สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 541 ไม่ได้รับบาดเจ็บ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 541 ไม่ได้รับบาดเจ็บ

หมัวมัวกล่าวพลางร้องไห้ออกมา

หากสิ่งที่หมัวมัวผู้นี้กล่าวมาคือความจริงแสดงว่าคนของหนานหรงซุ่มโจมตีอยู่ที่นั่นนานแล้ว เมื่อขบวนเจ้าสาวมาถึง พวกเขาจึงออกมาล้อมไว้ทุกด้านเช่นนั้น

“ใต้เท้าเผิงซึ่งเป็นผู้นำขบวนมีตำแหน่งใดในต้าเยี่ยน” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ

“ทูลองค์หญิง ใต้เท้าเผิงเคยช่วยชีวิตจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนไว้ พระองค์จึงทรงแต่งตั้งเขาเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของค่ายทหาร ครั้งนี้ใต้เท้าเผิงเป็นผู้นำขบวนเจ้าสาวถือเป็นเกียรติขององค์หญิงของบ่าวมากเพคะ” หมัวมัวผู้นั้นกล่าวต่อ

ไป๋ชิงเหยียนลูบนิ้วไปบนที่วางแขนของเก้าอี้อย่างใช้ความคิด หมัวมัวผู้นี้คงรู้สิ่งใดไม่มาก หากอยากรู้ว่าเหตุใดต้าเยี่ยนจึงเดินทางอ้อมเช่นนั้น ไม่สู้ไปถามเซียวหรงเหยี่ยนดีกว่า

ในเมื่อเซียวหรงเหยี่ยนมาปรากฏตัวที่ชายแดนหนานหรง แสดงว่าชายหนุ่มคงได้รับข่าวบางอย่างถึงได้รีบไปที่นั่น

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองหมัวมัวและนางกำนัลที่คุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น รู้สึกว่าทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องโกหกเพียงแค่รู้เรื่องราวอย่างจำกัดเท่านั้น ไป๋ชิงเหยียนจึงลุกขึ้นยืน

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” หมัวมัวคลานเข่าไปด้านหน้า ร้องไห้พลางก้มศีรษะแนบพื้น

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดให้บ่าวและสี่เชวี่ยไปดูแลองค์หญิงของบ่าวเถิดเพคะ!”

“รอไปก่อน เมื่อสอบสวนแน่ชัดแล้วย่อมปล่อยพวกเจ้าไปดูแลองค์หญิงของพวกเจ้าแน่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับหลูผิง ไม่สนใจเสียงร้องไห้อ้อนวอนจากด้านในอีก

แสงของดวงจันทร์สาดส่องไปทั่วบริเวณ กระทบใบหน้าเปื้อนเลือดของไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนเดินลงจากบันได ดวงตาเยือกเย็นยิ่งกว่าแสงจันทร์

ในสมองของนางปรากฏภาพของแม่ทัพหน้ากากผีที่นั่งอยู่บนหลังม้า…

“คุณหนูใหญ่ แทนที่จะสืบสวนคนอื่นที่นี่ หลูผิงคิดว่าคุณหนูใหญ่ลองไปถามเซียวเซียนเซิงดูดีหรือไม่ขอรับ” หลูผิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เซียวเซียนเซิงผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นที่ชายแดนหนานหรง ช่างน่าสงสัยยิ่งนัก แม้เขาจะเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ทว่า เขาเป็นคนแคว้นเว่ย เราควรระวังไว้นะขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางหลูผิง “วันนี้ลุงผิงเห็นแม่ทัพหน้ากากผีของหนานหรงบ้างหรือไม่”

หลูผิงตะลึงงัน กำดาบที่เอวแน่นอย่างใช้ความคิด จากนั้นส่ายหน้า “หลูผิงไม่ได้สังเกตขอรับ มีสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “ไม่รู้เพราะเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าแม่ทัพหน้ากากผีผู้นั้นคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ทว่า ก็ดูแปลกหน้ามาก”

หลูผิงกำหมัดขึ้น “หลูผิงจะสืบประวัติของแม่ทัพหนานหรงผู้นั้นให้คุณหนูใหญ่อย่างละเอียด คุณหนูใหญ่วางใจได้ขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า กว่าท่านน้าชายจะสอบสวนเสร็จน่าจะอีกหลายชั่วยาม แทนที่จะเสียเวลารอท่านน้าชายอยู่ที่นี่ นางไปสอบถามจากเซียวหรงเหยี่ยนดีกว่าว่าเหตุใดหนานหรงถึงคิดปล้นชิงตัวองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยน เช่นนี้เมื่อท่านน้าชายสอบสวนเสร็จจะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง

“ไปเถิด กลับไปถามเซียวเซียนเซิง!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็เดินออกมาจากค่ายทหาร ก้าวขึ้นหลังม้า มุ่งหน้าไปยังจวนต่ง

โคมไฟดวงใหญ่ที่แขวนอยู่หน้าประตูจวนต่งส่ายไปมาตามแรงลม แสงไฟสีเหลืองนวลส่องผ่านหนังแกะของโคมไฟ สะท้อนเสาเคลือบน้ำมันสีแดงของจวนต่งจนเห็นได้อย่างชัดเจน

ต่งเหล่าไท่จวินพาคนในตระกูลออกมายืนรออยู่หน้าจวนต่ง ชะโงกหน้ามองไปทางถนนพลางหันไปตวาดหลานชาย “เหตุใดเจ้าจึงปล่อยให้พี่หญิงของเจ้าอยู่รั้งท้ายเช่นนี้ หากพี่หญิงของเจ้าได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เจ้าเตรียมไปสำนึกผิดที่หอบรรพชนได้เลย พี่หญิงของเจ้าหายดีเมื่อใด เจ้าค่อยออกมา!”

ต่งฉางหลานรู้ว่าท่านย่ากำลังโมโหจึงได้แต่ยิ้มประจบ “ท่านย่า ข้าผิดไปแล้วขอรับ! ครั้งหน้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก ท่านย่าอย่าโกรธเลยนะขอรับ พี่หญิงกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว บัดนี้กำลังสอบสวนคนจากขบวนส่งตัวเจ้าสาวอยู่กับท่านพ่อ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วขอรับ!”

“นั่นสิเจ้าคะท่านย่า! พี่หญิงมีฝีมือ อีกทั้งมีองครักษ์ไป๋คอยคุ้มครองอยู่ นางไม่เป็นอันใดหรอกเจ้าค่ะ! ท่านย่ากลับเข้าไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านแม่ ฉางหลานและข้ายืนรอพี่หญิงอยู่ที่นี่ หากนางกลับมาจะรีบไปรายงานท่านย่าทันทีเจ้าค่ะ” เสี่ยวชุยซื่อเอ่ยโน้มน้าวต่งเหล่าไท่จวิน

ทว่า ต่งเหล่าไท่จวินยังคงไม่สบายใจ จ้องไปทางหลานชายเขม็งด้วยสีหน้าบึ้งตึง จากนั้นชะโงกหน้ามองไปทางถนนอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าม้า ต่งฉางหลานเดินลงบันไดไปสองก้าว กล่าวยิ้มๆ “พี่หญิงและองครักษ์หลูกลับมาแล้วขอรับ!”

ต่งเหล่าไท่จวินรีบเดินลงบันไดไปทันที เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนลงมาจากหลังม้า นางจึงรีบถลาเข้าไปหา เลือดสดที่ติดอยู่บนชุดเกราะสีเงินทำให้ต่งเหล่าไท่จวินตกใจแทบหมดสติ “ได้รับบาดเจ็บที่ใด”

“พี่หญิงกลับมาเสียทีขอรับ หากพี่หญิงยังไม่กลับมา ข้าจะโดนท่านย่าทำโทษให้ไปคุกเข่าสำนึกผิดที่หอบรรพชนแล้วขอรับ!” ต่งฉางหลานกล่าวยิ้มๆ

“ท่านยาย นี่คือเลือดของผู้อื่นเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็หันไปถามต่งฉางหลาน “องค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนเป็นเช่นไรบ้าง”

เมื่อเอ่ยถึงองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยน ต่งฉางหลานเม้มปากพลางเอ่ยขึ้น “ส่งคนไปตามหมอที่มีชื่อเสียงของเมืองเติงโจวมาหมดแล้วขอรับ ห้ามเลือดได้แล้ว ทว่า องค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนจะฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับลิขิตของสวรรค์เท่านั้นขอรับ ทหารต้าเยี่ยนที่มาขอความช่วยเหลือจากเราขี่ม้าเร็วไปแจ้งให้ต้าเยี่ยนทราบแล้วขอรับ”

หากองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้มีชีวิตรอด ต้าเยี่ยนจะติดหนี้บุญคุณต้าจิ้น ทว่า หากองค์หญิงไม่รอด ก็ไม่รู้จะเกิดสิ่งใดขึ้นเหมือนกัน

ต่งฉางหลานกำลังกังวลกับเรื่องเหล่านี้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับถูกต่งเหล่าไท่จวินดึงตัวไปสำรวจร่างกาย เมื่อแน่ใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ ต่งเหล่าไท่จวินจึงดึงตัวหลานสาวกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

ก่อนเดินเข้าไปในจวน ไป๋ชิงเหยียนกำชับต่งฉางหลาน “ฉางหลาน หากท่านน้าชายกลับมา ส่งคนไปบอกพี่ด้วย”

“พี่หญิงไม่ต้องห่วงขอรับ!” ต่งฉางหลานกล่าว

ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งอาบน้ำเช็ดผมจนแห้งเสร็จ ยังไม่ทันไปหาเซียวหรงเหยี่ยน หญิงชราก็มารายงานว่าต่งชิงเยว่กลับมาแล้ว

ต่งเหล่าไท่จวินอยู่ในห้องของไป๋ชิงเหยียน นางบังคับให้ไป๋ชิงเหยียนทานโจ๊กรังนกให้หมด จากนั้นจึงปล่อยตัวหญิงสาวไปหาต่งชิงเยว่

มองส่งหลานสาวเดินออกจากเรือนไปอย่างรีบร้อน ต่งเหล่าไท่จวินยืนถือไม้เท้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกว่าหลานสาวของตัวเองลำบากมากเกินไป หากอาอวี๋หลานชายของนางยังอยู่…ไป๋ชิงเหยียนคงไม่ต้องลำบากถึงเพียงนี้

เมื่อนึกถึงอาอวี๋ ต่งเหล่าไท่จวินรู้สึกปวดใจมาก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นทันที

นางชรามากแล้ว ไม่อยากจัดงานศพให้บุตรหลาน คิดถึงเรื่องนี้ทีไร นางปวดใจจนนอนไม่หลับทุกที

เมื่อไป๋ชิงเหยียนไปถึงห้องตำราของต่งชิงเยว่ ต่งฉางหลานและที่ปรึกษาจวนต่งล้วนอยู่กันครบ

ไป๋ชิงเหยียนเล่าผลสอบสวนที่นางได้จากการสอบถามหมัวมัวและนางกำนัลขององค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนให้ท่านน้าชายฟังและเปรียบเทียบกับคำตอบของฝั่งน้าชาย

คำตอบไม่ต่างกันสักเท่าใด

ที่น่าเสียดายก็คือแม่ทัพเผิงซึ่งเป็นผู้นำขบวนส่งตัวองค์หญิงหมิงเฉิงแห่งต้าเยี่ยนไปยังเป่ยหรงเสียชีวิตภายใต้คมดาบของแม่ทัพหน้ากากผี

ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น “ท่านน้าชายรู้จักแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้ดีหรือไม่เจ้าคะ”

ต่งชิงเยว่ส่ายหน้า เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ “แค่เคยได้ยินว่าแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้เก่งกาจในการรบ ทว่า พวกเราไม่เคยเผชิญหน้ากับหนานหรงจึงไม่ค่อยรู้เรื่องเขาสักเท่าใด ได้ยินว่าเขาปะทะกับแม่ทัพเซี่ยสวินของต้าเยี่ยนอยู่หลายครั้ง ทว่า แม่ทัพเซี่ยสวินไม่เคยได้เปรียบแม่ทัพหน้ากากผีเลยสักครั้ง!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท