สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 480 ลิ้มลองแล้วหยุดไม่ได้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 480 ลิ้มลองแล้วหยุดไม่ได้

“ท่านเจ้าเมืองกล่าวว่าหากคุณหนูใหญ่อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ เขาจะมาเล่าให้คุณหนูใหญ่ฟังภายหลังขอรับ”

“ได้!” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “พ่อบ้านเหาส่งคนไปบอกบ่าวเฝ้าหน้าประตูจวนด้วยว่าหากลุงผิงกลับมาเมื่อใดให้รีบมาพบข้าที่เรือนปัวอวิ๋นทันที”

“ขอรับ!”

ชุนเถาอยากกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า ไม่ได้กล่าว นางเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของคุณหนูใหญ่มาก

ยิ่งไป๋ชิงเหยียนรับรู้เรื่องราวมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งปะติดปะต่อเรื่องราวได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าเหลียงอ๋องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเด็กเหล่านี้แน่ๆ

ไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและลำคอ ก้มหน้าลงอย่างใช้ความคิด หากเหลียงอ๋องยังพยายามที่จะคิดกำจัดตระกูลไป๋ให้สิ้นซาก ไป๋ชิงเหยียนยังพอมีเวลาเล่นไปเขากับเขา ทว่า หากเขาต้องการครอบครองบัลลังก์จนสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป เขาก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

ตั้งแต่กลับมาจากเป่ยเจียง ไป๋ชิงเหยียนสูญเสียพลังกายและพลังใจไปมาก บัดนี้รู้สึกเหนื่อยล้ามากจริงๆ หญิงสาวนั่งเอนหลังผิงเก้าอี้ รอหลูผิงกลับมารายงานโดยยังไม่ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ทว่า กลับผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น ในความฝันล้วนเต็มไปด้วยเรื่องการลักพาตัวเด็ก

หญิงสาวฝันเห็นเหลียงอ๋องชี้ดาบไปทางน้องหญิงแปดไป๋หวั่นชิงด้วยความโมโห

หญิงสาวง้างสายธนูเล็งยิงไปทางเหลียงอ๋องอย่างรวดเร็ว ทว่า ลูกธนูเร็วไม่เท่าปลายดาบคมของเหลียงอ๋อง…

“ไป๋ชิงเหยียน…”

ไป๋ชิงเหยียนเบิกตากว้าง หน้าอกสั่นไหวอย่างรุนแรง ร่างท่วมไปด้วยเหงื่อ เส้นผมเปียกชุ่ม

“ฝันร้ายอย่างนั้นหรือ”

ลำคอของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว เมื่อหันไปเห็นเซียวหรงเหยี่ยนซึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง หญิงสาวสะดุ้งตกใจ จากนั้นจึงพบว่าตนกุมมือของชายหนุ่มแน่น

ไป๋ชิงเหยียนรีบคลายมือออก หยัดกายขึ้นนั่ง “ท่าน…”

เซียวหรงเหยี่ยนลุกขึ้นจากเตียง “ขออภัย”

ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าคือเรือนปัวอวิ๋นจึงขมวดคิ้วถาม

“มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ เกี่ยวกับเหมืองเหล็กหรือไม่เจ้าคะ”

เซียวหรงเหยี่ยนจ้องไปยังไป๋ชิงเหยียนนิ่ง หญิงสาวไม่ได้กล่าวโทษที่เขาบุกรุกเข้ามาในห้องส่วนตัวของนาง ทว่า กลับเป็นห่วงว่าอาจเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแทน เซียวหรงเหยี่ยนรู้สึกมีความสุขกับความเชื่อใจที่หญิงสาวมีให้เขามาก

“มีเรื่องสำคัญขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบก็เห็นไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน

ชายหนุ่มจึงโน้มกายเข้าไปยับยั้งการกระทำของหญิงสาว มองนางด้วยยิ้มๆ เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ได้ยินว่าเจ้ากลับมาถึงซั่วหยางแล้ว คิดถึงจนทนไม่ไหว เดิมทีตั้งใจว่าจะแอบมาดูเจ้าแค่ครู่เดียวแล้วจากไป นึกไม่ถึงเลยว่าองครักษ์ลับของตระกูลไป๋จะร้ายกาจกว่าที่คิดไว้มาก อีกทั้งเจ้ากำลังฝันร้าย ดังนั้น…”

ไป๋ชิงเหยียนตะลึงเล็กน้อย ใบหูแดงก่ำขึ้นทันที นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาทำสัญญาใจกันตอนอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว

“ก่อนหน้านี้ท่าน…”

“ครั้งแรก!” เซียวหรงเหยี่ยนชิงบอกก่อนไป๋ชิงเหยียนจะเอ่ยถาม

“เจ้าวางใจได้ ข้าให้เยว่สือล่อองครักษ์ลับและสาวใช้ข้างกายของเจ้าไปแล้ว เดิมทีตั้งใจนำของสิ่งหนึ่งมามอบให้เจ้า เห็นหน้าเจ้าเพียงครู่เดียวแล้วก็จะจากไป!”

เพื่อนำของมาให้และได้เจอหน้านางเพียงครู่หนึ่ง เขาเสี่ยงอันตรายเกินไปหรือไม่

“องครักษ์ลับของตระกูลไป๋ล้วนมีฝีมือและไม่ใช่คนโง่ มีบุรุษเดินออกไปจากห้องนอนของข้าเช่นนี้ เซียวเซียนเซิงจะให้ข้าตอบท่านแม่ของข้าเช่นไรกัน” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

แม้ไป๋ชิงเหยียนเคยสาบานไว้ว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต ทุกคนในตระกูลไป๋เห็นหญิงสาวเป็นดั่งเสาหลักของตระกูล แม้เป็นเพียงสตรี ทว่า กลับโดดเด่นและเก่งกาจกว่าบุรุษทุกคน ต่อให้หญิงสาวจะอ้างว่าพบปะกับบุรุษในยามวิกาลเพื่อเจรจาเรื่องการค้า ทุกคนก็ย่อมเชื่อตามนั้น ทว่า ลำดับแรกเซียวหรงเหยี่ยนต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู หรือไม่ก็นัดเจอไป๋ชิงเหยียนที่อื่น

นัดเจอกับไป๋ชิงเหยียนในห้องนอนส่วนตัวเช่นนี้มันใช้ได้ที่ใดกัน

เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าครั้งนี้เขาเสียมารยาท เขาหยิบขวดยาลับสำหรับรักษาบาดแผลซึ่งมีแค่ในวังหลวงของต้าเยี่ยนออกมาจากแขนเสื้อ

“เจ้าเป็นคนเข้มแข็ง ไม่เคยปริปากบอกผู้อื่นว่าได้รับบาดเจ็บ นานเข้าอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ นี่คือยาลับของต้าเยี่ยน ข้าเพิ่งได้รับเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว ละลายในน้ำร้อนครั้งละหนึ่งเม็ด ทานวันละสามครั้ง จะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเจ้ามาก ท่านหมอหงตรวจสอบแล้ว เจ้าวางใจทานได้”

ก่อนที่จะทำสัญญาใจกับไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนยังพอควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ ทว่า หลักจากตกลงปลงใจกัน เขารู้สึกกราวกับตัวเองเป็นชายหนุ่มเลือดร้อน เข้าใจความรู้สึกที่ว่าไม่ได้เจอกันหนึ่งวันยาวนานราวสามปีมันทรมานเพียงใด

วันนี้เมื่อได้รับยา เขาจึงใช้ยาเป็นข้ออ้างในการมาหาไป๋ชิงเหยียน

สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ฝ่ามือเรียวยาวและแข็งแรงของเซียวหรงเหยี่ยน เอื้อมมือไปรับขวดยาหยกขวดเล็กมากำไว้ในมือ “ขอบคุณเจ้าค่ะ!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหรงเหยี่ยนเข้ามาในห้องนอนของสตรี เขาไม่รู้ว่าห้องนอนของสตรีนางอื่นจะตกแต่งเรียบง่ายเหมือนดั่งห้องของไป๋ชิงเหยียนหรือไม่ สายตาสำรวจไปยังบริเวณรอบๆ นอกจากเตียง กระถางธูปหอม ฉากกั้นและตำราสองสามเล่มแล้ว ไม่มีของประดับตกแต่งหรูหราอื่นเลยสักนิด

ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากเรือนร่างของไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนกระชับมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น หายใจติดขัดเล็กน้อย เขาพยายามปรับลมหายใจให้ช้าลง

“ข้าจะออกไปส่งท่าน” ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ดูเป็นกังวลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์หรือทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลไป๋ล้วนปิดปากสนิททั้งสิ้น ไป๋ชิงเหยียนไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะรู้ไปถึงหูผู้อื่น

ไป๋ชิงเหยียนสลัดผ้าห่มผืนบางที่ชุนเถาคลุมให้นางออก ลุกขึ้นพลางกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยน

“เซียวเซียนเซิงโปรดรอสักครู่”

ไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนก้าวไปยังฉากกั้น เซียวหรงเหยี่ยนจับข้อมือเล็กของหญิงสาวไว้ก่อน

ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปมองใบหน้าคมคายจมูกคมสันของเซียวหรงเหยี่ยน ใจเต้นรัว

“ครั้งนี้ข้าล่วงเกินแล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนหลุบตามองข้อมือของไป๋ชิงเหยียนซึ่งถูกเขากุมเอาไว้ นิ้วมือกระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย นิ้วโป้งลูบไปยังข้อมือของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา

“ข้ายากจะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน…”

เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้าสบตาไป๋ชิงเหยียน ดวงตาลึกล้ำและนิ่งขรึมของชายหนุ่มแฝงไว้ด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง

ชายหนุ่มรั้งตัวหญิงสาวเข้ามาใกล้อย่างแผ่วเบา สบกับดวงตาของหญิงสาวอย่างลึกซึ้ง

“เพิ่งเคยมีความรักครั้งแรก ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าความคิดถึงจะทรมานถึงเพียงนี้!”

น้ำเสียงทุ้มลึกกล่าวถ้อยคำหวานของเซียวหรงเหยี่ยนดังขึ้นท่ามกลางความมืด ช่างดูมีเสน่ห์ยิ่งนัก ไป๋ชิงเหยียนหายใจติดขัดทันที

มือใหญ่ของเซียวหรงเหยี่ยนเลื่อนไปจับบ่าเล็กของไปชิงเหยียน ก้มหน้าลง…ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบขยับเข้าไปใกล้หญิงสาว น้ำเสียงแหบพร่าอย่างรุนแรง

“เจ้าเคยคิดถึงข้าบ้างหรือไม่ อาเป่า!”

ได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนเรียกชื่อเล่นของตัวเอง ไป๋ชิงเหยียนแทบหยุดหายใจ ดวงตาสั่นไหวเพราะความประหม่า

มือร้อนที่กุมบ่าไป๋ชิงเหยียนของเซียวหรงเหยี่ยนเลื่อนไปกุมใบหน้าด้านข้างของไป๋ชิงเหยียน สายตาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของหญิงสาว ใช้นิ้วโป้งสัมผัสปลายคางของหญิงสาวอย่างหยั่งเชิง จากนั้นก้มหน้าเตรียมประทับจูบลงไปบนริมฝีปากบาง

ไป๋ชิงเหยียนกุมมือเรียวยาวของชายหนุ่มเอาไว้แสดงการปฏิเสธ “เซียวหรงเหยี่ยน ท่าน…”

เซียวหรงเหยี่ยนชะงักการกระทำ จ้องไปในแววตาที่หลุกหลิกของไป๋ชิงเหยียน บังคับให้หญิงสาวมองมาที่ตน จับมือข้างหนึ่งของหญิงสาวมาโอบที่เอวหนาของตน

ความปรารถนาบางอย่างคืบคลานเข้ามาในใจของคนทั้งสองท่ามกลางความเงียบสงัด

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ต่อต้านอีก ชายหนุ่มจึงก้มลงประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา

ไป๋ชิงเหยียนสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ ลมหายใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยไอสัมผัสของชายหนุ่ม

แสงของดวงจันทร์สาดส่องกระทบลงที่ปลายเท้าของคนทั้งสองจากบานหน้าต่างซึ่งเปิดอ้าไว้

ลมพัดจนต้นไม้ไหวเอนเล็กน้อย ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงใบไม้และเสียงแมลงในฤดูร้อน

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนได้ลิ้มลองแล้วจึงหยุดไม่ได้ ดวงตาลึกล้ำจ้องไปที่ใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบของหญิงสาวไม่วางตา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท