ตอนที่ 611 ไม่ปิดบังความรู้สึกส่วนตัว
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มเย็นให้เซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิงคงเข้าใจคำกล่าวของข้าดี นอกเสียจากว่าเซียวเซียนเซิงจะไม่ใช่คนแคว้นต้าจิ้น จึงไม่สนใจความปลอดภัยของแคว้นต้าจิ้น คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง!”
มือสองข้างขององค์รัชทายาทที่วางพาดบนที่วางแขนของเก้าอี้กำเก้าอี้แน่น องค์รัชทายาทเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียนแล้ว
จริงสินะ เซียวหรงเหยี่ยนคือพ่อค้าของแคว้นเว่ย เขาห้ามหน้ามืดตามัวเพราะผลกำไรเพียงเล็กน้อยตรงหน้าเป็นอันขาด
มีเพียงเซียวหรงเหยี่ยนแต่งเป็นเขยของตระกูลไป๋ กลายเป็นคนแคว้นต้าจิ้น ให้เซียวหรงเหยี่ยนผูกอนาคตไว้กับเขา คำกล่าวของชายหนุ่มถึงจะน่าเชื่อถือ
ตอนนี้องค์รัชทายาทต้องไตร่ตรองคำขอร้องของเซียวหรงเหยี่ยนอย่างจริงจัง
“เอาเถิด เดิมทีเราก็ยังไม่ได้ตอบตกลง พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันรุนแรงถึงเพียงนี้” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ “หรงเหยี่ยน ครั้งนี้เราคงช่วยเหลือเจ้าไม่ได้ เราส่งทูตของเราออกเดินทางไปแล้ว ต่อให้ยังไม่ได้ส่งทูตไป เราก็ต้องคำนึงถึงอนาคตของแคว้นต้าจิ้นเป็นหลัก เจ้าคือสหายของเรา หากช่วยได้เราย่อมยินดีช่วยเหลือเจ้า ทว่า เราคือองค์รัชทายาทของแคว้น เราต้องคำนึงถึงแคว้นของเราเป็นหลัก เจ้าเข้าใจเราใช่หรือไม่!”
องค์รัชทายาทกล่าวถึงขั้นนี้แล้ว เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าตนไม่อาจกล่าวโน้มน้าวได้อีก เขาได้แต่ลุกขึ้นยืนทำความเคารพองค์รัชทายาทยิ้มๆ “องค์ชายคือองค์รัชทายาทของแคว้น ย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมืองและชาวบ้าน การค้าของเหยี่ยนก็แค่ขาดทุนจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจนำไปเทียบกับความสูญเสียของแคว้นต้าจิ้นได้พ่ะย่ะค่ะ วันนี้องค์รัชทายาททรงมีเมตตาไม่ให้คนจับเหยี่ยนโยนออกไปนอกจวนก็ถือว่าให้เกียรติเหยี่ยนมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ เหยี่ยนรู้ฐานะของตัวเองดีพ่ะย่ะค่ะ!”
“หรงเหยี่ยนกล่าวห่างเหินเกินไปแล้ว เราเห็นเจ้าเป็นสหายของเราเสมอ…” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ พลางหันไปมองไป๋ชิงเหยียน “อีกครู่องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะไปพบแม่ทัพฝูรั่วซีที่คุกของศาลต้าหลี่ หากหรงเหยี่ยนไม่มีธุระอันใด ช่วยไปเป็นเพื่อนนางได้หรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพองค์รัชทายาทและไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “เช่นนั้นองค์รัชทายาทและองค์หญิงเจิ้นกั๋วโปรดรอเหยี่ยนสักครู่นะพ่ะย่ะค่ะ เหยี่ยนจะให้องครักษ์ของเหยี่ยนไปแจ้งลูกน้องว่าไม่ต้องส่งเสบียงอาหารไปยังหรงตี๋แล้ว ทั้งยังต้องกำชับให้พวกเขารีบหาทางปล่อยขายเสบียงอาหารเหล่านี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องกระจายเสบียงอาหาร เหยียนพอจะช่วยเซียวเซียนเซิงได้เจ้าค่ะ บัดนี้ซั่วหยางกำลังฝึกซ้อมชาวบ้านเป็นทหารเพื่อปราบโจรป่า ชาวบ้านมากมายมาขอสมัครเพิ่ม บัดนี้กำลังต้องการเสบียงอาหาร ถือเสียว่าเหยียนช่วยสหายขององค์รัชทายาทแก้ไขปัญหายุ่งยากเหล่านี้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางองค์รัชทายาทแล้วกล่าวยิ้มๆ “ถือเป็นการรักษามิตรภาพระหว่างเซียวเซียนเซิงและองค์รัชทายาทด้วยเพคะ”
บัดนี้จี้ถิงอวี๋ขโมยทหารใหม่ของราชสำนักไป ไป๋ชิงเหยียนกำลังต้องการเสบียงอาหารอยู่พอดี ไม่ว่า ‘เสบียงอาหาร’ ของเซียวหรงเหยี่ยนจะมีอยู่จริงหรือไม่ นางก็จะทำให้เซียวหรงเหยี่ยนส่งเสบียงอาหารมาให้นางให้ได้
ได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน องค์รัชทายาทคลายกังวลลงไม่น้อย เขาคิดว่าไป๋ชิงเหยียนสวามิภักดิ์ต่อเขาอย่างแท้จริงถึงได้คิดเพื่อเขาทุกเรื่องเช่นนี้
องค์รัชทายาทอยากให้ทั้งสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดจึงรีบกล่าวขึ้น “เมื่อเป็นเช่นนี้ หรงเหยี่ยนต้องขอบคุณองค์หญิงเจิ้นกั๋วให้มากแล้ว”
“เหยี่ยนอาจกล่าวล่วงเกินไปสักนิด ทว่า เสบียงอาหารครั้งนี้ค่อนข้างมาก เหยี่ยนกลัวว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะเก็บไว้จนราขึ้นเสียก่อน เหยี่ยนส่งให้องค์หญิงครึ่งหนึ่งก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มให้เซียวหรงเหยี่ยนบางๆ น้ำเสียงไม่ได้ดุดันเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว “เซียวเซียนเซิงไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ไม่ว่าอย่างไรเซียวเซียนเซิงก็คือผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ตระกูลไป๋ยินดีช่วยเหลือเซียวเซียนเซิงเต็มที่เท่าที่เราช่วยได้ ที่สำคัญเมื่อข้ากล้ารับปากก็ย่อมหาที่จัดเก็บเสบียงได้อย่างเหมาะสมเจ้าค่ะ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋วมากพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง “เหยี่ยนขอตัวไปสั่งให้องครักษ์ส่งจดหมายบอกลูกน้องให้ส่งเสบียงอาหารไปยังซั่วหยางก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”
“รบกวนเซียวเซียนเซิงด้วย” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าขอบคุณเซียวหรงเหยี่ยน
มองเห็นเซียวหรงเหยี่ยนเดินออกไปจากโถงรับรอง องค์รัชทายาทจึงขยับกายเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน กล่าวกับหญิงสาวเสียงเบา “เจ้านี่นะ! เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าหรงเหยี่ยนมีใจให้เจ้า เหตุใดถึงต้องมีท่าทีบีบคั้นเขาถึงเพียงนั้นด้วย เจ้ากล่าวกับเราดีๆ เราจะไม่เชื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ”
เมื่อครู่ไป๋ชิงเหยียนแสดงความจงรักภักดีต่อองค์รัชทายาท บัดนี้องค์รัชทายาทจึงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนด้วยน้ำเสียงที่สนิทสนมกว่าเดิม ราวกับกำลังคิดเพื่อไป๋ชิงเหยียน
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนจะกล่าวสิ่งใดออกมาอีก องค์รัชทายาทรีบยกมือขึ้นห้าม สื่อให้ไป๋ชิงเหยียนฟังเขากล่าวต่อก่อน “ตอนนี้หรงเหยี่ยนยังไม่กลับมา เจ้าบอกกับเรามาสิว่าคิดเช่นไรกับหรงเหยี่ยน บัดนี้ตระกูลไป๋เหลือเพียงสตรีแล้ว เจ้าไม่คิดแต่งเขยเข้าตระกูลบ้างอย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ “องค์รัชทายาท…”
องค์รัชทายาทกล่าวขัดคำของไป๋ชิงเหยียน สื่อให้ไป๋ชิงเหยียนนั่งลง “เราคือญาติผู้พี่ของเจ้า ย่อมต้องคิดเพื่อเจ้า เรารู้ว่าเจ้าไม่ใช่สตรีธรรมดา เจ้าไม่เขินอายที่จะเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานของตัวเอง เราคิดว่าหรงเหยี่ยนเป็นบุรุษรูปงามและโดดเด่นเหนือผู้อื่น นอกจากฐานะพ่อค้าที่ดูต่ำต้อยไปบ้าง สิ่งอื่นล้วนดีทุกอย่าง ก่อนหน้านี้เราบอกกับเขาว่าเจ้ามีบุตรได้ยาก เขากล่าวว่าเขาแต่งงานเพราะต้องการภรรยาไม่ใช่บุตร เรารู้สึกว่าเขาเป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับเจ้ายิ่งนัก”
“องค์รัชทายาท หม่อมฉันทราบดีว่าองค์รัชทายาททรงหวังดีกับหม่อมฉัน ทว่า ตอนนี้หม่อมฉันยังไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้ หม่อมฉันแค่อยากเห็นบรรดาน้องสาวมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
องค์รัชทายาทเอ่ยปากให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้เรื่องนี้แล้ว เขาจะบีบคั้นกดดันนางมากเกินไปไม่ได้ เขาจึงไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่ออีก
เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้ามา องค์รัชทายาทนั่งหยัดกายตรง กล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ “สั่งการเสร็จแล้วหรือ”
เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายคำนับองค์รัชทายาทยิ้มๆ จากนั้นหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “จัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ เหยี่ยนจะไปส่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่คุกศาลต้าหลี่ ถือเป็นการขอขมาที่กล่าววาจาล่วงเกินองค์หญิงเมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืนทำความเคารพกลับเซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิงคือผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ทว่า เหยียนจำต้องกล่าววาจาล่วงเกินเซียวเซียนเซิงไปบ้างเพราะคำนึงถึงบ้านเมือง หวังว่าเซียวเซียนเซิงจะไม่ถือสานะเจ้าคะ”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วทำเพื่อบ้านเมืองโดยไม่สนใจความรู้สึกส่วนตัว เหยี่ยนนับถือยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ ที่สำคัญองค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยเหยี่ยนแก้ปัญหาเรื่องเสบียงอาหาร เหยี่ยนรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายให้ไป๋ชิงเหยียน
เมื่อองค์รัชทายาทเห็นทั้งสองคนกล่าวขอโทษกันอย่างปรองดอง เขาจึงลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก รอยยิ้มกว้างขึ้นทันที
มองดูไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังทำความเคารพอำลาตน องค์รัชทายาทไม่อยากให้เฉวียนอวี๋ไปเป็นกว้างขวางคอพวกเขาจึงหันไปกล่าวกับเฉวียนอวี๋ “เฉวียนอวี๋ เจ้าเดินทางล่วงหน้าไปรายงานให้ใต้เท้าหลู่ทราบก่อนว่าเราอนุญาตให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วเข้าไปสอบสวนฝูรั่วซี”
เฉวียนอวี๋ที่ยืนอยู่ข้างกายขององค์รัชทายาทรับคำ ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนแล้วจากไปทันที
ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากจวนองค์รัชทายาทพร้อมกับเซียวหรงเหยี่ยน ทั้งสองคนไม่ได้ขี่ม้า เซียวหรงเหยี่ยนสั่งให้คนของตนทิ้งม้าไว้แล้วกลับไปก่อน ไป๋ชิงเหยียนรับเชือกม้ามาจากองครักษ์ไป๋ จากนั้นสั่งให้เขากลับไปที่จวนก่อนเช่นกัน
ทั้งสองคนเดินเคียงไหล่กันไปตามถนนของซอยจวนองค์รัชทายาทที่ไม่ค่อยผู้ใดกล้าย่างกรายเข้ามา ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขอโทษเซียวหรงเหยี่ยน “ขอโทษด้วย”
“เหตุใดต้องขอโทษกัน เจ้าทำเพื่อต้าจิ้น ข้าทำเพื่อต้าเยี่ยน เจ้าไม่เคยโทษข้า ข้าจะโทษเจ้าได้อย่างไรกัน”