สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 514 ก้มหน้าสำนึกผิด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 514 ก้มหน้าสำนึกผิด

ไป๋ชิงผิงก้มหน้าลง ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทีนอบน้อมเช่นเดิม ทว่า เขาลอบกำหมัดแน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าไม่ได้ตามไปปราบโจรบนภูเขาด้วยจึงไม่รู้รายละเอียดขอรับ”

“เจ้าไม่รู้ ทว่า เสิ่นเยี่ยนฉงบุตรของท่านเจ้าเมืองที่ขลุกอยู่กับเจ้าทั้งวันต้องรู้สิ!”

ไป๋ฉีอวิ๋นเริ่มไม่พอใจกับท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของไป๋ชิงผิง

“เจ้าไม่รู้จักถามมันบ้างหรืออย่างไร นั่นมันเงินสี่แสนกว่าตำลึงเลยนะ!”

“หากพบเงินจำนวนนั้นจริงๆ หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่นำไปใช้สำหรับฝึกทหารปราบโจร นางก็ต้องนำไปใช้บำรุงศาลบรรพชน แจกจ่ายที่นาให้คนในตระกูลตามที่เคยกล่าวไว้ ตอนนี้ท่านลุงใหญ่ถูกขับออกจากตระกูลไป๋แล้ว ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงอยากรู้เรื่องนี้นักขอรับ”

ไป๋ชิงผิงรังเกียจการกระทำของไป๋ฉีอวิ๋นเป็นที่สุด แม้ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า ทว่า น้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม

ไป๋ฉีอวิ๋นถูกตอกกลับจนไปต่อไม่ถูก “เจ้ากล่าวกับลุงใหญ่ของเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

ปู่ของไป๋ชิงผิงรีบโบกมือให้ไป๋ฉีอวิ๋นหยุดกล่าว หันไปกล่าวกับไป๋ชิงผิงแทน

“เงินจำนวนนี้ต้องมอบให้บรรพบุรุษตระกูลไป๋อยู่แล้ว ทว่า ท่านลุงใหญ่ของเจ้าเป็นคนโดนปล้นไป เขาจึงกังวลเรื่องนี้ รู้สึกละอายใจต่อตระกูลจึงถามไถ่ดู มันไม่ใช่เรื่องผิดอันใด เหตุใดเจ้าถึงต้องกล่าวกับเขาถึงเพียงนี้กัน”

“เขาคงติดตามรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋วจนปีกกล้าขาแข็งแล้วกระมัง!”

ไป๋ฉีอวิ๋นเหล่มองไป๋ชิงผิงอย่างไม่สบอารมณ์

ไป๋ชิงผิงไม่ได้โมโห ลุกขึ้นโค้งกายคำนับไป๋ฉีอวิ๋น

“พี่หญิงเสียสละไปออกรบจนได้บรรดาศักดิ์องค์หญิงเจิ้นกั๋วมา นางใจกว้าง มีเมตตา ไม่คิดแค้นเรื่องที่ตระกูลบรรพบุรุษเคยรังแกตระกูลไป๋แห่งเมืองหลวงที่มีแต่สตรีเช่นนาง ยอมให้หลานได้ติดตามรับใช้นาง ปกป้องตระกูลบรรพบุรุษไป๋คนอื่นๆ เอาไว้ ท่านปู่น่าจะรู้จักพอและรู้สึกละอายใจบ้าง ไม่ควรอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเช่นนี้ขอรับ!”

“บังอาจ!” ปู่ของไป๋ชิงผิงโมโหจนหน้าเขียว “ผู้ไม่มีความละอายใจไม่ใช่มนุษย์ เจ้ากำลังด่าว่าปู่ของเจ้าไม่ใช่คนอย่างนั้นหรือ!”

“หลานมิกล้าขอรับ หลานแค่รู้สึกว่าท่านปู่ชรามากแล้ว บัดนี้ท่านลุงใหญ่ถูกขับไล่ออกจากตระกูล ทว่า ท่านพ่อของข้ายังเป็นประมุขของตระกูลอยู่ ข้าแค่อยากให้ท่านปู่นึกถึงหน้าของท่านพ่อบ้าง อย่าให้ผู้อื่นคิดว่าตระกูลของประมุขไป๋มีแต่คนเนรคุณขอรับ!”

กล่าวจบ ไป๋ชิงผิงโค้งกายคำนับท่านปู่แล้วเดินจากไปทันที

ไป๋ฉีอวิ๋นโมโหจนหน้าอกสั่น “ท่านพ่อ! ท่านดูไป๋ชิงผิงสิขอรับ มันไม่เห็นท่านในสายตาด้วยซ้ำ…”

ไป๋ชิงผิงที่กำลังก้าวเท้าออกจากประตูชะงักฝีเท้าทันที เขาหันกลับไปมองไป๋ฉีอวิ๋นแล้วกล่าวขึ้น

“ข้าขอเตือนท่านลุงใหญ่ว่าอย่าได้คิดละโมบอีกเลยขอรับ องค์หญิงเจิ้นกั๋วปล่อยท่านลุงใหญ่ไปครั้งหนึ่งเพราะเห็นแก่หน้าท่านพ่อของข้าซึ่งเป็นประมุขของตระกูล ทว่า หากท่านลุงใหญ่ยังไม่หยุด องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ใช่คนใจอ่อนนะขอรับ”

กล่าวจบ ไป๋ชิงผิงเดินออกจากเรือนไปทันที

“ท่านพ่อ ท่านดูสิขอรับว่าชิงผิงกลายเป็นเช่นไรไปแล้ว!”

ไป๋ฉีอวิ๋นผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชี้ไปทางไป๋ชิงผิงพลางโวยวายกับบิดาของตนเอง

ไป๋ฉีอวิ๋นเอาแต่คิดถึงเงินสี่แสนตำลึงเพราะเงินจำนวนนั้นมีไว้ให้บรรพบุรุษตระกูลไป๋ ในเมื่อบัดนี้ไป๋ฉีเหอน้องชายของเขาคือประมุขของตระกูล หากหาเงินจำนวนนั้นเจอย่อมตกเป็นของตระกูลบรรพบุรุษ ถึงเวลานั้นเขาจะให้ไป๋ฉีเหอแบ่งเงินจำนวนนั้นให้เขานิดหนึ่ง ถือเป็นค่าตอบแทนที่เขาเดินทางไปขอเงินจำนวนนี้มาจากเมืองหลวง

ทว่า เมื่อเห็นท่าทีของไป๋ชิงผิงในตอนนี้ ต่อให้หาเงินจำนวนนั้นกลับมาได้ เขาก็คงบอกให้ไป๋ฉีเหอคืนเงินเหล่านั้นให้ไป๋ชิงเหยียนไปใช้สำหรับฝึกทหารแน่นอน

“พอเถิด เจ้ากลับไปได้แล้ว!” ปู่ของไป๋ชิงผิงพยุงไม้เท้าลุกขึ้นยืน เอ่ยกับไป๋ฉีอวิ๋น

“ต่อไปเลิกคิดถึงเงินจำนวนนั้นได้แล้ว”

“ท่านพ่อ ท่านไม่สนข้าแล้วหรือขอรับ” ไป๋ฉีอวิ๋นแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา

ตั้งแต่ที่ไป๋ฉีเหอน้องชายของเขากลายเป็นประมุขตระกูลไป๋ ไป๋ฉีอวิ๋นก็เอาแต่กังวลว่าตนจะถูกบิดาทอดทิ้ง เพราะไป๋ฉีเหอก็เป็นบุตรชายของบิดาเช่นเดียวกัน

ไม่ได้รับคำตอบจากบิดา ไป๋ฉีอวิ๋นมองตามแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าถอดสี รู้สึกหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก

ยามซวี[1]ของวันที่ยี่สิบแปด เดือนเจ็ด ประตูข้างของจวนหลี่เม่าถูกคนเคาะ หญิงชราเฝ้าประตูเดินไปเปิดประตูออก เมื่อเห็นกะโหลกของคนเจ็ดคนวางอยู่ที่บันไดหินก็กรีดร้องอย่างตกใจ จากนั้นเป็นลมหมดสติไปทันที

หญิงชราอีกคนได้ยินเสียงจึงเดินออกมาดู จากนั้นล้มลงบนพื้นอย่างตกใจเช่นเดียวกัน หญิงชรารีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งอย่างล้มลุกคลุกคลานไปยังเรือนใน

หลี่เม่ากำลังเขียนพู่กันอยู่ในห้องหนังสือ ที่ปรึกษาชุดสีเขียวและที่ปรึกษาชุดขาวรีบมาขอเข้าพบหลี่เม่าที่เรือน

หลี่เม่าเขียนอักษรตัวสุดท้ายเสร็จ วางพู่กันลง ใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ดมือที่เปื้อนน้ำหมึกจนสะอาดพลางชื่นชมตัวอกษรของตัวเอง “เชิญทั้งสองคนเข้ามา”

เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาด้านใน ที่ปรึกษาชุดเขียวกล่าวขึ้นทันที

“เกิดเรื่องแล้วขอรับท่านมหาเสนบดี! ศีรษะของคนที่เราส่งไปยังซั่วหยางถูกส่งกลับมาขอรับ!”

หลี่เม่าตะลึง เงยหน้ามองที่ปรึกษาทั้งสอง ใบหน้าถอดสีทันที จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหตุการณ์ที่บุตรชายคนเล็กของเขาถูกตีจนขาหักขึ้นมาได้

“ไป๋ชิงเหยียนต้องรู้ตัวแล้วอย่างแน่นอน”

หลี่เม่าขบกรามแน่น เขวี้ยงผ้าขนหนูลงบนโต๊ะ ขมวดคิ้วแน่น

“กำชับแล้วว่าให้ระวังตัวให้ดี เหตุใดถึงถูกจับได้อีก! พวกมันกินสิ่งใดเป็นอาหารกันนะ!”

โชคดีที่ไป๋ชิงเหยียนเพียงแค่ส่งศีรษะของคนเหล่านั้นมาเตือนเขา ไม่ได้ส่งจดหมายไปยังจวนของรัชทายาท

คิดได้ดังนี้ ลำคอของหลี่เม่าร้อนผ่าว รีบตะโกนลั่น

“เร็ว รีบส่งคนไปจับตาดูหน้าจวนของรัชทายาทไว้ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”

หากครั้งนี้ทำให้ไป๋ชิงเหยียนโกรธขึ้นมาจริงๆ หญิงสาวไม่อยากให้ผู้อื่นกุมความลับของตัวเองจึงตั้งใจกำจัดเขาให้สิ้นซากล่ะ!

ครั้งนี้หลี่เม่าบุ่มบ่ามเกินไป เขาไม่เคยชินกับการถูกผู้อื่นกุมความลับ ทว่า เคยชินกับการควบคุมผู้อื่นมากกว่า เหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของเขาทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชนักติดหลังตลอดเวลาจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ

ดังนั้นเขาจึงส่งคนไปยังซั่วหยาง ให้คนของตัวเองไปใกล้ชิดกับตระกูลบรรพบุรุษไป๋ หวังสืบหาความลับเอามาใช้ควบคุมไป๋ชิงเหยียน

“คนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ที่ถูกขับไล่ออกจากจวนอาจเป็นคนบอกองค์หญิงเจิ้นกั๋ว”

ที่ปรึกษาชุดขาวกล่าวอย่างใช้ความคิด

“หากตระกูลไป๋สามัคคีกันเช่นนั้นจริง ตอนนั้นคงไม่มีเรื่องยึดครองจวนบรรพบุรุษไป๋เกิดขึ้นหรอก”

ที่ปรึกษาชุดเขียวส่ายหน้า

“ส่งคนไปก้มหัวสารสำนึกผิดกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่ซั่วหยางเถิด!”

ที่ปรึกษาชุดขาวกล่าวอย่างตัดสินใจได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ไป๋ชิงเหยียนหักขาของหลี่หมิงถังบุตรชายคนเล็กของหลี่เม่า เขายังรู้สึกเสียวสันหลังอยู่เลย

ที่ปรึกษาชุดขาวรู้สึกว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่คนใจดี หากล่วงเกินนางเข้า ต่อให้ครั้งนี้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่สังหารหลี่เม่า ทว่า อย่างน้อยก็คงถลกหนังเขาออกมาชั้นหนึ่งแน่ๆ

หากไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าคนของพวกเขาสมคบคิดกับบรรพบุรุษตระกูลไป๋เพื่อทำเรื่องเลวร้าย ไม่แน่ว่าไป๋ชิงเหยียนอาจสังหารหลี่เม่าให้สิ้นเรื่องเลยก็ได้

[1]ยามซวี เวลาระหว่าง 19.00-21.00 นาฬิกา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท