ตอนที่ 138 ชื่อเสียง
แม้ประตูข้างของจวนเจิ้นกั๋วกงจะไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านไปมาสักเท่าใด ทว่า บัดนี้ขบวนแห่ศพของตระกูลไป๋เดินทางกลับมาแล้ว ตอนนี้กำลังเคลื่อนขบวนผ่านปากทางของซอยลึกซอยนี้พอดี เสียงตวาดของถงจี๋ดึงดูดความสนใจของผู้คนให้มองเข้ามาในซอยนี้ไม่น้อย
ถงหมัวมัวประสานมือไว้ที่หน้าท้อง สีหน้าของนางที่เคร่งขรึมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วขรึมลงกว่าเดิม นางมองไปทางชุนเหยียนแล้วเอ่ยขึ้น
“ชุนเหยียน เจ้าช่างบังอาจนัก ลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าคราวที่แล้วเจ้าโดนโบยเพราะเหตุใด เจ็บแล้วไม่รู้จักจำจริงๆ ไม่เพียงลอบพบกับบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋อง ยังกล้าอ้างชื่อของท่านกั๋วกง ใช้จดหมายเหล่านี้บีบบังคับให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับเหลียงอ๋องอีก! เจ้านี่มันใจกล้า ไม่กลัวสิ่งใดเลยจริงๆ!”
ชุนเหยียนซึ่งโดนหญิงชรารับผิดชอบงานหนักกดอยู่บนพื้นร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง
“หมัวมัว…หมัวมัว! ขะ…ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ”
“มีทั้งพยานบุคคล และหลักฐานเช่นนี้ เจ้ายังกล้าปฏิเสธอีกหรือ เจ้าเห็นว่าข้าแก่จนเลอะเลือนแล้วหรืออย่างไร!” ถงหมัวมัวตวาดออกมาเสียงดังอย่างโมโห “รู้อย่างนี้ควรโบยเจ้าให้ตายไปเสียตั้งแต่ตอนนั้น!”
“หมัวมัวโปรดไว้ชีวิตด้วยเจ้าคะ! ข้าทำไปเพราะหวังดีต่อคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ…” ชุนเหยียนร้องไห้อ้อนวอน
ถงหมัวมัวสบถออกมา “เรื่องนี้สำคัญมาก! เกี่ยวโยงไปถึงองค์ชายและคุณหนูใหญ่ เราไปให้องค์หญิงใหญ่ตัดสินเรื่องนี้ดีกว่า”
ถงหมัวมัวกวาดสายตาเย็นชามองไปยังชุนเหยียน จากนั้นไปหยุดอยู่ที่ถงจี๋
“จับตัวพวกเขาไว้ เดินออกจากซอยนี้อ้อมไปยังประตูหลักของจวน มอบตัวพวกเขาให้องค์หญิงใหญ่จัดการ”
ถงหมัวมัวกล่าวจบก็เดินนำไปทางด้านหน้า องครักษ์ตระกูลไป๋กุมตัวชุนเหยียน ถงจี๋ คนบังคับม้าพร้อมด้วยรถม้าของจวนเหลียงอ๋องเดินไปยังประตูหลักของจวนเจิ้นกั๋วกง
“พวกเจ้าปล่อยข้านะ ข้าเป็นบ่าวของจวนเหลียงอ๋อง! จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์จับกุมตัวข้าเช่นนี้ปล่อยข้า!”
ถงจี๋ที่โดนจับกุมตัวเดินไปพลางตะโกนด่าไปพลาง
ขาทั้งสองข้างของชุนเหยียนไร้เรี่ยวแรง เมื่อนึกถึงจุดจบของหมิงอวี้ สาวรับใช้ข้างกายของคุณหนูรอง นางก็หวาดกลัวจนร้องไห้ออกมาอย่างสำนึกผิด
“ถงหมัวมัว บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ! ท่านไว้ชีวิตบ่าวเถิดนะเจ้าคะ! บ่าวไม่กล้าอีกแล้วเจ้าคะ! ท่านปล่อยบ่าวไปเถิดนะเจ้าคะ! อย่าส่งตัวบ่าวให้องค์หญิงใหญ่เลยเจ้าคะ หากองค์หญิงใหญ่ทราบเรื่อง บ่าวไม่รอดแน่เจ้าคะ ถงหมัวมัวท่านเห็นบ่าวมาตั้งแต่เล็ก ถงหมัวมัวโปรดไว้ชีวิตบ่าวเถิดนะเจ้าคะ!”
ถงหมัวมัวใจแข็งราวกับเหล็ก เดินนำองครักษ์ และหญิงชราไปที่หน้าปากซอย มุ่งตรงไปยังประตูหลักของจวนเจิ้นกั๋วกงท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาของทุกคน
องค์หญิงใหญ่เพิ่งถูกเจี่ยงหมัวมัวประคองลงมาจากรถม้า ก็เห็นถงหมัวมัวถลาเข้ามาหาแล้วคุกเข่าลงบนพื้นตรงหน้าองค์หญิงใหญ่ ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
“องค์หญิงใหญ่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่คุณหนูใหญ่ด้วยนะเจ้าคะ!”
องค์หญิงใหญ่ชะงัก หันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่ลงมาจากรถม้าแล้ว เห็นไป๋ชิงเหยียนที่มีสีหน้างุนงงเช่นเดียวกันสาวเท้าตรงเข้าไปหาถงหมัวมัวอย่างรวดเร็ว “ถงหมัวมัว เกิดเรื่องอันใดขึ้น!”
ชาวบ้านที่มาส่งสตรีของจวนเจิ้นกั๋วกงยังไม่ได้แยกย้ายกันกลับ เมื่อเห็นว่าตระกูลไป๋เพิ่งฝังศพของวีรบุรุษตระกูลไป๋เสร็จก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว ต่างชะโงกหน้ามามองอย่างอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น
“คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่ช่วยบ่าวด้วยเจ้าคะ!” ชุนเหยียนมองเห็นไป๋ชิงเหยียนก็สะบัดกายอย่างแรงหวังจะพุ่งเข้าไปหาแต่โดนหญิงชราจับไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนเดินไปด้านหน้าโดยไม่หันกลับมามองนางแม้แต่น้อย นางรู้สึกสิ้นหวังในทันที รีบตะโกนเรียกชุนเถาซึ่งประคองไป๋ชิงเหยียนอยู่
“ชุนเถา ช่วยข้าด้วย! เจ้าช่วยข้าด้วย! ข้าเคยช่วยชีวิตเจ้าไว้นะ เจ้าได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด!”
ชุนเถาได้ยินเสียงร้องตะโกนของชุนเหยียน ขอบตาของนางร้อนผ่าวแต่ก็แข็งใจไม่หันกลับไปมอง
คุณหนูใหญ่ผ่านความยากลำบากมามากเพียงใด ชุนเถารู้ดี ในฐานะสาวใช้ที่เติบโตมาพร้อมกับคุณหนูใหญ่อย่างชุนเหยียน ไม่เพียงไม่คอยช่วยเหลือ แต่กลับสร้างปัญหาให้คุณหนูใหญ่อยู่ตลอดเวลา หวังทำลายชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่เพื่อบีบบังคับให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับเหลียงอ๋อง นางทำผิดอย่างมหันต์
ถงหมัวมัวโขกศีรษะแนบพื้นให้ไป๋ชิงเหยียนแล้ว หันไปโขกศีรษะให้องค์หญิงใหญ่ จากนั้นจึงกล่าวออกมา
“ครั้งที่แล้วชุนเหยียนลอบนัดพบกับบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องเพื่อเชิญคุณหนูใหญ่ไปพบเหลียงอ๋อง ฮูหยินจึงจัดระเบียบจวนเจิ้นกั๋วกงใหม่ ขายบ่าวรับใช้ไปถึงห้าครัวเรือนเพราะเรื่องนี้ คุณหนูใหญ่เห็นแก่ที่ชุนเหยียนรับใช้นางมาตั้งแต่เด็กจึงไว้ชีวิตนาง! ผู้ใดจะไปคิดว่าชุนเหยียนไม่สำนึกบุญคุณ ยังกล้าลอบนัดพบกับบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องอีก บังเอิญที่เด็กอิ๋นซวงไปเห็นเข้าจึงมารายงานบ่าวเจ้าค่ะ!”
องค์หญิงใหญ่พอรู้เรื่องนี้มาบ้าง ในใจยังเลยแอบคิดว่าอาเป่าใจอ่อนเกินไป ทว่า นั่นคือบ่าวรับใช้ในเรือนชิงฮุยของอาเป่า องค์หญิงใหญ่ไม่อาจเข้าไปยุ่งย่ามได้ ตอนนี้เห็นแล้วว่าบ่าวก็คือบ่าว จะใจอ่อนกับบ่าวไม่ได้เด็ดขาด!
“ตอนที่บ่าวพาองครักษ์ และหญิงชราที่รับผิดชอบงานหนักไปถึงประตูข้างก็ได้ยินบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องกล่าวกับชุนเหยียนว่า ให้นางถือโอกาสช่วงที่จวนเจิ้นกั๋วกงกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่นำจดหมายที่เหลียงอ๋องเขียนถึงคุณหนูใหญ่ไปวางไว้ในห้องหนังสือของท่านกั๋วกง ยังกำชับอีกว่าไม่ให้ชุนเหยียนแกะจดหมายเหล่านั้น เพราะท่านกั๋วกงไม่มีทางแอบอ่านจดหมายส่วนตัวของลูกหลานแน่นอน เมื่อถึงเวลาเหลียงอ๋องจะหาทางวางแผนให้คนทำทีเป็นพบจดหมายเหล่านั้น และทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เจ้าค่ะ!”
องค์หญิงใหญ่เบิกตาโพลงอย่างตกตะลึง นี่มันต้องการทำลายชื่อเสียงของอาเป่าชัดๆ!
น้ำเสียงของถงหมัวมัวรวดเร็วและหนักแน่น
“บ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องกล่าวว่า เหลียงอ๋องจะหลอกฮูหยินว่าท่านกั๋วกงทราบว่าเขาหลงรักคุณหนูใหญ่มานานแล้ว ท่านยึดจดหมายของเหลียงอ๋องเอาไว้ กล่าวว่าเมื่อกลับมาจากหนานเจียงจะจัดงานแต่งงานให้เหลียงอ๋องและคุณหนูใหญ่! กล่าวว่าเมื่อจดหมายเหล่านี้ทำลายชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่ เขาจะออกมารับผิดชอบและแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ เมื่อรับคุณหนูใหญ่เข้าไปอยู่ในจวนเหลียงอ๋องแล้ว เขาจะรับนางสารเลวนี่ไปเป็นอนุ นางสารเลวนี่ตอบตกลง และรับจดหมายเหล่านั้นมา จดหมายเหล่านั้นยังอยู่ในมือของบ่าวสารเลวนั่นอยู่เลยเจ้าค่ะ บ่าวยังมิได้แย่งมา!”
แม้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะกำชับไป๋จิ่นจื้อไว้ตั้งแต่อยู่บนรถม้าแล้ว ทว่า เมื่อได้ยินแผนการอันชั่วร้ายของเหลียงอ๋อง นางทนไม่ไหวจึงถลาเข้าไปถีบชุนเหยียนจนกลิ้งไปบนพื้น จากนั้นหันไปถีบถงจี๋จนล้มลงเช่นเดียวกัน
“บังอาจนัก! กล้าวางแผนทำร้ายพี่หญิงใหญ่ของข้าได้อย่างไรกัน!” ไป๋จิ้นจื้อก้มหน้ากวาดสายตามองหาอาวุธเหมาะมือ เตรียมจัดการจี๋อีกสักยก
เป็นเช่นนี้นี่เอง ที่แท้ชาติที่แล้ว…เหลียงอ๋องโน้มน้าวใจชุนเหยียนโดยการเอาตำแหน่งอนุมาล่อ ดังนั้นชุนเหยยียนจึงตัดสินใจช่วยเหลือเหลียงอ๋อง ทำให้คนตระกูลไป๋โดนตราหน้าว่าเป็นกบฏ ทรยศแผ่นดินจนนอนตายตาไม่หลับ
ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปยังจดหมายที่ถูกชุนเหยียนกำแน่นอยู่ในมือ จากนั้นหันไปมองถงจี๋ที่กัดฟันทนความเจ็บปวดโดยไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว หญิงสาวจงใจยั่วโมโหถงจี๋
“สั่งให้ชุนเหยียนมาขอยืมตำราพิชัยสงครามของท่านปู่จากข้า ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างนัดเจอข้าเพราะต้องการขอบคุณ ข้าไม่ยอมพบเพราะเห็นว่าบุรุษและสตรีไม่ควรอยู่ใกล้ชิดกัน ข้าเพียงให้ชุนเหยียนนำตำราพิชัยสงครามของจักพรรดเกาจู่ไปให้เหลียงอ๋องเท่านั้น หวังจะให้เหลียงอ๋องทรงทราบว่าข้ามิได้มีใจให้พระองค์ จะได้ไม่มาตอแยข้าอีก ทว่า น่าเสียดายที่เหลียงอ๋องไม่เข้าใจความหมายที่ข้าต้องการสื่อ!”
“ผ่านไปไม่กี่วัน เหลียงอ๋องเสด็จมาขอพบข้าอีก ท่านแม่ของข้าต้องขายบ่าวรับใช้ของจวนไปหลายสิบคนเพราะเรื่องนี้! เมื่อแผนครั้งนั้นไม่ได้ผล เหลียงอ๋องจึงคิดแผนขึ้นมาใหม่ สั่งให้สาวใช้ของจวนเหลียงอ๋องมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงเพื่อใส่ร้ายว่าข้ากับเหลียงอ๋องมีความสัมพันธ์กัน! วันนี้อาศัยช่วงที่ตระกูลไป๋กำลังวุ่นวายอยู่กับพิธีเคลื่อนขบวนศพลงมือทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ หวังใช้ชื่อท่านปู่ของข้าหลอกลวงทุกคนโดยไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อยเป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่!”