ตอนที่ 546 คาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ
หลัวอี๋เหนียงเกลียดความโง่เขลาของตัวเองและเกลียดที่โดนพี่ชายเป่าหูจนเกือบทำลายต่งฉางเม่า โชคดีที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้ลงมืออย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นนางคงไม่ได้ร้องไห้อยู่อย่างนี้แน่
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนไปถึงเรือนหนังสือของต่งชิงเยว่ ที่ปรึกษาจวนต่งเดินออกมาจากห้องหนังสือพอดี พวกเขาพากันทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้เล็กน้อย ก้าวเข้าไปในห้องหนังสือ เห็นต่งชิงเยว่กำลังดื่มน้ำชาอยู่
“ท่านน้าชาย!” ไป๋ชิงเหยียนก้าวไปทำความเคารพ
“มาแล้วหรือ…” มือที่ถือฝาถ้วยชาของต่งชิงเยว่ชี้ไปยังจดหมายที่วางอยู่มุมโต๊ะ “จดหมายจากเมืองหลวง เจ้ารีบอ่านเถิด”
เมื่อครู่ต่งชิงเยว่ปรึกษากับที่ปรึกษาจวนต่งเรื่องขององค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนอยู่นาน เขาสนทนาจนคอแห้งไปหมด ก้มหน้าจิบชาอีกหนึ่งอึก จากนั้นกล่าวขึ้น “องค์หญิงหมิงเฉิงคงไม่รอดแล้ว น่าจะยื้อได้อีกอย่างน้อยสามวัน ทหารต้าเยี่ยนที่อยู่ในเป่ยหรงและคนของราชวงศ์เป่ยหรงส่งมาคนรับตัวนางแล้ว พรุ่งนี้น่าจะเดินทางมาถึง ถึงเวลานั้นพวกเราจะมอบตัวองค์หญิงหมิงเฉิงให้แก่พวกเขา เรื่องนี้ถือเป็นอันยุติ”
มือที่แกะจดหมายของไป๋ชิงเหยียนชะงักนิ่ง หญิงสาวเงยหน้ามองต่งชิงเยว่
ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับปัญหานี้โดยที่ต้าจิ้นไม่เดือดร้อน…
มอบองค์หญิงหมิงเฉิงคืนให้แก่ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงจะติดค้างบุญคุณของต้าจิ้น
เช่นนั้นแม่ทัพเซี่ยสวินผู้เป็นคนรักขององค์หญิงหมิงเฉิงจะมาด้วยหรือไม่ หากเขามา…ไม่แน่ว่าองค์หญิงหมิงเฉิงอาจฟื้นขึ้นมาก็ได้
“ท่านน้าชาย หมอส่วนใหญ่ของเป่ยหรงคือหมอผี สู้หมอของต้าจิ้นเราไม่ได้ หากท่านน้าชายส่งหมอของเราติดตามไปด้วย ไม่แน่อาจช่วยชีวิตขององค์หญิงไว้ได้…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกชื่นชมและนับถือองค์หญิงหมิงเฉิงแห่งต้าเยี่ยนที่เสียสละความรักของตัวเองเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อแคว้นมาก
หากสามารถช่วยชีวิตนางได้ ไป๋ชิงเหยียนก็อยากจะช่วย
ต่งชิงเยว่กล่าว “เดิมทีข้าก็คิดเช่นนั้น ทว่า ที่ปรึกษาจวนต่งกล่าวถูกแล้ว หากเราส่งหมอตามไปด้วย เทียบกับวิธีรักษาของหมอผีหนานหรงแล้ว หากหมอของต้าจิ้นที่มีวิธีรักษาที่ดีกว่ายังไม่สามารถช่วยชีวิตองค์หญิงไว้ได้ มันจะกลายเป็นความผิดของแคว้นต้าจิ้นทันที!”
ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจในเหตุผลที่ท่านน้าชายกล่าว ทว่า ความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ไป๋ชิงเหยียนยังอยากช่วยองค์หญิงหมิงเฉิงให้ได้มากที่สุด
“พาหมอไปด้วย ช่วยตรวจชีพจรขององค์หญิงตามปกติ ทว่า จะใช้การรักษาของหมอผีเป่ยหรงหรือของต้าจิ้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของต้าเยี่ยน องค์หญิงหมิงเฉิงยังไม่ได้แต่งงานกับเป่ยหรง นางยังเป็นองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนอยู่ ย่อมต้องให้ต้าเยี่ยนเป็นคนตัดสินใจ พวกเราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่สุดก็พอเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างจริงจัง
ต่งชิงเยว่ลูบไปที่ถ้วยกระเบื้องชาลายดอกเหมย ขมวดคิ้วครุ่นคิด “แบบนั้นก็น่าจะได้…”
ไป๋ชิงเหยียนเห็นต่งชิงเยว่กำลังครุ่นคิดจึงก้มหน้าเปิดจดหมายออกอ่านอย่างละเอียด
ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวในจดหมายว่าวันที่สาม เดือนแปด หมอตรวจชีพจรฮองเฮาพบว่านางตั้งครรภ์ ทั่วทั้งแคว้นต่างยินดีกับการตั้งครรภ์ของฮองเฮามาก ทว่า ฮองเฮาคิดถึงซิ่นอ๋องจนสภาพจิตใจไม่ค่อยดีนัก พี่ชายของฮองเฮาจึงทูลขอให้ฮ่องเต้รับซิ่นอ๋องกลับมาเมืองหลวงเพื่อสภาพจิตใจที่มั่งคงของฮองเฮาและทารกในครรภ์ ฮ่องเต้พระราชทานอนุญาตแล้ว
บ่ายวันเดียวกัน พระชายาของรัชทายาทตรวจพบตั้งมีครรภ์ได้สามเดือนกว่าแล้ว ฮ่องเต้ดีพระทัยมาก
ถัดมาคือเรื่องกวางศักดิ์สิทธิ์ที่รัชทายาทมอบให้ฮ่องเต้ ผลชันสูตรพบว่ากวางตัวนั้นเสียชีวิตด้วยยาพิษ ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องล้วนต้องโทษประหารจากความโกรธของฮ่องเต้ บัดนี้ฮ่องเต้มอบให้เหลียงอ๋องเป็นคนตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดแต่เพียงผู้เดียว
ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับเหลียงอ๋องมาก จวนเหลียงอ๋องเริ่มปรุงยาวิเศษอย่างเปิดเผย คนตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงเริ่มปรุงยาวิเศษตามบ้าง
หลังจากที่จวนเหลียงอ๋องเกิดไฟไหม้ หลี่หมิงรุ่ยบุตรของหลี่เม่าไม่ได้ไปที่จวนเหลียงอ๋องอีกพักใหญ่ บัดนี้ฮ่องเต้กลับมาให้ความสำคัญกับเหลียงอ๋อง เขาจึงเริ่มไปมาหาสู่กับเหลียงอ๋องอีกครั้ง
ท้ายสุดของจดหมาย ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวว่านางคลอดบุตรชายก่อนกำหนดในวันที่สี่ เดือนแปด
ไป๋จิ่นซิ่วบอกว่านางปลอดภัยทั้งแม่และบุตร ไป๋ชิงเหยียนไม่ต้องเป็นห่วง บัดนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อของบุตรชาย เรียกนามเล่นว่าวั่งเกอ ร่างกายของวั่งเกออ่อนแอเล็กน้อยเพราะคลอดก่อนกำหนด ทว่า ไม่เป็นอันตราย ท่านหมอหงบอกว่าดูแลอีกพักหนึ่งก็จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติทั่วไป
เมื่อไป๋ชิงเหยียนอ่านถึงช่วงท้ายสุดของจดหมาย หญิงสาวกำจดหมายแน่น
ไป๋จิ่นซิ่วเป็นพวกที่ชอบบอกแต่เรื่องดีๆ ทว่า เก็บงำเรื่องไม่ดีเอาไว้ นางไม่เชื่อเด็ดขาดว่าอยู่ๆ ไป๋จิ่นซิ่วจะคลอดก่อนกำหนดโดยไม่มีสาเหตุเช่นนี้ มันต้องมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นแน่นอน ทว่า ไป๋จิ่นซิ่วไม่อยากให้นางเป็นกังวลจึงเขียนบอกเพียงคร่าวๆ เท่านั้น
ทว่า ลายมือในจดหมายเป็นลายมือของไป๋จิ่นซิ่ว นางคงยังปลอดภัยดี!
ไป๋ชิงเหยียนต้องให้คนไปสืบสาเหตุที่ไป๋จิ่นซิ่วคลอดก่อนกำหนด หากเป็นเพราะคุณหนูสองคนของตระกูลฉิน นางจะส่งเด็กสองคนนั่นไปอยู่กับแม่ของนางที่วัด!
เมื่อเห็นใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนส่อแววอาฆาต ต่งชิงเยว่จึงวางถ้วยน้ำชาในมือลงแล้วเอ่ยถาม “เกิดเรื่องขึ้นอย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนควบคุมอารมณ์ของตัวเอง “จิ่นซิ่วคลอดก่อนกำหนด ทว่า ปลอดภัยทั้งแม่ลูก ฮองเฮาและพระชายาขององค์รัชทายาททรงมีครรภ์ทั้งคู่เจ้าค่ะ!”
ต่งชิงเยว่ขมวดคิ้วแน่น “ฮองเฮาทรงมีครรภ์ ซิ่นอ๋องอาจกลับมายังเมืองหลวง!”
“ท่านน้าชายคาดการณ์ได้แม่นยำมากเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของต่งชิงเยว่ เผาจดหมายแล้ววางลงในถาดล้างพู่กัน “ดูเหมือนว่าฮองเฮาจะจงใจมีครรภ์เพื่อซิ่นอ๋องเจ้าค่ะ!”
คงเป็นเพราะเห็นว่าบัดนี้บัลลังก์ของรัชทายาทมั่นคง อีกทั้งฮ่องเต้เริ่มให้ความสำคัญกับเหลียงอ๋อง ฮองเฮาจึงเริ่มอยู่ไม่สุข
โอรสของฮ่องเต้มีไม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮ่องเต้มีโอรสที่เกิดจากฮองเฮาคือซิ่นอ๋องเพียงคนเดียว บัดนี้ฮองเฮาตั้งครรภ์ ไม่ว่าครรภ์นี้จะเป็นบุรุษหรือสตรี ฮ่องเต้ย่อมรักประดุจของล้ำค่า
ช่างลำบากฮองเฮาที่ยอมทำเพื่อโอรสที่ไม่ได้เรื่องอย่างซิ่นอ๋องจริงๆ เริ่มจากการขอให้แม่ทัพฝูรั่วซีก่อกบฏผลักดันให้ซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ เมื่อเห็นว่าฝูรั่วซีไม่ตกลง นางจึงเลือกตั้งครรภ์เพื่อปูทางให้ซิ่นอ๋องได้กลับมาเมืองหลวง
ดูเหมือนว่าเมืองหลวงกำลังจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นแล้ว
“ท่านน้าชายควรระวังแม่ทัพฝูรั่วซีไว้บ้างนะเจ้าคะ เขามีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับฮองเฮาเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงจดหมายที่แม่นางหลูส่งมาให้ที่ซั่วหยางขึ้นมาได้จึงเอ่ยเตือนต่งชิงเยว่
“ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า กล่าวอย่างไม่คิดปิดบัง “ฮองเฮาเคยขอร้องให้แม่ทัพฝูรั่วซีคุ้มกันซิ่นอ๋องกลับมาเมืองหลวงเพื่อก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์ ทว่า แม่ทัพฝูรั่วซีไม่ตอบตกลงเจ้าค่ะ ฮองเฮากล้ากล่าวเรื่องที่เป็นความลับเช่นนี้กับแม่ทัพฝูรั่วซีแสดงว่าพวกเขาสองคนสนิทกันมากเจ้าค่ะ”
ต่งชิงเยว่ตะลึง เขารู้ดีว่าหากไม่มีมูลไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางกล่าวเช่นนี้ ต่งชิงเยว่กำถ้วยชาในมือพลางขมวดคิ้วแน่น
“ดูเหมือนว่าตระกูลฝูและฮองเฮาจะไม่เคยไปมาหาสู่กันนะ” ต่งชิงเยว่วิเคราะห์
“ความลับของตระกูลสูงศักดิ์ต่าง ๆ หากไม่เข้าตาจนจริงๆ พวกเราไม่มีทางรู้หรอกเจ้าค่ะว่าพวกเขาลอบติดต่อกับผู้ใดบ้าง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว “บัดนี้แม่ทัพฝูรั่วซีควบคุมค่ายทหารอันผิง ท่านน้าชายระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ”
ต่งชิงเยว่พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว!”
เมื่อกล่าวเรื่องสำคัญจบ ต่งชิงเยว่วางถ้วยชาในมือลงแล้วเอ่ยถาม “เจ้าส่งหลูผิงไปนอกเมืองหรือ”
“ข้าให้เขาปลอมตัวไปสำรวจหนานหรงเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนปิดบังเรื่องที่อาอวี๋อาจเป็นแม่ทัพหน้ากากผีเอาไว้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็จะอยู่ที่นี่ต่อเป็นเพื่อนท่านยายเจ้าได้นานอีกหน่อยใช่หรือไม่” ต่งชิงเยว่ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ “เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ต่ออีกสักพัก”