สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 404 ผิดหวัง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 404 ผิดหวัง

นางกำนัลและขันทีในตำหนักรีบคุกเข่าลงบนพื้น แต่ละคนตัวสั่นราวกับลูกนก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ กลัวว่าฮ่องเต้จะพาลมาถึงพวกเขาคนใดคนหนึ่ง หัวของพวกเขาอาจหลุดออกจากบ่าได้

รัชทายาททราบเรื่องก็รีบเข้าไปในวังทันที เขาได้ยินเสียงก่นด่าของฮ่องเต้ดังออกมาจากในตำหนัก จึงไม่กล้าเดินเข้าไปด้านใน

ขันทีเล็กเดินเข้าไปกระซิบบอกเกาเต๋อเม่าว่ารัชทายาทมาถึงแล้ว เกาเต๋อเมาจึงเดินออกมาด้านนอก

“องค์รัชทายาทรีบเสด็จเข้าไปด้านในเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

รัชทายาทไม่ยอมขยับกาย มองไปทางเกาเต๋อเม่า “เสด็จพ่อยังทรงกริ้วอยู่หรือไม่”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ! ก่อนที่ข่าวจากภูเขาชุนมู่จะส่งมาถึง เหลียงอ๋องและบุตรชายของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้านหลี่เม่าส่งรายงานสถานการณ์ของเยี่ยนว่อมาให้ เหลียงอ๋องจัดการปัญหาที่เยี่ยนว่อไม่ได้ ชาวบ้านเริ่มออกมาประท้วง บัดนี้เยี่ยนว่อต้องการให้ฝ่าบาทส่งคนไปปราบปรามการจลาจลในครั้งนี้ ฝ่าบาททรงพิโรธมากพ่ะย่ะค่ะ ผู้ใดจะคิดว่าไม่นานจะได้รับข่าวเรื่องที่ต้าเหลียงเปิดศึกกับต้าจิ้นอีก ฝ่าบาทจะไม่พิโรธได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!”

นิ้วของรัชทายาทกระตุกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าคนที่เขาส่งไปจะทำสำเร็จแล้ว รัชทายาทลอบยินดีอยู่ในใจ

เยี่ยนว่อเกิดการประท้วง ภูเขาชุนมู่เกินสงคราม ทั้งสองเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกัน ด้วยนิสัยของเสด็จพ่อ พระองค์ต้องพิโรธเหลียงอ๋องแน่นอน

เกาเต๋อเม่ามองดูสีหน้าของรัชทายาทที่ดูเหมือนจะสงบนิ่งกว่าตอนที่เพิ่งมาถึงมาก สีหน้าส่อแววดีใจเล็กน้อย เขารีบกล่าวขึ้น

“หากองค์รัชทายาททรงมีความเห็นดีๆ ก็รีบทูลให้ฝ่าบาททรงทราบเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระอาการเวียนเศียรของฝ่าบาทกำเริบ อีกทั้งบันดาลโทสะ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่พ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทกระแอมเบาๆ เอ่ยขึ้น “กงกงอย่างเพิ่งรีบร้อน ให้เราคิดหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสักครู่”

รัชทายาทประมวลผลอย่างรวดเร็ว บัดนี้ต้าเหลียงเปิดศึกกับต้าจิ้น ชาวบ้านที่เยี่ยนว่อทำการประท้วง ต้าจิ้นขาดกำลังทหาร!

รัชทายาทนึกถึงไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาได้ สงครามที่ภูเขาชุนมู่อาจต้องการแม่ทัพที่มีความสามารถอย่างไป๋ชิงเหยียนจึงจะเอาชนะต้าเหลียงได้ด้วยกำลังทหารที่น้อยกว่า

ส่วนเยี่ยนว่อ…บัดนี้เหลียงอ๋องทำล้มเหลว เรื่องทุกอย่างวุ่นวายกว่าเดิม หากเขาเดินทางไปจัดการ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร เสด็จพ่อก็ไม่มีทางโทษว่าเป็นความผิดของเขาแน่นอน ที่สำคัญชาวบ้านที่ประท้วงในเยี่ยนว่อล้วนเป็นชาวบ้านชั้นรากหญ้า เทียบกับสงครามที่ภูเขาชุนมู่แล้ว ปัญหาที่เยี่ยนว่อจัดการง่ายกว่ากันมาก

เมื่อตัดสินใจได้ รัชทายาทจึงเดินตามเกาเต๋อเม่าเข้าไปในตำหนัก จากนั้นทำความเคารพฮ่องเต้อย่างนอบน้อม “ลูกคาราวะเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”

“ล้วนเป็นคนที่เจ้าแนะนำทั้งนั้น!”

ฮ่องเต้เขวี้ยงฎีกาใส่รัชทายาท เดินเอามือกุมศีรษะวนไปวนมาอย่างโมโห รัชทายาทตกใจจนตัวสั่น รีบคุกเข่าคำนับแนบพื้น

“ลูกผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกไม่ทราบว่าเหลียงอ๋องจะทำให้เรื่องทุกอย่างกลายเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ลูกเป็นคนเสนอเหลียงอ๋อง บัดนี้เกิดเรื่องขึ้น ในฐานะพี่ชาย ลูกยินดีไปแก้ปัญหาให้น้องชายพ่ะย่ะค่ะ ลูกทูลขอให้เสด็จทรงอนุญาตให้ลูกนำทหารไปยังเยี่ยนว่อเพื่อปราบปรามชาวบ้านให้สงบลงด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

มองดูรัชทายาทที่แสดงออกอย่างจริงใจ เมื่อนึกได้ว่าโอรสของเขาทำไปเพื่อต้องการช่วยเหลือน้องชายด้วยความบริสุทธิ์ใจ ฮ่องเต้จึงหลับตาลง

“เรื่องสงครามที่ภูเขาชุนมู่และเรื่องโกลาหลในเยี่ยนว่อไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่ายๆ เราต้องใช้เวลาในการเรียกทหารที่คุ้มกันชายแดนหรงตี๋กลับมาเมืองหลวง หากทหารที่คุ้มกันเมืองหลวงจากไป เมืองหลวงจะไม่มีคนคอยคุ้มกัน…”

รัชทายาทรีบลุกขึ้นยืน “ลูกอยากเสนอเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่พ่ะย่ะค่ะ เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่เป็นหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋อง นางเป็นคนที่ถนัดเรื่องเอาชนะข้าศึกด้วยกำลังพลที่น้อยกว่าที่สุด เสด็จพ่อทรงให้ทหารขี่ม้าเร็วไปสั่งให้เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่จัดทัพไปยังภูเขาชุนมู่เถิดพ่ะย่ะค่ะ มีเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่อยู่ต้องข่มขวัญกองทัพต้าเหลียงได้แน่พ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ขบกรามแน่น เริ่มปวดศีรษะอีกครั้ง เขาเอามือกุมศีรษะ เดินอ้อมโต๊ะไปนั่งบนบัลลังก์มังกรตามเดิม หลับตาอย่างใช้ความคิด

ฮ่องเต้ไม่ใช่ไม่เคยคิดจะส่งไป๋ชิงเหยียนไปทำศึก ทว่า ต่อให้ไป๋ชิงเหยียนจะเป็นเพียงสตรี เขาก็กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะกลายเป็นเจิ้นกั๋วอ๋องคนต่อไป

เพราะการกระทำของไป๋ชิงเหยียนอำมหิตและเด็ดขาดกว่าเจิ้นกั๋วอ๋องมาก ขอเพียงลงมือ หญิงสาวจะจัดการจนทุกคนตกตะลึง หากไม่สำเร็จไม่มีทางรามือเด็ดขาด

สิ่งที่ฮ่องเต้กลัวกว่านั้นก็คือหลังจากที่ไป๋ชิงเหยียนทำสงครามที่ภูเขาชุนมู่จบ หากไป๋ชิงเหยียนถือโอกาสตอนที่เยี่ยนว่อกำลงวุ่นวาย นำทัพจากภูเขาชุนมู่ย้อนกลับมากบฏที่เมืองหลวง เขาจะทำเช่นไร

ขนาดเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงเคยสาบานต่อหน้าเขา ฮ่องเต้ยังหวาดระแวงถึงเพียงนั้น นับประสาอันใดกับไป๋ชิงเหยียนที่โหดร้ายกว่าเจิ้นกั๋วอ๋องผู้นี้กัน

เมื่อเห็นฮ่องเต้ไม่กล่าวสิ่งใด รัชทายาทจึงเงยหน้ามองไปทางฮ่องเต้ กล่าวขึ้น “เสด็จพ่อ ลูกมั่นใจว่าเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่สามารถเอาชนะต้าเหลียงได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ลูกก็จะจัดการปัญหาที่เยี่ยนว่ออย่างสุดความสามารถเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้มองดูรัชทายาทที่มีสีหน้าหนักแน่น เคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิดพลางเอ่ยถาม

“ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนไปจวนรัชทายาทก่อนกลับซั่วหยาง นางเอ่ยถึงเรื่องสงครามที่ภูเขาชุนมู่บ้างหรือไม่ นางเคยบอกไว้หรือไม่ว่าหากต้าเหลียงเปิดศึกต้าจิ้นให้เจ้าเลือกนางเป็นแม่ทัพ”

รัชทายาทเห็นสีหน้าหวาดระแวงของฮ่องเต้จึงรีบส่ายหน้าทันที

“เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่เป็นห่วงสถานการณ์ที่ภูเขาชุนมู่จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทว่า นางไม่เคยบอกกับลูกว่าต้องการนำทัพไปทำศึกเอง ลูกคิดว่าจวิ้นจู่เป็นห่วงสถานการณ์ที่ภูเขาชุนมู่เพราะนางจงรักภักดีต่อลูก ลูกกล้ารับประกันกับเสด็จพ่อเรื่องนี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้นึกถึงเรื่องกวางศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าโอรสของตนลดความหวาดระแวงในตัวไป๋ชิงเหยียนลงและเชื่อใจหญิงสาวมากเกินไปเพราะเรื่องนั้น

“หลังจากนั้น ไป๋ชิงเหยียนเคยเอ่ยถึงเรื่องกวางศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นกับเจ้าบ้างหรือไม่” ฮ่องเต้ถาม

รัชทายาทส่ายหน้า “ไม่เลยพ่ะย่ะค่ะ นางทำราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นลูกจึงเชื่อในความจงรักภักดีของจวิ้นจู่พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อได้โปรดเชื่อนางด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ขบกรามแน่น นึกถึงคำสาบานที่ไป๋เวยถิงเคยให้ไว้กับเขาขึ้นมาทันที

ทว่า ต่อให้มีคำสาบาน เมื่อบารมีของไป๋เวยถิงมากขึ้นทุกวัน เมื่อชาวบ้านแถบชายแดนเห็นตระกูลไป๋แห่งเมืองหลวงเป็นดั่งเทพผู้พิทักษ์และหลงลืมเขาผู้เป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นผู้นี้ ฮ่องเต้ก็อดรู้สึกหวาดระแวงไม่ได้

ฮ่องเต้หลับตาลง กล่าวกับรัชทายาท “เจ้าใช้งานไป๋ชิงเหยียนได้แต่ห้ามเชื่อใจนางเด็ดขาด! ที่สำคัญต้องกดนางเอาไว้ มิเช่นนั้นหากชื่อเสียงของนางเพิ่มขึ้นเจ้ามากกว่าเจ้าในวันหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ผู้เป็นจักรพรรดิต้องรู้ใจใช้บารมีและความเมตตาของตัวเองให้เป็น ห้ามให้ขุนนางที่มีความสามารถยิ่งใหญ่เกินตนได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่”

รัชทายาทตะลึง เสด็จพ่อกำลังสอนการเลือกใช้คนให้เขาอย่างนั้นหรือ

“แม้ลูกจะยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ แต่ลูกจะกลับไปคิดทบทวนให้ดี ไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้พยักหน้า มองดูโอรสที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของเขา จากนั้นกล่าวกับเกาเต๋อเม่า “เกาเต๋อเม่า ประกาศราชโองการให้เกาอี้เซี่ยนจู่ ไป๋จิ่นจื้อมุ่งหน้าไปช่วยเหลือแม่ทัพจางตวนรุ่ยที่ภูเขาชุนมู่!”

เดิมทีรัชทายาทอยากถามฮ่องเต้ว่าเกาอี้เซี่ยนจู่ต้องนำทัพไปด้วยหรือไม่ ทว่า เขากลัวว่าเสด็จพ่อจะคิดว่าเขาโง่ จึงกลั้นความสงสัยเอาไว้ ไม่ได้ถามออกไป

“พรุ่งนี้เช้ารัชทายาทจงนำกองกำลังไปปราบปรามชาวบ้านที่เยี่ยนว่อให้สงบลงด้วยตัวเอง จับกุมเหลียงอ๋องโง่เง่ากลับมาให้เราให้ได้!” เมื่อฮ่องเต้เอ่ยถึงเหลียงอ๋องก็ขบกรามอย่างโมโห

แม้แต่เรื่องภัยพิบัติยังแก้ปัญหาไม่ได้ เขากลับคิดว่าเหลียงอ๋องเป็นเสือขาวในความฝันตัวนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากไปแล้ว เหลียงอ๋องไม่ได้มีความสามารถมากเพียงนั้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท