ตอนที่ 420 คู่ควรกับสมญานาม
เมื่อเดินออกมาจากคุก หลินคังเล่อเอ่ยถาม “จวิ้นจู่จะล่อให้กองทัพจ้าวแห่งแคว้นต้าเหลียงมาช่วยจ้าวถงหรือขอรับ”
“ไม่ต้องล่อ วันนี้พวกเขาต้องลงมือแน่นอน แผนที่เมืองหลงหยางที่สร้างขึ้นตอนสร้างเมืองยังอยู่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามหลินคังเล่อ
หลินคังเล่อพยักหน้า “เมื่อข้ามาถึงเมืองหลงหยาง นายอำเภอของเมืองหลงหยางก็มอบแผนที่ให้ข้าแล้วขอรับ หากจวิ้นจู่ต้องการ ข้าจะสั่งให้คนไปนำมาเดี๋ยวนี้ขอรับ ทว่า จ้าวถงไม่ใช่แม่ทัพใหญ่ของกองทัพในครั้งนี้ กองทัพจ้าวจะมาช่วยเขาจริงๆ หรือขอรับ”
“มาแน่นอน!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลินคังเล่อ “จ้าวถงเป็นคนของตระกูลจ้าว กองทัพจ้าวต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยจ้าวถงออกไปให้ได้!”
เช่นเดียวกับทหารในกองทัพไป๋ทุกคน เมื่อคนในตระกูลไป๋ตกอยู่ในอันตราย พวกเขาพร้อมสละชีพเข้าช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
“แม่ทัพหลินช่วยให้คนส่งสารท้ารบไปยังค่ายทหารของต้าเหลียงด้วย! ข้ามาถึงเมืองหลงหยางแล้ว สวินเทียนจางต้องสงสัยแน่ว่ากำลังเสริมของต้าจิ้นมาถึงแล้วหรือไม่ ดังนั้นเขาต้องส่งคนมาสอดแนมกองกำลังของเราเพื่อเตรียมแผนการรบของตัวเอง กองทัพจ้าวต้องถือโอกาสนี้ลอบเข้ามาสืบสถานการณ์ในเมืองหลงหยาง จากนั้นช่วยเหลือจ้าวถงออกไปแน่” ไป๋ชิงเหยียนวิเคราะห์ให้หลินคังเล่อฟัง
“หากสวินเทียนจางรับคำท้ารบเล่าขอรับ กองทัพเสริมของเรายังมาไม่ถึง…” หลินคังเล่อลังเล
“แม้สวินทางจางจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชัยชนะ ทว่า เขาเป็นคนรอบคอบ หากไม่สืบสถานการณ์ฝั่งต้าจิ้นให้รู้แน่ชัด เขาไม่มีทางเสี่ยงรับค้าท้าแน่นอน!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
จากการที่สวินเทียนจางรุกล้ำเข้ามาในภูเขาชุนมู่เพื่อหยั่งเชิงก็รู้ได้แล้วว่าสวินเทียนจางเป็นคนที่ชอบให้สถานการณ์อยู่ในการควบคุมของตัวเอง การปรากฏตัวของนางทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป หากสวินเทียนจางไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัด เขาไม่มีทางนำทัพออกรบแน่นอน
มิเช่นนั้นสวินเทียนจางคงไม่รอให้แม่ทัพจางตวนรุ่ยส่งศพทหารต้าเหลียงกลับไปยังค่ายทหารของต้าเหลียงนานหลายวันเพียงนั้นแล้วค่อยประกาศศึกกับต้าจิ้นหรอก
“แม่ทัพหลินช่วยรายงานข้าหน่อยว่าตอนนี้ท่านรู้สิ่งใดเกี่ยวกับกองทัพต้าเหลียงบ้าง ค่ายทหารของพวกเขาตั้งอยู่ที่ใด รบกวนท่านหาคนพาองครักษ์ของข้าไปพักผ่อนด้วย พวกเขาเดินทางมาโดยไม่ได้หยุดพัก ล้วนเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหวกันแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดคาราวะหลินคังเล่อ
“ย่อมได้ขอรับ! ได้ขอรับ!” หลินคังเล่อรีบกล่าว
การมาถึงของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ในครั้งนี้ หญิงสาวเอาชนะ และจับเป็นจ้าวถงได้ด้วยกระบวนท่าเพียงสามกระบวนเท่านั้น หลินคังเล่อรู้สึกว่าเลือดในกายของเขาพุ่งพล่าน เชื่อฟังคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนมาก
ค่ายทหารต้าเหลียง
เมื่อรองแม่ทัพของจ้าวถงกลับถึงค่ายทหารก็รีบรายงานเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนปรากฏตัวที่เมืองหลงหยาง อีกทั้งจับกุมตัวจ้าวถงได้ด้วยกระบวนท่าเพียงสามกระบวนท่าให้แม่ทัพใหญ่ที่อยู่ในกระโจมฟัง ทุกคนต่างแตกตื่น
จ้าวเซิ่งพี่ชายคนโตของจ้าวถงกำดาบที่เอวแน่น ตวาดเสียงสูง
“เป็นไปไม่ได้! น้องรองของข้าเป็นหนึ่งในแม่ทัพที่ดุดันที่สุดของแคว้นต้าเหลียง เจ้าบอกว่าสตรีอย่างไป๋ชิงเหยียนล้มน้องข้าได้ด้วยกระบวนท่าเพียงสามกระบวนอย่างนั้นหรือ!”
“ก็ไม่แน่เหมือนกัน เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่คือหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิง นางเคยตัดศีรษะของแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วของแคว้นสู่มาแล้ว ประมาทไม่ได้เด็ดขาด!” แม่ทัพคนหนึ่งของต้าเหลียงกล่าวขึ้น
“สงครามที่หนานเจียงเมื่อหลายเดือนก่อน ไป๋ชิงเหยียนรบชนะจนอวิ๋นพั่วสิงพ่ายแพ้ยับเยิน นางไม่ใช่สตรีธรรมดาแน่นอน!”
“แม้ก่อนหน้านี้เราจะได้ยินสมญานามเทพสังหารของนาง ทว่า พวกเราล้วนคิดว่าเป็นเรื่องน่าตลก บัดนี้ดูแล้วนางคู่ควรกับสมญานามนั่นจริงๆ พวกเราดูถูกสตรีของตระกูลไป๋แล้ว! จางตวนรุ่ยตายไปแล้ว แม่ทัพใหญ่คนใหม่ที่แคว้นต้าจิ้นส่งมาคือหลานสาวของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงอย่างนั้นหรือ”
“ทว่า กองทัพเสริมของต้าจิ้นมาถึงที่หมายเร็วไปหรือไม่ เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่อาจเร่งเดินทางล่วงหน้ามาก่อนคนเดียวก็ได้” แม่ทัพต้าเหลียงเต็มไปด้วยข้อกังขา
สวินเทียนจางในชุดทหารซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ของแม่ทัพใหญ่มีสีหน้าเคร่งขรึม จอนผมทั้งสองข้างของเขาหงอกโพลน ริมฝีปากขาวซีด ทว่า ยังคงทรงอำนาจเช่นเดิม ดวงตาของเขายังเป็นประกาย ดูไม่เหมือนคนป่วยแม้แต่น้อย
สวินเทียนจางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเตรียมลุกขึ้นยืน บุตรชายของสวินเทียนจางรีบเข้าไปประคองผู้เป็นพ่อ สวินเทียนจางยกมือห้ามไม่ให้บุตรชายเข้ามาช่วย เขาใช้มือจับขอบโต๊ะทั้งสองด้านเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เดินเม้มปากไปหยุดอยู่หน้าแผนที่ของแคว้นต้าจิ้นซึ่งแขวนอยู่กลางกระโจมแม่ทัพใหญ่ บรรดาแม่ทัพเดินตามหลังสวินเทียนจางไปหยุดอยู่หน้าแผนที่
สวินเทียนจางชี้ไปยังเขตชายแดนระหว่างต้าจิ้นและหรงตี๋ เอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “บางทีต้าจิ้นอาจย้ายกองกำลังซึ่งเฝ้าระวังอยู่ที่ชายแดนหรงตี๋มาที่นี่แทน จากนั้นสั่งให้เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่เร่งเดินทางมารวมตัวกัน หรือบางที เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่อาจเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองจึงล่วงหน้าเดินทางมาก่อนโดยลำพัง”
สวินเทียนจางรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับคนรอบตัวเพียงใด
“ทว่า สายของเราไม่ได้รายงานว่ามีกองกำลังเคลื่อนพลเข้ามาใกล้นะขอรับ คนและม้าหลายหมื่นตัว ไม่มีทางลอบเข้าไปในเมืองหลงหยางอย่างเงียบเชียบได้แน่ขอรับ!”
สิ้นเสียงของแม่ทัพต้าเหลียงในกระโจม ด้านนอกก็มีเสียงของทหารส่งสารดังขึ้น
“ระ…รายงานท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าจิ้นส่งสารท้ารบมาขอรับ!”
สีหน้าของสวินเทียนจางเคร่งขรึมลง รีบหันหน้าไปทางหน้ากระโจมทันที
“ท่านพ่อ ดูเหมือนว่ากองกำลังเสริมของต้าจิ้นจะเดินทางมาถึงแล้วจริงๆ ขอรับ” บุตรของสวินเทียนจางกล่าวขึ้น
สวินเทียนจางที่ยืนอยู่หน้าแผนที่แคว้นต้าจิ้นรับสารรบมาเปิดอ่าน ท่าทีของต้าจิ้นแข็งกร้าวกว่าเดิม แตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
สวินเทียนจางปิดม้วนไม้ไผ่ลงตามเดิมอย่างแรง คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเอ่ยขึ้น
“คืนนี้ส่งคนไปสืบ จับทหารของฝ่ายนั้นมาสอบสวนให้แน่ชัดว่ากำลังเสริมของต้าจิ้นมาถึงแล้วจริงหรือไม่!”
จ้าวเซิ่งกำหมัดรับคำ “ท่านแม่ทัพใหญ่ ให้คนของกองทัพจ้าวไปเถิดขอรับ จะได้ช่วยน้องชายของข้าออกมาด้วยเลยขอรับ!”
สวินเทียนจางสบกับสายตาที่หนักแน่นของจ้าวเซิ่ง รู้ดีว่าต่อให้เขาไม่อนุญาตให้กองทัพจ้าวไปช่วยจ้าวถงออกมา จ้าวเซิ่งก็คงส่งคนไปช่วยอยู่ดี อีกอย่างกองทัพจ้าวคือกองกำลังทหารยอดฝีมือของแคว้นต้าเหลียง ส่งพวกเขาไปมีโอกาสรอดกลับมามากกว่า เอาเถิด…ส่งกองทัพจ้าวไปก็แล้วกัน
สวินเทียนจางพยักหน้า “จงจำไว้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือสืบให้แน่ชัดว่ากองทัพเสริมของต้าจิ้นมาถึงแล้วจริงหรือไม่ ต่อให้จ้าวถงจะถูกทหารต้าจิ้นจับตัวไป พวกนั้นก็ไม่กล้าสังหารจ้าวถงหรอก! เมื่อแคว้นต้าจิ้นเดินทางมาเจรจาสงบศึก พวกเราค่อยขอตัวจ้าวถงคืนมาก็ได้ อย่าให้เสียเรื่องเด็ดขาด!”
“ข้าเข้าใจดีขอรับ!” จ้าวเซิ่งรับคำ
สวินเทียนจางคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเอ่ยต่อ “หากกองทัพจ้าวเข้าไปสืบสถานการณ์ในเมืองหลงหยางจนรู้แน่ชัดแล้ว ถ้าเจอคลังเสบียงของต้าจิ้นจงจุดไฟเผาทำลายให้ซากด้วย!”
ขอเพียงทำลายเสบียงอาหารของต้าจิ้น ถึงแม้กองกำลังเสริมของต้าจิ้นจะเดินทางมาถึงแล้ว สวินเทียนจางก็กล้ารับค้าท้า แบ่งกำลังทหารออกเป็นสี่ส่วน บุกโจมตีเมืองหลงหยางทั้งสี่ทิศ พร้อมสู้กับศัตรูจนสุดชีวิต!
ว่ากันว่าตระกูลไป๋แห่งแคว้นต้าจิ้นเป็นตระกูลนักรบที่ไม่เคยมีคนไร้ประโยชน์ สวินเทียนจางไม่กล้าดูถูกคนตระกูลไป๋
สงครามกับซีเหลียง สวินเทียนจางเห็นแล้วว่าไป๋ชิงเหยียนซึ่งถูกเรียกขานว่าเสี่ยวไป๋ไซว่วางแผนการรบได้ราวกับเทพสงครามทั้งๆ ที่อายุยังน้อย หญิงสาวมีทั้งสติปัญญาและความกล้าหาญ หากไม่ถือโอกาสตอนที่นางยังไม่รู้สถานการณ์ของฝั่งต้าเหลียงแน่ชัดบุกโจมตีนาง สังหารให้นางสิ้นชีพอยู่ที่นี่! นางจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสงครามครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น วันหน้าสตรีผู้นี้จะกลายเป็นดั่งเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงผู้ทำให้ต้าเหลียงไม่กล้ารุกรานแคว้นต้าจิ้นนานนับสิบปี!
จ้าวเซิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นรับคำอย่างหนักแน่น “รับบัญชาขอรับ!”
“ไปบอกกับคนส่งข่าวของต้าจิ้นว่าให้เขากลับไปบอกแม่ทัพใหญ่คนใหม่ของพวกเขาว่าต้าเหลียงไม่อยากเอาเปรียบต้าจิ้น กองกำลังเสริมของต้าจิ้นเพิ่งเดินทางมาถึงเหนื่อยๆ ข้าให้เวลาพวกเขาได้พักผ่อนสักสองสามวันแล้วค่อยทำสงคราม!”