สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 606 ทำตัวสนิทสนม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 606 ทำตัวสนิทสนม

มิเช่นนั้นครอบครัวของบุตรคนโตคงต้องจบสิ้นไปพร้อมกับฝูรั่วซีแน่

ไม่ว่าอย่างไรครอบครัวบุตรคนโตก็ได้แยกตระกูลกับครอบครัวบุตรคนรองอย่างฝูรั่วซีแล้ว หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วยอมช่วยเหลือ นางยังสามารถช่วยเหลือครอบครัวบุตรคนโตได้อยู่

ฮูหยินใหญ่กำลังจะลุกขึ้นยืนก็ได้ยินบ่าวรับใช้รายงานว่าตระกูลต่งเดินทางมาเคารพศพ

ฮูหยินฝูดีใจขึ้นมาทันที นางรีบชะโงกหน้ามองไปทางด้านนอก หงหลู่ซื่อชิงใต้เท้าต่งพาครอบครัวเดินเข้ามาด้านใน

ใต้เท้าต่งคือลุงขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว ฮูหยินต่ง ซ่งซื่อคือป้าสะใภ้ขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว เดี๋ยวนางจะพาฮูหยินต่งไปนั่งพักจิบน้ำชาที่เรือนหลังด้วยตัวเอง เช่นนี้นางจะได้มีโอกาสสนทนากับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะได้รู้ว่าผู้ที่เป็นดองกับตระกูลต่งคือครอบครัวบุตรชายคนโตของพวกนาง องค์หญิงเจิ้นกั๋วควรช่วยเหลือครอบครัวของนางถึงจะถูก

ต่งชิงผิงจุดธูปเคารพศพ เมื่อทุกคนของตระกูลฝูทำความเคารพเสร็จ พี่ชายคนโตของฝูรั่วซีลุกขึ้นยืนพาต่งชิงผิงไปพักที่พักของแขกที่เป็นบุรุษด้วยตัวเอง เขาบ่นเรื่องความแล้งน้ำใจของคนในใต้หล้า กล่าวขอบคุณต่งชิงผิงอยู่หลายครั้งที่เขาและองค์หญิงเจิ้นกั๋วมาเคารพศพฝูเหล่าไท่จวินแม้ตระกูลฝูจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้

ต่งชิงผิงไม่แปลกใจที่ไป๋ชิงเหยียนเดินทางมาเคารพศพเช่นเดียวกัน แต่ไรมาตระกูลไป๋ล้วนทำสิ่งใดอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยเสมอ

เมื่อซ่งซื่อและต่งถิงอวี๋จุดธูปเคารพศพเสร็จ กล่าวแสดงความเสียใจกับฮูหยินใหญ่และฮูหยินสามเสร็จ ฮูหยินใหญ่รีบกระตุกแขนเสื้อของบุตรชายให้รีบเข้าไปทำความเคารพซ่งซื่อ

เมื่อเห็นบุตรชายของตัวเองทำหน้าฝืนใจ ฮูหยินใหญ่ฝูจึงรีบพาซ่งซื่อไปยังที่พักรับรอง

เมื่อไม่เห็นต่งถิงฟางมาด้วย ฮูหยินใหญ่ฝูจึงถามออกไป “เหตุใดจึงไม่เห็นถิงฟางเจ้าคะ องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดของตระกูลไป๋มาที่นี่หมดเลยเจ้าค่ะ ถิงฟางไม่ได้พบหน้าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมานาน หากครั้งนี้ได้พบหน้ากันคงมีเรื่องให้สนทนากันมากเลยนะเจ้าคะ”

ซ่งซื่อรู้ความคิดของฮูหยินใหญ่ฝูดี สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล่าวยิ้มๆ “ถิงฟางป่วยตั้งแต่สามวันก่อน วันนี้ป่วยหนักขึ้นกว่าเดิม ข้าจึงไม่พามาด้วย หวังว่าฮูหยินฝูจะไม่ถือสา”

ฮูหยินฝูที่เดิมทีไม่พอในตัวลูกสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก บัดนี้กลับเป็นห่วงนางขึ้นมา “ช่วงนี้อากาศช่วงเช้าและกลางคืนของเมืองหลวงมีลมหนาว ตอนกลางวันร้อนอบอ้าว ถิงฟางร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ควรระวังให้มากเจ้าค่ะ”

ซ่งซื่อพยักหน้า “ฮูหยินฝูกล่าวถูกแล้ว”

เมื่อฮูหยินใหญ่ฝูพาซ่งซื่อไปยังที่พัก ไป๋ชิงเหยียนกลับมาแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นยืนทำความเคารพซ่งซื่อ “ท่านป้า…”

ตามกฎแล้ว หากซ่งซื่อพบไป๋ชิงเหยียนนางควรเคารพไป๋ชิงเหยียนในฐานะองค์หญิง ทว่า เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนให้เกียรติและเคารพซ่งซื่อเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่ฝูเริ่มมั่นใจในแผนการของตัวเองมากขึ้น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วและฮูหยินต่งสนิทกันถึงเพียงนี้ เหล่าพี่น้องก็รักใคร่ปรองดองกันมาก หากถิงฟางแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็ถือเสียว่าครอบครัวบุตรชายคนโตของตระกูลฝูคือครอบครัวของตัวเอง ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ นะเพคะ!”

ไป๋ชิงเหยียนอมยิ้มไม่กล่าวสิ่งใด ต่งถิงอวี๋ก้าวเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิง!”

“ฮูหยินต่ง…” ฮูหยินสองหลิวซื่อก้าวไปทำความเคารพซ่งซื่อด้านหน้า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเจ้าคะ”

ซ่งซื่อทำความเคารพกลับยิ้มๆ “ไม่เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ!”

กล่าวจบ ซ่งซื่อหันไปทางฮูหยินฝูที่ยังยืนอยู่ที่เดิม “วันนี้ฮูหยินฝูมีเรื่องต้องจัดการมากมาย ไม่จำเป็นต้องอยู่ต้อนรับพวกเราที่นี่หรอก พวกเรานั่งสนทนากันเองอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”

สายตาของฮูหยินฝูเหลือบมองไปทางไป๋ชิงเหยียนเป็นระยะ เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้อื่นอยู่แถวนี้ นางจึงคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียนทั้งน้ำตา “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว หม่อมฉันทราบดีว่าองค์หญิงเจิ้นกั่วคือคนสนิทขององค์รัชทายาท ครั้งนี้ฝูรั่วซีมีความผิดหนักโทษฐานชักดาบใส่รัชทายาท ทว่า ครอบครัวบุตรชายคนโตของหม่อมฉันแยกครอบครัวออกไปแล้ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดเห็นแก่ที่ตระกูลฝูกำลังจะเป็นดองกับตระกูลต่งช่วยขอร้ององค์รัชทายาทให้ด้วยเถิดเพคะ ความผิดของฝูรั่วซีไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของหม่อมฉัน ได้โปรดขอร้องให้องค์รัชทายาทไว้ชีวิตครอบครัวบุตรคนโตด้วยเถิดเพคะ!”

ต่งซื่อตกใจ หลิวซื่อรีบถลาเข้าไปขวางหน้าไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ทันที นางประคองหรือเรียกได้ว่าเกือบเป็นการกระชากฮูหยินฝูขึ้นมาจากพื้น กล่าวยิ้มๆ ทว่า แววตาไม่ได้ยิ้มตามด้วย “ฮูหยินฝู ทุกปัญหาย่อมมีทางออก แม้คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋ของข้าจะมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องขององค์รัชทายาท ทว่า การคุ้มครององค์รัชทายาทคือหน้าที่ คือการจงรักภักดีต่อแคว้น เราจะเข้าไปแทรกแซงเรื่องบ้านเมืองไม่ได้เด็ดขาด! แทนที่ฮูหยินฝูจะมาขอร้องคุณหนูใหญู่ของตระกูลไป๋อยู่ที่นี่ มิสู้ไปขอร้ององค์รัชทายาทจะดีกว่า”

“นั่นนะสิ!” ซ่งซื่อรู้สึกกระอักกระอวนกับการกระทำที่จู่โจมของฮูหยินใหญ่ฝูเป็นอย่างมาก นางรั้งแขนของไป๋ชิงเหยียนให้ไปหลบอยู่ทางด้านหลังตน กล่าวยิ้มๆ “องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง ต้าจิ้นมีกฎของแคว้นต้าจิ้น องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะไปก้าวก่ายเรื่องของรัชทายาทได้อย่างไรกัน ฮูหยินฝูอย่าทำให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วลำบากใจเลย ที่สำคัญบุตรคนโตแยกครอบครัวออกไปแล้ว ใต้เท้าหลู่แห่งศาลต้าหลี่ย่อมตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ฮูหยินฝูคงไม่คิดว่าใต้เท้าหลู่จะไม่ยุติธรรมถึงขนาดจงใจทำให้ครอบครัวบุตรคนโตต้องเดือดร้อนหรอกนะเจ้าคะ”

ฮูหยินฝูที่เดิมทีหวังอยากให้ซ่งซื่อช่วยกล่าวกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วแทนนางตะลึงงันไปทันที เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนถูกหลิวซื่อและซ่งซื่อคุ้มกันให้อยู่ทางด้านหลัง นางจึงทำได้เพียงรับคำและเดินกลับไปที่หอทำพิธี

ท่านป้าและท่านอาสะใภ้ล้วนปกป้องนาง รอยยิ้มของไป๋ชิงเหยียนเพิ่มมากขึ้น “ท่านป้าและท่านอาสะใภ้ไม่จำเป็นต้องปกป้องข้าถึงเพียงนี้เจ้าค่ะ ข้ารับมือกับฮูหยินฝูได้เจ้าค่ะ”

ซ่งซื่อหันไปกุมมือไป๋ชิงเหยียน มองสำรวจหลานสาวทั่วร่าง จากนั้นดึงให้หญิงสาวนั่งลง “เมื่อวานหลังจากที่เจ้ากลับมา ท่านลุงของเจ้าอยากให้ข้าไปเยี่ยมเจ้าที่จวนไป๋ ทว่า ข้าคิดว่าเจ้าเพิ่งกลับมา คงต้องการพักผ่อนจึงไม่ได้ไป แต่ดูเหมือนเจ้าจะยังพักไม่ไม่เพียงพอนะ ขอบตายังดำคล้ำอยู่เลย”

“พี่หญิงใหญ่ผิวขาวเกินไปจึงเห็นรอยคล้ำที่ใต้ตาชัดต่างหากเจ้าค่ะ” ต่งถิงอวี๋กล่าวยิ้มๆ

ซ่งซื่อลูบมือของไป๋ชิงเหยียน แววตามีรอยยิ้มปนเศร้า ทว่า ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ข่าวการเสียชีวิตของต่งฉางหลานถูกส่งมาถึงเมืองหลวงแล้ว ทว่า เพราะกลัวว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการสอบคัดเลือกขุนนางที่จะจัดขึ้นในเดือนสอง ปีหน้าของต่งฉางหยวน ต่งชิงผิงและซ่งซื่อจึงกำชับทุกคนในจวนต่งให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

เรื่องของต่งถิงฟางและบุตรชายคนโตของตระกูลฝูเป็นที่รับรู้กันไปทั่วทั้งเมืองหลวง ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลต่ง ต่งถิงฟางคิดผูกคอตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ทว่า ในสายตาของผู้อื่นนางคือสตรีเจ้าแผนการ

ซ่งซื่อคือมารดาเอกของนาง แม้ไม่เคยอบรมสั่งสอนอย่างจริงจัง ทว่า นางไม่อาจปล่อยให้ชื่อเสียงของสตรีคนอื่นใจจวนต่งพลอยเสียหายไปด้วยจนทำให้บุตรสาวแท้ๆ ของนางอย่างต่งถิงเจินและต่งถิงหลานเดือนร้อนไปด้วยได้ นางจึงพยายามอธิบาย ทว่า กลับกลายเป็นการปกปิดแทนตระกูลต่ง

หลังจากเกิดเรื่องงามหน้าของต่งถิงฟางและคุณชายของตระกูลฝูก็มีเรื่องเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ซ่งซื่อรู้สึกเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหว

ตระกูลฝูจัดพิธีศพ ในเมืองหลวงนอกจากตระกูลไป๋และตระกูลต่งมาร่วมพิธีแล้ว พี่น้องจากตระกูลฝั่งมารดาของหลัวซื่อก็มาร่วมพิธีในช่วงบ่าย คนตระกูลฝูได้รู้ซึ้งอย่างแท้จริงว่าเหตุใดน้ำใจของคนในช่วงตกยากถึงได้อบอุ่นถึงเพียงนี้

ฮูหยินใหญ่ฝูคิดแต่จะทำตัวสนิทสนมกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วเพื่อปกป้องครอบครัวบุตรคนโตของนาง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท