ตอนที่ 560 หนีไปอย่างปลอดภัย
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้สังเกตว่าชุนเถาไม่พอใจในตัวเขา ตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนปรากฏกาย สายตาของชายหนุ่มก็หยุดอยู่ที่ร่างของนางเพียงคนเดียว ไม่มีเวลาสนใจมองผู้อื่น
“แม่นางชุนเถาอย่างนั้นหรือ” เซียวหรงเหยี่ยนนึกถึงสาวใช้ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนที่ดูไม่ค่อยทันคนสักเท่าใดขึ้นมาได้ ชายหนุ่มคิดว่าอาจเป็นเพราะเรื่องที่เขาลอบบุกไปในห้องนอนของไป๋ชิงเหยียนยามวิกาลในครั้งที่แล้ว เขาถูกชุนเถาจับได้ สาวใช้ผู้นั้นจึงหวาดระแวงในตัวเขากระมัง
เซียวหรงเหยี่ยนใช้นิ้วเขี่ยจมูกยิ้มๆ การบุกเข้าไปในห้องของไป๋ชิงเหยียนยามวิกาลคงเป็นบุ่มบ่ามมากจริงๆ
เมื่อเห็นหลูผิงพาองครักษ์ตระกูลไป๋เดินออกมาจากประตู เซียวหรงเหยี่ยนกำหมัดคาราวะหลูผิง
“เซียวเซียนเซิง!” หลูผิงประทับใจเซียวหรงเหยี่ยนมาก ชายหนุ่มเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ส่วนหลูผิงเป็นคนสำนึกในบุญคุณคน
กองทัพเติงโจวนำทัพอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน หลูผิงพาบรรดาองค์รักษ์ตระกูลไป๋ตามติดไปทางด้านหลัง กองทัพเติงโจวขนาบคุ้มกันสองข้างทาง รถม้าของต่งเหล่าไท่จวินอยู่ตรงกลางสุดของขบวน ถัดมาคือรถม้าของเซียวหรงเหยี่ยนและขบวนข้าวของมีค่าของจวนต่ง ปิดท้ายด้วยขบวนของกองทัพเติงโจว
เมื่อขบวนของตระกูลต่งมาถึงหน้าประตูเมือง ชาวบ้านต่างมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูแล้ว บางคนจูงแพะและวัว บางคนถึงกับบรรทุกเล้าเป็ดไว้บนเกวียน เด็กบางคนร้องไห้ตกใจกับบรรยากาศที่เห็น งอแงจะให้มารดาที่กำลังลากเกวียนอยู่อุ้มปลอบ ภายในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทว่า ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
กองทัพเติงโจวซึ่งคุ้มกันประตูทิศใต้ของเมืองเติงโจวช่วยชาวบ้านลากเกวียน จูงสัตว์ ให้ชาวบ้านเดินอยู่ตรงกลางการอารักขาของบรรดาทหาร ต่งฉางหลานขี่ม้านำอยู่ด้านหน้า ทหารเติงโจวชูคบเพลิงขึ้นสูงเพื่อส่องทาง ขบวนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังที่พักอย่างเอิกเกริก
นอกจากต่งฉางหลานจะคุ้มกันต่งเหล่าไท่จวินและชาวบ้านเมืองเติงโจวมาส่งที่กระโจมพักแล้ว เขายังมีหน้าที่รับตัวขุนนางทุกคนกลับไปยังเติงโจวด้วย
เช่นนี้ ขุนนางที่ราชสำนักส่งมาจะได้ “เสียชีวิตในสนามรบ” อย่างสมเหตุสมผล
การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ลำบากมานัก ชาวบ้านเห็นไฟสว่างที่กระโจมที่พักขนาดใหญ่แต่ไกลก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที…
“ที่แท้ใต้เท้าต่งเตรียมทุกอย่างไว้ให้พวกเราพร้อมสรรพแล้ว!”
“เฮ้อ พวกเขาเข้าใจใต้เท้าต่งผิดไปแล้ว!”
“ข้าบอกแล้วว่าใต้เท้าต่งไม่มีทางทอดทิ้งชาวบ้านเติงโจว ทว่า ยายก็ไม่เชื่อ บัดนี้คงเชื่อได้แล้วสินะ!”
แม้ชาวบ้านจะต้องจากบ้านเกิดของตัวเองมา ทว่า พวกเขาไม่ได้กลายเป็นคนเร่ร่อน การจัดเตรียมของต่งชิงเยว่ทำให้พวกเขาซาบซึ้งยิ่งนัก
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงจึงแหวกม่านรถม้าออกดู
ต่งชิงเยว่รู้จำนวนชาวบ้านในเติงโจวเป็นอย่างดี เขาเตรียมทุกอย่างไว้อย่างเหมาะสม ส่งชาวบ้านมา รับตัวขุนนางจากไป กระโจมจึงมีเพียงพอสำหรับทุกคน
ต่งชิงเยว่ตั้งใจว่าเมื่อหนานหรงบุกโจมตีเมืองเติงโจวในวันที่สามสิบ เดือนแปด เขาจะส่งคนที่ไว้ใจได้นำจดหมายไปยังเมืองหลวง กล่าวว่าหนานหรงโจมตีและยึดเมืองเติงโจวไว้ได้ อีกทั้งส่งรายชื่อทหารที่เสียชีวิตในสนามรบไปให้ฮ่องเต้ด้วย หนึ่งในนั้นต้องมีรายชื่อของต่งฉางหลานอยู่ด้วย
มีเพียงบุตรชายคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของต่งชิงเยว่เสียชีวิต ฮ่องเต้จึงจะเชื่อว่าสงครามที่เติงโจวเลวร้ายถึงขั้นวิกฤต
เช่นนี้ต่งฉางหลานจะได้พาบรรดาทหารที่ “เสียชีวิตในสนามรบ” ของกองทัพเติงโจวมุ่งหน้าไปยังชายแดนของต้าจิ้นและหนานหรง ขนเสบียงอาหารพาทหารไปฝึกซ้อมที่หนานหรงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันข้างหน้า
ทหารขี่ม้าเร็วกลับไปรายงานสถานการณ์ที่เมืองหลวง หากราบรื่นตลอดทาง ไม่เกินสิบวันคงไปถึงเมืองหลวง
ภายในค่ายทหาร ทหารกองทัพเติงโจวทำตามแผนที่ไป๋ชิงเหยียนวางไว้ แบ่งชาวบ้านตามอายุ กำลังและเพศออกเป็นกลุ่มย่อยๆ บางกลุ่มรับผิดชอบเรื่องหุงหาอาหาร บางกลุ่มรับผิดชอบเรื่องซักผ้า บางกลุ่มรับผิดชอบเรื่องเก็บฟืน บางกลุ่มรับผิดชอบเรื่องแจกจ่ายอาหารและน้ำ ทุกคนล้วนมีงานทำ ไม่มีผู้ใดว่างงาน ร่วมแรงร่วมใจเผชิญปัญหาไปด้วยกัน รอวันที่จะได้กลับไปเมืองเติงโจวอีกครั้ง
วันที่สามสิบ เดือนแปด แม่ทัพหน้ากากผีพาทหารหนานหรงห้าพันนายบุกโจมตีเมืองเติงโจวอย่างกะทันหัน ทหารเติงโจวได้รับบาดเจ็บมากกว่าครึ่ง ผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิวเยว่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทหารเติงโจวคุ้มกันเขาหนีตายออกมาจากเมือง ต่งฉางหลานบุตรชายคนโตของต่งชิงเยว่เสียชีวิตในสนามรบ สงครามรุนแรงมาก
วันที่แปด เดือนเก้า ข่าวส่งไปถึงเมืองหลวง เมื่อฮ่องเต้ทราบว่าต่งชิงเยว่ถวายฎีกาขึ้นมาหลายสิบฉบับเพื่อเตือนว่าปีนี้หนานหรงอาจบุกโจวตีเมืองเติงโจวอย่างเต็มกำลัง ทว่า ฎีกาเหล่านั้นกลับถูกยับยั้งไว้ ฮ่องเต้เดือดดาลเป็นอย่างมาก เสิ่นจิ้งจงเสนาบดีกรมทหารถูกจับขังคุก ขุนนางผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกสิบเอ็ดรายถูกถอดยศ ฮ่องเต้สั่งให้แม่ทัพฝูรั่วซีแห่งค่ายผิงอันรีบออกเดินทางไปเสริมทัพที่เติงโจว ยึดเมืองเติงโจวคืนมาให้ได้!
วันที่เก้า เดือนเก้า ฮ่องเต้สั่งให้ผู้พิพากษาศาลหต้าหลี่หลู่จิ้นตรวจสอบเรื่องโยกย้ายเบี้ยเลี้ยงของกองทัพเติงโจวไปซ่อมแซมพระราชวังอย่างละเอียด ขุนนางที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถูกจับขังคุก การบูรณะราชวังถูกระงับชั่วคราว รัชทายาทนำเสบียงอาหารและเบี้ยเลี้ยงไปยังเติงโจวด้วยตัวเอง กล่าวว่าหากทำสงครามชนะจะมอบเบี้ยเลี้ยงให้กองทัพเติงโจวมากกว่าเดิมสามเท่า อีกทั้งตบรางวัลให้อีกต่างหาก
บัดนี้ ต่งชิงเยว่พักรักษาบาดแผลของตัวเองอยู่ในกระโจม
ต่งฉางหลานพกแผนที่หนังแกะที่ไป๋ชิงอวี๋ทำขึ้นนำทหารเติงโจวพร้อมทั้งเสบียงอาหารไปยังหนานหรง หลบหลีกกับดักและจุดซ่อนโจมตีของหนานหรง สร้างถิ่นฐานของตัวเองในดินแดนของหนานหรง
ไป๋ชิงเหยียนนั่งเล่นหมากอยู่ในกระโจมกับต่งชิงเยว่ หญิงสาววางหมากลงบนกระดานจากนั้นกล่าวขึ้น “ฮ่องเต้คงส่งแม่ทัพฝูรั่วซีแห่งค่ายผิงอันมาเสริมทัพและช่วยยึดเมืองเติงโจวคืนเจ้าค่ะ”
“หลายวันมานี้ เมื่อหนานหรงยึดเมืองเติงโจวได้ พวกเขาค้นบ้านทุกหลังอย่างละเอียด ไม่ได้ปล้นเสร็จแล้วจากไปเหมือนอย่างที่เคยทำ ราวกับว่าอย่างตั้งถิ่นฐานอยู่ในเติงโจว จากนั้นบุกยึดเมืองอื่นต่อไปเรื่อยๆ”
ไป๋ชิงเหยียนกำหมากในมืออย่างใช้ความคิด จากนั้นกล่าวขึ้น “เดาได้ไม่ยากเจ้าค่ะ เหตุผลมีเพียงไม่กี่ประการเท่านั้น ประการแรก ที่หลายปีมานี้หนานหรงสู้ต้าจิ้นไม่ได้สาเหตุหลักมาจากชาวต้าจิ้นรู้จักการเพาะปลูก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มันคงกว่าชาวอพยพเร่รอนอย่างหนานหรง ชาวบ้านอยู่ดีกินดี แคว้นก็จะแข็งแกร่ง แม่ทัพหน้ากากผีต้องเสนอให้อ๋องแห่งหนานหรงบุกโจมตียึดเมืองของต้าจิ้นเพื่อให้ชาวบ้านหนานหรงมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง มีที่ดินไปเพาะปลูก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สงบสุข ดังนั้นหนานหรงอ๋องจึงตัดสินใจบุกโจวตีเช่นนี้แน่เจ้าค่ะ”
“หากเป็นเช่นนั้น หนานหรงอ๋องก็มีใจทะเยอทะยานอยู่ไม่น้อยเลย” ต่งชิงเยว่วางหมาก “บุกมาทั้งหมดเช่นนี้ ไม่กลัวเป่ยหรงบุกยึดรังของพวกเขาหรืออย่างไรกัน”
“ประการที่สอง หนานหรงอ๋องมีแม่ทัพหน้ากากผีจึงมีความมั่นใจมากขึ้น เขาเสี่ยงอันตรายกล้าบุกโจมตียึดเมืองของต้าจิ้นเช่นนี้ บางทีอาจเพราะต้องการต่อรองสิ่งใดขอผลประโยชน์จากแคว้นต้าจิ้นเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง “หากรบชนะก็ดีไป หากไม่ชนะก็หลบหนี นี่คือการกระทำที่เป็นเอกลักษณ์ของหนานหรง หากทำสงครามในทุ้งหญ้าอันกว้างใหญ่ ต้าจิ้นไม่มีทางได้เปรียบ ไม่อาจตามไปรบกับพวกเขาได้ ยิ่งมุ่งหน้าเข้าไปในทุ่งหญ้า ต้าจิ้นยิ่งไม่คุ้นเคย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าแม้กองทัพหนานหรงจะไม่แข็งแกร่ง ทว่า รังของพวกเขาไม่เคยถูกทำลายเจ้าค่ะ”
ต่งชิงเยว่พยักหน้าตามอย่างช้าๆ
“ประการที่สาม อาอวี๋คงรอพบหน้าข้าอยู่ที่เมืองเติงโจวเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองต่งชิงเยว่อย่างจริงจัง
ต่งชิงเยว่โยนหมากเก็บเข้ากล่อง “ฎีกาของฮ่องเต้ที่ส่งมาบอกว่าแม่ทัพฝูรั่วซีแห่งค่ายผิงอันจะเดินทางมาเสริมทัพคงมาถึงพวกเราภายในห้าวันนี้ หากแม่ทัพฝูรั่วซีมาถึงอาจทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง เราต้องให้อาอวี๋ถอยทัพหนีไปอย่างปลอดภัย ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดพรุ่งนี้เราต้องนำทัพบุกไปยึดเมืองเติงโจวคืนมาให้ได้!”
“ท่านน้าชายกล่าวถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ!”