ตอนที่ 491 เรื่องดีเช่นนี้ควรทำ
องค์รัชทายาทกวาดสายตามองโจรป่าซึ่งเอาแต่คุกเข่าก้มหน้าอยู่บนพื้น เอ่ยถาม “ตระกูลหวังสั่งให้เจ้าไปลักพาตัวเด็กอย่างนั้นหรือ”
คนผู้นั้นโขกศีรษะลงบนพื้นหลายครั้งติด เอ่ยตอบเสียงสั่นระริก “พ่ะย่ะค่ะ!”
“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเด็กเหล่านั้นถูกส่งตัวไปยังจวนเหลียงอ๋อง” องค์รัชทายาทถามต่อ
“กระหม่อม…กระหม่อมเคยจับเด็กขอทานไปส่งให้จวนเหลียงอ๋องพร้อมกับผู้ดูแลหวังพ่ะย่ะค่ะ ผู้ดูแลหวังกล่าวว่าคนที่มารับตัวเด็กไปคือผู้ดูแลของจวนเหลียงอ๋อง เขารังเกียจเด็กขอทาน หาว่าทั้งผอมทั้งสกปรกจึงไม่รับไว้ ต่อมากระหม่อมและบรรดาสหายของกระหม่อมจึงไปลักพาตัวเด็กที่หมู่บ้านนอกเมืองหลวงไปให้จวนเหลียงอ๋องแทน ผู้ดูแลหวังคิดว่าลงมือแถวเมืองหลวงเป็นที่สะดุดตาเกินไปจึงให้พวกเขาแสร้งปลอมตัวเป็นโจรป่าไปดักซุ่มลักพาตัวเด็กอยู่ที่ซั่วหยางแทน ทว่า กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ ว่าเหลียงอ๋องนำเด็กเหล่านั้นไปทำสิ่งใด องค์รัชทายาทได้โปรดเมตตาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสารภาพทุกอย่างหมดแล้ว โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” โจรป่าก้มศีรษะแนบพื้น
องค์รัชทายาทเงยหน้าขึ้น ส่งสัญญาณให้องครักษ์จวนองค์รัชทายาทจับกุมตัวโจรผู้นั้นไปขัง “ขังไว้ให้ดี!”
“ฟางเหล่ามีความคิดเห็นเช่นไร” องค์รัชทายาทส่งคำสารภาพไปให้ฟางเหล่า
“บัดนี้มีทั้งพยานบุคคลและหลักฐานซึ่งอยู่ในจวนเหลียงอ๋อง หากเขาใช้เด็กปรุงยาวิเศษจริงๆ ย่อมต้องทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้แน่พ่ะย่ะค่ะ” ฟางเหล่าก้มมองคำสารภาพในมือ กล่าวออกมายิ้มๆ “กระหม่อมคิดว่าเราต้องเปิดโปงเรื่องนี้ ทว่า พระองค์ห้ามออกหน้าเองพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทมองไปทางฟางเหล่าด้วยสีหน้าจริงจัง “ฟางเหล่าขยายความสิ!”
ฟางเหล่าเหลือบมองไป๋จิ่นจื้อแวบหนึ่ง เห็นสาวน้อยกำลังก้มปัดเศษฝุ่นที่ติดตามเครื่องแต่งกายออก เขาจึงหันไปทางองค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทรับรู้ หันไปมองไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นเอ่ยสั่งเฉวียนอวี๋ “เฉวียนอวี๋สั่งให้คนเตรียมน้ำอุ่นให้เกาอี้จวิ้นจู่อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายด้วย”
“มิต้องลำบากเพคะ!” ไป๋จิ่นจื้อกำหมัดคารวะองค์รัชทายาท “จิ่นจื้อนำคนมามอบให้เสด็จพี่องค์รัชทายาทเรียบร้อยแล้ว จิ่นจื้อไม่ถนัดเรื่องการคิดวางแผน ไม่ขออยู่จวนองค์รัชทายาทต่อแล้วเพคะ จิ่นจื้อขอตัวกลับไปเล่นกับเสี่ยวชีที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วก่อนนะเพคะ!”
“ได้…” องค์รัชทายาทพยักหน้า รู้สึกชอบนิสัยรักอิสระของไป๋จิ่นจื้อมาก “ไปเถิด!”
มองส่งไป๋จิ่นจื้อเดินออกไปจากจวน ฟางเหล่าเดินตามองค์รัชทายาทเข้าไปในห้องตำราพลางกล่าวขึ้น “กระหม่อมคิดว่าองค์ชายไม่ควรเปิดโปงเรื่องนี้เองพ่ะย่ะค่ะ”
“อธิบายอย่างละเอียดสิ” องค์รัชทายาทหันไปมองฟางเหล่า
ฟางเหล่าลูบเคราของตัวเอง เอ่ยเสียงเบาหวิว “องค์ชายทรงลองคิดดูนะพ่ะย่ะค่ะ เมื่อวานองค์ชายอยากส่งคนลอบเข้าไปสืบสถานการณ์ในจวนเหลียงอ๋อง ทว่า พบว่ามีองครักษ์ลับคุ้มกันจวนอยู่มากมาย จากนั้นลองคิดถึงเรื่องที่เหลียงอ๋องล้มเหลวกลับมาจากเยี่ยนว่อ ฝ่าบาททรงไม่ได้ลงโทษเหลียงอ๋องสักนิด กลับโปรดปรานเขามากกว่าเดิม ลองเชื่อมสิ่งเหล่านี้เข้ากับเรื่องที่เหลียงอ๋องใช้เด็กปรุงยาสิพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทชะงักฝีเท้า สีหน้าตกตะลึง “ฟางเหล่าหมายความว่าเสด็จพ่ออาจรับรู้เรื่องที่เหลียงอ๋องลอบปรุงยา เป็นไปได้ว่าเหลียงอ๋องกำลังปรุงยาให้เสด็จพ่ออย่างนั้นหรือ!”
ฟางเหล่าพยักหน้า “ดังนั้นองค์ชายจะทรงเปิดโปงเรื่องนี้เองไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ! มิเช่นนั้นฝ่าบาทอาจพิโรธองค์ชายได้ เดิมทีกระหม่อมคิดว่าขอเพียงขัดขวางการแต่งงานของเหลียงอ๋องและหนานตูจวิ้นจู่ได้ แม้จะล่วงเกินฝ่าบาทสักหน่อยก็มิเป็นอันใดมาก ทว่า บัดนี้เกาอี้จวิ้นจู่นำทั้งพยานบุคคลและคำสารภาพมาให้เรา กระหม่อมลองไตร่ตรองดูแล้ว องค์ชายไม่จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงกริ้วในตอนนี้พ่ะย่ะค่ะ!”
“ฟางเหล่ามีแผนแล้วอย่างนั้นหรือ” องค์รัชทายาทรอการชี้แนะจากฟางเหล่าอย่างจริงจัง
“ในเมื่อมีทั้งพยานบุคคลและคำสารภาพ เช่นนั้นก็ควรหาเจ้าทุกข์ไปตีกลองเติงเหวินร้องทุกข์พ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงองค์ชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่จนทุกคนรับรู้มากเท่าใดยิ่งดีพ่ะย่ะค่ะ” ฟางเหล่ากล่าวยิ้มๆ “ไม่ว่าเรื่องนี้จะมอบให้ศาลต้าหลี่หรือสำนักตรวจการจัดการก็ไม่ดีเท่ากับให้เจ้าทุกข์ไปตีกลองเติงเหวินร้องทุกข์จนทุกคนในเมืองหลวงรับรู้พ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงให้ชาวบ้านแคว้นต้าจิ้นรับรู้ว่าเหลียงอ๋องโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน เหลียงอ๋องก็จะไม่มีวาสนากับบัลลังก์นั่นอีกเช่นเดียวกับซิ่นอ๋อง…”
องค์รัชทายาทหรี่ตาแคบ นึกถึงตอนที่ซิ่นอ๋องนำศพของเจิ้นกั๋วอ๋องกลับมาเมืองหลวงแล้วแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บ พลอดรักกับนางโลมอยู่ในรถม้า นึกถึงภาพที่ชาวบ้านเกลียดชังซิ่นอ๋องเข้ากระดูกดำ องค์รัชทายาทจึงพยักหน้า “ฟางเหล่ากล่าวถูกต้องแล้ว”
เมื่อเห็นองค์รัชทายาทพยักหน้า ฟางเหล่าจึงโค้งคำนับองค์รัชทายาท “หากองค์ชายทรงอนุญาต กระหม่อมจะส่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
ครอบครัวที่เด็กถูกลักพาตัวไปคงร้อนใจมาก หากรู้ว่าเด็กอยู่ในจวนของเหลียงอ๋อง ต่อให้ต้องตีกลองเติงเหวินแล้วถูกโบยจนตาย พวกเขาก็คงอยากช่วยเด็กออกมาให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ว่าเหลียงอ๋องจะใช้วิธีใดในการใช้เด็กปรุงยาวิเศษ ครอบครัวใดจะไม่ร้อนใจบ้าง
“ฝากฟางเหล่าด้วย” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ
ฟางเหล่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยต่อ “องค์ชาย ยังมีอีกเรื่องพ่ะย่ะค่ะ…”
“ฟางเหล่าว่ามาได้เลย” องค์รัชทายาทยิ่งรู้สึกเคารพฟางเหล่ามากกว่าเดิม
“เมื่อครู่เกาอี้จวิ้นจู่กล่าวว่าเดิมทีองค์หญิงเจิ้นกั๋วอยากเสนอให้องค์ชายส่งกองทัพฝึกใหม่ไปยังหนานเจียง ให้กองทัพไป๋ช่วยฝึกฝนให้ กระหม่อมจึงนึกถึงเรื่องที่ทูตของต้าเยี่ยนเข้ามาในต้าจิ้น ฝ่าบาททรงมีพระประสงค์ส่งแม่ทัพหลิวหงซึ่งรบชนะกลับมาจากเป่ยเจียงไปยังหนานเยี่ยนเพื่อข่มขวัญซีเหลียงขึ้นมาได้พ่ะย่ะค่ะ” ฟางเหล่าก้าวเข้าไปใกล้องค์รัชทายาทอีกก้าวหนึ่ง “กระหม่อมคิดว่าในเมื่อฝ่าบาทและองค์ชายเพียงแค่ต้องการข่มขวัญซีเหลียง เหตุใดต้องส่งกองกำลังยอดฝีมือไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทยืนฟังเสียงจักจั่นร้องอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยขึ้น “ฟางเหล่าหมายความว่าให้ส่งกองทัพซึ่งเพิ่งรับทหารเข้ามาใหม่ไม่นานมานี้ไปยังหนานเจียงแทนอย่างนั้นหรือ”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ฟางเหล่ายิ้ม จากนั้นไม่รีบใส่ร้ายไป๋ชิงเหยียนต่อหน้าองค์รัชทายาท “องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ยอมทูลเรื่องนี้ให้องค์ชายรับรู้ คงเพราะกลัวว่าหากนางเป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ผู้อื่นจะติฉินนินทาแล้วองค์ชายจะไม่ทรงปกป้องนางพ่ะย่ะค่ะ! ทว่า นางคงลืมไปแล้วว่าตอนที่บัณฑิตสำนักกั๋วจื่อเจียนมาประท้วง องค์ชายเป็นคนออกโรงปกป้องนาง นางยิ่งไม่เคยรับรู้ว่าองค์ชายทรงตำหนิกระหม่อมอยู่หลายคราเพื่อปกป้องนาง”
องค์รัชทายาทขมวดคิ้วแน่น เม้มปากไม่กล่าวสิ่งใดออกมา
เดิมทีองค์รัชทายาทอยากทูลขอให้ฮ่องเต้ส่งไป๋ชิงเหยียนไปยังหนานเจียง ต่อมาคิดได้ว่าที่หนานเจียงคือฐานทัพของกองทัพไป๋ องค์รัชทายาทจึงเกิดความลังเล
“กองทัพต้าจิ้นยอดฝีมือควรอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อปกป้องคุ้มครองฝ่าบาทและองค์ชาย กองทัพใหม่ยังไม่ได้รับการฝึกฝน กองทัพไป๋เก่งกาจเรื่องการฝึกฝนทหารใหม่มาก ให้กองทัพใหม่ไปยังหนานเจียง เป็นการตอบรับข้อเสนอของต้าเยี่ยน ให้ต้าเยี่ยนติดหนี้บุญคุณต้าจิ้น อีกทั้งเป็นการฝึกฝนกองทัพใหม่ด้วย เรื่องดีเช่นนี้เหตุใดจะไม่ทำพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทเห็นด้วยกับคำกล่าวของฟางเหล่าที่ว่าให้กองทัพยอดฝีมืออยู่ที่เมืองหลวงเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของเสด็จพ่อและเขา
องค์รัชทายาทพยักหน้าพลางกล่าวขึ้น “ต้าเยี่ยนเป็นคนจัดหาเสบียงอาหารให้กองกำลังต้าจิ้นที่เดินทางไปยังหนานเยี่ยน ให้กองทัพใหม่ได้ไปฝึกฝนก็ดีเหมือนกัน พรุ่งนี้เราจะเข้าวังไปทูลเสด็จพ่อ พระองค์ต้องทรงเห็นด้วยแน่”
ฟางเหล่าพยักหน้ายิ้มๆ
ไป๋จิ่นจื้อกลับไปที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่างกะทันหันทำให้ฮูหยินสองตกใจมาก นางคิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่ซั่วหยาง รออยู่นานไม่เห็นไป๋จิ่นจื้อมาหานาง นางจึงรีบไปมุ่งหน้าไปหาไป๋จิ่นจื้อที่จวนด้วยความร้อนใจ