สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 605 เพียงในนาม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 605 เพียงในนาม

ทุกคนในเมืองหลวงต่างรับรู้ว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วคือคนขององค์รัชทายาท ครั้งนี้ฝูรั่วซีชักดาบพุ่งเข้าใส่องค์รัชทายาทจนเกือบปลิดชีวิตของพระองค์ องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนฟันแขนข้างหนึ่งของฝูรั่วซีจนขาดเพื่อช่วยชีวิตองค์รัชทายาทเอาไว้

ทว่า เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง ฮูหยินฝูนึกขึ้นได้ว่าบุตรชายคนโตของตนหมั้นหมายอยู่กับญาติผู้น้องขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว นางรีบกระตุกแขนเสื้อของบุตรชายคนโตให้เขารีบเข้าไปทักทายองค์หญิงเจิ้นกั๋ว หวังว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะเห็นแก่ที่ญาติผู้น้องของนางกำลังหมั้นหมายอยู่กับคุณชายตระกูลฝู ทูลขอให้องค์รัชทายาทไว้ชีวิตคนในตระกูลฝู ไม่ทำให้ครอบครัวของนางต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ตระกูลฝูแยกครอบครัวกันแล้ว ครอบครัวของบุตรชายคนโตแยกออกมาแล้ว ความผิดที่ฝูรั่วซีกระทำควรปล่อยให้ครอบครัวบุตรชายคนรองของเขารับผิดชอบเพียงครอบครัวเดียว

บุตรชายของครอบครัวบุตรคนโตขมวดคิ้ว มีท่าทีไม่เต็มใจออกมา เขาแสร้งก้มหน้าทำเป็นไม่รับรู้ พลางขยับกายออกห่างเล็กน้อย

ฮูหยินของครอบครัวบุตรคนโตยังอยากเข้าไปลากตัวบุตรชาย ทว่า เห็นฮูหยินสองหลิวซื่อก้าวเข้ามาด้านในแล้ว นางจึงจำต้องออกไปต้อนรับแขกก่อน

หลิวซื่อจุดธูปเคารพศพ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหางตาเล็กน้อย กล่าวแสดงความเสียใจกับฮูหยินครอบครัวบุตรคนโตและหลัวซื่อฮูหยินของฝูรั่วซีครู่หนึ่ง จากนั้นฮูหยินสามของตระกูลฝูจึงเชิญนางไปดื่มน้ำชาที่เรือนหลัง

ไป๋ชิงเหยียนจุดธูปเคารพศพ มองจ้องไปยังป้ายชื่อของฝูเหล่าไท่จวินนิ่ง จากนั้นโค้งกายคำนับอย่างจริงใจ

นางแนะนำให้ฝูเหล่าไท่จวินไปพบองค์รัชทายาท ทว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝูเหล่าไท่จวินจะเดินมาถึงจุดนี้

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพศพเสร็จ เตรียมเดินจากไป ฮูหยินใหญ่รีบลุกขึ้นยืนเรียกนางเอาไว้ “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองฮูหยินของครอบครัวบุตรชายคนโต

ฮูหยินใหญ่กระชากตัวบุตรชายให้ลุกขึ้น บุตรชายของนางชักแขนของตัวเองกลับพลางขมวดคิ้วแน่น เขาหันไปทำความเคารพไป๋จิ่นเซ่อที่กำลังทำความเคารพศพโดยไม่ไว้หน้ามารดาของตัวเองแม้แต้น้อย

ฮูหยินใหญ่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นกล่าวขึ้น “นี่คือบุตรชายคนโตของหม่อมฉัน เขาหมั้นหมายอยู่กับบุตรสาวของใต้เท้าต่ง ญาติผู้น้องขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ถือเป็นน้องเขยขององค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นกันเพคะ”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางบุตรชายคนโตของครอบครัวบุตรคนโตที่ดวงตาแดงก่ำเพราะเสียใจอย่างแท้จริงแวบหนึ่ง พยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นเดินตามฮูหยินสามไปยังที่พักสำหรับแขกที่มาเคารพศพ

พี่ชายคนโตของฝูรั่วซีคือบุรุษ เขาไม่สะดวกพาไป๋ชิงเหยียนไปยังที่พัก เดิมทีเขาอยากให้ภรรยาของตัวเองพาไป ทว่า เมื่อเห็นภรรยาของตัวเองเอาแต่กล่าวตำหนิบุตรชายจึงขมวดคิ้วแน่น ได้แต่คุกเข่านิ่งอยู่ด้านข้าง

หลัวซื่อภรรยาของฝูรั่วซีมองตามแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียน เมื่อไป๋จิ่นเซ่อจุดธูปเคารพศพเสร็จ ไม่มีแขกมาร่วมพิธีแล้ว นางจึงเดินไปหาไป๋ชิงเหยียนโดยอ้างว่าจะกลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

หลิวซื่อยกน้ำชาขึ้นจิบ มองไปยังตระกูลฝูที่มีแต่ความเงียบเหงาและเยือกเย็น นึกถึงตอนที่ตระกูลไป๋จัดพิธีศพแล้วมีแต่ตระกูลต่งมาร่วมงานก็ได้แต่ถอนหายใจยาว รู้สึกหดหู่กับความแล้งน้ำใจและโหดร้ายบนโลกใบนี้

ตระกูลฝูจัดพิธีศพก็ไม่มีคนมาร่วมงานเช่นเดียวกัน ที่นี่เงียบเหงาจนรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

หลิวซื่อได้ยินว่าบรรดาแม่ทัพค่ายผิงอันที่คุ้มครององค์รัชทายาทกลับมาเมืองหลวงถูกเชิญไปที่คุกของศาลต้าหลี่ตั้งแต่เมื่อคืน พวกเขาคงยังไม่ถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกศาลต้าหลี่ มิเช่นนั้นที่นี่คงไม่วังเวงถึงเพียงนี้

โชคดีที่ตระกูลไป๋ของพวกนางมีชื่อเสียงเรื่องความจงรักภักดีมาทุกรุ่น ปรมาจารย์กวนยงฉยงเซียนเซิงและชุยสือเหยียนเซียนเซิงต่างมาเคารพศพ ต่อมาเพราะมีองค์หญิงใหญ่และอาเป่าอยู่ ตระกูลไป๋จึงยังยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

ทว่า ตระกูลฝูในตอนนี้รอดพ้นจากโทษประหารทั้งตระกูลมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม่มีผู้ใดกล้ามาเคารพศพ

หลิวซื่อคิดว่าอีกสักครู่คนของตระกูลต่งคงมาเคารพศพ ตระกูลต่งและตระกูลไป๋เป็นดองกัน แม้ตระกูลฝูและตระกูลต่งจะยังไม่ได้แต่งงานอย่างเป็นทางการ ทว่า แลกเปลี่ยนดวงตกฟากกันแล้วก็ถือเป็นดองกันแล้ว ตระกูลต่งต้องมาอย่างแน่นอน

คิดได้ดังนี้ หลิวซื่อเหลือบมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่กำลังเป่าไอร้อนในถ้วยชาของตัวเองอยู่ หวังว่าไป๋ชิงเหยียนจะอยู่ห่างจากญาติผู้น้องคนนั้นสักหน่อย อย่าปล่อยให้นางทำให้ชื่อเสียงของไป๋ชิงเหยียนต้องเสื่อมเสียไปด้วย อาเป่าของนางยังไม่ได้แต่งงานเลย!

แม้อาเป่าจะมีบุตรยาก ทว่า มีบุตรยากไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี นางอยากหาคู่ครองที่ดีให้อาเป่า ให้ผู้ที่ชอบนินทาว่าอาเป่ามีบุตรยากหุบปากไปเสียให้หมด

หลิวซื่อจิบชาร้อนหนึ่งอึก เมื่อวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ นางเห็นหลัวซื่อในชุดไว้ทุกข์เดินเข้ามาด้านใน หลัวซื่อก้มศีรษะให้หลิวซื่อเล็กน้อย จากนั้นหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ขอสนทนาด้วยสักครู่ได้หรือไม่เพคะ”

“ฮูหยินฝู…” หลิวซื่อรีบเดินเข้าไปหา รั้งไป๋ชิงเหยียนไปอยู่ด้านหลังตน กล่าวยิ้มๆ “ไม่ทราบว่าฮูหยินฝูมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”

หลิวซื่อกลัวว่าหลัวซื่อจะใช้การเสียชีวิตของฝูเหล่าไท่จวินเรียกความสงสาร ขอร้องให้ไป๋ชิงเหยียนช่วยกล่าวขอร้ององค์รัชทายาทให้ฝูรั่วซี กลัวว่านางจะคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกเพื่อบีบให้ไป๋ชิงเหยียนรับปากนาง ทำให้ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกลำบากใจ

ดังนั้นหลิวซื่อจึงลุกขึ้นมาขัดขวางไม่ให้เรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้น

ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าหลิวซื่อต้องการปกป้องตน นางกระตุกแขนเสื้อของหลิวซื่อเบาๆ “ท่านอาสะใภ้รอง มิเป็นอันใดเจ้าค่ะ”

หลิวซื่อได้ยินเช่นนี้จึงไม่แสร้งปั้นหน้ายิ้มอีก นางหันไปกล่าวกับหลัวซื่อ “ฮูหยินฝู ขอแสดงความเสียใจเรื่องการจากไปของฝูเหล่าไท่จวินด้วยเจ้าค่ะ ทว่า ฮูหยินฝูโปรดอย่าทำให้ยายหนูใหญ่ของเราต้องลำบากใจเลยนะเจ้าคะ แม้นางจะเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ทว่า เป็นเพียงในนามเท่านั้น นางไม่ใช่องค์หญิงของราชวงศ์จริงๆ นางไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใดๆ หรอกเจ้าค่ะ”

หลัวซื่อรีบทำความเคารพหลิวซื่อ “ฮูหยินสองไป๋ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ วันนี้ตระกูลไป๋มาเคารพศพท่านแม่ ทุกคนในตระกูลฝูรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก จะกล้าแบกหน้าขอร้องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วลำบากพระทัยได้อย่างไรเจ้าคะ”

หลัวซื่อรับปากเช่นนี้ หลิวซื่อจึงยอมถอยห่าง หันไปกำชับให้ไป๋ชิงเหยียนรีบกลับมา

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นเดินตามหลัวซื่อไปยังมุมลับตาคน

เมื่อหลัวซื่อเดินไปถึงที่ลับตาคน นางคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียนทันทีทั้งน้ำตา “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว เมื่อวานก่อนที่ศพของท่านแม่สามีของหม่อมฉันจะถูกส่งกลับมาที่จวน ท่านแม่ได้สั่งให้บ่าวรับใช้คนสนิทของท่านนำจดหมายกลับมาให้หม่อมฉัน ในจดหมายกล่าวเพียงให้หม่อมฉันเชื่อใจองค์หญิงเจิ้นกั๋ว จากนั้นแม่สามีของหม่อมฉันก็เสียชีวิตลง บัดนี้ฝูรั่วซีถูกขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่ เมื่อวานใต้เท้าหลู่ไม่ได้คำสารภาพจากปากของฝูรั่วซี เขาจึงเชิญแม่ทัพค่ายผิงอันคนอื่นๆ ไปยังคุกศาลต้าหลี่ หม่อมฉันมืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะทำเช่นไรแล้วจริงๆ เพคะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดบอกหม่อมฉันทีเพคะว่าตอนนี้หม่อมฉันทำสิ่งใดได้บ้างเพคะ!”

“ฮูหยินฝูรีบลุกขึ้นมาก่อนเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนประคองหลัวซื่อให้ลุกขึ้น “ฮูหยินฝูไม่ต้องทำสิ่งใดทั้งนั้น ท่านแค่ตั้งใจทำพิธีศพของฝูเหล่าไท่จวินไปก็พอ องค์รัชทายาทจะปกป้องทุกคนในตระกูลฝูเอง”

หลัวซื่อพยักหน้าอย่างเจ็บปวด สะอื้นจนตัวโยน “ขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ขอบพระทัยมากเพคะ!”

พี่สะใภ้ของฝูรั่วซีที่อยู่ในหอทำพิธีไม่เห็นร่างของหลัวซื่อในงาน นางจึงเดาได้ว่าหลัวซื่อต้องไปขอความช่วยเหลือจากไป๋ชิงเหยียนแน่นอน นางเดือดดาลขึ้นทันที หลัวซื่อช่างหน้าไม่อายจริงๆ หากนับตามความสัมพันธ์แล้วองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นดองกับครอบครัวของนาง หลัวซื่อกล้าชิงตัดหน้านางไปขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้อย่างไรกัน

ไม่ได้! นางไม่สนใจชีวิตของฝูรั่วซี ทว่า นางต้องปกป้องครอบครัวของนางไว้ให้ได้

ฮูหยินใหญ่ฝูกลัวว่าหลัวซื่อจะใช้เรื่องการเป็นดองระหว่างครอบครัวนางและองค์หญิงเจิ้นกั๋วขอให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วขอร้องให้องค์รัชทายาทไว้ชีวิตฝูรั่วซี หากองค์รัชทายาททรงไม่อนุญาต ครอบครัวของนางจะทำเช่นไรกัน!

นางต้องรีบหาตัวองค์หญิงเจิ้นกั๋วให้เจอ ขอให้นางช่วยเหลือครอบครัวของบุตรชายคนโตถึงจะถูก!

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท