ตอนที่ 652 ยุติธรรม
ร่างของหลิวซื่อสั่นเทิ้มไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว ขณะก้าวข้ามธรณีประตู นางยกขาไม่ขึ้นจนเกือบสะดุดล้ม โชคดีที่หลัวหมัวมัวช่วยประคองไว้ได้ทัน หลิวซื่อจึงเดินโซเซมาถึงระเบียงทางเดิน
เซียวหรงเหยี่ยนยืนอยู่บนระเบียงทางเดิน เมื่อเห็นฮูหยินสองก้าวขึ้นบันไดมา ชายหนุ่มรีบโค้งกายทำความเคารพ “ฮูหยินไป๋สอง ได้โปรดอนุญาตให้เหยี่ยนรอฟังข่าวอยู่ที่นี่ด้วยเถิดขอรับ หากทราบว่าคุณหนูใหญ่ปลอดภัยแล้ว เหยี่ยนจะรีบจากไปขอรับ”
หากวันนี้ไม่ได้เซียวหรงเหยี่ยนพาคนมาช่วยเหลือ วางแผนป้องกันเรือนหน้าเอาไว้ กบฏเหล่านั้นไม่มีทางถูกสกัดอยู่หน้าจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นนี้แน่นอน หลิวซื่อรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเซียวหรงเหยี่ยน ที่สำคัญตอนนี้หลิวซื่อไม่มีเวลามาสนใจชายหนุ่ม นางพยักหน้าอย่างสะอื้น จากนั้นเดินเข้าไปในห้อง
หลูผิงทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิงเชิญไปรอในห้องรับรองเถิดขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าแล้วเดินตามหลูผิงไปดื่มชาที่ห้องรับรอง ทว่า ชายหนุ่มอยู่ไม่สุขแม้แต่น้อย เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวที่ห้องด้านข้าง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินไปใต้ชายคา เขาเห็นเพียงหลิวซื่อและหมัวมัวข้างกายจากไปอย่างร้อนรนพลางกล่าวว่ายังดีที่เก็บโสมร้อยปีเอาไว้ ครั้งนี้ต้องมีประโยชน์แน่นอน
เซียวหรงเหยี่ยนจ้องไปยังสายฝนนอกชายคานิ่ง ใจร้อนรนดั่งไฟเผา
ภายในห้อง
ไป๋ชิงเหยียนให้หมอหงหาข้ออ้างกันหลิวซื่อออกไป จากนั้นค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งพลางกล่าวขึ้น “ข้าจัดฉากการบาดเจ็บครั้งนี้เอง ข้าจะได้กลับซั่วหยางได้อย่างไร้อุปสรรค ท่านหมอหง หากองค์รัชทายาทตรัสถามเรื่องนี้ ท่านจงทูลองค์ชายไปว่าข้าได้รับบาดเจ็บหนัก มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่กี่ปีเท่านั้น”
หมอหงตรวจบาดแผลของไป๋ชิงเหยียนแล้ว หญิงสาวไม่ได้ถูกทำร้ายที่จุดสำคัญ เห็นได้ชัดว่าคนยิงธนูฝีมือแม่นเพียงใด
ไป๋จิ่นเซ่อกัดฟันแน่น เมื่อรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนจัดฉากเรื่องพวกนี้เองก็ยิ่งปวดใจ
หากนางโตและฉลาดกว่านี้ก็คงดี นางจะได้ช่วยเหลือพี่หญิงใหญ่ ไม่ต้องให้พี่หญิงใหญ่ใช้วิธีเช่นนี้อีก…
“ข้าเข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ เดี๋ยวข้าจะทูลองค์ชายเอง ฝากแม่นางหลูฝังเข็มหยุดเลือดให้คุณหนูใหญ่ด้วย ข้าล้างมือแล้วจะมาถอนธนูให้คุณหนูใหญ่” หมอหงกล่าว
“เจ้าค่ะ!” หลูหนิงฮว่ารับคำ หญิงสาวใช้กรรไกรที่รนไฟแล้วตัดเสื้อบริเวณหน้าอกและแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียนออก ใช้ผ้าสำลีชุบน้ำอุ่นทำความสะอาดแผลให้ไป๋ชิงเหยียน เมื่อฝังเข็มห้ามเลือดให้หญิงสาวเสร็จจึงขยับหนีให้หมอหงรักษาต่อ
หมอหงเคยรักษาบาดแผลให้ไป๋ชิงเหยียนมาก่อน เขารู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนอดทนต่อความเจ็บปวดได้มากเพียงได้
ไป๋ชิงเหยียนนั่งขัดสมาธิหันหลังให้หมอหง ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
มือข้างหนึ่งของหมอหงจับบ่าของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายของลูกธนู…
ลำคอของไป๋จิ่นเซ่อร้อนผ่าว สาวน้อยเงยหน้ามองดูหมอหงที่มีสีหน้าเรียบเฉย กำผ้าผันแผลในมือแน่น เมื่อครู่หมอหงกำชับไว้ว่าเมื่อเขาดึงลูกธนูออก ให้ไป๋จิ่นเซ่อและหลูหนิงฮว่ารีบกดบาดแผลเอาไว้ทันที
“คุณหนูใหญ่…” หมอหงเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียน
ไป๋จิ่นเซ่อคิดว่าหมอหงจะบอกไป๋ชิงเหยียนว่าเขาจะดึงธนูออกแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อสิ้นเสียง หมอหงจะดึงธนูออกมาทันที
ไป๋ชิงเหยียนคำรามออกมาเล็กน้อย เลือดสดกระเด็นโดนใบหน้าของไป๋จิ่นเซ่อ หลูนิงฮว่ารีบใช้ผ้าผันแผลกดบาดแผลของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้อย่างมีสติ จากนั้นหยิบเข็มทองออกมาฝังเข็มห้ามเลือดให้หญิงสาว
ไป๋จิ่นเซ่อรีบลุกขึ้นไปช่วยกดบาดแผลให้พี่สาวเช่นเดียวกัน น้ำตาของสาวน้อยไหลพรากไม่ขาดสาย เอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนเสียงสั่น “พี่หญิงใหญ่…”
ไป๋ชิงเหยียนกำเสื้อแน่น กัดฟันกรอด เส้นเลือดปูดขึ้นบริเวณหน้าผาก หญิงสาวรู้สึกหายใจติดขัด เหงื่อไหลจากหน้าผากหยดลงด้านล่าง
เดิมทีไป๋ชิงเหยียนไม่อยากให้คนในครอบครัวเป็นกังวล ไม่อยากให้น้องสาวที่อายุยังน้อยของตนต้องเป็นห่วง ทว่า หากไม่ทำเช่นนี้ นางไม่อาจส่งไป๋จิ่นจื้อไปควบคุมค่ายทหารผิงอันได้ หากไม่ทำเช่นนี้ นางอาจไม่สามารถกลับไปซั่วหยางได้อีก
เมื่อหลูหนิงฮว่าฝังเข็มเสร็จ หญิงสาวช่วยกดบาดแผลให้ไป๋ชิงเหยียนพร้อมกับไป๋จิ่นเซ่อสักพัก เมื่อเลือดค่อยๆ หยุดไหล หลูหนิงฮว่ารับยาที่หมอหงปรุงมาจากมือของหมอหงแล้วโรยลงบนบาดแผลของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นพันแผลให้หญิงสาว
หมอหงที่ยืนอยู่นอกฉากกั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือที่เปื้อนเลือดของตน เขามองสำรวจลูกธนูที่แทงทะลุไป๋ชิงเหยียนอย่างละเอียด พบว่ามันคือลูกธนูของกองทัพหนานตู ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่จะเตรียมการเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี
หมอหงเตรียมมอบธนูดอกนี้ให้องค์รัชทายาทเมื่อพระองค์เสด็จมาที่จวนไป๋ ถือเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย
“เป็นอย่างไรบ้าง องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นเช่นไรบ้าง!” เมื่อองค์รัชทายาทก้าวเข้ามาในเรือนชิงฮุยก็เอ่ยถามขึ้นทันที
เดิมทีองครักษ์ตั้งใจให้องค์รัชทายาทรออยู่ที่โถงรับรองด้านหน้า ทว่า องค์รัชทายาทบุกเข้ามายังเรือนหลังทันทีที่มาถึง ผู้ใดจะกล้าห้ามองค์รัชทายาทกัน องครักษ์ไป๋จึงได้แต่ติดตามองค์รัชทายาทมายังเรือนชิงฮุย
เซียวหรงเหยี่ยนเดินออกมาจากห้องรับรองทันทีที่ได้ยินเสียง เขาทำความเคารพองค์รัชทายาท “องค์ชาย…”
เครื่องแต่งกายของเซียวหรงเหยี่ยนเปื้อนไปด้วยเลือดและน้ำฝน ดูน่าสะพรึงยิ่งนัก ลำคอขององค์รัชทายาทร้อนผ่าว
“องค์ชายมิต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านหมอหงกำลังรักษาอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
หมอหงได้ยินเสียงจึงเดินถือลูกธนูออกมาจากห้องด้านใน ทำความเคารพองค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทรีบถลาเข้าไปประคองหมอหงให้ลุกขึ้น “ท่านหมอหง องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นเช่นไรบ้าง”
“ทูลองค์ชาย ครั้งองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้รับบาดเจ็บหนัก ช่วงนี้ร่างกายของนางเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทว่า ธนูดอกนี้แทงโดนปอดของนาง ต่อให้ครั้งนี้รอดชีวิตมาได้ เกรงว่าคงมีชีวิตอยู่อีกไม่เกินสามถึงห้าปีพ่ะย่ะค่ะ” หมอหงกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เขาขบกรามยืนลูกธนูให้องค์รัชทายาท จากนั้นคุกเข่าคำนับแนบพื้น “องค์ชายได้โปรดทวงคืนความยุติธรรมให้คุณหนูใหญ่ของพวกกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงร้องไห้ของชุนเถาดังแว่วมาจากด้านในห้อง ลำคอขององค์รัชทายาทร้อนผ่าว เขาก้มหน้ามองลูกธนูที่อยู่ในมือ กำลูกธนูแน่น หลิ่วรั่วฟูต้องการสังหารเขาต่างหาก!
หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงเจิ้นกั๋วคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายเขา คนที่จะโดนทำลายปอดต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน
“ท่านหมอหง แม้แต่ท่านก็ไม่มีวิธีแล้วอย่างนั้นหรือ” องค์รัชทายาทโน้มกายพยุงตัวหมอหงให้ลุกขึ้น
หมอหงส่ายหน้าน้ำตาคลอ “องค์ชายทรงทราบดีว่าก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ตันเถียน[1] จนกลายเป็นโรคเรื้อรังแล้ว ครั้งนี้นางได้รับบาดเจ็บที่ปอด อย่าว่าแต่กระหม่อมเลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้อาจารย์ของกระหม่อมยังมีชีวิตอยู่ก็คงจนปัญญาเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ หากคุณหนูใหญ่พ้นขีดอันตรายภายในสามวันนี้ไปได้ หากนางพักผ่อน ดูแลร่างกายอย่างเต็มที่ ไม่หักโหมอีก บางทีอาจมีชีวิตอยู่ได้นานกว่านี้พ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทจ้องไปที่ธนูในมือด้วยความเคียดแค้น เขายืนฟังเสียงฝนตกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ครั้งนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยชีวิตเราเอาไว้จึงเกิดเรื่องเช่นนี้ เราจะไม่ปล่อยผู้ที่ลอบสังหารเราเอาไว้แน่!”
องค์รัชทายาทเงยหน้ามองหมอหง “ไม่ว่าท่านหมอหงต้องการยาชนิดใด ส่งคนไปเอาที่จวนองค์รัชทายาทได้ตลอดเวลา ขอเพียงช่วยชีวิตองค์หญิงเจิ้นกั๋วไว้ได้!”
“กระหม่อมขอบพระทัยองค์ชายแทนคุณหนูใหญ่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หมอหงแสร้งแสดงท่าทีซาบซึ้งออกมา
องค์รัชทายาทหันไปมองเซียวหรงเหยี่ยน “หรงเหยี่ยน รบกวนเจ้าช่วยดูแลองค์หญิงเจิ้นกั๋วด้วย เราจะไปจับตัวผู้ลอบสังหารครั้งนี้ด้วยตัวเองเพื่อคืนความยุติธรรมให้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว”
เซียวหรงเหยี่ยนโค้งกายคำนับองค์รัชทายาท “องค์ชายไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทคำนึงถึงมารยาทจึงไม่ได้เข้าไปในห้องนอนของไป๋ชิงเหยียน เขาหันหลังเดินฝ่าสายฝนจากไปทันที
[1] ตันเถียน จุดเลือดลมที่อยู่ใต้สะดือประมาณสามนิ้ว