ตอนที่ 619 เคารพนับถือ
“วันที่สิบห้า เดือนสิบ เหลียงอ๋องจะเข้าพิธีแต่งงานกับหนานตูจวิ้นจู่ ลูกน้องของเสียนอ๋องลอบเข้ามาในเมืองหลวงอย่างเงียบเชียบหมดแล้ว พวกเขารอจังหวะที่ฮองเฮา ซิ่นอ๋องและองค์รัชทายาททะเลาะกันเองจนไม่มีเวลาระแวงเหลียงอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอ่อนแอ เหลียงอ๋องจะถือโอกาสนี้บุกเข้าไปในวังหลวงเพื่อแย่งชิงบัลลังก์…”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเรื่องการก่อกบฏด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบนิ่งและเยือกเย็น หญิงสาวสงบนิ่งเสียจนฝูรั่วซีคิดว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้ออกมาจากปากขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขาต้องคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน
“บัดนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาทหรือข้าออกไปพบทหารค่ายผิงอันสองหมื่นนายที่รออยู่นอกเมืองหลวงล้วนตกเป็นเป้าสายตาเกินไป เหลียงอ๋องอาจจับสังเกตได้และเตรียมป้องกันล่วงหน้า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือทำให้เหลียงอ๋องโผล่ออกมาเอง จากนั้นเราค่อยจัดการกับเขา!” ไป๋ชิงเหยียนมองดูฝูรั่วซีที่ยังคงตะลึงไม่หาย “ขอเพียงท่านนำทหารค่ายผิงอันมาปราบปรามกบฏได้สำเร็จ ท่านจะกลายเป็นขุนนางผู้มีความดีความชอบทันที ไม่เพียงแต่ตระกูลฝู แม้แต่ท่านก็จะรอดชีวิต แม่ทัพฝูเข้าใจหรือไม่”
“เหลียงอ๋องอย่างนั้นหรือ เหตุใดเหลียงอ๋องถึงได้…” ฝูรั่วซีไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เหลียงอ๋องที่อ่อนแอ เมื่อถูกคนรังแกมักเอาแต่ร้องไห้ผู้นั้นจะกล้าคิดกบฏได้อย่างไรกัน
“ต่อให้เหลียงอ๋องจะไร้ความสามารถเพียงใดเขาก็คือโอรสองค์หนึ่งของฝ่าบาท ตั้งแต่เรื่องปรุงยาวิเศษให้ฝ่าบาท ใช้เด็กปรุงยาวิเศษ มอบราชครูเทพให้ฝ่าบาท เรื่องหอบูชาเก้าชั้น ไปจนถึงเรื่องที่ฝ่าบาทพลัดตกจากหลังม้า เรื่องใดไม่เกี่ยวข้องกับเหลียงอ๋องบ้าง แม่ทัพฝูอย่าใช้สายตาของตัวเองในอดีตตัดสินเหลียงอ๋องในตอนนี้เด็ดขาด เหลียงอ๋องในตอนนี้มีเสียนอ๋องซึ่งมีอำนาจทางทหารคอยหนุนหลังอยู่!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูฝูรั่วซีที่ค่อยๆ ได้สติหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้กลมตัวเล็กด้านข้าง ผ่านไปครู่ใหญ่จึงเอ่ยถามฝูรั่วซี “โอกาสมีเพียงครั้งเดียว หากท่านอยากทำก็จงทำเสีย…”
ฝูรั่วซีกำหมัดแน่น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วมอบทหารค่ายผิงอันสองหมื่นนายให้กระหม่อม ไม่กลัวว่ากระหม่อมจะช่วยเหลือฮองเฮาหรือพ่ะย่ะค่ะ”
หลูผิงได้ยินเช่นนี้จึงกำดาบแน่น แววตาคมกริบ
หากฝูรั่วซีไม่สามารถรับใช้คุณหนูใหญ่ได้ หลูผิงไม่มีทางปล่อยให้ฝูรั่วซีกลายเป็นตัวปัญหาของคุณหนูใหญ่แน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเช่นนี้ แววตาปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย หญิงสาววางแขนลงบนโต๊ะพลางเคาะนิ้วเบาๆ “ในเมื่อข้ากล้าปล่อยให้ท่านทำหน้าที่นี้ ข้าย่อมมีวิธีจัดการกับท่านหากท่านไม่เชื่อฟัง แม้เรื่องนี้จะดูเสี่ยง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่เคยทำเรื่องใดโดยไม่มีแผนสำรอง”
“ข้ายินดีเชื่อใจแม่ทัพฝู ข้าเห็นแก่ฝูเหล่าไท่จวินจึงยินดีให้โอกาสท่านอีกครั้ง หากครั้งนี้ท่านนำทหารก่อกบฏ แม้บรรดาแม่ทัพค่ายผิงอันที่บัดนี้ถูกขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่จะเห็นท่านเป็นหัวหน้า ทว่า ครอบครัวของพวกเขาล้วนอยู่ในเมืองหลวง ท่านคิดว่าพวกเขาจะยอมสละชีวิตของทุกคนในครอบครัวเพื่อฮองเฮาเช่นท่านหรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “หากบรรดาแม่ทัพเหล่านี้ออกมาบอกว่าท่านก่อกบฏ สั่งให้ทหารค่ายผิงอันจับกุมตัวท่านเอาไว้ ท่านคิดว่าทหารค่ายผิงอันจะเชื่อหัวหน้าที่ถูกกุมตัวกลับมาเมืองหลวงในข้อหากบฏอย่างท่านหรือเชื่อบรรดาแม่ทัพที่เหลือกัน”
ฝูรั่วซีมองดูไป๋ชิงเหยียนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง เขาเคยร่วมรบกับไป๋ชิงเหยียนมาก่อน ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
“ข้าเคยกล่าวไว้ว่าหากมีคนหนึ่งที่สามารถเรียกทหารค่ายผิงอันให้มารวมตัวกันได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด คนคนนั้นมีเพียงแม่ทัพฝูเท่านั้น ทว่า นั่นอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีผู้ใดขัดขวางหรืออุปสรรคใดๆ บัดนี้ บรรดาแม่ทัพค่ายผิงอันที่ถูกขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่คือผู้ที่จะขัดขวางท่านได้ นอกจากนี้ยังมีตระกูลฝูอีกทั้งตระกูล”
“ทุกสิ่งบนโลกล้วนไม่แน่นอน วิธีแก้ปัญหาไม่ได้มีเพียงวิธีเดียว ทว่า สำหรับท่านแล้วมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ท่านและตระกูลฝูมีโอกาสรอด วิธีนี้คือทางเลือกที่ดีที่สุดของท่าน ส่วนสำหรับข้ายังมีวิธีแก้ปัญหานี้อีกมากมายหลายวิธี แค่อาจจะยุ่งยากสักหน่อย ทว่า ล้วนได้ผลทั้งสิ้น!”
“จับโจรต้องจับหัวหน้าโจร หากข้าจับซิ่นอ๋องและฮองเฮาได้ ท่านจะทำสิ่งใดได้อีก บัดนี้จงเส้าจ้งกำลังหารืออยู่กับแม่ทัพสังกัดเก่าของตัวเอง ข้าสามารถบอกให้องค์รัชทายาทและท่านราชครูถานออกคำสั่งจับกุมแม่ทัพที่จงเส้าจ้งไปพบไว้ทั้งหมด จากนั้นส่งคนของตัวเองจับตาดูพวกเขาเอาไว้ ข้ามีกำลังรักษาพระองค์อยู่ในกำมือ ขอเพียงคุ้มกันประตูเมืองหลวงไว้อย่างแน่นหนา สังหารซิ่นอ๋องและฮองเฮาได้ ท่านจะทำสิ่งใดได้กัน วิธีนี้อาจยุ่งยากไปสักนิด ทว่า ท่านคิดว่าจะปราบกบฏและความวุ่นวายไม่ได้หรืออย่างไร”
ดวงตาล้ำลึกของไป๋ชิงเหยียนคมกริบ “ดังนั้นแม่ทัพฝู ข้ากำลังให้โอกาสท่าน ไม่ได้ขอร้องให้ท่านช่วย”
ฝูรั่วซีคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น กล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “องค์หญิงเจิ้นกั๋ววางแผนได้ลึกซึ้งและกว้างไกล กระหม่อมนับถือยิ่งนัก! ฝูรั่วซีไม่ได้ทำเพื่อสิ่งใด กระหม่อมติดค้างภรรยาและบุตรชายไว้มาก กระหม่อมไม่มีทางทำเรื่องสิ้นคิดเช่นนั้นอีกเป็นอันขาด ครั้งนี้ฝูรั่วซีเลอะเลือน องค์หญิงเจิ้นกั๋วยื่นมือเข้าช่วยเหลือปกป้องชีวิตคนไร้ค่าอย่างกระหม่อมและตระกูลฝู นับแต่นี้เป็นต้นไป ฝูรั่วซียินดีรับใช้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีรับสั่งแล้วฝูรั่วซีไม่ทำตาม ขอให้ดวงวิญญาณมารดาของกระหม่อมอยู่ไม่เป็นสุข ทุกคนในตระกูลฝูไม่ตายดีพ่ะย่ะค่ะ!”
หลูผิงได้ยินฝูรั่วซีกล่าวเช่นนี้จึงคลายมือที่จับดาบลง
ก่อนหน้านี้ สิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับฝูรั่วซีในคุกศาลต้าหลี่ ฝูรั่วซีฟังเข้าใจหมดแล้ว
ฮองเฮาหมดใจให้เขานานแล้ว ที่เหลืออยู่มีเพียงการหลอกใช้เท่านั้น เป็นดั่งที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าว หากฮองเฮาต้องการคนสนับสนุน เหตุใดไม่ขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของตัวเอง จงเส้าจ้งเป็นถึงรองแม่ทัพในกองกำลังรักษาพระองค์ ตัวเขาอยู่ที่เมืองหลวงเช่นเดียวกับนาง!
หากควบคุมกองกำลังรักษาพระองค์ได้ก็เท่ากับควบคุมวังหลวงได้ นางไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ ทว่า กลับเลือกใช้เขาที่อยู่ไกลถึงค่ายผิงอันแทน!
ฮองเฮาต้องการทำลายเขาและทุกคนในตระกูลฝู ทว่า องค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยเหลือเขาและตระกูลไว้ หากฝูรั่วซียังมองไม่ออก มารดาของเขาคงเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์
ดวงตาของฝูรั่วซีแดงก่ำ ความรู้สึกผิดที่เคยมีให้ฮองเฮาสลายหายไปตั้งแต่ตอนที่ฮองเฮาส่งคนมาสังหารเขาในคุก สิ่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้มีเพียงความเกลียดชัง!
เกลียดฮองเฮา ทว่า เกลียดตัวเองมากกว่า!
หากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาที่เอาแต่เชื่อคำกล่าวของฮองเฮาและความไม่เด็ดขาดของตัวเอง มารดาของเขาจะจากโลกนี้ไปอย่างน่าเวทนาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
เขาจำได้ดีว่ามารดาของเขาเคยกล่าวไว้ว่านางอยากมีชีวิตอยู่จนเห็นบรรดาหลานๆ แต่งงานมีครอบครัว เห็นเหลนของนางลืมตาดูโลก ฝูรั่วซีอยู่ไกลถึงค่ายทหารผิงอัน นางจะช่วยฝูรั่วซีสั่งสอนอบรมหลานๆ ไม่ขอให้พวกเขามีความสามารถโดดเด่น ขอเพียงได้อยู่ปกป้องดูแลให้พวกเขาเติบโตมาเป็นคนที่ดีก็พอ
คนที่ดี…
นี่คือสิ่งที่ฝูเหล่าไท่จวินพร่ำบอกเขาเสมอยามเขาเป็นเด็ก
ทว่า เมื่อเติบใหญ่ ฝูรั่วซีกลับทำตามนั้นไม่ได้!
เขาทำผิดต่อมารดา ทำผิดต่อภรรยาหลัวซื่อ ยิ่งทำผิดต่อบุตรชายทั้งสองคน ทำผิดต่อทุกคนในตระกูลฝู
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ประคองฝูรั่วซีให้ลุกขึ้น “แม่ทัพฝูลุกขึ้นเถิด เช่นนั้นข้าขอมอบทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันให้แม่ทัพฝูเป็นคนควบคุม ข้าจะให้ลุงผิงส่งท่านออกจากเมืองหลวงโดยอ้างว่าจะส่งจดหมายไปยังซั่วหยาง จะบอกกับทหารค่ายผิงอันเช่นไร แม่ทัพฝูตัดสินใจเอาเอง”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ” ฝูรั่วซีพยักหน้า