สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 692 ตัดสินใจโดยพลการ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 692 ตัดสินใจโดยพลการ

ไป๋จิ่นจื้อแอบเตรียมสมุดภาพที่น่าสนใจไว้ให้พี่หญิงใหญ่หลายเล่ม หากพี่หญิงใหญ่มีเวลาจะได้เอาไว้อ่านคลายผ่อนคลายสมอง

เช่นนี้พี่หญิงใหญ่จะได้รับรู้ความรู้สึกของตัวเองเร็วกว่านี้ เซียวเซียนเซิงจะได้แต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูลไป๋เร็วๆ

ไป๋จิ่นจื้อรายงานเรื่องที่ได้รับมอบหมายและมอบของขวัญให้พี่หญิงใหญ่เสร็จแล้ว สาวน้อยโค้งกายคำนับพี่หญิงใหญ่ “ข้ามอบของขวัญให้พี่หญิงใหญ่แล้ว ข้าขอตัวกลับไปคัดตำราก่อนนะเจ้าคะ ท่านแม่ของข้าโมโหเรื่องที่ข้าหนีไปโดยทิ้งจดหมายไว้เพียงฉบับเดียวมาก ข้าต้องรีบกลับไปทำดีให้ท่านแม่ของข้าพอใจสักหน่อยเจ้าค่ะ…”

ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี นางได้แต่พยักหน้า “ไปเถิดๆ”

“พี่หญิงใหญ่พักผ่อนให้เต็มที่นะเจ้าคะ หากมีเรื่องอันใดให้พี่ชุนเถามาตามข้าได้เลยเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวยิ้มๆ จากนั้นเดินออกไปจากเรือนปัวอวิ๋น กลับไปคัดตำราเพื่อเอาใจมารดาของตัวเองที่จวน

เมื่อไป๋จิ่นจื้อจากไป ชุนเถานำน้ำชาร้อนเข้ามาให้ไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูเหนื่อยจากการเดินทางมากแล้ว ถงหมัวมัวกำชับข้าก่อนที่นางจะไปเยี่ยมอิ๋นซวงว่าให้ข้าปูเบาะทำความอุ่นไว้บนเตียงของคุณหนูใหญ่ เกลี้ยกล่อมให้คุณหนูยอมหลับพักผ่อนให้ได้เจ้าค่ะ คุณหนูจะหลับสักงีบหรือไม่เจ้าคะ”

“เก็บกล่องที่เสี่ยวซื่อนำมาให้ไว้ในลิ้นชักให้ดี” ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบ “เจ้าไปดูทีว่าเฉิงซ่านหรูและผู้ดูแลหลิวมาถึงแล้วหรือไม่ ข้าคิดว่าพวกเขาคงมาถึงแล้ว ทว่า โดนถงหมัวมัวห้ามไม่ให้เข้ามาพบข้า หากพวกเขามาแล้ว เจ้าเชิญพวกเขาเข้ามาได้เลย”

เฉิงซ่านหรูและผู้ดูแลหลิวรีบร้อนมาขอเข้าพบคุณหนูใหญ่ตั้งแต่ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่กลับมาถึงจวนแล้วจริงๆ

ทว่า ถงหมัวมัวสงสารที่คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บและต้องลำบากเดินทางกลับมาซั่วหยางจึงห้ามสองคนนั้นไว้เสียก่อน

ก่อนที่ถงหมัวมัวจะนำของว่างไปให้อิ๋นซวง นางยังกำชับชุนเถาอยู่เลยว่าเมื่อคนจากไปหมดแล้วให้ปล่อยคุณหนูใหญ่พักผ่อนให้เต็มที่

“คุณหนูใหญ่หลับสักตื่นเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะสั่งให้คนไปตามพวกเขามา คงใช้เวลาอีกสักพักเจ้าค่ะ” ชุนเถาเกลี้ยกล่อมไป๋ชิงเหยียนราวกับหญิงสาวเป็นเด็กตัวเล็กๆ

“ไม่ต้อง ข้าเอนกายเช่นนี้ก็พอแล้ว เจ้าไปตามคนมาเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนยกมือนวดขมับของตัวเอง

ชุนเถารับคำแล้วเดินออกจากห้องไป

อาจเป็นเพราะกลับถึงบ้านของตัวเองแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย หญิงสาวใช้มือข้างหนึ่งยันศีรษะ จากนั้นเอนกายพิงหมอนอิงจนผล็อยหลับไปเมื่อใดก็ไม่รู้

เมื่อชุนเถาสั่งให้คนไปตามเฉิงซ่างหรูและผู้ดูแลหลิ่วจนทั้งคู่มาถึงแล้ว นางจึงแหวกม่านเข้าไปรายงานคุณหนูใหญ่ เมื่อชุนเถาเห็นว่าคุณหนูใหญ่เอนกายพิงหมอนอิงหลับไปแล้ว ชุนเถาจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน ห่มผ้าให้หญิงสาว จากนั้นเดินออกมาจากห้องอย่างเงียบเชียบ

มองดูแสงแดดที่ค่อนข้างแรงของวันนี้ ชุนเถาสั่งให้คนปลดผ้าม่านที่เกี่ยวอยู่ตรงตะขอทองแดงของระเบียงทางเดินลงมาบังแดด จากนั้นจึงทำความเคารพผู้ดูแลหลิวและเฉิงซ่านหรูที่ยืนอยู่กลางลานหญ้า “คุณหนูใหญ่หลับไปแล้วเจ้าค่ะ ผู้ดูแลหลิ่วและผู้ดูแลเฉิงเชิญจิบน้ำชารออยู่ที่ห้องรับรองสักพักนะเจ้าคะ ให้คุณหนูใหญ่ได้พักผ่อนสักงีบ คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก นางเหนื่อยจากการเดินทางมากแล้วเจ้าค่ะ”

ผู้ดูแลหลิวและเฉิงซ่านหรูรู้เรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บขณะช่วยชีวิตองค์รัชทายาทแล้ว เมื่อได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาเหนื่อยจนเผลอหลับไปแล้ว พวกเขาจึงรีบพยักหน้า ผู้ดูแลหลิวรีบกล่าวขึ้น “ไม่ต้องปลุกคุณหนูใหญ่หรอก ข้าและซ่านหรูจะจิบน้ำชารออยู่ที่ห้องรับรอง”

“ขอบพระคุณท่านทั้งสองมากเจ้าค่ะ” ชุนเถาทำความเคารพ

เมื่อรู้ว่าคุณหนูใหญ่นอนหลับแล้ว บ่าวรับใช้ทุกคนในจวนปัวอวิ๋นจึงไม่กล้าส่งเสียงดัง ทุกคนเดินย่องกันอย่างระมัดระวังเพราะกลัวรบกวนการนอนของคุณหนูใหญ่

ขนาดต่งซื่อที่ปรุงยามาให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง เมื่อนางรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนหลับไปแล้ว นางก็ไม่ได้ให้คนปลุกไป๋ชิงเหยียนให้ตื่นขึ้น ทำเพียงสั่งให้คนอุ่นยาไว้ตลอดเวลา เมื่อไป๋ชิงเหยียนตื่นขึ้นมาให้นางทานของว่างรองท้อง จากนั้นค่อยดื่มยาตัวนี้

ไป๋ชิงเหยียนหลับสนิทจนเกือบถึงยามซวี[1] จากนั้นตื่นขึ้นมาเพราะความหิว

ชุนเถานั่งถือแท่นปักปักลายดอกไม้อยู่บนเก้าอี้ทรงกลมท่ามกลางแสงไฟ เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนตื่นนอน ชุนเถาจึงรีบวางแท่นปักในมือลง จากนั้นลุกขึ้นยืน “คุณหนูใหญ่ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”

ไป๋ชิงเหยียนลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ มองออกไปด้านนอก หญิงสาวเห็นว่าท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ทว่า เรือนปัวอิ๋นไม่ได้จุดไฟสว่าง คงเป็นเพราะกลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของนาง

แม้กระทั่งในห้องยังมีเพียงแสงสว่างของตะเกียงเพียงดวงเดียวเท่านั้น

ไป๋ชิงเหยียนหยัดกายขึ้น นางเห็นชุนเถากำลังว้าวุ่นอยู่กับการจุดไฟในตะเกียงสองสามดวงที่วางอยู่บนโต๊ะจึงกล่าวขึ้น “มืดเช่นนี้ เจ้าเย็บผ้าไม่กลัวตาบอดหรืออย่างไรกัน”

“มิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ข้านั่งอยู่ใต้แสงไฟพอดีเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่หิวหรือไม่เจ้าคะ ฮูหยินสั่งให้โรงครัวอุ่นอาหารรอไว้ตลอด เมื่อคุณหนูใหญ่ตื่นขึ้นจะได้ทานทันทีเจ้าค่ะ” ชุนเถาปิดฝาครอบตะเตียง ภายในห้องสว่างขึ้นทันที

“เพลาใดแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนถามชุนเถา

“เรียนคุณหนูใหญ่ ใกล้จะยามซวีแล้วเจ้าค่ะ” ชุนเถาเขย่งปลายเท้าจุดไฟในตะเกียงที่อยู่บนตู้เหนือศีรษะทางด้านขวาของไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวยิ้มๆ “ผู้ดูแลหลิวและผู้ดูแลเฉิงเห็นว่าคุณหนูใหญ่หลับสนิท พวกเขาจึงไปรอที่เรือนหน้าเจ้าค่ะ เมื่อคุณหนูใหญ่ทานอาหารเสร็จ ข้าจะให้คนไปตามพวกเขามาพบคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”

เมื่อถงหมัวมัวเห็นว่าไฟในห้องสว่างขึ้นแล้วจึงรีบสั่งให้คนไปเตรียมอาหาร บ่าวรับใช้ในเรือนปัวอวิ๋นวุ่นวายขึ้นมาทันที บ่าวรับใช้ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดจุดไฟตามระเบียงทางเดินให้สว่าง ถงหมัวมัวเข้าไปช่วยชุนเถาจุดไฟในห้อง

ไป๋ชิงเหยียนถามถึงอิ๋นซวง ถงหมัวมัวกล่าวว่าแม้อิ๋นซวนจะสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง ทว่า เด็กสาวมีความสุขกับการกิน ไม่จำเป็นต้องให้ถงหมัวมัวกล่าวปลอบ

ไป๋ชิงเหยียนรับประทานอาหารเย็นเสร็จไม่นาน ผู้ดูแลหลิวและเฉิงซ่านหรูมาถึงเรือนปัวอวิ๋น

ชุนเถาเชิญทั้งสองคนเข้ามาด้านใน ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพราะได้รับบาดเจ็บอยู่ ผู้ดูแลหลิวและเฉิงซ่านหรูจึงนั่งอยู่นอกฉากกั้น สนทนากับไป๋ชิงเหยียนผ่านฉากกั้นลายเมฆแทน

“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ เรื่องบนภูเขาเรียบร้อยดีทุกอย่าง คนของเซียวเซียนเซิงผู้นั้นน่าคบหามากขอรับ” เฉิงซ่านหรูรู้ว่าเรื่องนี้คือความลับ เขาจึงกล่าวอย่างอ้อมๆ

“ทว่า ก่อนหน้านี้คนของเซียวเซียนเซิงมาบอกว่าพวกเขาต้องการอาวุธที่ผลิตออกมาครั้งแรกไปใช้ก่อน ส่วนครั้งต่อไปพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งขอรับ ข้าไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ กล่าวว่าจะกลับมาปรึกษาผู้ดูแลหลิวก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้ให้คำตอบพวกเขาขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนถือถ้วยชากระเบื้องขาวลายไม้ไผ่สีทองไว้ในมือ ใช้ฝาถ้วยกดใบชาที่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำในถ้วยชาลงไป ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

เฉิงซ่านหรูไม่รู้ว่าตนกล่าวสิ่งใดผิดไปหรือไม่จึงหันไปมองผู้ดูแลหลิวที่สุขุมกว่าตน เมื่อเห็นผู้ดูแลหลิวดื่มชาด้วยสีหน้าปกติ เขาจึงคลายกังวลลง รอคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนเงียบๆ

ต้าเหลียงและแคว้นเว่ยกำลังจะโจมตีต้าเยี่ยน สิ่งที่ต้าเยี่ยนต้องการมากที่สุดในตอนนี้คืออาวุธ

ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวขึ้น “ให้พวกเขาไป…”

“ขอรับ!” เฉิงซ่านหรูรับคำจากนั้นกล่าวต่อ “ยังมีอีกเรื่องขอรับ ทว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ข้าจึงตัดสินใจด้วยตัวเองไปแล้ว คนของเซียวเซียนเซิงทำแบบหลอมธนูขึ้นมาขอรับ พวกเขาให้พวกเราหลอมธนูตามแบบที่พวกเขาสร้างขึ้น ข้ารู้สึกว่าแบบหลอมของพวกเขาประณีตมาก มีหนามแหลมอยู่รอบศรธนู ด้านในมีอาวุธลับแฝงอยู่อีกชั้น ทำให้คนที่โดนธนูยิงเลือดไหลไม่หยุด หากต้องการดึงลูกธนูออกจากร่าง เนื้อจะฉีกหลุดออกมาด้วย เป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้างมาก ข้าจึงอนุญาตไปแล้วขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้ามอบเรื่องนี้ให้เจ้าดูแลแล้ว หากเจ้าคิดว่าใช้ได้ก็ตัดสินใจตามสมควรได้เลย”

[1] ยามซวี เวลาระหว่าง 19.00-21.00 นาฬิกา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท