ตอนที่ 393 สามารถ
เพราะทำงานตรากตรำมาหลายปี ใบหน้าของเฉิงซ่านหรูจึงดูแข็งกร้าว เคร่งขรึมและผิวหนังคล้ำ
เฉิงซ่านหรูก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม จากนั้นยืนก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสบตากับไป๋ชิงเหยียน
“ย้ายเจ้าจากหมู่บ้านมารับใช้ข้างกายข้า ลำบากเจ้าแล้ว” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนอ่อนนุ่ม
“ทำงานรับใช้จวิ้นจู่คือหน้าที่ของข้าขอรับ” เฉิงซ่านหรูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าน้อยๆ “บัดนี้ตระกูลไป๋มีเรื่องต้องทำมากมาย ต้องการกำลังคน ข้าเองก็ขาดคนใช้งานเช่นเดียวกัน”
เฉิงซ่านหรูกำหมัดคำนับ “จวิ้นจู่สั่งมาได้เลยขอรับ ข้าจะไม่ทำให้จวิ้นจู่ผิดหวังแน่นอนขอรับ”
“ช่วงนี้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนถงหมัวมัวไปก่อนเถิด เมื่อกลับไปยังซั่วหยาง เจ้าเรียนรู้งานกับผู้ดูแลหลิวไปสักพัก ผู้ดูแลหลิวเป็นผู้ใหญ่ที่ข้าเชื่อใจมาก ทว่า เขาอายุมากแล้ว มีอีกหลายเรื่องที่ข้าต้องมอบหมายให้คนของตัวเองเป็นคนทำ เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่”
ใจของเฉิงซ่านหรูกระตุกวูบ มอบหมายให้คนของตัวเองอย่างนั้นหรือ หมายความว่าคุณหนูใหญ่ไม่ได้เห็นเขาเป็นคนนอก
เฉิงซ่านหรูสะบัดชายชุดพลางคุกเข่าก้มศีรษะคำนับแนบพื้น ”จวิ้นจู่ไม่เห็นข้าเป็นคนนอก ข้าจะไม่ทำให้จวิ้นจู่ผิดหวังขอรับ ชาตินี้จะขอซื่อสัตย์กับจวิ้นจู่ตลอดไป หากข้ามีใจคิดเป็นอื่นขอให้ข้ามีอันเป็นไปขอรับ”
เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า กล่าวขึ้น “ลุกขึ้นเถิด! ต่อไปเรียกข้าว่าคุณหนูใหญ่ ข้าคุ้นชินกับคำนี้มากกว่า”
“ขอรับคุณหนูใหญ่!” เฉิงซ่านหรูทำตามทันที
ไป๋ชิงเหยียนเคยได้ยินเซียวรั่วไห่กล่าวถึงเฉิงซ่านหรูอยู่สองสามครั้ง ตอนที่เซียวรั่วไห่และเซียวรั่วเจียงกลับไปพักรักษาตัวที่หมู่บ้าน พวกเขาได้รู้จักเฉิงซ่านหรู ได้ยินว่าเป็นคนไม่ค่อยพูด ทว่า ทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดีมาก
ทว่า เฉิงซ่านหรูจะรับหน้าที่ประสานงานกับคนของเซียวหรงเหยี่ยน ดูแลเรื่องเหมืองเหล็กและการสร้างอาวุธต่อจากผู้ดูแลหลิวได้หรือไม่คงต้องรอให้เขาได้เรียนรู้งานกับผู้ดูแลหลิวก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของตระกูลไป๋ แม้เฉิงซ่านหรูจะเป็นบุตรชายของถงหมงมัว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ต้องรอบคอบไว้ก่อน
ชุนเถาที่ยืนรออยู่ด้านล่างศาลาซึ่งอยู่บนภูเขาจำลอง นางกล่าวสิ่งใดบางอย่างกับสาวใช้ของเรือนชิงฮุยที่มาส่งสาร มองส่งสาวใช้เดินจากไป ชุนเถาจึงถลกชายกระโปรงวิ่งขึ้นไปบนศาลาอย่างรีบร้อน ย่อกายทำความเคารพพลางกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ คุณหนูหลูกลับมาแล้วเจ้าค่ะ รอคุณหนูใหญ่อยู่ที่เรือนชิงฮุยเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนรับคำ สายตาหยุดอยู่ที่เฉิงซ่านหรู “เจ้าไปพบผู้ดูแลหลิวได้เลย ข้าให้คนบอกผู้ดูแลหลิวไว้แล้ว”
“ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน จับมือชุนเถาเดินไปยังเรือนชิงฮุย
หลูหนิงฮว่านั่งจิบน้ำชาอยู่ที่ห้องรับรองของเรือนชิงฮุยอย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามา นางจึงรวบรวมสติ ลุกขึ้นยืนทำความเคารพ “คุณหนูใหญ่”
“ท่านอา…” ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพกลับ “ท่านอาเพิ่งกลับมาจากวังหลวง ไปพบท่านย่ามาแล้วหรือไม่เจ้าคะ”
หลูหนิงฮว่านั่งลงพร้อมไป๋ชิงเหยียน ส่ายหน้า “องค์หญิงใหญ่ให้หนิงฮว่ามาปรึกษาคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนรู้ทันทีว่าท่านย่าต้องการให้นางใช้หลูหนิงฮว่าให้เป็นประโยชน์
ชุนเถาแหวกม่านเดินเข้ามาด้านใน รินน้ำชาให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นทำความเคารพแล้วเดินออกไปเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก
“วันนี้ท่านอาเข้าวัง ฮ่องเต้ทรงตรัสถามเรื่องยาชุบชีวิตของแม่นางจี้อย่างละเอียดหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้นพลางเอ่ยถาม
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ หลูหนิงฮว่ายิ่งรู้สึกเครียดมากกว่าเดิม หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ ยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด ไป๋ชิงเหยียนก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน “ทรงถามต่ออีกว่าแม่นางจี้ซึ่งอยู่ที่จวนเราในตอนนี้กล่าวหรือกระทำการสิ่งใดลงไปบ้างใช่หรือไม่เจ้าคะ”
หลูหนิงฮว่าหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่กำลังเป่าไอร้อนในถ้วยชา หญิงสาวก้มหน้าต่ำเล็กน้อย สีหน้าสงบราบเรียบราวกับทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของนาง
“คุณหนูใหญ่คาดเดาได้เกือบ…ถูกทั้งหมดเจ้าค่ะ” หลูหนิงฮว่ากำมือที่วางอยู่บนหน้าตักแน่น
เดาได้เกือบทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าไป๋ชิงเหยียนเข้าใจจักรพรรดิผู้มีอำนาจบารมีผู้นั้นมากเพียงใด
ทุกคนล้วนกลัวตายทั้งสิ้น จี้หลางหวาเข้าใจในเรื่องนี้ดี ดังนั้นหญิงสาวจึงใช้จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ที่บัดนี้กำลังเป็นที่จับตามองของคนทั่วทั้งเมืองหลวงเพื่อดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้
หลูหนิงฮว่าก้มหน้าลง มือกำเสื้อแน่นสั่นเทาเล็กน้อย “องค์หญิงใหญ่ให้เจี่ยงหมัวมัวสอนข้าเรื่องการใช้ประโยชน์จากนิสัยของฮ่องเต้มานานแล้วเจ้าค่ะ ดังนั้น…หนิงฮว่าดูออกว่าครั้งนี้พระองค์ทรงยึดติดกับเรื่องนี้มาก ข้าไม่กล้าโน้มน้าวมากนัก ได้แต่บอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องโกหก ทว่า ฮ่องเต้ดูเหมือนจะยังสนพระทัยในเรื่องนี้มาก ข้ากลัวว่าทันทีที่จี้หลางหวาเดินออกไปจากจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ นางจะถูกจับตัวไปเจ้าค่ะ”
กล่าวจบ หลูหนิงฮว่าคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียนทั้งน้ำตา กล่าวเสียงสะอื้น “คุณหนูใหญ่ได้โปรดช่วยหลางหวาด้วยเถิดเจ้าค่ะ ให้ข้าเข้าวังก็ได้! หลางหวาลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว ข้าไม่อยากให้นางเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้อีก อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดีเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูหลูหนิงฮว่าที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เบื้องหน้า ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจจิตใจที่อยากปกป้องน้องสาวของหลูหนิงฮว่าดี เหมือนกับนาง…
“ท่านอา…” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาในมือลง ประคองหลูหนิงฮว่าให้ลุกขึ้น “ตระกูลไป๋ในตอนนี้ไม่อาจต้านทานอำนาจของฮ่องเต้ได้ หากขัดขืน ฮ่องเต้ต้องถอนรากถอนโคนตระกูลไป๋ทั้งตระกูลอย่างแน่นอน ส่วนท่านอา…”
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากเล็กน้อย กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “ต่อให้ท่านอาซู่ชิวตัวเป็นๆ ยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางทอดทิ้งความเป็นอมตะเพื่อท่านอาซู่ชิวแน่นอน แต่ไรมาจักรพรรดิแห่งต้าจิ้นของพวกเราพระองค์นี้สนใจแค่ตัวเองเท่านั้น”
ต่อให้ก่อนที่หลูหนิงฮว่าจะปรากฏตัวขึ้น ฮ่องเต้จะเคยโปรดปรานชิวกุ้ยเหรินมากเพียงใด ทว่า นั่นเป็นเพราะอำนาจของฮ่องเต้ไม่ได้ถูกสั่นคลอนและไม่ได้ขัดต่อผลประโยชน์ของเขา
หลูหนิงฮว่ากัดฟันกรอด “ไม่มีหนทางแล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ”
“มี แต่ว่าขึ้นอยู่กับจี้หลางหวา…” ไป๋ชิงเหยียนมองหลูหนิงฮว่าอย่างจริงจัง “หากจี้หลางหวาทูลฮ่องเต้ว่านางได้สูตรยานี้มาจากผู้อื่นอีกที ไม่ได้ปรุงขึ้นมาเอง เมื่อฮ่องเต้ทดลองแล้วไม่ได้ผล แน่ใจว่าจี้หลางหวาโกหกจริงๆ นางก็จะปลอดภัย! ทว่า หากจี้หลางหวายังยืนกรานที่จะอยู่ข้างกายของฮ่องเต้ นางก็จะได้อยู่!”
หากจี้หลางหวายืนกรานว่านางเป็นคนปรุงยาด้วยตัวเอง ฮ่องเต้ย่อมต้องทดลองใช้ หากยาไม่ได้ผล จี้หลางหวาจะต้องโทษหลอกลวงเบื้องสูง มีเพียงโทษประหารเท่านั้น…
ทว่า หากฮ่องเต้ใช้แล้วเกิดผล ฮ่องเต้จะเห็นจี้หลางหวาเป็นคนที่สำคัญที่สุด หากจี้หลางหวาต้องการออกจากวัง มีเพียงฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ก่อนที่นางจะปรุงยาสำเร็จเท่านั้น
หรือไม่ก็…จี้หลางหวาตายไปพร้อมกับฮ่องเต้
“คุณหนูใหญ่ เช่นนั้นบอกว่ายานั่นเป็นของข้าดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าสามารถ…”
“ท่านอา ท่านกังวลจนไม่มีสติแล้ว!” ดวงตาเคร่งขรึมของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางหลูหนิงฮว่า “แทนที่จะมาเสียเวลาคิดหาวิธีอยู่กับข้าที่นี่ ไม่สู้ท่านเอาเวลาไปเกลี้ยกล่อมให้จี้หลางหวาล้มเลิกความคิดนั้นไปดีกว่า”
น้ำตาของหลูหนิงฮว่าเกือบไหลออกมา นางกุมเสื้อบริเวณหน้าอกแน่น กัดฟันไม่ให้ตนเองเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา เพราะนางเกลี้ยกล่อมไม่ได้ นางจึงต้องมาหาคุณหนูใหญ่เช่นนี้…
ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าหลูหนิงฮว่าอยากช่วยจี้หลางหวา ทว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร ดังนั้นจึงเจ็บปวดใจถึงเพียงนี้