ตอนที่ 481 ในนามโจรป่า
ลมหายใจของเซียวหรงเหยี่ยนเริ่มติดขัด ทัดปอยผมที่เปียกชื้นเล็กน้อยของไป๋ชิงเหยียนไปทางหลังใบหูอย่างแผ่วเบา ลำแขนแกร่งโอบตัวหญิงสาวเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม จากนั้นประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง
ไป๋ชิงเหยียนกลั้นหายใจ ทว่า จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังมาจากทางโรงครัวเล็ก ไป๋ชิงเหยียนใช้มือทั้งสองข้างยันแผ่นอกของเซียวหรงเหยี่ยนแล้วผลักออกเบาๆ จากนั้นเอ่ยขึ้น “ชุนเถา!”
เซียวหรงเหยี่ยนที่ยังคงหายใจติดขัดอยู่จำต้องปล่อยตัวหญิงสาวอย่างจนใจ
ประสาทสัมผัสของเซียวหรงเหยี่ยนดีมาก เขาได้ยินเสียงดังมาจากโรงครัวเล็กก่อนไป๋ชิงเหยียนเสียอีก ทว่า เขาไม่อยากปล่อยตัวนางก็เท่านั้น
ไป๋ชิงเหยียนจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อย ได้ยินเสียงชุนเถาซึ่งถือน้ำชาร้อนกลับมาจากโรงครัวเดินเข้ามาใกล้ “คุณหนูใหญ่จะรับน้ำชาหรือไม่เจ้าคะ”
เมื่อครู่ชุนเถาตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน นางรู้สึกว่าอากาศเริ่มเย็นลง กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนอาจนึกอยากดื่มน้ำชากลางดึกจึงนำกาน้ำชาไปเปลี่ยน
ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อชุนเถาเดินอ้อมฉากกั้นเข้ามาด้านใน นางจะเห็นบุรุษยืนอยู่ในห้อง ชุนเถาตกใจจนแทบทำถาดใส่น้ำชาสีดำหล่นลงบนพื้น โชคดีที่เซียวหรงเหยี่ยนมือไวรับไว้ได้ทัน
“ระวังหน่อย!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับชุนเถาเสียงเบา จากนั้นวางถาดน้ำชาลงบนโต๊ะกลม
ชุนเถาเบิกตาโพลง ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าขาวซีด ตอนนางออกไปด้านนอก ในห้องมีเพียงคุณหนูใหญ่คนเดียว บุรุษตัวเป็นๆ ตรงหน้าผู้นี้โผล่มาจากที่ใดกัน!
แม้ชุนเถาจะตกใจและหวาดกลัว ทว่า คุณหนูใหญ่ไม่ได้สั่งให้นางตะโกนเรียกคน นางจึงกลั้นหายใจมองไปทางไป๋ชิงเหยียน
โชคดีที่ในห้องไม่ได้จุดไฟสว่าง ชุนเถาจึงไม่ได้เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของคุณหนูใหญ่ของตน
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่งชุนเถาด้วยท่าทีปกติ “ออกไปล่อองครักษ์ลับไป๋ให้ออกไปจากลานหญ้าให้หมด จากนั้นไปส่งเซียวเซียนเซิงกับข้า”
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถาหันหลังกลับอย่างรวดเร็วจนจมูกของนางชนกับฉากกั้นอย่างจัง ชุนเถาตกใจจนเกือบทรงตัวไม่อยู่ รีบถลาเข้าไปจับฉากกั้นไว้ทันที กลัวว่าตนจะทำให้เกิดเสียงดังขึ้นจนผู้อื่นได้ยิน หากผู้อื่นเห็นว่ามีบุรุษอยู่ในห้องนอนของคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ของนางจะมีชีวิตต่อไปเช่นไร
“ไม่ต้องออกไปส่งข้าหรอก ชุนเถาล่อองครักษ์ลับออกไป ข้าก็ออกจากจวนได้แล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนมองดูขวดยาที่ไป๋ชิงเหยียนยังคงกำไว้ในมือ กล่าวขึ้น “อย่าลืมทานยาด้วย”
วิธีการปรุงยาชนิดนี้ค่อนข้างซับซ้อน สมุนไพรในตัวยาหาได้ยากมาก เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าไม่อาจโน้มน้าวให้ไป๋ชิงเหยียนอย่าหักโหมเกินไปได้เพราะทุกคนในตระกูลไป๋ล้วนต้องพึ่งพาหญิงสาว
เขาหวังเพียงแค่ให้ไป๋ชิงเหยียนดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี กระทั่งอยากให้ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งโดยเร็ว ไป๋ชิงเหยียนจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เสียที
เมื่อชุนเถาล่อองครักษ์ลับที่คุ้มกันเรือนปัวอวิ๋นไปแล้วจึงเดินเข้ามารายงาน “ไล่ไปหมดแล้วเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่ ข้าให้พวกเขาไปจับตาดูเรือนหน้าเจ้าค่ะ…”
“ขอบใจมาก!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขอบคุณชุนเถา เดินออกไปจากประตูแล้วหายลับไปในความมืด
“คุณหนูใหญ่!” ชุนเถาก้าวไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างหวาดกลัว “เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ เมื่อครู่บ่าวยังอยู่ในห้องอยู่เลย เซียวเซียนเซิงมาเมื่อใดกันเจ้าคะ เขา…”
ไป๋ชิงเหยียนผลักหน้าต่างออก มองไปยังทิศทางที่เซียวหรงเหยี่ยนจากไป กำขวดยาในมือแน่น กล่าวเสียงแผ่วเบา “เซียวเซียนเซิงมีข่าวสำคัญมาบอกข้า ลุงผิงกลับมาแล้วหรือไม่”
“มาแล้วเจ้าค่ะ!” ชุนเถาพยักหน้า “ทว่า คุณหนูใหญ่หลับอยู่ ถงหมัวมัวจึงไม่ให้รบกวนเจ้าค่ะ”
“ไปตามลุงผิงมา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ชุนเถาเชื่อใจไป๋ชิงเหยียนโดยไม่มีข้อกังขา คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนมีข่าวที่สำคัญมากมาบอกจริงๆ ถึงได้บุกเข้ามาในห้องนอนของคุณหนูใหญ่เช่นนี้
ทว่า ชุนเถารู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร เรื่องที่เซียวหรงเหยี่ยนปรากฏตัวในห้องนอนของคุณหนูใหญ่ แม้แต่ถงหมัวมัวและหลูผิงก็ไม่ควรรับรู้ คนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าใดยิ่งดี
เมื่อหลูผิงกลับมาที่จวน เขามีเรื่องในใจจึงนอนไม่หลับ เมื่อได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ต้องการพบเขา เขาจึงรีบตามชุนเถาไปยังเรือนปัวอวิ๋นทันที
ประตูเรือนปัวอวิ๋นเปิดอ้า ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้หินใต้ต้นไม้ใหญ่กลางลาน
หลูผิงรีบเดินเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ จี้ถิงอวี๋กล่าวว่าหลังจากเกิดเรื่องโจรป่าเข่นฆ่า เผาทำลายทรัพย์และลักพาตัวเด็กขึ้น เขาจึงลงมือสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเองแล้วพบว่ามีทั้งหมดสามกลุ่มขอรับ กลุ่มหนึ่งใช้นามของโจรป่าปล้นทรัพย์ เผาทำลายข้าวของ เข่นฆ่าชาวบ้านและลักพาตัวเด็ก ส่วนเด็กที่ถูกลักพาตัวไปล้วนถูกส่งไปยังเมืองหลวงขอรับ! ส่วนอีกสองกลุ่มแค่อาศัยนามของโจรป่าปล้นทรัพย์ชาวบ้านเท่านั้นขอรับ หากคุณหนูใหญ่ไม่ได้สั่งให้ข้าไปหาจี้ถิงอวี๋ จี้ถิงอวี๋ก็จะหาทางส่งข่าวมาให้พวกเราอยู่แล้วขอรับ”
เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคิดจริงๆ
“จี้ถิงอวี๋ฝากข้าบอกคุณหนูใหญ่ว่าในเมื่อต้องการปราบปรามโจร ก็ควรมีโจรให้ปราบขอรับ!” หลูผิงหยิบแผนที่หนังแกะออกมาจากอก ยื่นส่งให้ไป๋ชิงเหยียน “จี้ถิงอวี๋เป็นคนวาดเองขอรับ คงเป็นเพราะกลุ่มของจี้ถิงอวี๋อยู่ใกล้เหมือง สามกลุ่มนั่นจึงไม่กล้าเข้าใกล้เกินไปขอรับ”
สามกลุ่ม…
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าพิจารณาตำแหน่งที่จี้ถิงอวี๋ทำสัญลักษณ์ไว้ เขาวงตำแหน่งที่เด็กถูกลักพาตัวไปไว้หมดทุกจุด เห็นได้ชัดว่าเกลียดคนที่ลักพาตัวเด็กเหล่านั้นไปเข้ากระดูกดำ
“จี้ถิงอวี๋กล่าวว่ากลุ่มที่ลักพาตัวเด็กเหิมเกริมขึ้นทุกวัน อยากให้คุณหนูใหญ่เริ่มปราบปรามจากพวกนั้นก่อน ถือเป็นการช่วยชาวบ้านกำจัดภัยขอรับ!” หลูผิงชี้ไปยังตำแหน่งที่โจรเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในแผนที่ “จี้ถิงอวี๋สืบแน่ชัดแล้วว่ามีทั้งหมดสามสิบสามคนขอรับ ทว่า ยังไม่รวมคนที่พาเด็กไปยังเมืองหลวงขอรับ”
“ตรงนี้มีสิบสองคนขอรับ!” หลูผิงชี้ไปยังกลุ่มโจรอีกตำแหน่งในแผนที่ จากนั้นย้ายไปยังกลุ่มที่สาม “ตรงนี้มียี่สิบหกคน ทว่า ยังมีคนมาเพิ่มเรื่อยๆ ขอรับ!”
จำนวนคนไม่มากนัก หากลงมือจัดการคงไม่ยากสักเท่าใด
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากลุงผิงแล้ว ไปพักผ่อนเถิด! พรุ่งนี้ข้าจะไปดูชาวบ้านที่ค่ายทหารว่าฝึกซ้อมกันเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมใช้งานจริงแล้วหรือไม่”
“ขอรับ!” หลูผิงเห็นรอยคล้ำใต้ตาของไป๋ชิงเหยียน จึงเอ่ยเสียงแผ่วเบา “คุณหนูใหญ่พักผ่อนบ้างเถิดขอรับ คุณหนูสี่ที่แข็งแรงและร่าเริงเพียงนั้นกลับมายังทนไม่ไหว นับประสาอันใดกับคุณหนูใหญ่ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงขอรับ!”
“ลุงผิงไม่ต้องห่วง ข้ารู้ขอบเขตดี ลุงผิงไปพักเถิด” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มให้หลูผิง
เมื่อหลูผิงจากไป ชุนเถาจึงโน้มน้าวไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ คราวนี้นอนพักอย่างสบายใจเถิดเจ้าค่ะ”
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนเก็บแผนที่หนังแกะที่จี้ถิงอวี๋มอบให้ จากนั้นลุกขึ้นยืนเดินกลับเขาไปในห้อง
ชุนเถาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนล้มตัวลงนอนแล้วจึงถอยออกมาจากฉากกั้นอย่างเงียบเชียบ
ไป๋ชิงเหยียนเอนกายหลับตาแล้วก็นึกถึงแววตาลึกซึ้งของเซียวหรงเหยี่ยนที่มองมาที่นาง นึกถึงเสียงแหบพร่าที่เอ่ยเรียกนางว่าอาเป่า
หญิงสาวพลิกตัว ซ่อนใบหน้าไว้ในผ้าห่มผืนบางครึ่งหน้า เม้มปากเล็กน้อย ฝ่ามือและร่างกายชื้นไปด้วยเหงื่อเล็กน้อย
หญิงสาวไม่เคยคิดเลยว่านางไม่เพียงไม่รู้สึกโกรธที่เซียวหรงเหยี่ยนบุกเข้ามาในห้องนอนและจูบนาง ทว่า กลับรู้สึกดีที่ได้เจอหน้าชายหนุ่ม
ไม่เจอกันหลายวัน ไป๋ชิงเหยียนก็คิดถึงเซียวหรงเหยี่ยนอยู่เหมือนกัน ทว่า นางมีเรื่องต้องทำมากมายจึงไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนี้
ร่างกายของไป๋ชิงเหยียนอ่อนล้าจนถึงขีดสุด ทว่า สมองกลับคิดไม่หยุด กว่าจะผล็อยหลับไปท้องฟ้าก็เกือบสว่างแล้ว
ถงหมัวมัวตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง นางยืนฟังความเคลื่อนไหวของไป๋ชิงเหยียนอยู่หน้าประตูนานสองนานก็ยังไม่ได้ยินเสียงใดๆ นางจึงสั่งให้บ่าวรับใช้ทำงานอย่างเบามือ รอให้คุณหนูใหญ่ตื่นก่อนแล้วค่อยทำความสะอาดลานหญ้า