ตอนที่ 699 แทบถล่มทลาย
เมื่อพวกเขามาถึงสำนักงานของผู้อำนวยการอิ่น ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนคำชมเชยทางธุรกิจกันสองสามคำ จากนั้นจึงตรงไปยังประเด็น
หลินม่ายบอกผู้อำนวยการอิ่นเกี่ยวกับแนวคิดการโฆษณาการประกวดนางแบบของเธอ และขอให้ใช้บทเพลงที่เธอแต่งขึ้นเป็นเพลงประกอบการประกวดนางแบบ
โดยให้ทำวีดีโอประกอบเพลงเช่นเดียวกับกีฬาโอลิมปิก นั่นคือเริ่มต้นจากการที่นางแบบฝึกซ้อมอย่างหนักจนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ในที่สุด ประกอบกับโฆษณาประกาศที่สถานีเคยเขียนไว้
แต่อย่าใช้เสียงของผู้ประกาศคนนี้ ให้หาผู้ประกาศที่มีน้ำเสียงอ่อนโยนและเป็นทางการน้อยกว่านี้
ผู้อำนวยการอิ่นยืนยัน “ความคิดของคุณยอดเยี่ยมมาก ช่วยร้องเพลงที่คุณเขียนให้ผมฟังได้ไหม?”
หลินม่ายร้องเพลงให้ผู้อำนวยการอิ่นฟังทันที
แม้ผู้กำกับอิ่นจะไม่มีความสามารถด้านดนตรี แต่ก็สามารถบอกได้ว่าไพเราะหรือไม่
เมื่อเพลงของหลินม่ายจบลง ผู้อำนวยการอิ่นก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือ
หัวหน้าแผนกฝูเองก็ปรบมือชื่นชมจนมือแดง
เขาประหลาดใจอย่างมากเมื่อรู้ว่าคุณหลินของเขามีความสามารถรอบด้านเช่นนี้!
ผู้อำนวยการอิ่นถอนหายใจ “คุณหลินมีความสามารถรอบด้านมาก ทั้งแต่งเพลงได้ และยังร้องเพลงได้ดีอีกด้วย!”
เขาชื่นชมหลินม่ายที่มีร่างกายผอมบาง แต่กลับระเบิดเสียงอันทรงพลังออกมาได้
ในความเป็นจริงแล้ว การร้องเพลงขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของปอด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไขมันในร่างกายหรือความผอม
หลินม่ายมีสุขภาพที่ดีและปอดที่แข็งแรง
หลินม่ายถามผู้อำนวยการอิ่นว่าเขาสามารถเชิญเหมาหมินหมินมาขับร้องบทเพลง ‘ชีวิตที่เบิกบาน’ ได้หรือไม่
ระหว่างที่เดินทางมา เธอตัดสินใจเลือกเหมาหมินหมินขับร้องเพลงนี้ เสียงของเธอหนักแน่น เหมาะกับการร้องเพลงนี้
ผู้อำนวยการอิ่นสับสน “ใครคือเหมาหมินหมิน?”
ตอนนี้เป็นคราของหลินม่ายที่ต้องตกตะลึง
เธอจำได้เพียงว่าเหมาหมินหมินได้รับความนิยมในช่วงปี 1980 แต่เธอจำปีที่แน่นอนไม่ได้
เป็นไปได้ไหมว่าเหมาหมินหมินยังไม่ได้เดบิวต์?
หลินม่ายเผยสีหน้าประหลาดใจ “ไม่มีนักร้องชื่อนี้เหรอคะ? ฉันเคยได้ยินคนพูดถึงนักร้องคนนี้ แต่ก็นานมาแล้ว”
“แสดงว่าคุณได้ยินผิดหรือไม่ก็จำผิด” ผู้อำนวยการอิ่นไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลินม่ายรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่คิดสงสัย “แล้วจะให้ใครร้องเพลงนี้ดีคะ?”
ผู้อำนวยการอิ่นเบิกตากว้างพลางกล่าว “คุณร้องเพลงได้ดีมาก แล้วจะเชิญคนอื่นมาร้องทำไมล่ะครับ? หากเชิญใครสักคนมาร้องเพลง พวกเขาก็ต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นค่าเหนื่อยให้แก่คนเหล่านั้น แต่หากคุณขับร้องด้วยตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินว่าจ้าง อีกอย่าง หากคุณเชิญนักร้องพิเศษตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ทุกอย่างจะกะทันหันเกินไป คุณร้องเองดีกว่านะครับ”
หลังจากคิดเรื่องนี้ หลินม่ายก็ตอบตกลง
ผู้อำนวยการอิ่นหาคนพาเธอไปอัดเพลง
การอัดเสียงไม่สามารถทำโดยหลินม่ายคนเดียวได้ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากวงดนตรีด้วย
พวกเขาใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการบันทึก
นี่เป็นเพราะวงดนตรีเป็นมืออาชีพและหลินม่ายมีพลังเสียงที่แข็งแกร่ง
ด้วยคำแนะนำจากผู้อำนวยการอิ่น เธอจึงรู้วิธีร้องเพลงได้ดีขึ้น และสามารถทำงานให้แล้วเสร็จได้อย่างรวดเร็ว
วีดีโอประกอบเพลงที่จัดทำโดยผู้อำนวยการอิ่นก็เสร็จสมบูรณ์เช่นกัน
สถานีโทรทัศน์มีกองบรรณาธิการพิเศษเพื่อค้นหาภาพของเหล่านางแบบระหว่างการฝึกซ้อมและช่วงเวลาที่สดใสแห่งการคว้าชัยชนะ
ด้วยการตัดต่อและเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบ ในที่สุดวีดีโอประกอบเพลงชวนหลงใหลก็พร้อมให้ได้รับชมแล้ว
บทเพลงที่ขับร้องโดยหลินม่ายก็ไพเราะเป็นอย่างมาก
ตามความคิดก่อนหน้านี้ของหลินม่าย ผู้อำนวยการอิ่นขอให้พนักงานทำโฆษณาส่งเสริมการขายสำหรับการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่วและผลที่ได้ก็ดีมาก
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินม่ายก็จากไปอย่างโล่งใจ
ก่อนจากไป เธอบอกผู้อำนวยการอิ่นว่าโฆษณานี้ใช้ได้เฉพาะก่อนที่การประกวดนางแบบจะออกอากาศเท่านั้น และโฆษณานี้จะถูกโฆษณาซ้ำเมื่อรายการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ผู้อำนวยการอิ่นพยักหน้า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมจะมาทำงานล่วงเวลาในวันพรุ่งนี้บ่าย ไว้เราค่อยมาคุยรายละเอียดกัน”
เมื่อหลินม่ายกลับมาที่รถ ฟางจั๋วหรานได้รออยู่ในรถนานกว่าสองชั่วโมงแล้ว
เขาดูนาฬิกาและกล่าวต่อหลินม่าย “คุณคงหิวแล้ว ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า”
จากนั้นพวกเขาก็ไปกินหม้อไฟก่อนกลับบ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน โต้วโต้วและอาหวงก็เข้ามาทักทายทั้งสองคนและถามถึงเหตุผลที่พวกเขากลับบ้านช้า
หลินม่ายอธิบายเหตุผลให้ลูกสาวฟัง
ความกังวลหลักของคุณย่าฟางคือ หลินม่ายกินอาหารเย็นมาแล้วหรือยัง
หลินม่ายพยักหน้าพลางตอบกลับ “กินแล้วค่ะ จั๋วหรานพาฉันไปกินหม้อไฟมา”
เพียงเท่านั้นคุณย่าฟางก็พอใจแล้ว นางบอกฟางจั๋วหรานว่าซุปเห็นหูหนูขาวยังคงอุ่นอยู่และขอให้เขานำมาให้หลินม่ายกิน
โต้วโต้วกระโดดสองสามครั้งแล้วตะโกน “แม่คะ หนูอยากกินหม้อไฟด้วย~”
หลินม่ายลูบศีรษะของหล่อน “ได้สิ ไว้พ่อกับแม่ว่างเมื่อไหร่ เราไปกินหม้อไฟกันทั้งครอบครัวเลยดีไหม?”
ฟางจั๋วหรานวางชามเห็ดหูหนูขาวห้าชามบนถาดขนาดใหญ่ แจกจ่ายให้ทุกคนแล้วซดระหว่างนั่งดูข่าว
รายการข่าวได้เสร็จสิ้นการออกอากาศแล้วและตอนนี้เป็นละครยอดนิยมเรื่อง ‘ไร้ซึ่งความกลัว’
ครึ่งแรกของเรื่องจบลงและโฆษณากำลังจะออกอากาศ และทันใดนั้น ‘ประกาศสำคัญ’ ก็มาถึง
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางตั้งใจฟัง และหลังจากฟังจบ พวกเขาจึงรู้ว่าเป็นโฆษณาสำหรับการประกวดนางแบบ
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางกังวลเรื่องเงินรางวัลซึ่งสูงมาก แม่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ก็ไม่อาจเทียบรางวัลแห่งชัยชนะในการประกวดเวทีนี้ได้
โต้วโต้วคิดว่าเพลงประกอบไพเราะอย่างมาก
เด็ก ๆ ก็มีความซาบซึ้งในดนตรีเช่นกัน
ในเวลานี้ เด็กสาวหลายคนที่ยืนอยู่หน้าทีวีต่างตกตะลึงกับโฆษณาการประกวดนางแบบของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว พวกหล่อนตื่นเต้นจนไม่อาจสงบอารมณ์ได้
การประกวดนางแบบในครั้งนี้เป็นการประกวดเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น และเมื่อผู้ชายเห็นเงินรางวัล พวกเขาก็ต่างบอกว่าตนเสียเปรียบที่เกิดมาเป็นชาย
หลายคนคิดกับตัวเองว่า หากพวกเขาเป็นหญิง พวกเขาจะลองไปประกวด เผื่อจะได้รางวัล
ถึงจะไม่เก่งนัก แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย พวกเขาอาจร่ำรวยขึ้นจากเงินรางวัลนี้ก็ได้
“การประกวดนางแบบ? จัดโดยห้องเสื้อจิ่นซิ่ว? เสื้อผ้าของร้านนั้นมีคุณภาพดีก็จริง เสียที่ว่าราคาแพงเกินไปนี่แหละ”
“ของแพงย่อมดีเสมอ มีแต่ของไม่ดีนั่นแหละที่ราคาถูก”
ผู้ชมหลายคนกำลังพูดคุยกันอยู่หน้าทีวี ห้องเสื้อจิ่นซิ่วที่รุ่งเรืองอยู่แล้วกลับรุ่งเรืองมากขึ้นในชั่วข้ามคืน
บนถนนในเมืองแห่งหนึ่ง เด็กหญิงตัวสูงคนหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายหญิงสาววัยรุ่นมายังร้านค้าเพื่อซื้อโซดาและดื่มจนหมดในอึกเดียว
หล่อนคืนขวดให้เจ้าของร้านทันทีที่ดื่มหมด ซึ่งหล่อนมักมายังร้านค้าแห่งนี้ทุกวันเพื่อดูทีวี
โฆษณาทางทีวีทำให้หล่อนรู้สึกเบื่อหน่ายมาก
ทันใดนั้นบทเพลงอันไพเราะก็ดังออกมาจากทีวี ซึ่งดึงดูดความสนใจของหล่อนทันที
เพลงนี้เพราะมาก ต้องเป็นเพลงของฮ่องกงหรือไม่ก็ไต้หวันแน่
หญิงสาวหันขวับไปยังทีวี
เสียงของบทเพลงนั้นเบาลงและเสียงอันอ่อนหวานของหญิงสาวก็ดังขึ้น
ครั้นเด็กสาวได้ยินโฆษณาการประกวดนางแบบ ดวงตาของหล่อนพลันเป็นประกายพลางกำหมัดแน่น
“ทุกคนต่างบอกว่าฉันเป็นแมลงหวี่ไร้ประโยชน์ ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นอีกว่าฉันไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ทุกคนพูด!”
ท้ายที่สุดหล่อนก็หันหลังกลับและจากไป
เจ้าของกิจการมองแผ่นหลังของเด็กสาวอย่างสงสัย เด็กคนนี้เป็นคนที่ชอบมาดูทีวีในร้านเล็ก ๆ ตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ไม่ดูแล้วล่ะ?
ณ หมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง
เด็กสาวตาเขหน้าตาขี้เหร่นั่งอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้าหมู่บ้าน จ้องมองทีวีร่วมกับชาวบ้าน
ดวงตาของหล่อนพลันสดใส และการแสดงออกก็มุ่งมั่น
“ประกวดนางแบบ? ตราบใดที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรก็สมัครได้งั้นเหรอ? ฉันสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าเซ็นติเมตร ถ้าอย่างนั้นฉันก็สมัครได้น่ะสิ ถ้าฉันได้รับรางวัลจะไม่มีใครเรียกฉันว่าขี้เหร่อีกต่อไป ฉันน่ะไม่ได้ขี้เหร่หรอก!”
ในคืนนั้น หญิงสาวหลายคนต่างจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมออกไปสู่เป้าหมายในชีวิตตั้งแต่เช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้
พวกหล่อนล้วนต้องการชีวิตที่เบ่งบาน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ม่ายจื่อเดบิวต์เป็นนักร้องด้วยเลยไหมคะ จะได้ครบเครื่อง
ไหหม่า(海馬)