ตอนที่ 659 หยั่งเชิง
หากเสบียงของเป่ยเจียงเกิดปัญหาเช่นนี้จริง เช่นนั้นเสบียงของหนานเจียงเล่า เสบียงของกองทัพไป๋จะเกิดปัญหาเช่นนี้เหมือนกันหรือไม่
“เจ้าคิดสิ่งใดอยู่” อาหรงผลักไป๋จิ่นจื้อเบาๆ
ไป๋จิ่นจื้อได้สติจึงส่ายหน้า สาวน้อยยิ้มให้อาหรงเล็กน้อย “เปล่า แค่เป็นห่วงพี่หญิงใหญ่”
อาหรงได้ยินเช่นนี้จึงวางเมล็ดทานตะวันในมือลง จากนั้นกุมมือของไป๋จิ่นจื้อพลางกล่าวขึ้น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนมีวาสนา นางย่อมปลอดภัยแน่ ที่สำคัญท่านหมอหงกล่าวว่าขอเพียงองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ้นขีดอันตรายในสามวันแรกมาได้ นางย่อมปลอดภัยแน่นอน นี่วันที่ห้าแล้ว ต่อไปเจ้าต้องเชื่อฟังพี่หญิงใหญ่ของเจ้า อย่าทำให้นางโมโห พี่หญิงใหญ่ของเจ้าต้องมีอายุยืนเป็นร้อยปีแน่นอน”
“เจ้านั่นแหล่ะที่ทำให้ท่านปู่ของเจ้าโมโห” ไป๋จิ่นจื้อกลอกตาใส่อาหรง จากนั้นชักมือของตัวเองกลับ
อาหรงไม่ได้ถือสา สาวน้อยกล่าวต่อ “เช่นนั้นต่อไปข้าจะไม่ยั่วโมโหท่านปู่ของข้าแล้ว ท่านปู่ของข้าจะได้อายุยืนร้อยปีเหมือนพี่หญิงใหญ่ของเจ้า!”
ไป๋จิ่นจื้อหัวเราะออกมาเบาๆ
แม้อาหรงจะไม่กล่าวถึงเรื่องเสบียงอาหารอีก ทว่า ไป๋จิ่นจื้อยังเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ตั้งใจว่าจะกลับไปเล่าให้พี่หญิงใหญ่ฟังอย่างละเอียด
อาหรงรู้ว่าจวนไป๋เกิดเรื่องขึ้น นางมาที่นี่เพื่อปลอบใจไป๋จิ่นจื้อเท่านั้น นางไม่ได้อยู่รบกวนไป๋จิ่นจื้อนานสักเท่าใด นั่งเล่นอยู่เพียงครู่เดียวจึงขอตัวกลับ
เมื่ออาหรงจากไป ไป๋จิ่นจื้อมุ่งหน้าไปที่เรือนชิงฮุยทันที
ชุนเถาปรนนิบัติไป๋ชิงเหยียนทานยาเสร็จ นางกำลังถือซานจาเคลือบน้ำผึ้งไปให้ไป๋ชิงเหยียนทานแก้ขม
ไป๋ชิงเหยียนใช้ตะเกียบคีบซานจาแผ่นหนึ่งเข้าปาก ชุนเถากล่าวเสียงแผ่วเบา “คุณหนูรองไปช่วยหลัวหมัวมัวต้มยาบำรุงเลือดให้คุณหนูใหญ่ที่โรงครัว คุณหนูใหญ่จะหลับพักผ่อนสักหน่อยหรือไม่เจ้าคะ ยังปวดศีรษะอยู่หรือไม่เจ้าคะ”
“ช่วงนี้นอนพักมากแล้ว ข้าไม่เหนื่อย…” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปนวดแขนข้างที่ยกไม่ขึ้นของตัวเองเบาๆ หญิงสาวเพิ่งสั่งให้ชุนเถาไปหยิบตำรามาให้อ่านก็ได้ยินบ่าวรับใช้ด้านนอกเอ่ยทักคุณหนูสี่
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่ง “วางซานจาไว้ให้คุณหนูสี่ลองชิมที่นี่แหล่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนกำลังอยากบอกเรื่องที่นางต้องการให้ไป๋จิ่นจื้อไปควบคุมกองทัพผิงอันให้ไป๋จิ่นจื้อรับรู้อยู่พอดี
ค่ายผิงอันอยู่ไม่ไกลจากเติงโจว ท่านยายและท่านน้าชายยังสามารถช่วยดูแลไป๋จิ่นจื้อได้บ้าง ทว่า ไม่ได้ดูแลอยู่ในสายตาตลอดเวลา เป็นที่เหมาะสำหรับการฝึกฝนประสบการณ์ของไป๋จิ่นจื้อ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดต้องการสร้างความกดดันให้ไป๋จิ่นจื้อตั้งแต่เล็กเช่นนี้
แม้ดาบจะดม ทว่า ต้องหมั่นลับตลอดเวลา
คนแม้จะมีความสามารถ ทว่า ต้องหมั่นฝึกฝนตลอดเวลา
ไป๋จิ่นจื้อมีพรสวรรค์ในการสู้รบ หากนางเอาแต่เก็บไป๋จิ่นจื้อไว้ข้างกาย น้องสาวของนางจะมีแต่ถูกกลบ ดาบล้ำค่าได้มาจากการหมั่นลับคม ไป๋ชิงเหยียนเชื่อว่าขอเพียงไป๋จิ่นจื้อตั้งใจ น้องสาวของนางจะสามารถยืนหยัดในค่ายทหารผิงอันได้
ไป๋จิ่นจื้อเดินแหวกม่านเข้ามาด้านใน เอ่ยเรียกพี่หญิงใหญ่ จากนั้นวิ่งอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน
ชุนเถาทำความเคารพไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นนั่งลงตรงปลายเตียงของไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ เมื่อครู่อาหรงมาหาข้าเจ้าค่ะ”
“พี่รู้แล้ว…”
“อาหรงเล่าว่าเหล่าคุณชายเจ้าสำราญที่ติดตามหลู่หยวนเผิงไปเข้าร่วมกองทัพหนีถอดใจกลับมายังเมืองหลวงก่อนเพราะทนความลำบากไม่ไหวเจ้าค่ะ พวกเขาเล่าว่าเสบียงที่ส่งไปยังกองทัพที่เป่ยเจียงเต็มไปด้วยก้อนกรวด ข้าวมีก้อนกรวดปนอยู่มากมายเจ้าค่ะ ข้าจึงคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ เสบียงอาหารที่ส่งไปยังหนานเจียงจะมีปัญหาเหมือนกันหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวด้วยสีหน้าโมโหและจริงจัง
หากแคว้นต้าจิ้นที่ยิ่งใหญ่ทำได้เพียงพึ่งพาทหารที่คุ้มกันชายแดน ทว่า กลับเล่นตุกติกกับเสบียงที่ส่งไปให้พวกเขาเช่นนี้ คนเหล่านั้นต้องการทำสิ่งใดกันแน่!
ไป๋ชิงเหยียนหันไปส่งสัญญาณให้ชุนเถา ชุนเถาพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไปเฝ้าด้านนอกไว้ทันที
ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น หากเสบียงของกองทัพไป๋เกิดปัญหาขึ้นจริงๆ พวกเสิ่นคุนหยางคงรีบรายงานให้นางรับรู้ตั้งนานแล้ว พวกเขาไม่มีทางอดกลั้นอยู่อย่างนี้แน่นอน
ทว่า บางทีบรรดาทหารและแม่ทัพของกองทัพไป๋อาจกลัวว่าจะทำให้นางลำบากก็ได้ ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองไป๋จิ่นจื้อพลางกล่าวขึ้น “เจ้าให้ลุงผิงส่งคนไปสืบว่าเสบียงอาหารที่ส่งไปหนานเจียงมีปัญหาหรือไม่ จากนั้นส่งคนไปหลอกถามจากพวกคุณชายเจ้าสำราญที่กลับมายังเมืองหลวงว่ามีเรื่องอันใดอีกบ้าง”
“เจ้าค่ะ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า
หญิงชราเฝ้าประตูเข้ามารายงานว่าที่ประตูด้านนอกมู่หรงลี่องค์ชายแห่งต้าเยี่ยนเสด็จมาเยี่ยมองค์หญิงเจิ้นกั๋ว
ดูเหมือนวันนี้ไป๋ชิงเหยียนคงไม่อาจบอกเรื่องที่อยากให้ไป๋จิ่นจื้อไปคุมกองทัพผิงอันให้น้องสาวรับรู้ได้แล้ว
“องค์ชายมู่หรงลี่แห่งต้าเยี่ยนสนิทสนมกับกลุ่มของหลู่หยวนเผิง เจ้าลองสอบถามเรื่องเสบียงอาหารที่เป่ยเจียงจากองค์ชายดูก็ได้…” ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นกล่าวเสียงอ่อนโยน “ไปเถิด ไปพบเขาแทนพี่ที เจ้ารู้ดีว่าควรบอกอาการของพี่เช่นไร”
ไป๋จิ่นจื้อลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ เสี่ยวซื่อจะไม่ทำให้เสียเรื่องแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ไปเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงหมอน มองไปทางไป๋จิ่นจื้อพลางกล่าวยิ้มๆ “พี่ไว้ใจให้เจ้าจัดการอยู่แล้ว”
ไป๋จิ่นจื้อเงยหน้าขึ้น อ้าปาก…อยากบอกกับไป๋ชิงเหยียนว่านางไม่ได้จัดการเรื่องของไป๋ฉีอวิ๋นให้เรียบร้อย สุดท้ายท่านป้าสะใภ้ใหญ่เป็นคนออกโรงช่วยเก็บกวาดแทนนาง ทว่า คำกล่าวจุกอยู่ที่ริมฝีปาก ไป๋จิ่นจื้อไม่กล้ากล่าวออกไป สาวน้อยเดินออกไปพบมู่หรงลี่แทนไป๋ชิงเหยียนด้วยความละอายใจ
เมื่อเห็นไป๋จิ่นจื้อเดินออกไปจากห้องแล้ว ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนนิ่งขรึมลง นางครุ่นคิดเรื่องเสบียงอย่างละเอียด
หากปัญหาเสบียงที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง…เช่นนั้นหากไม่เกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่งก็คงเกี่ยวข้องกับซื่อหลางของกรมการคลังอย่างหลี่หมิงรุ่ย
หลี่หมิงรุ่ยคือบุตรชายของหลี่เม่า ส่วนเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่งก็คือคนของหลี่เม่า
หลี่เม่ารู้ว่านางมีจดหมายที่เขาเขียนถึงองค์ชายรองในตอนนั้นอยู่ในมือ หากไม่ใช่เพราะความบ้าบิ่นจริงๆ หลี่เม่าไม่กล้าสร้างปัญหากับเสบียงอาหารของกองทัพไป๋แน่
ชุนเถากำลังจะเตรียมออกไปเปลี่ยนชาพุทราร้อนกาใหม่ให้ไป๋ชิงเหยียน หลูผิงก็มาขอพบเสียก่อน
ชุนเถาส่งกาน้ำชาให้สาวใช้ จากนั้นแหวกม่านเข้าไปด้านใน “คุณหนูใหญ่ องครักษ์หลูมาแล้วเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนขยับผ้าห่มบริเวณปลายเท้าของตัวเอง จากนั้นกล่าวขึ้น “เชิญลุงผิงเข้ามาได้…”
ไม่นาน ชุนเถาเดินนำหลูผิงเข้ามาด้านใน
หลูผิงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนผ่านฉากกั้น “คุณหนูใหญ่ วันนี้มีคนนำจดหมายมาสอดไว้ที่ประตูข้างของจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วขอรับ เขาไม่ได้ลงนาม กล่าวเพียงว่าขอพบคุณหนูใหญ่สักครั้ง เขียนไว้เพียงที่นัดหมาย กล่าวว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยขอรับ”
ชุนเถารับจดหมายมาจากมือของหลูผิง จากนั้นเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปส่งจดหมายให้ไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนเปิดจดหมายออกอ่าน แม้ไม่คุ้นลายมือ ทว่า ผู้ที่เขียนจดหมายมาให้นางคงอยากหยั่งเชิงนาง
ห้องรับรองเทียนจื้อหมายเลขหนึ่งของหอเยี่ยนเชวี่ย ช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากแน่น “ลุงผิง ท่านนำจดหมายฉบับนี้ไปสอบถามทางหอเยี่ยนเชวี่ยว่าผู้ใดจองห้องรับรองเทียนจื้อหมายเลขหนึ่งในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ จากนั้นไปทูลองค์รัชทายาทขอให้พระองค์ส่งคนของท่านไปกับลุงผิงด้วย จากนั้นคืนจดหมายฉบับนี้ให้แก่ผู้ที่เขียนจดหมายถึงข้า ถามคนผู้นั้นว่าทั้งๆ ที่รู้ว่าข้าได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้ เหตุใดจึงส่งจดหมายมานัดหมายข้าไปพบอีก ตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่!”