยถึงเสียงแหบ
อาตู้คือชื่อที่ใครๆ ก็พูดถึง
และในเวทีนี้ หลินเยวียนนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาได้ก็เพราะเสียงที่แหบพร่า!
กล่าวให้ชัดคือ…
คงเป็นเรื่องยากสำหรับหลินเยวียน ที่จะร้องเพลงนี้ให้จบยามที่เสียงของเขาปกติ แต่เนื่องจากเสียงของเขาแหบห้าว เขาจึงสามารถร้องเพลงนี้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด!
……
ด้านหลังเวที
นักร้องทุกคนต่างประหลาดใจ
หงส์ขาวเอ่ยอย่างตกตะลึง “เสียงนี้สุดยอดมาก!”
หุ่นยนต์ตบหน้าขาฉาด “ถ้าเสียงไม่แหบร้องไม่ได้!”
ปลาปักเป้าพึมพำ “มีเพลงที่ใช้เสียงแบบนี้ด้วย!”
นางเงือกกัดริมฝีปาก “เพลงนี้กับเสียงของเขาในตอนนี้เกิดมาคู่กัน…”
เกิดมาคู่กัน!
ทุกคนคิดว่า หลานหลิงอ๋องเสียงแหบแล้ว ผลงานของเขาจะแย่ลง ใครจะไปคิดว่าเขาจะหยิบเพลงเช่นนี้ออกมาหลังจากที่เสียงของเขาแหบ!
ตะลึง!
ตะลึงสุดๆ!
ปลาหัวโตร้องเพลงพ็อปซึ่งบรรยายเกี่ยวกับความรัก มีเอกลักษณ์ของตนเองสูง ส่วนเพลงพ็อปซึ่งบรรยายเรื่องราวความรักที่หลานหลิงอ๋องร้อง ไม่ได้เรียกว่ามีเอกลักษณ์แล้ว แต่ต้องเรียกว่า
ยืนหนึ่งในวงการเพลง!
………………………………………………..
[1] เจน แอร์ (Jane Eyre) นวนิยายรักคลาสสิกชื่อดังเรื่องหนึ่งของโลก โดยชาร์ล็อต บรอนที นักเขียนชาวอังกฤษ
[2] เขาคงรักเธอมาก ขับร้องโดยอาตู้ (A-Do)