ตอนที่ 83 ชัดเจนแจ่มแจ้ง
จี้ถิงอวี๋!
หญิงสาวเครียดขึ้นมาทันที จับมือชุนเถาแน่น เงยหน้าขึ้นมองสตรีของตระกูลติ้งหย่งโหวที่กำลังเคารพศพอยู่แวบหนึ่ง อาศัยจังหวะที่ไม่มีผู้ใดสนใจลุกขึ้น แต่ขากลับชาจนเกือบจะล้มพับลงไป
ไป๋จิ่นถงรีบประคองไป๋ชิงเหยียนไว้อย่างรวดเร็ว ไม่กล้าเอะอะโวยวายจึงเอ่ยถามเสียงเบา “พี่หญิงใหญ่?”
ไป๋ชิงเหยียนกุมมือชุนเถาแน่น “ไปกันเถิด!”
ชุนเถาก้มหน้าออกแรงพยุงไป๋ชิงเหยียนขึ้นแล้วค่อยๆ ปลีกตัวออกมาจากกลุ่มคน
ไป๋จิ่นถงสังเกตเห็นความผิดปกติ นางจึงหันไปกระซิบข้างหูไป๋จิ่นซิ่ว “พี่หญิงรอง! รบกวนท่านดูแลน้องๆ ด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะไปดูพี่หญิงใหญ่สักหน่อย!”
ไป๋จิ่นซิ่วก็กังวลว่าร่างกายของไป๋ชิงเหยียนจะรับไม่ไหว รีบพยักหน้ารัว ไป๋จิ่นถงรีบลุกขึ้นเดินตามไป๋ชิงเหยียนไปอย่างเงียบเชียบ
ไป๋ชิงเหยียนซึ่งขาเป็นเหน็บชาทั้งสองข้างเดินโซเซลงบันได เห็นหลูผิงถลาเข้ามาหาด้วยสีหน้าตึงเครียด เขาเตรียมกล่าวบางอย่างกับไป๋ชิงเหยียนก็เห็นไป๋จิ่นถงเดินตามเข้ามา เขารีบยกมือกำหมัดคาราวะอย่างนอบน้อม “คุณหนูใหญ่ คุณหนูสาม!”
“คนล่ะ” หญิงสาวกระวนกระวายใจ น้ำเสียงสั่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว นางกลัวว่าจี้ถิงอวี๋จะกลับมารายงานว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นชิงจู๋ ทว่าก็ยังหวังจะได้รับข่าวจากจี้ถิงอวี๋ว่ายังมีคนตระกูลไป๋รอดชีวิตจากสงครามที่หนานเจียง
“ด้านหลังขอรับ อิ๋นซวงเป็นคนเจอ ท่านหมอหงกำลังห้ามเลือดอยู่ขอรับ” หลูผิงรายงาน
“ไปเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนเร่งฝีเท้า อยากจะติดปีกบินไปเดี๋ยวนี้เลย
แม้ว่านางจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อถึงเรือนหลังแล้วได้ยินเสียงร้องอู้อี้จากการกัดไม้เพราะความเจ็บปวดของจี้ถิงอวี๋ นางก็ยังตื่นตระหนกอยู่ดี
เมื่อผลักประตูเข้าไป ท่านหมอหงกำลังใช้ใบมีดที่รนไฟกดไปบริเวณแขนที่ขาดของจี้ถิงอวี๋เพื่อห้ามเลือด มือข้างหนึ่งของจี้ถิงอวี๋จับขอบโต๊ะ กัดแผ่นไม้ในปากแน่น ใบหน้าแดง เส้นเลือดปูดจนแทบจะระเบิดออกมา เหงื่อเม็ดใหญ่และเลือดสดไหลรินไม่ขาดสาย
“เสร็จแล้ว! เสร็จแล้ว! เรียบร้อยแล้ว…” ท่านหมอหงนำใบมีดออก มือที่เปื้อนเลือดหยิบผ้าขนหนูขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้า
กลิ่นเนื้อไหม้ลอยปะทะจมูก ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
หากไม่ใช่เพราะออกรบจนเคยชินกับภาพพวกนี้แล้ว อย่าว่าแต่สตรีตระกูลสูงศักดิ์เลย ต่อให้เป็นบุรุษก็เกรงว่าขาคงอ่อนจนล้มพับไปแน่ๆ
ไป๋จิ่นถงเบิกตาโพลง ไม่รู้ว่าจี้ถิงอวี๋ไปทำสิ่งใดมาถึงได้เสียแขนไปข้างหนึ่งเช่นนี้!
“คุณหนูใหญ่!” จี้ถิงอวี๋ดวงตาแดงฉาน ร่างทั้งร่างชุ่มไปด้วยเลือด ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นแต่เพราะเสียแขนไปข้างหนึ่งทำให้เขาทรงตัวไม่ค่อยอยู่ กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก “แม่นางเสิ่นพาข้าและเว่ยเกาขี้ม้าเร็วไปยังหนานเจียง ระหว่างทางพบกับเยว่จือโจว องครักษ์ของคุณชายสาม แม่ทัพเยว่กำชับให้ข้านำม้วนไม้ไผ่บันทึกสถานการณ์รบสามม้วนกลับมา แต่จี้ถิงอวี๋ทำไม่สำเร็จ ตลอดทางต้องหลบซ่อนตัวหนีตายอย่างยากลำบาก ข้านำกลับมาได้เพียงม้วนเดียว คุณหนูใหญ่โปรดลงโทษข้าเถิดขอรับ!”
กล่าวจบ จี้ถิงอวี๋ปลดย่ามซึ่งชุ่มไปด้วยเลือดที่สะพายอยู่ด้านหลังออก ด้านในมีม้วนไม้ไผ่ห่ออยู่อย่างแน่นหนา
หญิงสาวดวงตาแดงก่ำ พยุงจี้ถิงอวี๋ให้ลุกขึ้น กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว!”
ไป๋จิ่นถงเข้าใจในทันที ที่แท้พี่หญิงใหญ่ส่งคนไปที่หนานเจียงก่อนหน้านี้แล้วอย่างนั้นหรือ
ไป๋จิ่นถงก้าวเข้าไปรับม้วนไม้ไผ่มาจากมือของจี้ถิงอวี๋ คลี่ออกพลางอ่านออกเสียง “วันที่สิบสอง เดือนสิบสอง รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบห้า แม่ทัพจี๋หย่งไป๋ชิงหมิงปราบกองทัพทหารม้าขนาดเล็กของซีเหลียงสำเร็จ นำทหารพันนายกลับไปยังค่ายเพื่อเป็นกำลังเสริม ค่ายตั้งอยู่ในที่ราบ แม่ทัพจี๋หย่งช่วยชีวิตทหารบาดเจ็บได้สิบนาย ทหารกล่าวว่าเมื่อวานซิ่นอ๋องเห็นกองทัพของหนานเยี่ยนนำกองทัพทหารห้าหมื่นนายบุกเข้ามา เขาจึงทิ้งค่ายหลบหนีเอาตัวรอดไปพร้อมกับทหารสามพันนาย แม่ทัพจี๋เฟิงไป๋ชิงอวี๋ส่งทหารห้าร้อยนายพาชาวบ้านหลบหนีไปก่อน ส่วนตัวเองนำทหารหนึ่งพันหน้าร้อยนายเตรียมรับมือกับศัตรู แม่ทัพจี๋เฟิงเสียชีวิตในสนามรบ ร่างถูกไฟเผาจนไม่เหลือชิ้นดี”
“วันที่สิบสาม เดือนสิบสอง รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบห้า แม่ทัพจี๋หย่งปกป้องอำเภอเฟิงอย่างสุดกำลัง กองทัพหนานเยี่ยนบุกโจมตีเมือง แม่ทัพจี๋หย่งไป๋ชิงหมิงกล่าวว่ามีชาวบ้านนับแสนอยู่เบื้องหลัง กองทัพไป๋พร้อมสู้จนตัวตาย จะอยู่สู้เป็นคนสุดท้าย แม้ตัวตายก็ไม่มีวันถอย!”
ไป๋จิ่นถงมองไปทางไปชิงเหยียนซึ่งประคองจี้ถิงอวี๋อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแวบหนึ่ง ดวงตาร้อนผ่าว เริ่มอ่านต่อ “เพราะต้องการบั่นทอนจิตใจของกองทัพแคว้นต้าจิ้น อวิ๋นพั่วสิงผู้นำของกองทัพในการร่วมมือกันของซีเหลียงและหนานเยี่ยนในครั้งนี้แขวนศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานไว้ที่หน้าค่ายทหาร! ตัดศีรษะของคุณชายสิบเจ็ดแห่งตระกูลไป๋…”
เมื่อเห็นประโยคที่ตามมา ไป๋จิ่นถงเดือดถึงขีดสุด น้ำไหลพราก โทสะโหมกระหน่ำอยู่ในใจ ใบหน้าขาวซีดราวกับถูกสิ่งใดกดทับอยู่ที่หน้าอกจนหายใจไม่ออก ไอสังหารแผ่ออกเป็นบริเวณกว้าง
ไป๋ชิงเหยียนกระชากม้วนไม้ไผ่มาไล่อ่านทุกตัวอักษรอย่างละเอียด ทุกรอยขีดเขียน…
เพราะต้องการบั่นทอนจิตใจของกองทัพแคว้นต้าจิ้น อวิ๋นพั่วสิงผู้นำของกองทัพในการร่วมมือกันของซีเหลียงและหนานเยี่ยนในครั้งนี้แขวนศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานไว้ที่หน้าค่ายทหาร ตัดศีรษะและคว้านท้องของคุณชายสิบเจ็ดแห่งตระกูลไป๋ ภายในท้องของคุณชายสิบเจ็ดเต็มไปด้วยดินโคลนและเศษไม้ อวิ๋นพั่วสิงตกตะลึง! กองทัพไป๋อาฆาตแค้น พุ่งเข้าต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ! เด็กอายุเพียงสิบขวบยังกล้าสละชีพเพื่อบ้านเมือง ข้าละอายใจยิ่งนัก ตอนนี้ต่อให้เป็นบัณฑิตก็สามารถทิ้งพู่กันหันมาจับมีดดาบ พร้อมสู้ตายในสนามรบเช่นเดียวกัน!
เจ็บปวดราวกับถูกเข็มนับพันทิ่มแทงเจาะทะลุหัวใจ กลิ่นคาวเลือดไหลจากหัวใจไปจุกอยู่ที่ลำคอ ความเจ็บปวดจนแทบอยากตายทำให้หญิงสาวตัวสั่นเทิ้ม เกือบจะล้มพับไปบนพื้น
“คุณหนูใหญ่!” ชุนเถารีบพยุงไป๋ชิงเหยียน น้ำตาไหลพราก
แม้จะรับรู้การตายอย่างน่าอนาถของเสี่ยวสือชีแล้ว แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าขณะที่เสี่ยวสือชีเสียชีวิตจะน่าสังเวชใจถึงเพียงนี้
หญิงสาวหลับตาที่แดงฉานลง กัดลิ้นของตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ เวลานี้นางจะอ่อนแอ จมอยู่ในความโศกเศร้าเช่นนี้ไม่ได้ บาดแผลของตระกูลไป๋ โศกนาฏกรรมของตระกูลไป๋ นางจะให้ทุกคนได้รับรู้! นางจะฉีกหน้ากากของซิ่นอ๋องโอรสที่เกิดจากฮองเฮาของฮ่องเต้ให้ทุกคนได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง! นางจะใช้ความโกรธของชาวบ้านบีบบังคับให้ฮ่องเต้ผู้สูงส่งประหารซิ่นอ๋องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความแค้นของตระกูลไป๋ ไป๋ชิงเหยียนจะเอาคืนด้วยชีวิต!
เวลานี้ หลังจากที่ผู้เฒ่าชุยสือเหยียนเซียนเซิงและผู้เฒ่ากวนยงฉงเซียนเซิงมาเคารพศพ คนสูงศักดิ์ในเมืองหลวงต่างทยอยกันมาเคารพศพตาม เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด
หญิงสาวลืมตาที่แดงฉานขึ้น ดวงตาเป็นเต็มไปด้วยเปลวไฟจ้องไปทางจี้ถิงอวี๋ซึ่งอยู่ในสภาพน่าเวทนา “จี้ถิงอวี๋ ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าทำ! ร่างกายของเจ้า…ทนไหวหรือไม่!”
“คุณหนูใหญ่สั่งมาได้เลยขอรับ! ถิงอวี๋พร้อมทำเต็มที่!” จี้ถิงอวี๋กัดฟันกรอด
“ชุนเถา ไปหยิบม้วนไม้ไผ่อีกห้าม้วนที่อู๋เจ๋อนำกลับมาให้ข้าที!”
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถาวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นชุนเถาออกจากห้องไปแล้ว ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันกรอด สั่งกำชับกับจี้ถิงอวี๋ “ข้าต้องการให้เจ้าถือม้วนไม้ไผ่ทั้งหกม้วนนี้เข้าไปทางประตูหลักของจวนเจิ้นกั๋วกง! แสดงม้วนไม้ไผ่ทั้งหกนี้ตรงหน้าโถงจัดพิธีด้วยสภาพที่โชกเลือดของเจ้า!”
“ปีที่แล้วเจ้านำเสื้อผ้าสำหรับใส่ในฤดูหนาวไปมอบให้ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านอาและบรรดาน้องชายของข้า! เจ้าบังเอิญเจอกับฟางเหยียนผู้นำค่ายเหมิงหู่ของกองทัพไป๋ที่โดนไล่ฆ่าบริเวณหุบเขาฉงหลวน เจ้าและบรรดาองครักษ์ติดตามพยายามช่วยชีวิตแม่ทัพฟางเหยียนอย่างสุดกำลัง แม่ทัพฟางเหยียนกล่าวว่าหลิวฮ่วนจางทรยศ สมคบคิดกับหนานเยี่ยนและซิ่นอ๋อง ซิ่นอ๋องบังคับให้ท่านปู่ออกรบเพราะอยากได้จวินกงจนทำให้ทหารนับแสนต้องตายในสนามรบ ด่านหน้าพ่ายแพ้ราบคาบ แม่ทัพจี๋เฟิงไป๋ชิงอวี๋สละชีวิตของตัวเองยื้อเวลาให้ชาวบ้านหลบหนีไปอย่างสุดความสามารถ ซิ่นอ๋องละทิ้งชาวบ้านโดยไม่สนใจใยดี บังคับให้ทหารกว่าครึ่งคุ้มกันเขาหลบหนีเอาตัวรอด เจ้าดิ้นรนหลบหนีการไล่ฆ่าสุดชีวิตเพื่อนำม้วนไม้ไผ่ทั้งหกนี่กลับมา ขอเพียงสวรรค์คืนความยุติธรรมให้ดวงวิญญาณวีรบุรุษของตระกูลไป๋!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างละเอียด ความจริงเก้าส่วนและโกหกหนึ่งส่วน อธิบายที่มาของม้วนไม้ไผ่ทั้งหกม้วนอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง