ได้ยินคำว่าเหลียงอ๋อง ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนไหววูบ แววสังหารเยือกเย็นแผ่ออกมาเป็นวงกว้าง
ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันได้เอ่ยถาม ไป๋จิ่นจื้อก็แหวกม่านออกอย่างแรง เอ่ยถามอย่างอารมณ์เสีย “บ่าวของจวนเหลียงอ๋องมาเอะอะโวยวายอันใดหน้าจวนเจิ้นกั๋วกงกัน”
ไป๋จิ่นจื้อโมโหเป็นอย่างมาก วันนั้นจวนเจิ้นกั๋วกงต้องขายบ่าวออกจากจวนตั้งสามสิบเก้าคนก็เพราะ เหลียงอ๋องซื้อตัวหญิงชราเฝ้าประตูจวนพวกนั้น แถมยังหลอกล่อชุนเหยียนบ่าวใช้ข้างกายของพี่หญิงใหญ่กลายเป็นพวกของเขาอีก สาวใช้ของจวนเหลียงอ๋องยังกล้ามาที่จวนเจิ้นกั๋วกงอีกอย่างนั้นหรือ
“บ่าวใช้ของเหลียงอ๋องกล่าวว่าต้องการพบคุณหนูใหญ่เพื่อขอร้องขอรับ วิงวอนให้คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตนางสักครั้ง! พ่อบ้านเหาสั่งให้หญิงชราและผู้ดูแลไปสอบถามเรื่องราวแล้วขอรับ แต่สาวใช้ผู้นั้นกลับมิยอมปริปากเอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้นอีกทั้งไม่ยอมเข้าไปในจวน เอาแต่คุกเข่าร้องไห้อยู่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วกงขอรับ ตอนนี้ชาวบ้านต่างแห่ล้อมจวนเพื่อดูเรื่องสนุกเต็มไปหมดขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา “เรื่องเกิดตั้งแต่เมื่อใด รบกวนไปถึงท่านแม่หรือไม่”
“ครึ่งชั่วยามแล้วขอรับ พ่อบ้านเหามิกล้าไปรบกวนฮูหยินขอรับ” บ่าวรับใช้เอ่ยตอบ
“เจ้ากลับไปบอกพ่อบ้านเหาว่าอย่าให้ท่านแม่ทราบเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ในเมื่อพุ่งเป้ามาที่ข้า เช่นนั้นก็กลับจวนตามปกติเถิด ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกัน…เหตุใดสาวใช้ของเหลียงอ๋องจึงต้องมาอ้อนวอนขอให้ข้าไว้ชีวิตนางกัน” กล่าวจบหญิงสาวปิดม่านลงสีหน้าเคร่งขรึม
ไป๋จิ่นถงเป็นคนความรู้สึกเร็ว นางรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว “มาจากจวนเหลียงอ๋องเช่นนั้นหรือ พี่หญิงใหญ่เจ้าคะ เหลียงอ๋องเริ่มจากซื้อตัวชุนเหยียนบ่าวใช้ข้างกายของท่านพี่เพื่อสืบเรื่องส่วนตัวของท่าน! ต่อมาก็ส่งสาวใช้ของพระองค์มาเช่นนี้ ข้าเดาว่า…พระองค์คงตั้งใจใช้เรื่องความบริสุทธิ์ของพี่หญิงใหญ่มาอ้างแน่นอนเจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่มีแผนแล้วหรือไม่เจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากมองไปทางไป๋จิ่นถงนิ่ง วันนั้นจวนเจิ้นกั๋วกงเพิ่งจัดระเบียบบ่าวใช้ในจวนทั้งหมดใหม่อย่างเอิกเกริก นางยังคิดอยู่เลยว่าตนเองอาจใจแคบเกินไปที่หวาดระแวงว่าเหลียงอ๋องจะใช้อุบายต่ำช้าเช่นนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเหลียงอ๋องจะทนไม่ไหวจนต้องส่งคนมาเช่นนี้
นางมองเหลียงอ๋องสูงส่งไปจริงๆ
“แค่บ่าวต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดต้องกลัวนางด้วย รับมือตามสถานการณ์ก็พอ หากนางกล้าทำสิ่งใดที่ไม่ควร…ข้าจะโบยนางให้ตายไปเลย พี่หญิงใหญ่อีกเดี๋ยวท่านกลับจวนตามสบายเลยนะเจ้าคะ ข้ารับรองว่าจะอุดปากนางให้สนิท มิให้นางพล่ามอะไรออกมาทั้งนั้น!” ไป๋จิ่นจื้อกัดฟันกรอด กำแส้ซึ่งคาดไว้ที่เอวของตนเองแน่น
“ปิดปากมิช่วยแก้ไขสิ่งใดหรอก ลองดูว่านางจะกล่าวอันใดก่อนแล้วค่อยรับมือ…” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ “เสี่ยวซื่ออีกเดี๋ยวเจ้าคอยแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนนะ หูตาว่องไวสักหน่อย อย่าปล่อยให้สาวใช้คนนั้นฆ่าตัวตายต่อหน้าพี่เป็นอันขาด”
“พี่หญิงใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อลูบอกรับประกัน
แค่คำกล่าวประโยคเดียวของไป๋ชิงเหยียนก็ทำให้ไป๋จิ่นถงเข้าใจได้ในทันที “ใช่ อย่าปล่อยให้นางใช้ชีวิตของตัวเองมาบีบบังคับให้พี่หญิงใหญ่ยอมไปพบเหลียงอ๋องเด็ดขาด ผู้ใดไม่รู้อาจนึกว่าพี่หญิงใหญ่กับเหลียงอ๋องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันได้” ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้าในใจยิ่งจริงจังมากขึ้น
“พี่หญิงใหญ่แล้วข้าล่ะเจ้าคะ!”
“ข้าด้วย! ข้าล่ะเจ้าคะ!”
เห็นเสี่ยวอู๋[1]กับเสี่ยวลิ่ว[2]ตั้งตารอคอยให้นางมอบหน้าที่ให้ นางก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ยื่นมือไปลูบศีรษะของเด็กสาวทั้งสองคน ใบหน้ามีแต่ความอ่อนโยน “พวกเจ้าสองคน…นั่งรถม้ากลับจวนไปเล่นกับน้องหญิงเจ็ดของพวกเจ้า ห้ามอยู่ดูเรื่องสนุกอยู่ข้างนอก มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะอดได้ลูกม้าเหงื่อโลหิต[3]สองตัวที่พี่เตรียมไว้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับพวกเจ้านะ”
เรื่องสกปรกพวกนั้น ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากให้น้องสาวตัวน้อยทั้งสองของนางต้องพบเห็น โลกของพวกนางควรจะสะอาดบริสุทธิ์ หญิงสาวยินดีที่จะปกป้องรักษามันเอาไว้ด้วยชีวิต
เมื่อได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนจะมอบลูกม้าเหงื่อโลหิตให้ ทั้งสองคนแววตาเป็นประกายในทันที พากันรับปากอย่างดีใจว่าจะไม่แอบออกไปดูแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันลงจากรถม้าก็เห็นหงเชี่ยวที่กำลังคุกเข่าอยู่อย่างแน่วแน่ที่หน้าจวนเจิ้นกั๋วกง นางหรี่ตาลงเล็กน้อย
ชาติที่แล้วไป๋ชิงเหยียนเคยพบหงเชี่ยวที่จวนเหลียงอ๋อง บ่าวใช้คนนี้ซื่อสัตย์ภักดีต่อเหลียงอ๋องมาก ต่อมานางได้รับคำสั่งจากเหลียงอ๋องให้ไปปราบโจรที่ผิงซาน หงเชี่ยวยอมพลีกายตกเป็นเมียของหัวหน้าโจรจึงช่วยเหลียงอ๋องปราบโจรจนสำเร็จ แต่สุดท้ายหงเชี่ยวกลับต้องจบชีวิตลงที่ผิงซาน
ไม่น่าเชื่อว่าเหลียงอ๋องจะประเมินค่านางสูงจนส่งบ่าวรับใช้คนสำคัญอย่างหงเชี่ยวมาเช่นนี้
เมื่อเห็นรถม้าสีฟ้าซึ่งสลักอย่างประณีต ค่อยๆ หยุดลงที่หน้าจวน หงเชี่ยวกำมือที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น
ชุนเถาประคองไป๋ชิงเหยียนลงจากรถม้า ไป๋จิ่นถงตามลงมาติดๆ
“คุณหนูใหญ่ไป๋มาแล้ว…” ชาวบ้านที่ล้อมดูเรื่องสนุกเอ่ยขึ้นเสียงเบา
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนก้าวขึ้นบันไดจวนเจิ้นกั๋วกงโดยไม่ปรายตามองหงเชี่ยวแม้แต่น้อย หงเชี่ยวร้อนรนขึ้นมาในทันที คลานเข้าไปสองสามก้าวก้มศีรษะแนบพื้นพลางอ้อนวอน “คุณหนูใหญ่ไป๋ บ่าวชื่อหงเชี่ยวเป็นบ่าวใช้ของจวนเหลียงอ๋องเจ้าค่ะ บ่าวรู้ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋โกรธที่บ่าวไปปรนนิบัติรับใช้เหลียงอ๋องอย่างน่าไม่อายจึงตัดสัมพันธ์กับองค์ชาย ไม่ยอมรับป้ายหยกของพระองค์…องค์ชายเสด็จมาหาคุณหนูที่จวนด้วยพระองค์เองทั้งที่ยังบาดเจ็บหนักขนาดนั้นแต่คุณหนูก็ยังไม่ยอมพบหน้าท่าน!”
ไป๋จิ่นถงเบิกตาโพลงเตรียมจะกล่าวขึ้นแต่โดนไป๋ชิงเหยียนที่หมุนตัวกลับมายึดข้อมือไว้เสียก่อน
หงเชี่ยวร้องไห้หนักกว่าเดิม “คุณหนูใหญ่…บ่าวเป็นเพียงสาวใช้ผู้ต้อยต่ำ แม้จะหลงรักองค์ชายแต่ก็หวังเพียงแค่ได้ปรนนิบัติรับใช้ข้างกายพระองค์เท่านั้นเจ้าค่ะ บ่าวมิเคยหวังสิ่งอื่นเลย ในใจขององค์ชายมีเพียงคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ คุณหนูใหญ่จะทำร้ายจิตใจขององค์ชายเพียงเพราะคนต้อยต่ำอย่างบ่าวได้อย่างไรกันเจ้าคะ เพราะคุณหนูใหญ่ไม่ยอมพบหน้าองค์ชาย องค์ชายร้อนพระทัยมากพอกลับไปถึงจวนก็กระอักเลือดออกมา บ่าวจนปัญญาแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ได้โปรดช่วยชีวิตองค์ชายสักครั้งนะเจ้าคะ! วันนี้บ่าวยินดีแลกชีวิตของบ่าว…จะไม่อยู่ให้รกหูรกตาองค์ชายกับคุณหนูใหญ่อีก ขอแค่คุณหนูใหญ่ยอมยกโทษให้องค์ชายด้วยเจ้าค่ะ!”
กล่าวจบหงเชี่ยวดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่บนศีรษะออกมาแทงไปที่หน้าอกของตัวเอง
ไป๋จิ่นจื้อที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนลงมืออย่างรวดเร็ว เสียงแส้ตวัดกลางอากาศ รัดข้อมือของหงเชี่ยวเอาไว้อย่างแน่นหนา ปิ่นปักผมหลุดกระเด็นออกไปไกล หงเชี่ยวก็โดนไป๋จิ่นจื้อควบคุมไว้ได้
ในใจของไป๋ชิงเหยียนเดือดดาลยิ่งนัก ดวงตาส่อแววเย็นชา
หงเชี่ยวทำเพื่อเหลียงอ๋องได้ทุกอย่าง ไม่เพียงแต่ฝีปากเก่งกล้า แถมหวังจะใช้การตายเป็นเครื่องยืนยันว่านางกับเหลียงอ๋องมีความสัมพันธ์กันจริงๆ
“วิธีของเจ้าร้ายกาจยิ่งนัก!” ไป๋จิ่นถงกัดฟันกรอด หากไม่ใช่เพราะพี่หญิงใหญ่เตรียมการล่วงหน้าโดยให้ไป๋จิ่นจื้อแฝงกายอยู่ในกลุ่มคน หากหงเชี่ยวตายอยู่ที่หน้าจวนเจิ้นกั๋วกงขึ้นมาจริงๆ ต่อให้พี่หญิงใหญ่มีสักหมื่นปากก็แก้ต่างสิ่งใดมิได้แน่ๆ
“คุณหนูใหญ่ องค์ชายขาดคุณหนูใหญ่มิได้นะเจ้าคะ บ่าวเป็นเพียงคนโง่มิรู้ว่าต้องทำเช่นไร จึงได้แต่ชดใช้ด้วยชีวิตหวังเพียงคุณหนูใหญ่หายโกรธ คุณหนูใหญ่โปรดให้อภัยองค์ชายด้วยเถิดเจ้าค่ะ!” หงเชี่ยวร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
บรรดาชาวบ้านที่รายล้อมต่างรู้สึกว่าพวกเขากำลังได้รับรู้ข่าวใหญ่
คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋ที่ดูตรงไปตรงมาผู้นี้ลอบคบกับเหลียงอ๋อง
คำกล่าวของหงเชี่ยวทำให้ชุนเถาโมโหจนหน้าเขียว ถ้อยคำของสาวใช้คนนี้ที่กล่าวออกมาท่ามกลางผู้คนมากมายล้วนสื่อว่าคุณหนูใหญ่ของนางลอบมีความสัมพันธ์กับเหลียงอ๋อง ชุนเถาอดโมโหชุนเหยียนขึ้นมาไม่ได้ “หากเจ้ากล่าววาจาเหลวไหลเช่นนี้อีก เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฉีกปากของเจ้าแน่!”
“ให้นางกล่าว ไม่กล่าวข้าก็ไม่รู้สิว่าเรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่…” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองหญิงชราผู้เฝ้าประตู ยิ้มออกมาอย่างสงบนิ่ง “ไปนำเก้าอี้มาให้ข้าหน่อย”
[1]เสี่ยวอู๋ สรรพนามที่ใช้เรียกพี่น้องลำดับที่ห้า หรืออาจใช้เรียกแทนตัวเอง
[2]เสี่ยวลิ่ว สรรพนามที่ใช้เรียกพี่น้องลำดับที่หก หรืออาจใช้เรียกแทนตัวเอง
[3]ม้าเหงื่อโลหิต เป็นม้าสายพันธ์หนึ่ง ตามตำนานกล่าวว่าม้าพันธ์ดังกล่าวยามออกวิ่ง บริเวณแผงคอจะมีเหงื่อไหลออกมาเป็นสีแดงสดคล้ายเลือด