สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 427 แยกเพื่อโจมตี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 427 แยกเพื่อโจมตี

จ้าวเซิ่งกุมบังเหียนในมือแน่น ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนที่จับตัวจ้าวถงน้องชายของเขาไปเขม็งราวกับจะกลืนกินหญิงสาว

“เมื่อวานทหารของข้าพักผ่อนกันอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ทราบว่าทหารของแม่ทัพสวินพักผ่อนเต็มที่พร้อมทำศึกแล้วหรือไม่” หลิวหงยิ้มอย่างผ่อนคลายราวกับกุมชัยชนะไว้ในมือ “หรือคลังเสบียงของต้าเหลียงถูกเผาทำลาย แม่ทัพจึงต้องรอให้เสบียงมาถึงก่อนแล้วค่อยออกรบ”

เมื่อเอ่ยถึงเสบียงที่ถูกเผาทำลาย สวินเทียนจางรู้สึกปวดศีรษะมาก

เขาไม่ได้เก็บเสบียงไว้ในค่ายทหารเพราะกลัวว่าหากกองทัพต้าจิ้นบุกโจมตีค่ายทหาร เสบียงอาจเสียหายได้ นึกไม่ถึงเลยว่าเสบียงอาหารของเขาจะถูกเผาเช่นนี้

สวินเทียนจางควบคุมอารมณ์ของตัวเอง มองไปทางไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ข้าเคยศึกษาวิธีการรบของเสี่ยวไป๋ไซว่อย่างละเอียด เดิมทีคิดว่าเสี่ยวไป๋ไซว่ถนัดการรบแบบลอบโจมตี นึกไม่ถึงเลยว่าพอครั้งนี้เปลี่ยนแม่ทัพใหญ่ เสี่ยวไป๋ไซว่จะอดทนทำเพียงส่งคนมาเผาคลังเสบียง ไม่บุกโจมตีค่ายทหารของข้า”

ดวงตาคมกริบของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางสวินเทียนจาง “วันนี้ย่อมไปแน่”

หลิวหงกุมบังเหียนแน่น เม้มปากสนิท

สวินเทียนจางเห็นปฏิกิริยาของหลิวหงก็หัวเราะออกมา ยกมือคารวะไป๋ชิงเหยียน “เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะรอต้อนรับเสี่ยวไป๋ไซว่เป็นอย่างดี”

หลิวหงไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยตอบ รีบกล่าวขึ้นก่อน “หากแม่ทัพสวินจะรอให้เสบียงครั้งใหม่ส่งมาถึงก่อนแล้วค่อยทำศึก กองทัพต้าจิ้นของพวกข้าคงรอไม่ไหว ข้าให้เวลาท่านสามวัน หากท่านไม่ตอบรับคำท้ารบภายในสามวัน ข้าคงทำได้เพียงพากองทัพบุกไปหาท่าน”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น หลิวหงเอ่ยถึงเสบียงอาหารหลายครั้งด้วยท่าทีแข็งกร้าว เร่งให้กองทัพต้าเหลียงรับคำท้ารบภายในวันสาม ดูเหมือนต้องการจะปล้นเสบียงอาหารของต้าเหลียง

“ย่อมได้!”

สวินเทียนจางสั่งให้คนนำศีรษะของทหารกองทัพจ้าวกลับไป ทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกลับค่ายที่พักของตัวเอง

หลิวหงขมวดคิ้วแน่น เอ่ยถามไป๋ชิงเหยียน “วันนี้จวิ้นจู่จะบุกโจมตีค่ายทหารของต้าเหลียงหรือขอรับ เหตุใดจวิ้นจู่ต้องบอกสวินเทียนจางล่วงหน้าด้วยขอรับ เช่นนี้พวกเขาจะเตรียมตัวล่วงหน้านะขอรับ”

“สวินเทียนจางเป็นคนรอบคอบ ในเมื่อข้าบอกว่าจะบุกไปวันนี้ เขาย่อมสร้างกับดักไว้รอข้าแน่นอน ปล่อยให้พวกเขาวุ่นวายกันไปเถิด! เมื่อแม่ทัพหลินคังเล่อและแม่ทัพหวังสี่ผิงกลับมา รายงานสถานการณ์ที่ภูเขาหั่วเสินถูกส่งกลับไป สวินเทียนจางก็จะรู้เองว่าพวกเราไปมาแล้ว”

“ทว่า เมื่อครู่สวินเทียนจางกล่าวถึงวิธีรบที่จวิ้นจู่ถนัด ข้าคิดว่าจวิ้นจู่ควรพาคนไปดักซุ่มรอปล้นเสบียงอาหารของต้าเหลียงบริเวณตำแหน่งที่พวกเขาลำเลียงเสบียงอาหารมานะขอรับ หากไม่มีเสบียง กองทัพต้าเหลียงไม่มีกำลังแน่ขอรับ” หลิวหงหรี่ตาแคบลง

“ข้าก็คิดอยู่เหมือนกัน ทว่า เส้นทางลำเลียงเสบียงจากแคว้นต้าเหลียงมายังภูเขาชุนมู่แล้วส่งไปยังค่ายทหารต้าเหลียงไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียว หากต้องการปล้นเสบียงก็ต้องดักซุ่มโจมตีหลายจุด แบ่งแยกกำลังทหารต้าจิ้น สวินเทียนจางอาจถือโอกาสนี้ใช้เสบียงอาหารเป็นเหยื่อล่อแยกกองกำลังของเราออกเป็นหลายส่วนเพื่อง่ายต่อการโจมตีก็ได้” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

หลิวหงพยักหน้า “จวิ้นจู่กล่าวถูกแล้ว ทว่า น่าเสียดายที่ต้องปล่อยโอกาสเช่นนี้ไป หากปล่อยให้ต้าเหลียงได้รับเสบียงอาหารชุดใหม่ไปง่ายๆ คงไม่เป็นผลดีต่อกองทัพต้าจิ้นของเราแน่”

“เช่นนั้นก็ต้องส่งทหารไปปิดตายเส้นทางอื่นให้หมดจนเหลือเพียงเส้นทางเดียว ทว่า เช่นนี้เราจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพต้าเหลียงอย่างซึ่งๆ หน้า หากท่านมีความมั่นใจจะลองดูก็ได้”

วันนี้สวินเทียนจางสังเกตตั้งแต่ตอนที่อยู่ริมแม่น้ำหลงหมู่แล้วว่าลมพัดกรรโชกแรง พายุฝนกำลังจะตกลงมา เมื่อกลับถึงค่ายทหารจึงสั่งให้คนนำแผนที่และประวัติของเมืองหลงหยางออกมาดู

เมืองหลงหยางอยู่ใกล้แม่น้ำหลงหมู่ ตั้งแต่เดือนหกเป็นต้นไปฝนจะเริ่มตกหนัก เป็นช่วงฤดูน้ำหลากของแม่น้ำหลงหมู่

สวินเทียนจางชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนแผนที่ เมืองหลงหยางเป็นพื้นที่ราบต่ำ หากสามารถขุดคูน้ำเสร็จก่อนที่ฤดูน้ำหลากจะมาถึง ทำให้เมืองหลงหยางเกิดน้ำท่วม…นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะให้กองทัพต้าเหลียงสูญเสียกองกำลังน้อยที่สุด

สวินเทียนจางเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดครึ้มลงทางนอกหน้าต่างของที่พัก ดวงตาเป็นประกายขึ้นทันที เขารีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “เรียกแม่ทัพตู้เข้ามา!”

สวินเทียนจางสั่งงานบรรดาแม่ทัพของกองทัพ เมื่อฟ้ามืดลงเมื่อใดให้พวกเขารีบไปขุดคูน้ำที่แม่น้ำหลงหมู่ให้เสร็จภายในคืนนี้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

เมื่อสวินเทียนจางสั่งเรื่องขุดคูน้ำเสร็จ เขาทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เขาหลับตาลง หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาไปพบแม่ทัพใหญ่หลิวหงและไป๋ชิงเหยียนเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา

ไม่ว่าคืนนี้ไป๋ชิงเหยียนจะบุกมาโจมตีค่ายทหารหรือไม่เขาก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน

เหลือคนไว้ในค่ายทหารห้าพันนาย ทหารที่เหลือนอกเหนือจากที่แม่ทัพตู้พาไปขุดคูน้ำที่แม่น้ำหลงหมู่ดักซุ่มโจมตีอยู่นอกค่าย หากไป๋ชิงเหยียนกล้ามา เขาจะทำให้นางกลับออกไปไม่ได้อีก

ไม่นาน สวินเทียนจางสั่งให้บุตรชายของตัวเองไปถ่ายทอดคำสั่งให้ทุกคนเตรียมพร้อม

เมื่อจ้าวเซิ่งได้รับคำสั่งให้ไปซุ่มโจมตีอยู่นอกค่ายทหาร เขารีบไปพบสวินเทียนจางที่กระโจมแม่ทัพใหญ่ทันที กล่าวถึงเสบียงอาหาร กลัวว่าต้าจิ้นจะปล้นชิงเสบียงอาหารไป

สวินเทียนจางหัวเราะออกมาเบาๆ “หากเป็นเช่นนั้นก็ตรงใจข้าพอดี ส่งคนไปสังเกตการณ์ทุกเส้นทางที่สามารถลำเลียงเสบียงอาหารมาได้ หากต้าจิ้นกระจายกองกำลังออกไปดักซุ่มอยู่ตามทางต่างๆ กองทัพต้าเหลียงที่มีกำลังคนมากกว่าของเราจะได้บุกโจมตีพวกเขาให้หมด!”

จ้าวเซิ่งพยักหน้า “ข้าจะส่งคนไปจับตาดูเดี๋ยวนี้ขอรับ!”

เส้นทางลำเลียงเสบียง การขุดคูน้ำและการดักซุ่มโจมตีในคืนนี้ทำให้พลังงานของสวินเทียนจางแทบหมดลง เขาจับขอบโต๊ะแน่นพลางไอออกมาอย่างรุนแรง

เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าบนโต๊ะขึ้นมาปิดปาก รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือด เขาเปิดผ้าเช็ดหน้าออกดู ในนั้นมีเลือดสดติดอยู่

ค่ำของวันนั้นฝูรั่วซีนำกองทัพเสริมค่ายอันผิงเดินทางมาถึงเมืองหลงหยาง ตั้งที่พักอยู่บริเวณนอกเมือง

เมื่อกองทัพเสริมมาถึง หลิวหงเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น เขาเรียกแม่ทัพทุกคนไปรวมตัวกันเพื่อปรึกษาเรื่องการขับไล่ข้าศึก

หลิวหงรู้ดีว่าตนไม่ได้มีความสามารถในการรบสักเท่าใด ทว่า ข้อดีของเขาก็คือการรับฟังในสิ่งที่ผู้อื่นเสนอแนะ

สายสืบที่ถูกส่งไปจับตาดูความเคลื่อนไหวค่ายทหารต้าเหลียงกลับมารายงานว่าทหารต้าเหลียงนำทัพออกไปจากค่ายทหาร

“ไปทางใด” ไป๋ชิงเหยียนเริ่มกัลวล

“เหมือนจะไปทางภูเขาหั่วเสินขอรับ” สายสืบกล่าว

ใจของไป๋ชิงเหยียนกระตุกวูบ เอ่ยถามต่อ “เห็นหรือไม่ว่าผู้ใดคือผู้นำ กองกำลังมีจำนวนเท่าใด”

“เห็นไม่ชัดว่าผู้ใดคือผู้นำทัพ กองกำลังประมาณสองหมื่นนายขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองหลิวหง “ดูเหมือนว่าต้าเหลียงจะรู้เรื่องที่แม่ทัพหลินคังเล่อและแม่ทัพหวังสี่ผิงนำกองกำลังมุ่งหน้าไปยังภูเขาหั่วเสินแล้ว แม่ทัพใหญ่ได้โปรดให้ข้านำกองกำลังเสริมไปยังภูเขาหั่วเสินด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”

หลิวหงเม้มปากแน่น คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเอ่ยขึ้น “ให้แม่ทัพฝูรั่วซีนำกองกำลังไปช่วยเหลือดีกว่า จวิ้นจู่อยู่ปรึกษาเรื่องต้าเหลียงกับข้าในค่ายต่อเถิด“

หลิวหงไม่ได้จงใจรั้งไป๋ชิงเหยียนไว้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนคือทายาทของตระกูลไป๋ นางเก่งเรื่องวางแผนการรบ แม้อายุยังน้อย ทว่า หลิวหงเชื่อในการวางแผนการรบของไป๋ชิงเหยียนมาก

ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น หันไปยกมือคารวะฝูรั่วซี “เช่นนั้นรบกวนแม่ทัพด้วยนะเจ้าคะ!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท