ตอนที่ 608 เหลวไหล
ฮ่องเต้ต้องการเลียนแบบแคว้นเว่ย สร้างระบบเน่ยเก๋อขึ้นเพื่อยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของแคว้นต้าจิ้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ไป๋ชิงเหยียนจำได้ว่าชาติที่แล้ว ฮ่องเต้ไม่เคยยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีจวบจนสวรรคตลง
แต่ไรมาเมื่อจักรพรรดิองค์ใดต้องการสร้างอำนาจที่แข็งแกร่งมากขึ้นให้แก่ตนเอง เขาจะทำการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะไม่ปฏิวัติ ทว่า พระองค์จะลงมือทำการบางอย่างที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ทว่า จักรพรรดิองค์นี้ของแคว้นต้าจิ้นมัวแต่หลงงมงายอยู่กับเรื่องการมีชีวิตยืนยาว…
เขาต้องการปูทางให้แก่ทายาทของตัวเองอย่างนั้นหรือ
ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกสงสัยเรื่องการพลัดตกจากหลังม้าของฮ่องเต้มานานแล้ว ทว่า นางไม่มีคนอยู่ในวังหลวง จึงไม่รู้รายละเอียดเรื่องนี้
“ก่อนที่สำนักผู้ตรวจการจะส่งจดหมายฉบับจริงที่เขียนถึงกันระหว่างองค์ชายรองและหลี่เม่าไปให้ฮ่องเต้ ราชสำนักเกิดเรื่องอันใดที่ทำให้ฮ่องเต้ทรงอยากยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีขึ้นหรือไม่เจ้าคะ”
ไป๋จิ่นซิ่วไม่ได้อยู่ในราชสำนัก นางรู้เรื่องราวอย่างจำกัด ทว่า ต่งชิงผิงไม่เหมือนกัน เขาคือขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ย่อมต้องรู้แน่ชัดกว่ามาก
ต่งชิงผิงรู้สึกชื่นชมในความไหวตัวเร็วเกี่ยวกับเรื่องบ้านเมืองของไป๋ชิงเหยียน เขาพยักหน้าพลางกล่าวขึ้น “ฮ่องเต้ทรงต้องการให้ราชครูเทพผู้นั้นสร้างหอบูชาเก้าชั้นเพื่อขอพรให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ขุนนางในราชสำนักต่างเห็นด้วย กล่าวว่าฝ่าบาททรงพระปรีชาชาญ มีเพียงอัครมหาเสนาบดีหลู่จิ้นเท่านั้นที่คัดค้าน เขาคัดค้านอย่างมีวาทศิลป์ ไม่ได้กล่าวถ้อยคำรุนแรงหรือล่วงเกินใดๆ ทั้งสิ้น กล่าวเพียงคลังสมบัติของแคว้นกำลังขาดแคลน เราควรให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและเสบียงอกหารของทหารแถบชายแดนเป็นหลัก ฮ่องเต้ทรงใช้เงินบูรณะพระราชวังไปจำนวนหนึ่งแล้ว ควรรออีกสักสองสามปีค่อยสร้างหอบูชาเก้าชั้น หากเริ่มสร้างตอนนี้อาจทำให้ชาวบ้านไม่พอใจได้ ต่อมาโหราจารย์ทำนายว่าควรสร้างหอบูชาเก้าชั้นโดยเร็วที่สุด อัครมหาเสนบาดีหลู่จึงถูกผู้ตรวจการยื่นฎีกาฟ้องร้องว่ารับสินบน”
เป็นดังที่คิดไว้ไม่มีผิด
ฮ่องเต้ไม่มีทางยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีโดยไม่มีสาเหตุแน่ เมื่อไม่มีท่านปู่ไป๋เวยถิงของนางคอยห้ามปราม สันดานของฮ่อวเต้เริ่มเผยออกมาให้เห็นขึ้นมาเรื่อยๆ เขายิ่งไม่สามารถทนให้คนอื่นขัดขวางเขาทำสิ่งต่างๆ ได้ ยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี สร้างเน่ยเก๋อขึ้นมาแทนเพื่อรวมอำนาจให้อยู่ที่เขา เขาไม่ได้ทำเพื่อปฏิรูปสิ่งใด ไม่ได้ทำเพื่อปูทางให้คนรุ่นหลังทว่า ฮ่องเต้ต้องการทำให้แคว้นต้าจิ้นตกอยู่ในอำนาจของเขาแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางเขาทำสิ่งใดได้อีก
เขาต้องการให้ทุกคนในแคว้นต้าจิ้นไม่กล้าคัดค้านเขา หากทำออกทำสั่งทุกคนต้องทำตามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หลู่จิ้นเป็นคนอยู่เป็น เขาถนัดเรื่องการเอาตัวรอดเป็นที่สุด ทว่า หลู่จิ้นมีขอบเขตของตัวเอง เขาไม่ใช่คนที่จะยอมทำตามทุกอย่างที่ฮ่องเต้สั่งเพื่อเอาใจฮ่องเต้โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น ดังนั้นตอนที่หลู่จิ้นกล่าวโน้มน้าว เขาย่อมยกฮ่องเต้ไว้เป็นที่หนึ่ง ทว่า แม้เป็นเช่นนี้ฮ่องเต้ก็ยังปล่อยเขาไว้ไม่ได้
ฮ่องเต้ในตอนนี้ยากที่จะแก้ไขแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปาก เมื่อนึกถึงราชครูเทพ นางจึงนึกถึงเหลียงอ๋อง
ราชครูเทพมาจากจวนของเหลียงอ๋อง ทว่า น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหลี่หมิงรุ่ย บุตรชายของหลี่เม่าเป็นคนหาตัวราชครูเทพผู้นี้ให้เหลียงอ๋อง
ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงสิ่งที่ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวกับนางก่อนหน้านี้ นางกล่าวว่าผู้ตรวจการฟ้องร้องว่าหลี่เม่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏขององค์ชายรองในปีนั้น ต่อมาเมื่อพิสูจน์แล้วว่าจดหมายฉบับนั้นคือจดหมายปลอม หลี่เม่าก็ไม่ยอมกลับไปในราชสำนัก แม้แต่ตอนที่เหลียงอ๋องเชิญหลี่เม่ากลับไปในราชสำนัก เขาก็ยื่นฎีกาขอเกษียณตัวเอง
ตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนคิดว่าเหลียงอ๋องอาจต้องการใช้ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีของหลี่เม่าทำสิ่งใดบางอย่างที่หลี่เม่าไม่อาจปฏิเสธได้ เขาจึงอ้างว่าป่วยไม่ยอมไปราชสำนัก
ทว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลี่เม่ากำลังช่วยให้ฮ่องเต้ยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีได้ราบรื่นขึ้น
ทว่า หลี่เม่าได้ประโยชน์อันใดจากเรื่องนี้กันนะ หรือว่าเขาแค่ต้องการทำให้ฮ่องเต้พอพระทัยเท่านั้น
ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่ถือตัวหมากอยู่ จู่ๆ นางก็เกิดความคิดที่เหลวไหลขึ้นมาความคิดหนึ่ง
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองต่งชิงผิง “เมื่อวานองค์รัชทายาทเสด็จกลับเมืองหลวง วันนี้มีคนกล่าวถึงเรื่องการสร้างหอบูชาเก้าชั้นแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”
ต่งชิงผิงรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนเข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อแล้ว เขาพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว โหราจารย์อ้างว่าเขาทำนายดวงชะตาแล้วพบว่าต้องเร่งสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้เร็วที่สุด ฝ่าบาทถึงจะฟื้นขึ้นมา!”
“เหลวไหล!” ไป๋ชิงเหยียนโยนหมากลงกล่อง หน้าอกสั่นไหวด้วยความโมโห
เป็นถึงฮ่องเต้ของแคว้นต้าจิ้น ทว่า กลับทำเหมือนการปกครองบ้านเมืองเป็นเรื่องล้อเล่น!
เมื่อเชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน ในที่สุดไป๋ชิงเหยียนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด นางมองฮ่องเต้ผู้นี้สูงส่งเกินไปจริงๆ…
นางนึกว่าเขาต้องการสร้างอำนาจของฮ่องเต้ให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อทำการใหญ่บางอย่าง ทว่า ตั้งแต่ต้นจน เขากลับทำเพื่อการสร้างหอบูชาเก้าชั้นเท่านั้น!
ฮ่องเต้คงคิดใช้วิธีรุนแรงอย่างการยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้วรวบรวมอำนาจสู่ตนเองก่อน จากนั้นจะไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางเขาได้อีก หลี่เม่าเห็นดังนี้จึงปลีกตัวออกห่างจากเรื่องนี้ เขาไม่อยากทำตัวเด่นเหมือนหลู่จิ้นจนทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย ทว่า ก็ไม่อยากคล้อยตามฮ่องเต้เหมือนอย่างที่แล้วมา
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแรงงานและเงินทอง หากสุดท้ายแล้วทำไม่สำเร็จ ฮ่องเต้อาจโทษว่าเป็นความผิดของเขา เขาอาจถูกประณามจากคนรุ่นหลัง ดังนั้นหลี่เม่าจึงตัดสินใจหลบอยู่แต่ในจวนของตัวเอง
ส่วนฮ่องเต้พบว่าการยกเลิกตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีและสร้างระบบขุนนางใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ยากและวุ่นวาย เขาร้อนใจอยากสร้างหอบูชาเก้าชั้นโดยเร็วจึงสร้างเรื่องพลัดตกม้าขึ้น ออกราชโองการเรียกตัวรัชทายาทกลับเมืองหลวง คิดว่ารัชทายาทเป็นคนกตัญญูต้องช่วยเขาสร้างหอบูชาเก้าชั้นขึ้นมาอย่างแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนโมโหจนมือสั่น
นางไม่ต้องสืบก็รู้ว่าฮ่องเต้ต้องการสร้างหอบูชาเก้าชั้นเพื่อขอพรให้ตัวเองมีอายุยืนยาว
เพื่อการสร้างหอบูชาเก้าชั้น ฮ่องเต้แสร้งทำเป็นตกจากหลังม้า สลบไม่ได้สติ เกือบทำให้เกิดเรื่องใหญ่!
หากตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนไม่ได้อยู่ที่เติงโจว ฝูรั่วซีเชื่อคำของฮองเฮาพาทหารบุกมาคุ้มกันซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์จริงๆ ฮ่องเต้จะต้องขอพรให้อายุยืนอีกหรือ วันที่ฝูรั่วซีนำทหารบุกเข้าไปในวังคงเป็นวันสุดท้ายที่ฮ่องเต้จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
การกระทำของฮ่องเต้แตกต่างอันใดกับโจวโยวอ๋อง[1]ในตอนนั้นกัน!
ต่งชิงผิงก้มหน้าหยิบหมากบนกระดานขึ้นมาโยนใส่กล่อง เขาถอนหายใจยาว “หากแคว้นต้าจิ้นให้ฮ่องเต้เช่นนี้ปกครองบ้านเมืองต่อไป อีกไม่กี่ปีแคว้นต้าจิ้นคงจบสิ้นแน่”
“ไม่ใช่…” ไป๋ชิงเหยียนมองหมากดำที่ถูกต่งชิงผิงหยิบขึ้นมาจากกระดาน จากนั้นกล่าวขึ้น “ก่อนฮ่องเต้จะไม่ได้สติ พระองค์เชิญท่านย่ามาช่วยดูแลบ้านเมือง ท่านย่าคุ้มกันตำหนักของฮ่องเต้อย่างแน่นหนา หากฮ่องเต้แสร้งไม่ได้สติ ท่านย่าต้องดูออกเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบ นางพอจะเดาเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว
ทว่า นางต้องไปพบฝูรั่วซีสักครั้งถึงจะแน่ใจได้
“ท่านลุง เมื่อเสร็จเรื่องของฝูรั่วซี ข้าจะเดินทางกลับซั่วหยางแล้ว ต่อไปคงต้องรบกวนท่านลุงหาทางรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนักให้จิ่นซิ่วทราบด้วยเจ้าค่ะ จิ่นซิ่วจะหาทางรายงานให้ข้าทราบเองเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนโค้งคำนับต่งชิงผิง
ไป๋จิ่นซิ่วเป็นสตรีเรือนหลัง ก่อนหน้านี้นางกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งคลอดก่อนกำหนด นางอาจสืบข่าวได้ไม่ครบ ทว่า หากมีท่านลุงคอยช่วยเหลือ เรื่องคงไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
วันนี้ต่งชิงผิงเรียกไป๋ชิงเหยียนมาและกล่าวกับนางมากมายถึงเพียงนี้ วันหน้าย่อมมีข่าวรายงานนางอีกแน่นอน เขาพยักหน้า “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว”
เมื่อออกมจากจวนต่ง ไป๋ชิงเหยียนมุ่งหน้าไปยังจวนรัชทายาทเพื่อขออนุญาตเข้าเยี่ยมฝูรั่วซีในคุกศาลต้าหลี่ เพื่อพิสูจน์เรื่องที่นางคาดเดาไว้ทั้งหมด
ฝูรั่วซีคือนักโทษสถานหนัก หากไม่มีคำอนุญาตจากรัชทายาท หลู่จิ้นคงไม่ยอมให้นางเข้าพบ
ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อไป๋ชิงเหยียนไปถึงหน้าจวนรัชทายาท นางจะพบกับเฉวียนอวี๋ที่เดินออกมาจากจวนพอดี
เมื่อเฉวียนอวี๋เห็นไป๋ชิงเหยียน เขารีบทำความเคารพหญิงสาวทันที
[1] โจวโยวอ๋อง จักรพรรดิองค์สุดท้ายของโจวตะวันตก เป็นคนไร้สติปัญญา ในขณะที่เขาครองบัลลังก์มีการขูดขูดเลือดขูดเนื้อราษฎร เป็นเหตุให้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จนทำให้เกิดการก่อจลาจลในช่วงปลายของราชวงศ์โจวตะวันตก