ตอนที่ 284 คนที่ฟ้าลิขิต
ชายหนุ่มลอบกำมือแน่น จักรพรรดิต้าจิ้นและเสียนอ๋องตกลงเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้แล้วและจะประกาศในงานเลี้ยงวันนี้ เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ต่อให้จวิ้นจู่ยังไม่มีใจให้เขา ทว่า เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถทำให้จวิ้นจู่ชอบเขาได้ในสักวัน
เว่ยฉี่เหิงนั่งลงบนที่นั่งของตัวเองโดยที่สายตายังไม่ละไปจากร่างของไป๋ชิงเหยียน ใบหน้าของเขามีความสุขอย่างปิดไม่มิด
เขาพบเจอสตรีมามาก ทว่า ผู้ที่ทำให้เขาหลงรักตั้งแต่แรกพบมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น เขายินดีไม่มีหญิงอื่นอีกเลยตลอดชีวิต ขอแค่มีนางเคียงข้างก็พอ
เว่ยฉี่เหิงคิดว่าเขาคงเป็นดังที่เสด็จพี่หญิงใหญ่กล่าวไว้ พบคนที่ฟ้าลิขิตเข้าแล้ว!
เมื่อได้ยินเสียงขันทีตะโกนว่าจักรพรรดิต้าจิ้นและจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเสด็จมาถึงแล้ว ทุกคนในท้องพระโรงต่างลุกขึ้นยืนทำความเคารพ
ไป๋งชิงเหยียนเงยหน้ามองไปทางจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน สองสายตาประสานกัน ดวงตาสีดำล้ำลึกของไป๋ชิงเหยียนส่อแววข่มขู่ มู่หรงอวี้ตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างปวดศีรษะ ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้สตรีที่น้องชายชอบไม่พอใจอย่างหนักเลย
จักรพรรดิต้าจิ้นและจักรพรรดิต้าเยี่ยนเดินเข้ามาด้านในพร้อมกัน ที่ประดับก็จัดอยู่ในระดับความสูงที่เสมอภาคกัน
เมื่อมู่หรงลี่ที่เดินตามหลังมู่หรงอวี้เข้ามามองเห็นไป๋ชิงเหยียน ดวงตาของเขาเป็นประกาย เด็กชายถูกรัชทายาทพาไปนั่งข้างๆ เขา
รัชทายาทปฏิบัติกับมู่หรงลี่อย่างอ่อนโยนราวกับพี่ชาย
มู่หรงลี่พยายามห้ามใจไม่ให้หันไปมองท่านอาเก้า ทว่า รัชทายาทแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่พวกเขาไปล่องเรือเล่นด้วยกันเมื่อวาน จงใจถามออกมา มู่หรงลี่จึงกล่าวขึ้น
“เมื่อวานเซียวเซียนเซิงไปเป็นเพื่อนพวกเรา ลี่รู้จักเซียวเซียนเซิงขอรับ”
มู่หรงอวี้มองไปยังเซียวหรงเหยี่นและมู่หรงลี่ ยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นยิ้มๆ แกว่งเบาๆ ไปทางเซียวหรงเหยี่ยน
เซียวหรงเหยี่ยนแสร้งทำเป็นตกใจ รีบถือแก้วเหล้าพลางลุกขึ้นยืนทำความเคารพจักรพรรดิต้าเยี่ยน ใช้แขนเสื้อบังพลางยกเหล้าดื่มจนหมด
รัชทายาทอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เมื่อวานหลังจากได้รู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนไปล่องเรือเล่นกับจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน เขากำชับให้เซียวหรงเหยี่ยนไปมาหาสู่กับจักรพรรดิต้าเยี่ยนให้มากหน่อย
“ฝ่าบาทรู้จักเซียวเซียนเซิงหรือ” จักรพรรดิต้าจิ้นถาม
“ใช่แล้ว ขันทีใหญ่เผิงเย่าข้างกายเรารู้จักกับเซียวเซียนเซิง เมื่อวานลูกชายเรางอแงอยากไปล่องเรือ พวกเราใช้เรือของเซียวเซียนเซิง” มู่หรงอวี้ตอบอย่างไม่ปิดบัง
“เซียวเซียนเซิงมีความรู้ความสามารถมากเพคะ แม้เป็นเพียงพ่อค้า ทว่า เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทของเรายิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนก็ชื่นชมเซียวเซียนเซิงเช่นเดียวกันเพคะ” ฮองเฮากล่าว
ฮองเฮาที่ไม่ได้ร่วมงานเลี้ยงเป็นเวลานานมาร่วมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้กับฮ่องเต้ สิ่งที่ทำให้ทุกคนนึกไม่ถึงก็คืออวี๋กุ้ยเฟยซึ่งเป็นมารดาแท้ๆ ของรัชทายาทกลับนั่งอยู่รองลงมาถัดจากฮ่องเต้ ส่วนชิวกุ้ยเหรินที่กำลังเป็นที่โปรดปรานได้นั่งอยู่เคียงข้างฮ่องเต้แทน
ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงว่าชิวกุ้ยเหรินเป็นที่โปรดปรานถึงเพียงนี้เชียวหรือ ตะลึงในความงามของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน เสียงบรรเลงเพลงพิณและกลองเริ่มดังขึ้น
สตรีในชุดระบำสีแดงเพลิง สวมเครื่องประดับหยกสีทอง และมีผ้าคลุมหน้าปิดหน้าย่างกรายเข้ามาในท้องพระโรงท่ามกลางเสียงบรรเลง ฝีเท้าอ่อนช้อย กำไลทองที่สวมอยู่บริเวณข้อเท้าดังเป็นจังหวะตามการก้าวของหญิงสาว ด้านหลังมีสตรีแกร่งชาวซีเหลียงสิบกว่านางถือกลองเดินตามมา
ไป๋ชิงเหยียนมองไปยังร่างของหลี่เทียนฟู่ หลี่เทียนฟู่ที่ร้องไห้แทบขาดใจเพราะการจากไปของลู่เทียนจัวเมื่อวาน วันนี้ราวกับกลายเป็นคนใหม่ เผยเสน่ห์เย้ายวนใจของตัวเองออกมาเต็มที่ สายตามองไปยังฮ่องเต้…เป้าหมายชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองไปยังเบื้องสูง ฮ๋องเต้กำลังหันหน้าคุยสิ่งใดสักอย่างอยู่กับชิวกุ้ยเหริน มุมปากหยักขินเล็กน้อย ดูเหมือนว่าต่อให้หลี่เทียนฟู่จะดูเย้ายวนมากเพียงใดก็ไม่สามารถดึงดูดใจฮ่องเต้ได้แล้ว
สตรีของซีเหลียงกล้าแต่งกายอย่างเปิดเผย แทบจะเปลือยหน้าอก ไม่กลัวคนเชยชมเรือนร่างของตัวเองแม้แต่น้อย ผิวขาวเนียนละเอียดตัดกับเครื่องแต่งกายสีแดงสดเป็นอย่างดี บุรุษจำนวนไม่น้อยในท้องพระโรงเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย
สตรีเรือนร่างงดงามอ่อนช้อยเต้นไปตามจังหวะกลอง เอวบางส่ายไปมาอย่างบิดพลิ้วราวกับงูน้ำ ท่าระบำสะกดวิญญาณยิ่งนัก ใบหน้าเย้ายวนส่งยิ้มไปทางฮ่องเต้ ภายใต้ขนตาแพงอันสวย แววตาเต็มไปด้วยความลึกลับเย้ายวนใจ
ทันทีที่ทำนองบรรเลงเปลี่ยนไป นัยน์ตาที่งดงามยิ่งกว่าดอกท้อของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางค่อยๆ ก้าวขึ้นไปอยู่บนกลองที่ชายฉกรรจ์ชูขึ้นเหนือศีรษะ เป็นฉากที่ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง
สตรีผู้นี้น้ำหนักเบาจนขึ้นไปเต้นรำอยู่บนกลองได้ด้วยอย่างนั้นหรือ!
หลี่เทียนฟู่ผายมือออกยิ้มๆ ย่ำเท้าอยู่บนกลองอย่างแผ่วเบา กลองเริ่มเร่งจังหวะ ชายกระโปรงของหญิงสาวสลายพลิ้วไปมาตามจังหวะกลองราวกับจะโบยบินได้ มองจากที่ไกลๆ ดูราวกับดอกเหมยสีแดงที่กำลังผลิบาน งดงามจนแทบสะกดวิญญาณ ทำให้คนเลือดสูบฉีดไปทั้งร่าง
เสียงระฆัง กลอง พิณ เร่งจังหวะอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของสตรีผู้นั้นก็รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดจักรพรรดิต้าจิ้นยังนั่งหลังตรงมองไปยังหลี่เทียนฟู่…
หลี่จือเจี๋ยยกยิ้มมุมปาก คลี่พัดพลางตบลงบนฝ่ามือเป็นจังหวะ
มองดูหลี่เทียนฟูเคลื่อนกายจากกลองด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็วด้วยความสามารถขั้นสูง รวดเร็วจนผู้คนมองเห็นเพียงเงาสีแดงจากร่างของนางเท่านั้น ขณะที่ทุกคนลอบปาดเหงื่อแทนสตรีผู้งดงามคนนั้น พวกเขากลับมองด้วยความรู้สึกพุ่งพล่านอีกด้วย
เสียงพิณดังแทรกขึ้น หลี่เทียนฟู่หยุดชะงักความเคลื่อนไหวลง นิ้วมือของนางประสานกันเหมือนนกยูง ยืนนิ่งอยู่บนกลอง ชายฉกรรจ์ที่เดิมที่คุกเข่าอยู่บนพื้นค่อยๆ ยืนขึ้น ท่ามกลางแสงไฟอันสว่างไสวในท้องพระโรง หลี่เทียนฟู่ประหนึ่งนกยูงผู้สูงศักดิ์
หลี่เทียนฟู่มองไปทางฮ่องเต้ ดวงตาสดใสเป็นประกายคู่นั้น ทำให้บุรุษรู้สึกคันยิบที่หัวใจ
หญิงสาวค่อยๆ ผายมือออก ย่อกาย ปลายเท้าสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบาราวกับเทพธิดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์ จากนั้นค่อยๆ คุกเข่าก้มศีรษะแนบพื้น
สตรีเช่นนี้อย่าว่าแต่บุรุษที่นั่งอยู่เลย ขนาดไป๋ชิงเหยียนที่เป็นสตรียังดูเพลินจนไม่มีสติ
หลี่จือเจี๋ยลุกขั้นยืนก้มศีรษะทำความเคารพจักรพรรดิต้าจิ้น กล่าวขึ้น “องค์หญิงซีเหลียงถวายระบำชุดนี้ให้ฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาททรงมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงเป็นพันปีพ่ะย่ะค่ะ!”
“ดีมาก!” จักรพรรดิต้าจิ้นปรบมือ “การร่ายรำขององค์หญิงเป็นที่หนึ่งเหนือผู้ใดจริงๆ”
“ครั้งนี้กระหม่อมได้รับคำสั่งจากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงน้อมส่งองค์หญิงมาแต่งงานเชื่อมไมตรี เพื่อสานสัมพันธ์อันดีงามกับต้าจิ้นพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยกล่าวยิ้มๆ
ชิวกุ้ยเหรินที่ถูกฮ่องเต้จูงมานั่งอยู่ข้างๆ กำมือแน่น เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นางกำชายเสื้อของฮ่องเต้ไว้หลวมๆ มองไปทางฮ่องเต้อย่างน้ำตาคลอ เสียใจอย่างสุดซึ้ง
ฮ่องเต้หัวเราะพลางกุมมือชิวกุ้ยเหรินอย่างปลอบประโลม ตรัสยิ้มๆ
“องค์หญิงซีเหลียงงดงามถึงเพียงนี้ หากแต่งงานมาอยู่แคว้นต้าจิ้นถือเป็นเรื่องดี ทว่า รัชทายาทมีพระชายาเอกอยู่แล้ว องค์หญิงคงต้องยอมเป็นชายารองแทน”
ตรัสจบ สายพระเนตรของฮ่องเต้ทอดมองไปยังชิวกุ้ยเหริน แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่และตามใจ
พระชายาเอกของรัชทาทายตะลึง เงยหน้ามองฮ่องเต้ที่ประทับอยู่ด้านบน ดวงตาไหววูบ บีบผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น
รัชทายาทก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน เขารีบลุกขึ้นยืนขอบพระคุณ
หลี่เทียนฟู่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองมาก ตอนอยู่ที่ซีเหลียง ขอเพียงนางต้องการ ไม่มีบุรุษผู้ใดไม่มาสยบอยู่แทบเท้าของนาง เป้าหมายของนางคือจักรพรรดิต้าจิ้น นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่หวั่นไหวในตัวเอง
หลี่เทียนฟู่กำมือแน่น รัชทายาทก็ยังดี ขอแค่อยู่ท่ามกลางอำนาจในแคว้นต้าจิ้น นางต้องกำจัดไป๋ชิงเหยียนให้สิ้นซากได้สักวัน
หลี่เทียนฟู่เงยหน้าขึ้น ดวงตาเย้ายวนคู่นั้นมองไปทางจักรพรรดิต้าจิ้น เอื้อมมือปลดผ้าคลุมหน้าออก ก้มศีรษะคำนับ