สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 539 สตรีในชุดเกราะเงิน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 539 สตรีในชุดเกราะเงิน

พลทหารม้าหนึ่งพันนายยิงธนูขึ้นไปบนท้องฟ้า ลูกศรนับพันพุ่งทะยานผ่านก้อนเมฆในยามค่ำคืนจากนั้นหวนกลับตกลงใส่หนานหรงที่กำลังถือโล่เหล็กบังอยู่อย่างรวดเร็ว แรงปะทะของลูกธนูรุนแรงจนทหารที่ถือโล่อยู่เกือบล้มลงบนพื้น

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของกองทัพเติงโจวก็คือพลทหารม้ายิงธนู

การขี่ม้ายิงธนูไม่ต้องการความแม่นยำ ทว่า ต้องการความรวดเร็ว ยิงธนูนับไม่ถ้วนออกไปจนศัตรูไม่กล้าเข้าใกล้ กระทั่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามหมดแรงและหมดกำลังใจในการต่อสู้

ไป๋ชิงเหยียนและต่งฉางหลานรู้ดีว่าครั้งนี้พวกนางไม่ได้มาเพื่อสู้รบ พวกนางมาเพียงเพื่อช่วยองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนกลับไปยังเติงโจวเท่านั้น ดังนั้นพวกนางจึงเลือกพาพลทหารม้ายอดฝีมือของกองทัพเติงโจวมา เมื่อช่วยคนได้แล้วจะได้หนีกลับทันที

เซียวหรงเหยี่ยนอุ้มองค์หญิงหมิงเฉิงฝ่าวงล้อมของศัตรูออกไปโดยการคุ้มกันจากองครักษ์ องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนถือโอกาสตอนที่ลูกธนูลอยเข้ามาแล้วทหารหนานหรงวิ่งกลับไปตั้งโล่กำบังบุกฝ่าแหวกทางหนีให้เซียวหรงเหยี่ยนอย่างไม่คิดชีวิต

เสียงดาบกระทบกันดังสนั่น เปลวเพลิงลุกโหมทั้งสี่ทิศ นางกำนัลตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าขาวซีด เหงื่อไหลออกมาราวกับน้ำ นางกัดฟันแน่น ข่มกลั้นความรู้สึกที่อยากเปลี่ยนตำแหน่งกับหมัวมัวซึ่งอยู่ข้างกาย น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย ทว่า ไม่กล้าเปล่งเสียงร้องออกมา นางกดบาดแผลที่ลำคอขององค์หญิงหมิงเฉิงไว้แน่น ก้มหน้าต่ำเดินตามเซียวหรงเหยี่ยนไปติดๆ ลูกธนูลอยเฉียดใบหน้าของนาง ทว่า นางยิ่งไม่กล้าเปล่งเสียงร้อง กลัวว่าหากทำเช่นนั้น กลุ่มของเซียวหรงเหยี่ยนจะทิ้งนางไว้ที่นี่

เมื่อกองทัพหนานหรงเห็นกำลังเสริมมาถึง พวกเขาจึงไม่อยากกระหายสงครามต่ออีก ต่างพากันวิ่งกลับไปหาแม่ทัพหน้ากากผีของพวกเขา องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนเห็นดังนั้นจึงรีบพาเซียวหรงเหยี่ยนฝ่าออกไปจากวงล้อม

ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าไปด้านหน้าตามลำพัง หญิงสาวประสานสายตากับเซียวหรงเหยี่ยนที่วิ่งสวนมาทางนางพอดี เมื่อเห็นร่างโชกเลือดของเซียวหรงเหยี่ยนอุ้มองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนในชุดสีแดงไว้ในอ้อมกอดก็รู้สึกประหลาดใจ เหตุใดเซียวหรงเหยี่ยนจึงมาอยู่ที่นี่ได้!

เซียวหรงเหยี่ยนเสี่ยงอันตรายมาช่วยองค์หญิงหมิงเฉิงของต้าเยี่ยนเช่นนี้ เขาไม่กลัวฐานะถูกเปิดโปงอย่างนั้นหรือ

หญิงสาวยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดต่อก็ได้ยินเยว่สือที่คุ้มกันอยู่ด้านหลังของเซียวหรงเหยี่ยนตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น “คุณหนูใหญ่ไป๋!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองต่งฉางหลานแวบหนึ่ง ต่งฉางหลานควบม้าไปด้านหน้าอย่างเข้าใจความหมาย ชายหนุ่มขี่ม้าไปนำทัพอยู่ด้านหน้าสุด ใช้ธนูยิงสกัดหนานหรง ไป๋ชิงเหยียนนำองครักษ์ไป๋ขี่ม้าเร็วเข้าไปหากลุ่มของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นลงจากหลังม้า

เมื่อเห็นองค์หญิงต้าเยี่ยนที่หายใจอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเซียวหรงเหยี่ยน ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปยังร่างของชายหนุ่มซึ่งใบหน้าและลำตัวเต็มไปด้วยเลือด

นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋ชิงเหยียนเห็นเซียวหรงเหยี่ยนในสภาพสะบักสะบอมเช่นนี้

ลำคอของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว น้ำเสียงแหบพร่า “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางต่งฉางหลานที่นำทัพอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนแวบหนึ่ง หญิงสาวไม่อยากให้ฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนถูกเปิดโปงเพราะองค์หญิงต้าเยี่ยนจึงเอื้อมมือไปรับร่างขององค์หญิงต้าเยี่ยนมาแทน “มอบองค์หญิงต้าเยี่ยนให้ข้า ท่านรีบพาคนของท่านจากไปเสีย!”

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ปฏิเสธมือที่ยื่นมารับร่างขององค์หญิงหมิงเฉิงของไป๋ชิงเหยียน เพียงแค่ส่ายหน้าน้อยๆ “ข้าไปไม่ได้ ข้าต้องเห็นว่าหมิงเฉิงปลอดภัย!”

ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่เอื้อมไปรับตัวองค์หญิงต้าเยี่ยน ดวงตาลึกล้ำมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนนิ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “หากท่านไม่กลัวที่จะต้องอธิบายเรื่องนี้กับองค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นและแคว้นเว่ยก็ตามใจท่านเถิด ทว่า ข้าต้องพาองค์หญิงหมิงเฉิงกลับไปยังเติงโจว ท่านและข้าทำสัญญากันไว้แล้ว ต่อให้ท่านคือผู้มีพระคุณต่อตระกูลไป๋ ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความปลอดภัยของแคว้น ข้าจะไม่นำความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้องเด็ดขาด!”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนหันไปสั่งองครักษ์ตระกูลไป๋ “คุ้มกันพวกเขากลับไปยังเติงโจว รีบตามหมอมารักษาอาการขององค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนโดยเร็วที่สุด!”

บาดแผลที่เลือดออกเยอะเช่นนี้ต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด!

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็ก้าวขึ้นไปบนหลังม้า “ระหว่างทางกลับไปยังเติงโจว เซียวเซียนเซิงคิดหาคำตอบให้องค์รัชทายาทด้วยนะเจ้าคะว่าเหตุใดท่านจึงมาปรากฏตัวที่นี่ แน่นอนว่าเซียวเซียนเซิงอย่าได้คิดหนีเป็นอันขาด ต้าเยี่ยนขอความช่วยเหลือจากต้าจิ้น แคว้นต้าจิ้นไม่มีทางปล่อยให้ต้าเว่ยนำตัวองค์หญิงของต้าเยี่ยนไปแน่ หรือหากเซียวเซียนเซิงมั่นใจว่าองครักษ์ที่บาดเจ็บหนักของท่านจะสามารถพาองค์หญิงไปได้ก็ลองดูเจ้าค่ะ”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนควบม้าไปด้านหน้าทันที

“นายท่าน!” เยว่สือหายใจหอบหนัก หันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียนที่บุกเข้าไปร่วมสู้รบแวบหนึ่ง จากนั้นหันกลับไปหาเจ้านายของตน “นายท่าน พวกเราจะอยู่ต่อหรือจากไปขอรับ!”

เซียวหรงเหยี่ยนค่อยๆ วางองค์หญิงหมิงเฉิงลง มองดูสีหน้าที่ย่ำแย่ขององค์หญิงหมิงเฉิงพลางเอ่ยถาม “เจ้ายังทนไหวหรือไม่”

องค์หญิงหมิงเฉิงกระพริบตาเล็กน้อย ภาพตรงหน้าของนางพร่ามัว ทว่า นางรู้ดีว่าต้าจิ้นนำทัพมาช่วยแล้ว พวกเขาไม่มีทางให้เซียวหรงเหยี่ยนนำตัวนางไปเด็ดขาด แทนที่จะให้คนของเซียวหรงเหยี่ยนเสี่ยงชีวิตต่อสู้พานางจากไป ไม่สู้ยอมกลับไปเติงโจวเสียดีกว่า บางทีนางอาจมีทางรอด

ท่ามกลางสติที่เลื่อนลอย องค์หญิงหมิงเฉิงนึกถึงร่างของแม่ทัพสาวในชุดเกราะสีเงินซึ่งถือธนูอยู่ในมือเมื่อครู่ สตรีผู้นั้นคงเป็นไป๋ชิงเหยียนหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิง เสี่ยวไป๋ไซว่ของกองทัพไป๋แน่!

องค์หญิงหมิงเฉิงพยายามเพ่งมองไปยังแผ่นหลังของสตรีนางนั้นด้วยดวงตาที่พร่ามัว นางรู้สึกอิจฉาสตรีของจวนเจิ้นกั๋วกงมาก นางได้นั่งอยู่บนหลังม้า มีความสามารถเก่งกาจไม่แพ้บุรุษ กลายเป็นแม่ทัพหญิงที่ทุกแคว้นต่างหวาดหวั่น ไม่เหมือนนาง…ที่ทำได้เพียงเดินทางมาแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อช่วยแคว้นของตัวเอง

นางก็อยากสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเซี่ยสวินเช่นเดียวกัน

องค์หญิงหมิงเฉิงนึกถึงเซี่ยสวิน น้ำตาของนางไหลพราก นางกำถุงเงินในมือแน่น เบื้องหน้าคือใบหน้าของเซี่ยสวินที่กำลังส่งยิ้มให้นาง ริมฝีปากขององค์หญิงหมิงเฉิงคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

หากครั้งนี้นางไม่มีโอกาสรอด นางหวังว่าเซี่ยสวินจะลืมนางให้ได้ดั่งที่นางเคยขอไว้ก่อนที่จะเดินทางมาแต่งงาน!

“ช่วยคนได้แล้ว! ถอย!” ไป๋ชิงเหยียนตะโกนบอกต่งฉางหลาน

ต่งฉางหลานรับคำ พาพลทหารม้าอ้อมไปครึ่งทาง ยิงธนูไปยังทหารหนานหรงอีกครั้งพลางมุ่งหน้ากลับไปยังทิศทางเดิม

เซียวหรงเหยี่ยนอุ้มองค์หญิงหมิงเฉิงขึ้นไปบนม้าขององครักษ์ไป๋ มือหนึ่งกุมบังเหียนม้า มือหนึ่งกดบาดแผลขององค์หญิงหมิงเฉิงแน่น

ต่งฉางหลานควบม้าเข้าไปหยุดอยู่ข้างเซียวหรงเหยี่ยน เมื่อเห็นผู้ที่กอดองค์หญิงหมิงเฉิงไว้คือเซียวหรงเหยี่ยนจึงชะงักไปแวบหนึ่ง ทว่า เมื่อเห็นบาดแผลที่ลำคอขององค์หญิง ต่งฉางหลานไม่กล้ารีรอ รีบเอ่ยสั่งทันที “รีบกลับเมือง!”

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า เร่งความเร็วม้าทะยานไปด้านหน้า

องครักษ์ของตระกูลต่งและตระกูลไป๋รั้งตัวคนของเซียวหรงเหยี่ยนและคนจากขบวนส่งตัวเจ้าสาวของต้าเยี่ยนขึ้นไปบนหลังม้า มุ่งหน้าไปยังเมืองเติงโจว

พวกเขามุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเติงโจวอย่างรวดเร็วท่ามกลางความคุ้มครองของกองทัพเติงโจว

“ท่านแม่ทัพ!” รองแม่ทัพของต่งฉางหลานเอ่ยเรียกชายหนุ่ม ต่งฉางหลานหันกลับไปยื่นมือให้รองแม่ทัพ จากนั้นกระโจนตัวขึ้นไปบนหลังม้า ถอยทัพกลับเมือง

ต่งฉางหลานหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่อยู่รั้งท้ายพลางตะโกนลั่น “พี่หญิง ถอยทัพขอรับ!”

บัดนี้ไม่มีพลธนูของกองทัพเติงโจวคอยยิงสกัดกั้น ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่ากองทัพหรงตี๋จะยิงธนูใส่พวกนางอีก นางจึงตั้งใจจะยื้อเวลาให้กองทัพเติงโจว

แม่ทัพหน้ากากผีแห่งกองทัพหนานหรงโผล่หน้าขึ้นมาจากโล่กำบัง เขาชักดาบเตรียมสั่งให้พลธนูยิงธนูอีกครั้ง ทว่า เขาเห็นร่างของสตรีในชุดเกราะสีเงินซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าแย่งหอกยาวจากทหารหนานหรง จากนั้นแทงหอกไปยังทหารหนานหรงจนล้มตายเกลื่อน…

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท