ตอนที่ 579 วางแผน
“พี่หญิง นี่คือหอกของท่านพี่ฉางหลาน ข้าให้พี่หญิงยืมขอรับ!” ต่งฉางเม่าขบกรามแน่น “พี่หญิงต้องกลับมาอย่างปลอดภัย ปกป้ององค์รัชทายาทให้ดีนะขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ควบม้าทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว องค์รัชทายาทขี่ม้าตามออกไปโดยมีองครักษ์ไป๋และองครักษ์จวนองค์รัชทายาทคุ้มกันเขาอยู่ตรงกลาง
ต่งชิงเยว่มองดูแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียนที่ขี่ม้าจากไปอย่างรวดเร็ว ร่างสูงโปร่งของเขาหันหลังกลับ เดินขึ้นไปบนแท่นสูงอย่างรวดเร็ว แววตาคมกริบราวกับใบมีด เตรียมพร้อมเคลื่อนทัพไปปราบปรามค่ายผิงอันอยู่ตลอดเวลา
ไป๋ชิงเหยียนและองค์รัชทายาทขี่ม้าออกมากจากค่ายทหาร มุ่งหน้าไปยังนอกเมืองเติงโจว
ฟางเหล่ารับรู้ข่าวเป็นคนแรก จากนั้นจึงสั่งให้คนไปรายงานให้องค์รัชทายาททราบ บัดนี้เขาเตรียมพร้อมเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว
ฟางเหล่าเป็นคนรู้ขอบเขต เมื่อได้รับรายงานว่าฮ่องเต้พลัดตกจากหลังม้าจนสลบไม่ได้สติ ฟางเหล่าจึงสั่งให้ทุกคนรีบเคลื่อนขบวนไปรวมตัวกับองค์รัชทายาทที่นอกเมืองโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลาเก็บข้าวของ
ชุนเถาอยู่ในขบวนรถม้าขององค์รัชทายาทด้วย นี่คือคำสั่งของต่งเหล่าไท่จวิน
เมืองหลวงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ต่งเหล่าไท่จวินรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนต้องคุ้มกันองค์รัชทายาทไปส่งที่เมืองหลวงแน่นอน นางให้ชุนเถาเก็บข้าวของของไป๋ชิงเหยียน ออกนอกเมืองไปพร้อมกับฟางเหล่า
ฟางเหล่าไม่ใช่คนโง่ บัดนี้เมืองหลวงกำลังวุ่นวาย องค์รัชทายาทกำลังต้องการกำลังคนและกำลังทหาร องค์หญิงเจิ้นกั๋วมีความสามารถในการนำทัพ เขาต้องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วอยู่ข้างกายขององค์รัชทายาทเพื่อความปลอดภัยขององค์รัชทายาทเอง
ฟางเหล่านั่งคิดทบทวนอยู่ในรถม้าที่โคลงเคลง เขารู้สึกว่าไม่ควรจะกลับเมืองหลวงไปทั้งอย่างนี้ หากเมืองหลวงถูกฮองเฮาหรือเหลียงอ๋องควบคุมไว้แล้ว องค์รัชทายาทเดินทางกลับไปเช่นนี้ คงถูกจับกุมตัวแน่นอน
ถึงเวลานั้นไม่ว่าฮองเฮาหรือเหลียงอ๋องอาจยัดเยียดข้อหาใดข้อหาหนึ่งใส่ร้ายองค์รัชทายาท! หรือบางทีฮ่องเต้อาจเสด็จสวรรคตก่อนที่องค์รัชทายาทจะกลับไปถึงเมืองหลวง พระองค์อาจร่างราชโองการยกบัลลังก์ให้ผู้อื่นแทนองค์รัชทายาทได้
ซิ่นอ๋องกลับเมืองหลวง ฮ่องเต้พลัดตกจากหลังม้า…
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรฟางเหล่าก็รู้สึกว่าฮองเฮาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
บัดนี้องค์รัชทายาทอยู่ที่เติงโจว ไม่สู้ออกคำสั่งให้ต่งชิงเยว่นำทัพคุ้มกันองค์รัชทายาทไปส่งที่เมืองหลวงดีกว่า
ทว่า หากหรงตี๋ย้อนกลับมาโจมตีเล่า
เทียบกับการสูญเสียชีวิตและตำแหน่งองค์รัชทายาทแล้ว การสูญเสียเมืองเติงโจวถือเป็นเรื่องเล็กน้อยกว่ามากนัก
ฟางเหล่าตัดสินใจเด็ดขาด เมื่อไปรวมตัวกับองค์รัชทายาท พวกเขาจะยังไม่รีบร้อนจากไป ต้องปรึกษากับองค์รัชทายาทให้พระองค์นำทัพเติงโจวกลับไปเมืองหลวงด้วยให้ได้
ขบวนรถม้าขององค์รัชทายาทจอดรออยู่ที่นอกเมืองเติงโจว ฟางเหล่าจับมือของเริ่นซื่อเจี๋ยเดินลงมาจากรถม้าก็เห็นองค์รัชทายาทและไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าเร็วเข้ามาสมทบพอดี
“องค์ชาย!” เมื่อฟางเหล่าเห็นองค์รัชทายาทและไป๋ชิงเหยียน เขารีบสะบัดมือของเริ่นซื่อเจี๋ยออกแล้วก้าวเข้าไปด้านหน้าทันที “องค์ชาย!”
“องค์ชาย!” เฉวียนอวี๋วิ่งเข้าไปหาองค์รัชทายาทเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนกระตุกบังเหียนม้าให้หยุดลง ลงจากหลังม้า โยนหอกในมือของตนส่งให้องครักษ์ไป๋ นางเห็นชุนเถาวิ่งเข้ามาหาตนเช่นเดียวกัน “คุณหนูใหญ่!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้ชุนเถา จากนั้นหันไปทางองค์รัชทายาทที่ถูกองครักษ์จวนองค์รัชทายาทประคองลงมาจากม้า ฟางเหล่าและเฉวียนอวี๋เข้าไปประคององค์รัชทายาทไว้คนละด้าน เมื่อเท้าองค์รัชทายาทแตะพื้นเรียบร้อย ฟางเหล่าจึงกล่าวขึ้น “องค์ชาย พวกเราจะกลับเมืองหลวงไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ เราควรขอให้ใต้เท้าต่งคุ้มกันองค์ชายไปส่งถึงเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ได้! กองทัพเติงโจวจะถูกเคลื่อนย้ายไม่ได้เด็ดขาด!” ฉินซ่างจื้อกล่าวขึ้นก่อน “พวกเราจะดูถูกหนานหรงไม่ได้ คราวที่แล้วพวกเขาบุกยึดเมืองเติงโจว แม้จะถอยทัพกลับไปแล้ว ทว่า พวกเราไม่มีทางรู้ว่าพวกนั้นจะบุกกลับมาอีกเมื่อใด บัดนี้เราจะสูญเสียเมืองเติงโจวไปไม่ได้อีกเด็ดขาด!”
“สูญเสียเมืองเติงโจวไม่ได้ เราสูญเสียชีวิตขององค์รัชทายาทได้อย่างนั้นหรือ!” ฟางเหล่ามองไปทางไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงเข้ม “ครั้งนี้องค์รัชทายาทเสด็จจากเมืองหลวงมาไกลเพื่อนำเสบียงอาหารมาให้เติงโจว บัดนี้เมืองหลวงเกิดความวุ่นวาย ใต้เท้าต่งควรส่งกองทัพคุ้มกันองค์รัชทายาทกลับเมืองหลวง มิเช่นนั้นหากฝ่าบาททรงเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ทว่า องค์ชายยังกลับไปไม่ถึงเมืองหลวง ต้าจิ้นถึงจะพบกับความวิบัติที่แท้จริง!”
“ฟางเหล่าและฉินเซียนเซิงเชิญขึ้นไปบนรถม้าขององค์รัชทายาทก่อนเถิด องค์รัชทายาทมีแผนการรับมือกับเรื่องนี้แล้ว พวกท่านฟังที่องค์รัชทายาทตรัสก่อนเถิด” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางองค์รัชทายาท “องค์รัชทายาท เรายังต้องรอให้หลูผิงนำทหารจากเติงโจวมาที่นี่ ตอนนี้ควรอธิบายรายละเอียดให้ที่ปรึกษาทั้งสามฟังก่อนเพคะ”
องค์รัชทายาทพยักหน้า กำมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อแน่น กล่าวขึ้น “ถูกแล้ว ขึ้นไปบนรถม้าแล้วค่อยว่ากัน”
เฉวียนอวี๋ประคององค์รัชทายาทขึ้นไปบนรถม้าคันงามที่มีพื้นที่กว้างขวาง ไป๋ชิงเหยียนบอกให้ชุนเถาเตรียมชุดเกราะให้ จากนั้นตามองค์รัชทายาทขึ้นไปบนรถม้า ตามด้วยฟางเหล่า ฉินซ่างจื้อและเริ่นซื่อเจี๋ย
องค์รัชทายาทมองไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “เราปรึกษากับองค์หญิงเจิ้นกั๋วแล้วว่าควรให้ทหารค่ายผิงอันคุ้มกันพวกเรากลับเมืองหลวง”
ฉินซ่างจื้อพยักหน้า
“เราจะสูญเสียเมืองเติงโจวไปไม่ได้” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางฟางเหล่า “หากเมืองหลวงเกิดการเปลี่ยนแปลง องค์รัชทายาทยังสามารถถอยกลับมายังเติงโจวได้ ทว่า หากเราสูญเสียเติงโจวไป จะให้องค์รัชทายาทหนีไปยังหนานเจียงอย่างนั้นหรือ ผู้ใดกล้ารับประกันว่าซีเหลียงจะไม่บุกมายึดดินแดนที่เสียไปคืนหลังจากรู้ว่าต้าจิ้นเกินความวุ่นวายภายในแคว้น ถึงเวลานั้นพวกเราจะหนีเสือปะจระเข้ทันที”
ฟางเหล่ายกมือลูบเคราของตัวเองอย่างใช้ความคิด
“ที่สำคัญค่ายผิงอันจะไม่เคลื่อนทัพโดยพลการหากไม่มีคำสั่งของฝ่าบาท หากฮองเฮาหรือเหลียงอ๋องควบคุมฝ่าบาทที่สลบไม่ได้สติในเมืองหลวง อีกทั้งควบคุมค่ายผิงอันที่อยู่นอกเมืองหลวงได้ เรื่องราวจะยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม ดังนั้นองค์รัชทายาทควรรีบควบคุมค่ายผิงอันให้ได้ก่อนที่เมืองหลวงจะมีความเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อป้องกันไว้ก่อน!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางฟางเหล่า ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสคิดทบทวน
“ฟางเหล่ามีประสบการณ์และควบคุมสถานการณ์ได้ดี สามารถติดตามข้าและองค์รัชทายาทไปยังค่ายผิงอันพร้อมกับทหารเติงโจวสามพันนายเพื่อป้องกันไว้ก่อนได้ ไม่ทราบว่าฟางเหล่าขี่ม้าเร็วในระยะทางไกลได้หรือไม่”
มือที่ลูบเคราของฟางเหล่าชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “เพื่อองค์ชายแล้ว แม้แต่ชีวิตข้าก็มอบให้ได้!”
องค์รัชทายาทรู้สึกซาบซึ้ง เขาตบไปที่หลังมือของฟางเหล่าเบาๆ
“เช่นนั้นให้เฉวียนอวี๋กงกง ฉินเซียนเซิงและเริ่นเซียนเซิงนำขบวนรถม้าเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ระหว่างทางจงระวังตัวให้มาก หากเมืองหลวงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงๆ อาจมีคนมาลอบสังหารองค์รัชทายาท รถม้าขององค์รัชทายาทคือเป้าหมายของพวกเขา จะทำอย่างไรไม่ให้โดนจับได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกท่านทั้งสามแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
“องค์ชายและองค์หญิงเจิ้นกั๋ววางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ เฉวียนอวี๋จะคุ้มกันรถม้าขององค์ชายให้ดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” เฉวียนอวี๋กล่าวอย่างจริงใจ
“องค์ชายและองค์หญิงเจิ้นกั๋วเชิญเสด็จตามสบายพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่มีข้าและเริ่นเซียนเซิงอยู่ ไม่มีทางปล่อยให้เกิดปัญหาแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ฉินซ่างจื้อค่อนข้างเป็นกังวล “ทว่า เดินทางไปค่ายผิงอันในครั้งนี้มีความเสี่ยงอยู่มาก”
ส่วนตัวแล้ว ฉินซ่างจื้อคิดว่าการที่ฮ่องเต้พลัดตกม้าจนสลบไม่ได้สติถือเป็นเรื่องดี ขอเพียงฮ่องเต้ทนได้จนองค์รัชทายาทกลับไปถึงเมืองหลวง จากนั้นเสด็จสวรรคต จักรพรรดิที่หลงงมงายอยู่แต่เรื่องปรุงยาวิเศษสวรรคต จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ย่อมทำให้ราชสำนักเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบใหม่แน่นอน ตระกูลไป๋ย่อมไม่ก่อกบฏแน่ ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนยังช่วยวางแผนให้องค์รัชทายาทอยู่เลย!
“ฉินเซียนเซิงไม่ต้องเป็นห่วง ข้า ฟางเหล่าและทหารกองทัพเติงโจวอีกสามพันนายจะคุ้มครององค์รัชทายาทด้วยชีวิต!”
เฉวียนอวี๋มองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่มีสีหน้าหนักแน่นแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปกล่าวกับองค์รัชทายาท “องค์ชาย เฉวียนอวี๋ช่วยใส่ชุดเกราะให้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเห็นองค์รัชทายาทพยักหน้า หญิงสาวทำความเคารพองค์รัชทายาทแล้วลงมาจากรถม้า กลับไปเปลี่ยนชุดเกราะที่รถม้าของตัวเอง