สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 433 ลอบโจมตีค่ายทหาร

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 433 ลอบโจมตีค่ายทหาร

บุตรชายของสวินเทียนจางคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวต่อ “ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลากของแม่น้ำหลงหมู่ หากฝนตกติดต่อกันอีกสักสองวัน น้ำต้องท่วมเมืองหลงหยางและกำจัดทหารต้าจิ้นให้สิ้นซากได้แน่ขอรับ”

สวินเทียนจางไอออกมาสองสามครั้ง เขารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ไม่อยากให้บุตรชายเห็นคราบเลือดบนผ้าเช็ดหน้า ฝืนประคองสติเอาไว้ “รีบจบศึกโดยเร็วเถิด! ขอเพียงยึดอวี้ซานกวนกลับมาได้ ต่อให้พ่อต้องตายก็ไม่เสียดายชีวิต!”

สวินเทียนจางเหลือเวลาไม่มากแล้ว เขารู้สึกร้อนใจมาก

“ได้แน่นอนขอรับ!” บุตรชายของสวินเทียนจางช่วยลูบหลังให้บิดา กล่าวเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อดื่มยาให้หมด ทหารยอดฝีมือของต้าเหลียงต้องยึดอวี้ซานกวนกลับมาได้ภายใต้การนำของท่านพ่อแน่นอนขอรับ”

“รายงาน…” เสียงของทหารสายสืบดังขึ้น เขาขี่ม้าฝ่าสายฝนพุ่งเข้ามาในค่ายทหารอย่างรวดเร็ว เมื่อลงจากหลังม้าก็คุกเข่าลงตรงหน้าสวินเทียนจาง “รายงานแม่ทัพใหญ่ เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่และแม่ทัพฝูรั่วซีนำกองกำลังหลักออกจากเมืองแล้วขอรับ!”

เมื่อได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนคือหนึ่งในนั้น ใจของสวินเทียนจางกระตุกวูบ เขากำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น “ส่งคนไปสืบว่าพวกเขามุ่งหน้าไปยังถนนผิงหมิงใช่หรือไม่”

“ขอรับ!”

ไม่นานบรรดาแม่ทัพของต้าเหลียงก็พากันกรูเข้ามา สวินเทียนจางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นตัดสินใจให้บุตรชายของตนนำทัพไปยังถนนผิงหมิงด้วยตัวเอง กำชับให้บุตรชายปกป้องเสบียงอาหารและกำจัดกองทัพต้าจิ้นให้ได้

บรรดาแม่ทัพของต้าเหลียงต่างฮึกเหิมราวกับกุมชัยชนะไว้ในมือแล้ว ทุกคนอยากบุกไปค้นหาของล้ำค่าในเมืองหลงหยางเป็นคนแรก

เมื่อเดินออกมาจากกระโจมของแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพต้าเหลียงยังคงถกเถียงกันว่าในจวนของพ่อค้าที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าเซียวหรงเหยี่ยนจะมีสมบัติล้ำค่าใดซุกซ่อนอยู่บ้าง

มีคนกล่าวว่าจวนของเซียวหรงเหยี่ยนมีรูปปั้นทองทรงสัตว์มงคลตัวเท่าคนซ่อนอยู่ ทั้งตัวประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เพียงแค่เม็ดเดียวก็มีค่ามากมายมหาศาล แต่เพราะหนักและเป็นที่สะดุดตามากเกินไป เซียวหรงเหยี่ยนจึงไม่กล้าขนย้ายไปที่อื่น ได้แต่ซ่อนไว้ในห้องลับของจวน ถึงเวลานั้นคงต้องช่วยกันค้นหา

พายุฝนเทกระหน่ำ ลมกรรโชกแรง ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับจะถล่มลงมา

หลิวหงยืนมองไป๋ชิงเหยียนพากองทัพหลักจากไปอยู่บนกำแพงท่ามกลางสายฝน ฝนกระทบลงบนใบหน้าจนเขาแทบลืมตาไม่ขึ้น

วันนี้ฝนตกหนักมากเกินไป หวังว่าไป๋ชิงเหยียนและแม่ทัพฝูรั่วซีจะอ้อมไปยังแม่น้ำหลงหมู่โดยที่กองทัพต้าเหลียงไม่รู้ตัวได้สำเร็จ ชัยชนะตัดสินกันที่ตรงนี้แหล่ะ

หลิวหงยืนขบกรามแน่นอยู่บนกำแพงเมือง เขารอคนมารายงานความเคลื่อนไหวของกองทัพต้าเหลียง

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม กองทัพต้าเหลียงเริ่มมีความเคลื่อนไหว

หลิวหงกำดาบที่เอวแน่น หันไปถามหลินคังเล่อ “กลุ่มของเกาอี้เซี่ยนจู่ออกไปจากเมืองหลงหยางอย่างปลอดภัยแล้วหรือไม่”

หลินคังเล่อพยักหน้า “องครักษ์ของตระกูลไป๋คุ้มกันออกจากเมืองไปแล้วขอรับ มีหมอหญิงผู้นั้นตามไปด้วย ไม่เกิดอันใดขึ้นหรอกขอรับ แม่ทัพใหญ่วางใจได้ขอรับ”

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม หลิวหงหมุนกายเดินลงไปจากกำแพงเมือง ตะโกนสั่งเสียงดังลั่น “หวังสี่ผิง! เจ้าจงนำทหารยอดฝีมือสามพันนายมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำหลงหมู่ สังหารทหารต้าเหลียงซึ่งเฝ้าคุ้มกันอยู่ที่แม่น้ำหลงหมู่ให้สิ้นซาก”

“รับบัญชาขอรับ!” หวังสี่ผิงกำหมัดรับคำสั่ง

บรรดาทหารกองทัพจิ้นต่างเตรียมตัวพร้อมออกเดินทางนานแล้ว พวกเขายืนตรงท่ามกลางสายฝน บรรดาแม่ทัพยืนอยู่หน้าม้าศึกของตัวเอง ขอเพียงแม่ทัพใหญ่ออกคำสั่ง พวกเขาพร้อมออกเดินทางทันที

บรรดาแม่ทัพล้วนรู้ดีว่าครั้งนี้พวกเขาต้องแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้และถอยทัพหนี ล่อให้พวกทหารต้าเหลียงมายังเมืองหลงหยางให้ได้

เมื่อน้ำท่วมเมืองหลงหยาง พวกเขาค่อยบุกเข้าไปสังทหารทหารต้าเหลียงให้เกลี้ยง ให้ต้าเหลียงไม่กล้าบุกมารุกรานแคว้นต้าจิ้นอีก!

“ทหารกองทัพต้าจิ้น!” หลิวหงชูดาบขึ้นสูงพลางตะโกนลั่น เสียงที่ดังกังวานกึกก้องแทบจะจมหายไปกับเสียงฝนที่เทลงมาอย่างหนัก

“ขอรับ!”

บรรดาทหารกองทัพต้าจิ้นรับคำเสียงกึกก้องด้วยท่าทีฮึกเหิมแข็งแกร่ง

“กองทัพต้าเหลียงรุกรานแคว้นต้าจิ้นของเรา ยึดแผ่นดิน สังหารชาวบ้าน โจมตีเมืองชุนมู่และผูเหวินจนไม่เหลือชิ้นดี! วันนี้คือวันที่บุรุษเลือดร้อนของแคว้นต้าจิ้นจะล้างแค้นเอาคืน ขับไล่สุนัขต้าเหลียงออกไปจากแผ่นดินต้าจิ้นของเราให้หมด!” หลิวหงตวาดลั่น

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

ทหารกองทัพต้าจิ้นโห่ร้องขึ้นมาพร้อมกันสามครั้ง

หลิวหงกระโจนขึ้นไปบนหลังม้า ตะโกนลั่น “เปิดประตูเมือง!”

ไม่นาน ประตูเมืองถูกเปิดออก แม่ทัพใหญ่ของต้าจิ้นหลิวหงขี่ม้านำทัพอยู่ด้านหน้าสุด พาทหารออกจากเมืองมุ่งตรงไปยังค่ายทหารของต้าเหลียงอย่างดุดัน

ไป๋ชิงเหยียนและฝูรั่วซีแสร้งทำเป็นพากองกำลังหลักมุ่งหน้าไปดักซุ่มโจมตีที่ถนนผิงหมิง ทว่า เมื่อใกล้จะถึงถนนผิงหมิงกลับอ้อมไปทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำหลงหมู่

การที่พายุฝนตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำและลมพัดกรรโชกแรงมีผลต่อการมองเห็นของมนุษย์เป็นอย่างมาก อยู่ใกล้เพียงห้าจั้ง[1] ยังมองไม่ชัด สิบจั้งขึ้นไปมองไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น

ทว่า สำหรับกองทัพต้าจิ้นที่เตรียมบุกโจมตีค่ายทหารของต้าเหลียง พายุฝนครั้งนี้ช่วยพวกเขาได้มากทีเดียว

ไป๋ชิงเหยียนและฝูรั่วซีซุ่มอยู่ห่างจากค่ายทหารต้าเหลียงประมาณสองลี้ พวกเขาแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งรอโจมตีกองทัพต้าเหลียงอยู่ทางฝั่งขวาของค่ายทหารโดยมีไป๋ชิงเหยียนเป็นผู้นำ อีกกลุ่มรอโจมตีกองทัพต้าเหลียงอยู่ทางฝั่งซ้ายของค่ายทหารโดยมีฝูรั่วซีเป็นผู้นำ

ทหารต้าจิ้นหมอบอยู่ใต้ท้องม้าท่ามกลางสายฝน พวกเขาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม มือกำอาวุธแน่นตลอดเวลา ดวงตาหนักแน่น รอฟังคำสั่งจากแม่ทัพใหญ่

แม้จะเป็นช่วงสิ้นเดือนหก ทว่า ฝนที่กระทบลงบนชุดเกราะไม่หยุดหย่อน เมื่อนานเข้าก็ทำให้คนรู้สึกหนาวสั่นได้เช่นกัน บรรดาทหารได้แต่กัดฟันทน

ไป๋ชิงเหยียนในชุดเกราะยืนถือหอกเงินหงอิงอยู่ด้านข้างม้า กวาดสายตามองไปทางค่ายทหารของต้าเหลียง รอฟังเสียงสัญญาณแตรจากค่ายทหาร

หยาดฝนกระทบลงหมวกเกราะบนใบหน้าของหญิงสาวจนบดบังการมองเห็น ร่างของหญิงสาวหยัดตรงไม่ได้งอโค้งเพราะแรงกระทบของสายฝนและไม่ได้รู้สึกหนักอึ้งจากเสื้อผ้าที่เปียกโชก

ปกติไป๋ชิงเหยียนจะผูกถุงทรายไว้ตามลำตัว บัดนี้ปลดถุงทรายออกหมดแล้ว หญิงสาวรู้สึกตัวเบาราวกับนกนางแอ่น

ก่อนออกเดินทาง ไป๋ชิงเหยียนปรึกษากับหลิวหงเรียบร้อยแล้ว หลิวหงจะออกเดินทางหลังจากกองกำลังหลักออกเดินทางไปแล้วครึ่งชั่วยาม จากนั้นมุ่งหน้าตรงไปยังค่ายทหารของต้าเหลียงทันที ไป๋ชิงเหยียนและฝูรั่วซีจะเข้าไปเสริมทัพอย่างดุดันทันทีที่หลิวหงจากนำทัพบุกเข้าไปยังค่ายทหารของต้าเหลียง ทำให้กองทัพต้าเหลียงหวาดกลัวและเสียขวัญ

เสียงฝนดังกระหน่ำทำให้คนไม่ได้ยินเสียงวิ่งของม้า เมื่อทหารหน่วยลาดตระเวนของต้าเหลียงสังเกตเห็น หลิวหง หลินคังเล่อและกองทัพต้าจิ้นก็อยู่ห่างจากค่ายทหารไม่ถึงหนึ่งลี้แล้ว

ภายในค่ายทหารต้าเหลียงมีเสียงแตรดังขึ้นทันที

“กองทัพต้าจิ้นบุกโจมตี! กองทัพต้าจิ้นบุกมาแล้ว!”

“รีบไปรายงานแม่ทัพใหญ่เร็วเข้า!”

“พลธนูเร่งมือเร็ว!”

กองทัพต้าเหลียงไม่ทันตั้งตัว พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่ากองทัพต้าจิ้นซึ่งกองทัพหลักของพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังถนนผิงหมิงจะกล้าบุกโจมตีค่ายทหารต้าเหลียงเช่นนี้

เสียงแตรของต้าเหลียงจากที่ไกลๆ ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ไป๋ชิงเหยียนกระโดดขึ้นหลังม้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “บุก!”

ทหารกองทัพต้าจิ้นรีบขึ้นไปบนหลังม้า ติดตามไป๋ชิงเหยียนบุกเข้าไปสังหารศัตรูในค่ายทหารต้าเหลียง

สวินเทียนจางซึ่งนั่งอยู่กลางกระโจมแม่ทัพผุดลุกขึ้นยืนทันที ทว่า เกือบเซล้มเพราะร่างกายอ่อนแอ โชคดีที่แม่ทัพของต้าเหลียงเห็นและช่วยพยุงไว้ได้ทัน “ท่านแม่ทัพใหญ่!”

สวินเทียนจางมองออกไปนอกกระโจม เห็นเหล่าทหารต้าเหลียงวิ่งฝ่าสายฝนไปหยิบธนูแล้ววิ่งตรงไปหน้าค่ายทหาร เขาจึงตะโกนถามเสียงดังลั่น “กองทัพต้าจิ้นมากันกี่คน!”

“ฝนตกหนัก มองไม่ชัดขอรับ!” ทหารที่คุกเข่าอยู่หน้ากระโจมตะโกนบอก “เพื่อความปลอดภัย แม่ทัพใหญ่รีบหนีไปก่อนเถิดขอรับ!”

[1] จั้ง หน่วยวัดความยาวของจีน หนึ่งจั้งประมาณ สองจุดห้าเมตร

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท