ตอนที่ 471 ชดใช้ด้วยชีวิต
ความคิดช้ากว่าการกระทำ ร่างกายของเหลียงอ๋องตื่นตระหนกไปก่อนแล้ว เขาก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างตกใจ กำเสื้อของตัวเองแน่น “องค์หญิงหมายความว่าอย่างไร”
“คือคนของจวนองค์รัชทายาท!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เหลียงอ๋องต้องการสู่ขอญาติผู้น้องถิงเจินของข้า ทว่า ฝ่าบาททรงไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่าเหลียงอ๋องอยากได้กองกำลังทหารของท่านน้าชายต่งชิงเยว่ของข้า หากวันนี้เหลียงอ๋องเข้าไปพัวพันกับหลิ่วรั่วฟูบุตรสาวคนเดียวของเสียนอ๋องซึ่งมีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ ทำลายชื่อเสียงของนาง บีบให้นางต้องแต่งงานกับท่าน ท่านคิดว่าฝ่าบาทจะทรงคิดเช่นไร”
เหลียงอ๋องกำหมัดซึ่งแนบอยู่ข้างลำตัวแน่น มองไปทางไป๋ชิงเหยียน “เหตุใดองค์หญิงเจิ้นกั๋วถึงยื่นมือช่วยเหลือข้า ในเมื่อข้าเคยคิดใส่ร้ายตระกูลไป๋มาก่อน!”
“ข้าไม่อยากให้ญาติผู้น้องถิงเจินเสียใจ! นางยืนกรานจะแต่งงานกับท่านให้ได้!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “บัดนี้เหลียงอ๋องมีทางเลือกเพียงสองทาง หากท่านจริงใจกับถิงเจินจริงๆ ก็ขึ้นไปบนรถม้า ข้าจะหาทางให้ท่านและถิงเจินไปจากเมืองหลวงแห่งนี้ ใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นสามีภรรยากันอย่างมีความสุข ทว่า บนโลกนี้จะไม่มีเหลียงอ๋องอีกต่อไป!”
แผ่นหลังของเหลียงอ๋องเหยียดตรง เขากลัวว่าถิงเจินจะอยู่บนรถม้า จึงแสร้งกล่าวอย่างน่าสงสาร “ทว่า ข้าไม่อาจทำลายความบริสุทธิ์ของหนานตูจวิ้นจู่แล้วหนีไปเช่นนี้ได้!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูเหลียงอ๋องที่สวมบทบาทเป็นคนดีได้สมจริงที่สุด กล่าวขึ้น “เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดโปง องค์รัชทายาทจะเข้าวังไปทูลฝ่าบาทว่าบุรุษที่มีสัมพันธ์กับหนานตูจวิ้นจู่คือเหลียงอ๋อง แน่นอนว่าเหลียงอ๋องจะแต่งงานกับหนานตูจวิ้นจู่ เสียนอ๋องย่อมช่วยสนับสนุนให้บุตรเขยของเขาได้ขึ้นครองราชย์ มีเพียงองค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ หลานชายของเขาในภายภาคหน้าจึงจะมีโอกาสแย่งชิงราชบัลลังก์นั้น!”
ลำคอของเหลียงอ๋องร้อนผ่าว “ทว่า…”
“องค์รัชทายาทไม่มีทางโง่ถึงขนาดผลักหนานตูจวิ้นจู่มาให้ท่าน เพราะเบื้องหลังของหนานตูจวิ้นจู่คือเสียนอ๋องซึ่งมีกำลังทหารอยู่ในมือ!”
ไป๋ชิงเหยียนเห็นท่าทีลังเลของเหลียงอ๋องจึงกล่าวยิ้มๆ “หากท่านไม่ได้จริงใจกับถิงเจินก็ขอให้เรื่องนี้จบลงเพียงเท่านี้ ข้าจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งอีก ท่านไปแย่งชิงกับองค์รัชทายาทเอาเอง บัดนี้ข้าอยู่ฝ่ายขององค์รัชทายาท ย่อมต้องช่วยองค์รัชทายาทวางแผน จะตีท่านให้สลบแล้วส่งกลับไปหรือขังท่านไว้ รอให้องค์รัชทายาทเข้าไปสารภาพผิดและสู่ขอหนานตูจวิ้นจู่จนสำเร็จก่อนดีนะ ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทจะทูลสิ่งใดกับฝ่าบาทบ้าง ฝ่าบาทจะทรงลงโทษท่านเช่นไร ข้าคงรับประกันไม่ได้”
เห็นสายตาของเหลียงอ๋องมองไปทางรถม้า ไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปสั่งหลูผิง “ให้เหลียงอ๋องดูในรถม้าหน่อยว่าถิงเจินอยู่ในนั้นหรือไม่”
เหลียงอ๋องกำหมัดแน่น มองเห็นหลูผิงแหวกม่านรถม้าออก ในนั้นว่างเปล่า เอวที่โค้งงอเพราะแสร้งทำตัวน่าสงสารหยัดตรงขึ้นทันที
ไป๋ชิงเหยียนกดดันเหลียงอ๋องต่อ “องค์รัชทายาทจะเข้าวังไปทูลฝ่าบาทเช่นไรบ้าง คงตรัสว่าเหลียงอ๋องขอคุณหนูต่งแต่งงานไม่สำเร็จ จึงใช้วิธีการต่ำช้าวางยาหนานตูจวิ้นจู่ ย่ำยีนางเพราะอยากได้อำนาจทางทหารในมือของเสียนอ๋อง เพราะหนานตูจวิ้นจู่คือบุตรสาวเพียงคนเดียวของเสียนอ๋อง หากแต่งงานกับนางก็เท่ากับได้การสนับสนุนจากเสียนอ๋อง องค์รัชทายาทไปช่วยเหลือคนจนติดกับเช่นเดียวกัน เขาทำลายความบริสุทธิ์ของหนานตูจวิ้นจู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ ยินดีแต่งงานกับนาง”
เหลียงอ๋องตะลึง เช่นนี้องค์รัชทายาทก็จะกลายเป็นคนมีคุณธรรมสูงส่ง ส่วนเขากลายเป็นคนเลวที่ไม่เหลือสิ่งใดทั้งสิ้น
“หากเหลียงอ๋องคิดดีแล้วก็ขึ้นไปบนรถม้าเถิด ข้าจะให้ท่านและถิงเจินไปให้ไกลจากเมืองหลวงแห่งนี้ แม้ชาตินี้เหลียงอ๋องจะไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ทว่า ข้ารับประกันว่าพวกท่านจะมีชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง!”
คำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนเหมือนเป็นการบีบบังคับให้เหลียงอ๋องหนีไปกับต่งถิงเจิน
ทว่า เหลียงอ๋องกลับลังเล เขายังไม่ได้ไร้สิ้นหนทาง ท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเคยบอกกับเขาว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนให้ไปที่สำนักศึกษาซ่างม่อซู
เหลียงอ๋องขบกรามแน่น เอ่ยถาม “ต้องไปเดี๋ยวนี้เลยหรือ”
“ใช่! หากช้ากว่านี้แล้วองค์รัชทายาทเข้าไปในวังหลวง ท่านจะหนีไปไม่ได้อีก ยังลังเลอีกหรือ” ไป๋ชิงเหยียนเลิกคิ้ว
เหลียงอ๋องมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “ข้าไปไม่ได้!”
“หรือว่าท่านไม่ได้จริงใจกับถิงเจิน แต่เห็นแก่อำนาจทางทหารของท่านน้าชายต่งชิงเยว่ของข้ากันแน่ บัดนี้มีบุตรสาวเพียงคนเดียวของเสียนอ๋องอย่างหลิ่วรั่วฟูโผล่ขึ้นมา ท่านจึงคิดว่านางมีค่าให้หลอกใช้มากกว่าถิงเจินอย่างนั้นหรือ”
เหลียงอ๋องไม่กล่าวสิ่งใด กล่าวเสียงรอดไรฟัน “ข้าไม่ไป! องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่ามาบังคับขู่เข็ญกันเลย หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะตีข้าจนสลบแล้วลักพาตัวข้าไปก็สุดแล้วแต่เจ้า”
“ญาติผู้น้องถิงเจินของข้าไม่มีความหมายสำหรับเหลียงอ๋องเลยสักนิดจริงๆ ! สิ่งที่มีค่าคือสกุลต่งของนางต่างหาก เป็นเพราะนางคือหลานสาวของผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิงเยว่สินะ!” ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ทว่า หลานสาวของผู้ตรวจการเมืองเติงโจวก็ยังสู้บุตรสาวคนเดียวของเสียนอ๋องผู้มีอำนาจทางทหารไม่ได้!”
ต่งถิงเจินซึ่งหลบอยู่ด้านหลังของรถม้าใช้มืออุดปากตัวเองแน่นไม่ให้หลุดเสียงร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย
“ทว่า ท่านคิดว่าท่านอยู่ที่นี่ต่อแล้วจะสู้องค์รัชทายาทได้อย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าสบตาเหลียงอ๋อง “เพื่อไม่ให้ญาติผู้น้องของข้าเสียใจ ข้าคงต้องลักพาตัวท่านไป ลุงผิง!”
หลูผิงก้าวไปด้านหน้า เหลียงอ๋องรีบถอยหลังหนีทันที เขาหยิบมีดที่เสียบอยู่ด้านหลังจี้ไปที่คอของตัวเอง “อย่าเข้ามานะ!”
ไป๋ชิงเหยียนหรี่ตาแคบ
เหลียงอ๋องกวาดสายตามองไปที่รถม้าอีกครั้งอย่างไม่ไว้ใจ ลำคอร้อนผ่าว “องค์หญิงเจิ้นกั๋วยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้แล้ว หากข้าตายไป มาดูกันว่าเสด็จพ่อจะไว้ชีวิตเจ้าหรือไม่ เจ้าทำให้โอรสที่เกิดจากฮองเฮาของพระองค์ถูกเนรเทศไปหย่งโจว เสด็จพ่อของข้าเกลียดเจ้าเข้ากระดูกดำแล้ว หากข้าตายไป เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
“พี่หญิงไม่ต้องบังคับเขาหรอกเจ้าค่ะ!” ในที่สุดต่งถิงเจินก็ทนไม่ไหว พุ่งตัวไปจับแขนไป๋ชิงเหยียนจากด้านหลังรถม้า หญิงสาวไม่ได้ปรายตามองเหลียงอ๋องแม้แต่น้อย รู้สึกใจแหลกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ
ดวงตาของเหลียงอ๋องไหววูบ ไป๋ชิงเหยียนพาต่งถิงเจินมาจริงๆ ด้วย
เขาไม่มีทางหนีอีกแล้ว!
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากเขาไม่ได้แต่งงานกับหลิ่วรั่วฟู เขาก็จะไม่เหลือสิ่งใดทั้งสิ้น
ต่งถิงเจินร้องไห้จนร่างสั่นเทาไปทั้งร่าง นี่คือคนที่นางอยากแต่งงานด้วยโดยไม่สนความปลอดภัยของคนทั้งตระกูลต่ง!
ทุกครั้งที่นางนึกถึงถ้อยคำของบิดา นางรู้สึกราวกับถูกมีดกรีดลงในใจทุกครั้ง ทว่า บัดนี้ได้ยินคำกล่าวของเหลียงอ๋อง เห็นภาพที่ญาติผู้พี่บีบบังคับแต่เหลียงอ๋องก็ยังไม่ยอมหนีไปกับนาง คำกล่าวของบิดากลายเป็นดั่งเหล็กร้อนที่ทาบอยู่ในใจของนางจนเหมือนตายทั้งเป็น
“พี่หญิงเราไปกันเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะไปซั่วหยางกับพี่หญิง ไปเถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแล้วเจ้าค่ะ!” ต่งถิงเจินเกาะแขนของไป๋ชิงเหยียนแน่น ร้องไห้อ้อนวอนให้ไป๋ชิงเหยียนพานางไปจากที่นี่ “ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วเจ้าค่ะ!”