ตอนที่ 343 ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด
ทว่า ขณะกำลังข้ามแม่น้ำจิง ทั้งสองคนสังเกตถึงความผิดปกติ ไป๋ชิงเจวี๋ยที่เตรียมบุกกลับไปคุ้มครองไป๋ชิงอวี๋ถูกลอบโจมตีเสียก่อน…
ม้าของไป๋ชิงเจวี๋ยสละชีวิตปกป้องเจ้านายจนตาย ไป๋ชิงเจวี๋ยได้รับบาดเจ็บหนัก เขาสั่งให้ไป๋ชิงอวิ๋นหนีเอาตัวรอดไปก่อน ทว่า ไป๋ชิงอวิ๋นกลับกล่าวว่าท่านปู่เคยสั่งว่าไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น บุตรอนุต้องปกป้องบุตรภรรยาเอก ในเมื่อพวกเขากลับไปคุ้มครองไป๋ชิงอวี๋ไม่ทัน เช่นนั้นไป๋ชิงอวิ๋นจึงเลือกเสียสละตนเองเพื่อปกป้องบุตรของภรรยาเอกอย่างพี่ชายเจ็ดไป๋ชิงเจวี๋ย
สงครามกระชั้นชิด ไป๋ชิงอวิ๋นรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของไป๋ชิงเจวี๋ยเป็นชุดทหารธรรมดา ผลักเขาลงไปในแม่น้ำจิง ยื้อเวลารอดให้เขา
ต่อมาไป๋ชิงเจวี๋ยถูกพ่อค้าทาสช่วยชีวิตเอาไว้ พ่อค้าทาสเอาของมีค่าที่ติดตัวไป๋ชิงเจวี๋ยไปจนหมดสิ้น ทว่า ยังไม่ถึงกับใจไม้ไส้ระกำ เขาหาหมอมารักษาอาการของไป๋ชิงเจวี๋ย จึงสามารถช่วยชีวิตไป๋ชิงเจวี๋ยเอาไว้ได้
ตอนนั้นไป๋ชิงเจวี๋ยอยากหลบหนีกลับไปหนานเจียงอยู่หลายครั้ง ทว่า ร่างกายของเขาอ่อนแอจนแทบลุกไม่ขึ้นจึงไม่อาจหลบหนีไปได้
จวบจนถึงตอนที่ไป๋ชิงเจวี๋ยลงมือช่วยเหลือเด็กสาวคนหนึ่งในตลาดทาสจนถูกเซียวหรงเหยี่ยนช่วยเหลือเอาไว้
“เซียวเซียนเซิง? เซียวเซียนเซิงพ่อค้าแห่งต้าเว่ยหรือเจ้าคะ” ดวงตาทั้งสองข้างของไป๋จิ่นจื้อเปล่งประกาย
ไป๋ชิงเจวี๋ยดูออกว่าไป๋จิ่นจื้อไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า เขาก็ไม่ได้เปิดโปง ทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อย
“พี่หญิงใหญ่ เซียวเซียนเซิงมีบุญคุณต่อตระกูลไป๋ของเรามากจริงๆ เจ้าค่ะ เขาช่วยพวกเราไว้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว!” ไป๋จิ่นจื้อนับถือและชื่นชมเซียวหรงเหยี่ยนจากใจจริง กระทั่งยอมรับในตัวพี่เขยใหญ่คนนี้แล้ว
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กล่าวสิ่งใด หญิงสาวนึกถึงเรื่องปัญหาความอดอยากที่เยี่ยนว่อขึ้นมาได้จึงกล่าวกับไป๋ชิงเจวี๋ย “ปัญหาความอดอยากที่เยี่ยนว่อ พี่เขียนจดหมายให้คนนำไปให้ลุงเสิ่นให้เขาอาศัยโอกาสนี้ส่งคนที่ไว้ใจได้ไปชักนำชาวบ้านอพยพเหล่านั้นไปที่โยวหวาเต้าแล้ว เจ้าช่วยรับช่วงต่อด้วย ลุงเสิ่นและแม่ทัพเว่ยจะหาทางส่งเสบียงเพิ่มเติมไปให้พวกเจ้าเอง”
“พี่หญิงใหญ่…ข้าเตรียมพร้อมไว้แล้วขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าว “กองกำลังมีรากฐานมาจากชาวบ้าน ข้าจำได้ดีว่าท่านปู่เคยกล่าวไว้เช่นนี้”
ปณิธานของคนทุกรุ่นในตระกูลไป๋ล้วนสลักลึกอยู่ในใจของทายาทตระกูลไป๋ทุกคน
ดังนั้นเขารู้ดีว่าพี่หญิงใหญ่กำลังทำสิ่งใด กำลังวางแผนเพื่อสิ่งใดและคาดหวังสิ่งใดในภายภาคหน้า! แม้พี่น้องไม่ได้พบหน้ากัน…ทว่า เขารู้ดีว่าควรทำเช่นไร
การฝึกทหารที่ภูเขาถงกู่ จงซานและไป๋วั่ว สิ่งแรกที่ต้องมีคือกำลังคน
“ทว่า ดูเหมือนว่าต้าเยี่ยนก็อยากชักจูงชาวบ้านที่อพยพไปยังต้าเยี่ยนเช่นกัน มีชาวบ้านบางส่วนอพยพเข้าไปที่ต้าเยี่ยนแล้วด้วยขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอย่างไม่รีบร้อน
เยี่ยนว่ออยู่ใกล้เมืองผิงหยาง ทว่า ก็อยู่ใกล้ต้าเยี่ยนด้วยเช่นกัน
ครั้งนี้ต้าเยี่ยนลงทุนไม่น้อยในการให้คนป่าวประกาศชักจูงให้ชาวบ้านในเยี่ยนว่ออพยพไปยังต้าเยี่ยน กล่าวว่าผู้ที่อพยพไปอยู่ต้าเยี่ยนจะได้ใช้กฎหมายใหม่ของต้าเยี่ยนร่วมกับชาวต้าเยี่ยน ได้รับที่นาและบ้านหลังใหม่ อีกทั้งไม่ต้องจ่ายภาษีถึงสามปี
รูปแบบการปกครองใหม่ของจีโฮ่วแห่งต้าเยี่ยนสนับสนุนการทำนา แบ่งที่ดินให้ชาวบ้านเป็นรายบุคคล ทำให้ทุกคนมีที่สำหรับทำนา เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน อีกทั้งยังเพิ่มเสบียงให้แก่ต้าเยี่ยนอีกด้วย
ตระกูลสูงศักดิ์ของแคว้นอื่นต่างรับรู้เรื่องนี้ดี ทว่า มีเพียงชาวบ้านส่วนน้อยเท่านั้นที่รับรู้เรื่องนี้ ที่สำคัญต่อให้รู้เรื่อง…ทว่า ขอแค่ไม่เดือดร้อน จะมีผู้ใดยอมละทิ้งบ้านเมืองจากไปอยู่ที่อื่นกัน
ทว่า บัดนี้เยี่ยนว่อประสบปัญหายากแค้น ชาวบ้านต่างล้มตาย ต้าเยี่ยนยินดียื่นมือเข้าช่วยเหลือชาวบ้านให้มีทางรอดโดยการรับชาวบ้านอพยพไปยังแคว้นต้าเยี่ยน
ต่อมาเมื่อชาวบ้านได้ประโยชน์จากการปกครองที่ดีของจีโฮ่ว พวกเขาย่อมไม่อยากจากต้าเยี่ยนไปที่อื่นยอมกลายเป็นคนของต้าเยี่ยนอย่างแน่นอน
ความจริงชาวบ้านธรรมดาทั่วใต้หล้าไม่ได้หวังสิ่งใดมาก ขอแค่มีกินมีใช้ก็เพียงพอแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากแน่น ดูเหมือนว่าเซียวหรงเหยี่ยนและต้าเยี่ยนจะรับรู้ข่าวจากเยี่ยนว่อเร็วกว่าต้าจิ้นเสียอีก
หญิงสาวเดาว่าที่ชาติที่แล้วนางไม่รับรู้ปัญหาความอดอยากของเยี่ยนว่อ เป็นเพราะเรื่องการทุจริตการสอบไม่ถูกเปิดโปง อีกทั้งชาวบ้านอพยพไปยังต้าเยี่ยนอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้ก่อความวุ่นวายใดๆ
ทว่า ชาตินี้เรื่องการทุจริตการสอบถูกเปิดโปง…ต้องการเรื่องสำคัญสักเรื่องมาเบี่ยงเบนความสนใจชาวบ้านไปจากเรื่องนี้เพื่อเปิดโอกาสรอดให้แก่เหวินเจิ้นคัง หลี่เม่าจึงยอมเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา
“ข้าเดินทางไปยังหมู่บ้านแถบชายแดนที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก พบสหายกองทัพไป๋จำนวนไม่น้อยจึงสั่งให้พวกเขาพาชาวบ้านอพยพซ่อนตัวก่อน ตอนนี้ลุงเสิ่นและแม่ทัพเว่ยกำลังช่วยกันเกณฑ์คนสร้างที่อยู่อาศัยและที่นาทำกินขอรับ”
สำหรับไป๋ชิงเหยียนแล้วนี่ถือเป็นข่าวดีอย่างหนึ่ง
ไป๋ชิงเจวี๋ยไม่ได้บอกกับไป๋ชิงเหยียนตรงๆ ว่าที่เขายังไม่ยอมหยุดตามหาก็เพราะเขาต้องการตามหาสหายที่กระจัดกระจายของกองทัพไป๋และทายาทตระกูลไป๋ที่อาจมีชีวิตเหลือรอดอยู่ คุณชายทั้งสิบเจ็ดของตระกูลไป๋ เขาไม่เชื่อว่านอกจากเขาและไป๋ชิงอวิ๋นแล้วจะไม่มีผู้อื่นรอดชีวิตอีก
ด้วยความกล้าหาญของกองทัพไป๋ พวกเขาต้องสละชีพของตัวเองเพื่อปกป้องแม่ทัพอย่างพวกเขาไว้แน่นอน
ไป๋ชิงเจวี๋ยกลับมาคราวนี้เพื่อรายงานกับตระกูลไป๋ว่าเขาปลอดภัยดี ทว่า เขาไม่อาจเสี่ยงกลับไปยังจวนไป๋ที่เมืองหลวงได้ เขาจึงอาศัยโอกาสนี้รอเจอกับไป๋ชิงเหยียนที่เดินทางมาเยี่ยมผู้เฒ่ากวนยงฉยงเซียนเซิงล่วงหน้าก่อนงานวันเกิดท่านหนึ่งวัน
เขารู้ว่าพี่หญิงใหญ่อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ พรุ่งนี้ย่อมไม่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของผู้เฒ่ากวนยงฉยงเซียนเซิง ทว่า พี่หญิงใหญ่ต้องเดินทางมาหาท่านล่วงหน้าหนึ่งวันแน่
หลังจากพบหน้ากันสักพัก ไป๋ชิงเจวี๋ยจึงเดินทางกลับไปยังหนานเจียงเพื่อเตรียมพร้อม
แม้ไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อจะรู้สึกอาวรณ์ แต่ทั้งคู่ก็ต้องส่งไป๋ชิงเจวี๋ยจากไป
แสงแดดยามกลางวันขณะเดินทางกลับเมืองหลวงกำลังแผดจ้า
ไป๋ชิงเหยียนแหวกม่านรถม้าออก มองดูทะเลสาบและธรรมชาติสีเขียวทางนอกหน้าต่าง จิตใจค่อยๆ สงบลง
การกระทำและข่าวสารของเซียวหรงเหยี่ยนรวดเร็วมาก นี่คงเป็นข้อดีของการมีกิจการอยู่ทั่วทุกแคว้น
กิจการของเซียวหรงเหยี่ยนที่มีอยู่ในทั่วทุกแคว้นคือแหล่งข่าวของต้าเยี่ยน
ต้าเยี่ยนมีขุนนางสนับสนุนที่มีสายตากว้างไกลอย่างเซียวหรงเหยี่ยน มีจักรพรรดิอย่างมู่หรงอวี้ มิน่าเล่า…สุดท้ายต้าเยี่ยนจึงกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งเหนือแคว้นใด แม้อีกสามแคว้นจะร่วมมือกันก็ยังสั่นคลอนต้าเยี่ยนไม่ได้แม้แต่น้อย กลับเป็นการส่งกองกำลังทหารมาให้ต้าเยี่ยนทำลายจนสิ้นซากเสียมากกว่า
ไป๋ชิงเหยียนลดม่านลง หลับตาครุ่นคิด
สถานการณ์ในใต้หล้าเปลี่ยนไปแล้ว ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าผู้ใดจะได้ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดนั่น
กลุ่มของไป๋ชิงเหยียนกลับไปถึงจวนก็พบกับเยว่สือที่กำลังจะจากไปพอดี
เยว่สือเห็นไป๋ชิงเหยียนลงมาจากรถม้าจึงรีบตะโกนเรียกเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังจะขึ้นไปบนรถม้า “นายท่าน คุณหนูใหญ่ไป๋กลับมาแล้วขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนหันกลับมามองก็เห็นไป๋ชิงเหยียนจับมือของชุนเถาลงมาจากรถม้า ชายหนุ่มทำความเคารพหญิงสาว
“เซียวเซียนเซิง!” ไป๋จิ่นจื้อดีใจมากที่เห็นเซียวหรงเหยี่ยน
“เซียวเซียนเซิง” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เซียวเซียนเซิงเพิ่งออกมาจากจวนข้าหรือเจ้าคะ”
“ขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน “จวิ้นจู่ลืมถุงทรายไว้ที่จวนขององค์รัชทายาท วันนี้เหยี่ยนจึงตั้งใจนำมาคืนจวิ้นจู่ ทว่า นึกไม่ถึงว่าจวิ้นจู่จะไปที่เขาอันอวี้”
“ลำบากเซียวเซียนเซิงแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนเล็กน้อย
“เหยี่ยนมาที่นี่เพราะมีเรื่องต้องการให้จวิ้นจู่ช่วยเหลือ…” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปยังไป๋ชิงเหยียนนิ่ง “ใบชาขาวที่เหยี่ยนสั่งให้คนส่งจากซั่วหยางไปยังต้าเหลียงถูกปล้นระหว่างทาง บัดนี้ราชสำนักกำลังวุ่นวายเรื่องปัญหาความอดอยากและเรื่องที่ต้าเหลียงตั้งกองทัพประชิดอยู่ที่ภูเขาหงเชวี่ย องค์รัชทายาทกล่าวว่าคงไม่มีเวลามาจัดการเรื่องโจรป่าเช่นนี้ ทว่า การค้าที่ต้าเหลียงของเหยี่ยนกำลังเร่งรีบ จะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้ ใบชาครั้งนี้มีจำนวนมาก ซั่วหยางคือเมืองเกิดของบรรพบุรุษของจวิ้นจู่ ไม่ทราบว่าจวิ้นจู่พอจะมีร้านขายใบชาโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วรุ่นแนะนำบ้างหรือไม่ขอรับ”