ตอนที่ 679 ไว้ใจ
“แคว้นเว่ยไม่มีเขตแดนติดกับแคว้นของเรา ต่อให้พวกเขายึดครองต้าเยี่ยนได้ ขอเพียงแคว้นเว่ยไม่รุกล้ำเข้ามาในเขตชายแดนระหว่างต้าเยี่ยนและต้าจิ้นก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อเรา! ส่วนต้าเหลียงมีเขตแดนทางเหนือติดกับต้าจิ้น ตอนนั้นพวกเราทำลายแคว้นสู่และยึดแคว้นสู่มาเป็นของเราได้ แคว้นต้าจิ้นจึงไม่โดนต้าเหลียงปิดตาย มีทางออกทางทะเลได้ ทว่า หากต้าเหลียงได้ครอบครองต้าเยี่ยน แม้เขตแดนระหว่างสองแคว้นจะไม่ติดกัน ทว่า พวกเขาสามารถตั้งค่ายทหารที่นั่นได้ เช่นนี้เท่ากับว่าต้าจิ้นจะต้องระแวงต้าเหลียงที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกอีกทางด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์รัชทายาทลุกขึ้นเดินไปยังหน้าแผนที่ มองดูแผนที่ครู่ใหญ่ จากนั้นรีบกล่าวออกมาอย่างตกใจ “รีบไปตามเสนาบดีกรมทหารมาที่นี่เร็ว! เฉวียนอวี๋ให้คนไปตามเริ่นเซียนเซิงและฉินเซียนเซิงมาเร็ว…”
เมื่อฟ่างเหล่าได้ยินคำว่าฉินเซียนเซิง นิ้วมือของเขาขยับเล็กน้อย
เมื่อฉินซ่างจื้อมาถึงและได้ยินว่าแคว้นเว่ยและต้าเหลียงกำลังจะบุกโจมตีต้าเยี่ยน เขารู้สึกสนับสนุนการเคลื่อนทัพขององค์รัชทายาทในครั้งนี้มาก
บ่ายวันนั้นองค์รัชทายาทและเสนาบดีกรมทหารเข้าวังไปพบฮ่องเต้ ช่วงค่ำฮ่องเต้มีพระราชโองการสั่งให้หลิ่วหรูซื่อรีบเดินทางไปขอแบ่งดินแดนจากต้าเหลียงทันที อีกทั้งสั่งให้หลิวหงนำทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันไปยังภูเขาชุนมู่ในเช้าวันพรุ่งนี้ หากต้าเหลียงไม่ยอมแบ่งดินแดนให้ ฮ่องเต้สั่งให้หลิ่วหรูซื่อประกาศศึกทันที
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ข่าวเรื่องนี้ หญิงสาวค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองกระดานหมากตรงหน้า นิ้วลูบไปที่หมากหยกสีแดง ครั้งนี้ฮ่องเต้มีท่าทีแข็งกร้าวในการขอแบ่งดินแดนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาคงคิดได้แล้วว่าหากต้าเหลียงยึดครองต้าเยี่ยนได้ ต้าจิ้นจะมีต้าเหลียงเป็นศัตรูทั้งทางตะวันตกและทิศเหนือ หากพวกเขายึดครองแคว้นสู่ที่ตอนนั้นต้าจิ้นทำสงครามแย่งชิงมาได้อย่างยากเย็น ต้าจิ้นจะโดนปิดตาย ไม่มีทางออกทางทะเลอีก
ตอนนั้นท่านปู่ยืนกรานจะทำลายแคว้นสู่ให้ได้แม้จะทำให้แคว้นอื่นๆ ไม่พอใจ เพราะท่านปู่ไม่ต้องการให้ต้าจิ้นถูกแคว้นอื่นปิดตายทางออกทางทะเล
ต่อให้ครั้งนี้องค์รัชทายาทให้ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเสนอความเห็น เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมแล้วหญิงสาวก็จะไม่มีทางยอมให้ต้าเหลียงได้แผ่นดินต้าเยี่ยนไปครอบครองอย่างแน่นอน
“พี่หญิงใหญ่ พี่หญิงใหญ่เจ้าคะ!” ไป๋จิ่นจื้อวิ่งเข้ามาในเรือนชิงฮุยอย่างรวดเร็ว เสียงดังมาก่อนตัวแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองทางหน้าต่างที่แสงแดดสว่างจ้า ไป๋จิ่นจื้อวิ่งออกมาจากระเบียงทางเดิน แหวกม่านเข้ามาด้านใน เดินอ้อมฉากกั้นเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง “เซียวเซียนเซิงมาอีกแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่ามาอำลาพี่หญิงใหญ่ ทว่า ดูจากท่าทีของท่านอาสะใภ้สอง ท่านคงไม่ยอมให้เซียวเซียนเซิงมาพบพี่หญิงใหญ่แน่เจ้าค่ะ หากพี่หญิงใหญ่ต้องการพบเซียวเซียนเซิง ข้าจะไปเรียนท่านอาสะใภ้สองให้เจ้าค่ะ”
ต้าเยี่ยนเกิดเรื่องขึ้น เซียวหรงเหยี่ยนย่อมต้องจากไปเป็นธรรมดา ชายหนุ่มยังอุตส่าห์ปลีกตัวมากล่าวอำลานางถึงที่นี่
เมื่อนึกถึงข้อความคิดถึงที่เซียวหรงเหยี่ยนผูกติดมากับขานก ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยขึ้น “เจ้าไปเชิญเซียวเซียนเซิงมาที่นี่ บอกว่าข้ามีเรื่องอยากปรึกษาเขา”
ไป๋จิ่นจื้อยิ้มร่า ลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะพาเซียวเซียนเซิงมาหาพี่หญิงใหญ่เองเจ้าค่ะ”
กล่าวจบ ไป๋จิ่นจื้อวิ่งออกไปจากเรือนชิงฮุยอย่างรวดเร็ว
ใบหูของไป๋ชิงเหยียนแดงระเรื่อเล็กน้อย หญิงสาวกระแอมออกมาเบาๆ จากนั้นกล่าวกับชุนเถา “เก็บกระดานหมากเถิด เมื่อเซียวเซียนเซิงมาถึง ให้เขานั่งอยู่ด้านนอกฉากกั้นก็พอ”
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารับคำ
ไป๋จิ่นจื้อพาเซียวหรงเหยี่ยนมาพบไป๋ชิงเหยียนตามคำสั่ง
ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ได้ออกเรือน แม้ไป๋จิ่นจื้อจะไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอพี่หญิงใหญ่และเซียวเซียนเซิง ทว่า หากนางออกไปด้านนอก พี่หญิงใหญ่อาจเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ดังนั้นสาวน้อยจึงได้แต่ยืนมองเซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งอยู่ด้านนอกฉากกั้นอยู่ข้างกายของพี่หญิงใหญ่
“ได้ยินว่าเมื่อวานองค์หญิงเจิ้นกั๋วกระอักเลือด วันนี้ดีขึ้นแล้วหรือไม่ขอรับ” เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นชุนเถาสาวใช้ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนออกไปจากห้องแล้ว เขาจึงมองไปทางไป๋จิ่นจื้อที่อยู่ด้านในฉากกั้น
ไป๋จิ่นจื้อกำลังนั่งทานของว่างอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนอย่างเพลิดเพลิน
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นจื้อเช่นเดียวกัน หญิงสาวกล่าวขึ้น “เซียวเซียนเซิงไม่ต้องห่วง ข้ามิเป็นอันใดแล้ว ได้ยินว่าเซียวเซียนเซิงมาอำลา ไม่ทราบว่าจะเดินทางไปที่ใดหรือเจ้าคะ”
“เหยี่ยนมีกิจการบางส่วนอยู่ที่ต้าเหลียง แคว้นเว่ยของเหยี่ยนกำลังจะร่วมมือกับต้าเหลียงโจมตีต้าเยี่ยน เหยี่ยนจึงกะว่าจะเดินทางไปช่วยสืบข่าวให้แคว้นเว่ยด้วยขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
ไป๋จิ่นจื้อสำลักของว่างที่ทานเข้าไป สาวน้อยรีบใช้มือทุบอก จากนั้นจิบชาตามทันที
“เซียวเซียนเซิงไม่ปิดบังข้าเลยนะเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
เซียวหรงเหยี่ยนฟังออกว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังยิ้ม น้ำเสียงทุ้มลึกของชายหนุ่มส่อแววอ่อนโยนอย่างที่เจ้าตัวก็ไม่เคยสังเกตมาก่อน “เหยี่ยน…ไว้ใจคุณหนูใหญ่ขอรับ”
เหตุใดเขาถึงกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ ยังมีผู้อื่นอยู่ที่นี่อีกนะ!
ไป๋ชิงเหยียนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อแล้วส่งให้ไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นจื้อรีบรับมาเช็ดปาก สาวน้อยรู้สึกว่าของว่างที่สำลักลงไปยังติดอยู่ที่ลำคอจึงใช้มือทุบหน้าอกอีกสองสามที
“ออกไปหาน้ำดื่มเถิด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า สาวน้อยใช้ผ้าเช็ดหน้าของพี่หญิงใหญ่ปิดปาก จากนั้นเดินออกไปจากห้องด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นว่านอกผ้าม่านไม่มีความเคลื่อนไหวใดแล้วจึงกล่าวขึ้น “เหยี่ยน…ล่วงเกินแล้วขอรับ!”
กล่าวจบ เซียวหรงเหยี่ยนเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน
ไป๋ชิงเหยียนในชุดสีขาวเรียบนั่งหน้าซีดเซียวอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง ใบหน้าของหญิงสาวอิดโรยกว่าปกติ หญิงสาวใช้ปิ่นปักผมที่เขาเคยมอบให้มัดผมไว้อย่างหลวมๆ บนหน้าตักมีผ้ากำมะหยี่ผืนบางคลุมอยู่
แสงแดดสีทองในช่วงกลางวันสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบลงบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของไป๋ชิงเหยียน ผิวของหญิงสาวขาวเนียนราวกับหยก ช่างเป็นภาพที่ดูงดงามจนยากจะหาผู้ใดเทียบเทียมได้
“เมื่อวานเกิดอันใดขึ้นกันแน่” เซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้าไปกุมมือของไป๋ชิงเหยียนโดยไม่สนใจเรื่องมารยาท เมื่อสัมผัสถึงความเย็นที่มือของหญิงสาว เขาจึงถามต่อ “เจ้าทานยาที่เสี่ยวอาลี่มอบให้แล้วหรือไม่”
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อวานข้าจัดฉากขึ้นเพื่อที่จะได้กลับไปยังซั่วหยางอย่างราบรื่นเอง ท่านเดินทางไปต้าเหลียงครั้งนี้ ระวังตัวให้มากด้วย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า ก้มหน้ามองมือของไป๋ชิงเหยียน ลูบไล้ไปที่ข้อมือของหญิงสาวเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “เจ้าพักรักษาตัวให้ดี เสบียงอาหารส่วนแรกส่งไปถึงซั่วหยางแล้ว ข้าจะให้คนส่งส่วนที่เหลือไปให้เรื่อยๆ ทว่า เจ้ามีที่เก็บเสบียงอาหารเหล่านี้จริงๆ ใช่หรือไม่ หากไม่…”
ไม่รอให้เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยขัดขึ้นก่อน “หากเสบียงส่วนที่เหลือส่งมาถึงซั่วหยาง ข้าจะให้พ่อบ้านเหาจ่ายเงินทั้งหมดให้คนของท่าน ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อข้ากล้าเอ่ยปาก ข้าย่อมรับไว้ทั้งหมดได้อยู่แล้ว”
เซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนแสดงละครสมจริง ชายหนุ่มย่อมมีเสบียงอาหารจริงๆ ทว่า ตอนนั้นเขาไม่อาจหาข้ออ้างขัดขวางไม่ให้ต้าจิ้นเข้าไปก้าวก่ายเรื่องที่เป่ยหรงและต้าเยี่ยนจะโจมตีหนานหรงได้ เซียวหรงเหยี่ยนจึงต้องส่งเสบียงอาหารไปที่ซั่วหยางตามที่ตกลงกันไว้
ตั้งแต่ต้าเยี่ยนยึดครองหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้ ต้าเยี่ยนไม่เคยขาดแคลนเสบียงอีกเลย
ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้กล่าวสิ่งใดให้มากความไปกว่านี้
ทั้งสองต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองมีภาระหน้าที่อันใด พวกเขาไม่มีทางถูกความรักระหว่างหนุ่มสาวกักขังไว้อย่างแน่นอน