ตอนที่ 598 สมปรารถนา
“คุณหนูใหญ่ส่งวังเกอให้แม่นมเถิดเจ้าค่ะ…” เจี่ยงหมัวมัวกล่าวเสียงอ่อนโยน “อาหารเย็นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ส่งวังเกอให้แม่นมอย่างระมัดระวัง จากนั้นลุกขึ้นยืนประคองร่างขององค์หญิงใหญ่ที่กำลังจะลุกขึ้น แล้วผ่านผ้าม่านเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่รีบร้อน อาหารถูกจัดเตรียมขึ้นบนโต๊ะกลมด้านนอกเรียบร้อยแล้ว
หลิวซื่อเป็นคนดูแลเรื่องอาหารเย็นในวันนี้ อาหารเกือบทั้งหมดล้วนเป็นอาหารโปรดของไป๋ชิงเหยียน หลิวซื่อบอกให้ไป๋ชิงเหยียนทานเยอะๆ ด้วยรอยยิ้ม
หลิวซื่อเปลี่ยนตะเกียบ คีบปลาให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง “ท่านน้าชายของจิ่นซิ่วส่งมาให้ ได้ยินว่าทางทะเลจับของสดได้มาก เขาจึงส่งมาที่เมืองหลวงไม่หยุดหย่อน ปลาร้อยกว่าตัวมีสิบกว่าตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ หายากยิ่งนัก รสชาติสดมาก อาเป่าลองชิมดู!”
ไป๋ชิงเหยียนชิมหนึ่งคำ รสชาติสดใหม่จริงๆ ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “สดมากจริงๆ เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ทานเยอะๆ” หลิวซื่อคีบอาหารอื่นให้ไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนรับคำเสร็จก็ได้ยินบ่าวรับใช้มารายงานว่าเฉวียนอวี๋กงกงมาที่จวน กล่าวว่ารัชทายาทมาเรื่องมาเรียกให้ทราบ
ไป๋ชิงเหยียนวางตะเกียบลง ล้างปากด้วยน้ำผึ้ง รับผ้าเช็ดหน้าจากชุนเถามาเช็ดปาก กล่าวขึ้น “ท่านย่า ท่านอาสะใภ้รอง พวกท่านทานกันไปก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้ากลับมาเจ้าค่ะ”
รัชทายาทคงได้ผลสรุปจากการปรึกษากับราชครูถานและเสนาบดีกรมทหารแล้ว เขาจึงสั่งให้เฉวียนอวี๋มารายงานให้นางทราบ
ไป๋จิ่นเซ่อมองตามแผ่นหลังที่จากไปของไป๋ชิงเหยียน รู้สึกว่าพี่หญิงใหญ่เหนื่อยมากเกินไป ดวงตาของพี่หญิงใหญ่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง แค่ดูก็รู้แล้วว่านางพักผ่อนไม่เพียงพอ สาวน้อยยัดข้าวเข้าปากคำโต อยากโตไวๆ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของพี่หญิงใหญ่ได้
บ่าวรับใช้เชิญเฉวียนอวี๋กงกงไปนั่งจิบชารอด้านในจวน เมื่อเฉวียนอวี๋เห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาจึงรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ “คาราวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”
“กงกงเชิญนั่งลงก่อน ไม่ทราบว่าองค์ชายทรงมีสิ่งใดรับสั่งอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจแล้ว
“ไม่มีอันใดมากพะย่ะค่ะ องค์ชายสั่งบ่าวมาทูลให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบว่าท่านราชครูถานและใต้เท้าเสิ่นมีความเห็นว่าไม่ควรปล่อยให้ต้าเยี่ยนร่วมมือกับเป่ยหรงบุกทำลายหนานหรง บัดนี้ได้ส่งใต้เท้าหลิ่วหลูซื่อไปยังเป่ยหรงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เฉวียนอวี๋กล่าวพลางหันหน้าไปยังทิศทางที่ไป๋ชิงเหยียนขยับเดิน “จากนั้นองค์ชายทรงมีรับสั่งไปยังค่ายผิงอัน ให้ใต้เท้าต่งนำทหารค่ายผิงอันและเติงโจวบุกไปประชิดชายแดนเป่ยหรงเพื่อข่มขู่ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เป็นดั่งที่ไป๋ชิงเหยียนคาดจริงๆ ราชครูถานและเสิ่นจิ้งจงเสนาบดีกรมทหารล้วนเป็นคนมองการไกลทั้งคู่
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งลง เฉวียนอวี๋จึงหยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ โน้มกายวางลงบนโต๊ะตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน จากนั้นถอยกลับมาอยู่ที่เดิมอย่างนอบน้อม “นี่คือยาอวี้เหยียนของวังหลวงพะย่ะค่ะ ได้ยินว่ารักษาแผลเป็นได้ผลดีนัก องค์หญิงทรงลองใช้ดูนะพ่ะย่ะค่ะ”
เฉวียนอวี๋ยังจำบาดแผลบริเวณใบหูของไป๋ชิงเหยียนได้ เมื่อกลับถึงเมืองหลวง เขาจึงพยายามหาทางเพื่อให้ได้ยาอวี้เหยียนที่หายาขวดนี้มา ได้ยินว่านอกจากฮองเฮาแล้ว มีเพียงอวี๋กุ้ยเฟยและชิวกุ้ยเหรินซึ่งเป็นที่โปรดปรานได้ตอนนี้เท่านั้นที่มียานี่อยู่
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ฝากกงกงขอบคุณองค์รัชทายาทด้วย แผลเล็กน้อยแค่นี้องค์ชายไม่น่าเสียเวลาเลย”
เฉวียนอวี๋ไม่ได้อธิบายว่ายานี้ไม่ได้มาจากรัชทายาท เขาเพียงแค่ยิ้มรับ
ไป๋ชิงเหยียนหยิบขวดยาสีขาวที่เฉวียนอวี๋วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาดู จากนั้นแสร้งถามขึ้นลอยๆ “วันนี้ฝูเหล่าไท่จวินมาที่จวนของข้า นางกล่าวถึงเรื่องที่องค์รัชทายาทกำลังสืบอยู่ ข้าจึงให้นางไปหาองค์รัชทายาทที่จวน ทว่า ลืมส่งคนไปรายงานองค์รัชทายาทก่อนล่วงหน้า ไม่ทราบว่าองค์รัชทายาทได้พบฝูเหล่าไท่จวินหรือไม่”
เฉวียนอวี๋พยักหน้า “ทูลองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ฝูเหล่าไท่จวินมาที่จวนรัชทายาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกล่าวว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วให้นางมาพบองค์รัชทายาท องค์รัชทายาทจึงยอมพบนาง พวกเขาสนทนากันอย่างเป็นความลับ พวกบ่าวถูกกันออกห่างจึงไม่ทราบเรื่องพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็วางใจแล้ว หวังว่าองค์รัชทายาทจะสมหวังดั่งใจปรารถนาโดยเร็ว”
“มีองค์หญิงเจิ้นกั๋วคอยช่วยเหลือ องค์ชายย่อมทำสำเร็จอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” เฉวียนอวี๋กล่าวอย่างนอบน้อม จากนั้นขอตัวกลับจวนรัชทายาท
เมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับไปที่เรือนฉางโซ่วอีกครั้ง ทุกคนรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ฉินหล่างมารับไป๋จิ่นซิ่วและวั่งเกอกลับจวนฉินด้วยตัวเอง
ไม่ได้พบฉินหล่างหลายเดือน ไม่รู้ว่าใบหน้าของฉินหล่างดูคมคายขึ้นเพราะร่างกายที่ซูบผอมลงหรือไม่ ทว่า เขาดูสุมขุมคมคายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้ยินหลิวซื่อกล่าวว่าช่วงนี้ฉินหล่างอ่านหนังสืออย่างหนัก หวังติดอันดับในการสอบคัดเลือกขุนนางในปีหน้า เดือนสองให้ได้
ฉินหล่างทำความเคารพองค์หญิงใหญ่และหลิวซื่อ จากนั้นหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้เล็กน้อย
เมื่อเห็นฉินหล่างรับตัววั่งเกอจากแม่นมมาอุ้มไว้เองอย่างหลงรัก ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงเรื่องที่ฉินหล่างเลือกไป๋จิ่นซิ่วก่อนเลือกวั่งเกอ ใบหน้าที่ชายหนุ่มมองไปทางไป๋จิ่นซิ่วเต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
มองส่งทั้งสามคนจากไป ไป๋ชิงเหยียนประคององค์หญิงใหญ่กลับเข้าไปในห้อง หญิงสาวอยู่สนทนาเป็นเพื่อนองค์หญิงใหญ่สักพัก เดิมทีอยากอยู่ปรนนิบัติองค์หญิงใหญ่เข้านอน ทว่า องค์หญิงใหญ่สงสารหลานสาวที่ตั้งแต่กลับมายังไม่มีเวลาได้พักผ่อนจึงบอกให้นางรีบกลับไปพักผ่อน
เมื่อไป๋ชิงเหยียนที่ดูอ่อนล้าเดินออกมาจากเรือนฉางโซ่ว หญิงสาวเห็นหลูผิงซึ่งยืนรออยู่หน้าเรือนฉางโซ่วนานแล้วสาวเท้าเข้ามาหา “คุณหนูใหญ่!”
“ลุงผิง เดินไปพลางกล่าวไปเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวแล้วหันไปส่งสัญญาณให้ชุนเถา
ชุนเถารับรู้ นางรอให้ไป๋ชิงเหยียนและหลูผิงเดินจากไปประมาณสิบเก้า จากนั้นจึงพาบรรดาสาวใช้เดินตามไปโดยรักษาระยะห่างอย่างสม่ำเสมอ
“ขอรับ!” หลูผิงถือโคมไฟเดินอยู่ด้านข้างไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงเบาหวิว “เมื่อฝูเหล่าไท่จวินออกจากจวนไป๋ นางตรงไปยังจวนรัชทายาททันทีขอรับ ตอนแรกรัชทายาทไม่ยอมพบหน้าฝูเหล่าไท่จวิน ทว่า เมื่อฝูเหล่าไท่จวินกล่าวว่าคุณหนูใหญ่บอกให้นางมาพบ รัชทายาทจึงให้คนเชิญฝูเหล่าไท่จวินเข้าไปในจวนขอรับ”
ฝูเหล่าไท่จวินไม่ใช่คนโง่ นางเป็นคนที่ฉลาดมาก ไป๋ชิงเหยียนแนะนำให้นางไปหารัชทายาท นางจึงอ้างชื่อของไป๋ชิงเหยียนเพื่อแสดงตัวเป็นมิตรกับรัชทายาท
“ฝูเหล่าไท่จวินอยู่ในจวนรัชทายาทประมาณครึ่งชั่วยามจึงออกมาขอรับ ตอนนี้นางเดินทางไปเยี่ยมแม่ทัพฝูที่คุกของศาลต้าหลี่ขอรับ ศาลต้าหลี่คุ้มกันอย่างแน่นหนา คนของเราเข้าไปไม่ได้จึงกลับมารายงานก่อนขอรับ” หลูผิงกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย “ลำบากลุงผิงแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด เราคงอยู่เมืองหลวงต่ออีกสักพัก”
นึกถึงเรื่องที่ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวในวันนี้ว่าซิ่นอ๋องส่งลูกน้องไปหาจงเส้าจิ้งผู้เป็นน้าชายของเขาอย่างลับๆ ไป๋ชิงเหยียชะงักฝีเท้าพลางมองไปทางหลูผิง ดวงตาแดงก่ำเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอเต็มไปด้วยความหนักแน่น ”ไม่แน่อาจมีสงครามรอให้เราออกรบอีกครั้ง”
หลูผิงตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “ขอรับ!”
คุกศาลต้าหลี่
ฝูเหล่าไท่จวินได้รับอนุญาตจากรัชทายาทให้เข้าไปในคุกของศาลต้าหลี่ได้ นางเดินตามผู้คุมของศาลต้าหลี่เข้าไปด้านในด้วยใจที่เต้นรัว
หมัวมัวชราที่เดินอยู่ข้างกายของฝูเหล่าไท่จวินเพิ่งเคยเข้ามาในคุกเช่นนี้เป็นครั้งแรก ไฟที่แขวนอยู่ตามสองข้างทางส่องแสงริบหรี่ รู้สึกว่ายิ่งเดินเข้าไปด้านในยิ่งมืดทึบ อากาศอับชื้นเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ นางเดินตัวงอตามหลังฝูเหล่าไท่จวินที่ถือไม้เท้าเดินหลังตรงเข้าไปด้านในอย่างสงบนิ่งไปอย่างกระชั้นชิด