สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 694 ส่งทูตไปเจรจา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 694 ส่งทูตไปเจรจา

ชุนเถายืนนวดคอที่ปวดระบมของตัวเองอยู่ตรงระเบียงทางเดินพักหนึ่ง จากนั้นจึงเดินหาวกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง

ภายในเรือนปัวอวิ๋นอบอุ่นจากไฟที่ต่งซื่อสั่งให้คนไปก่อเอาไว้ในหลุมใต้ดินเอา

สาวใช้เฝ้าเวรกลางคืนรับปากกับชุนเถาเสียดิบดีว่าจะเฝ้าคุณหนูใหญ่ให้ดี คอยเปลี่ยนกาน้ำชากาใหม่ให้คุณหนูใหญ่เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากในห้อง

ผู้ใดจะคิดว่านางจะผล็อยหลับไปเพราะไออุ่นจากเรือนปัวอวิ๋น

ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากตำหนิสาวใช้ผู้นั้น หญิงสาวหยัดกายขึ้นจากเตียง แหวกมุ้งออกเล็กน้อย เตรียมสั่นกระดิ่งปลุกสาวใช้ให้ตื่นขึ้น ทว่า หญิงสาวได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากระเบียงทางเดินเสียก่อน ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น ยกมือกุมหน้าอกพลางขยับเท้าลงจากเตียง เหยียบลงบนแผ่นไม้เคลือบทอง มองไปทางหน้าต่างอย่างระวัง

คนที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างที่เงียบสนิทดูเหมือนจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้องเช่นเดียวกัน เขาเอ่ยเสียงเบาหวิว “อาเป่า เจ้าหลับแล้วหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ออก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเซียวหรงเหยี่ยน

ไป๋ชิงเหยียนยหยัดกายลุกขึ้นจากเตียง เตรียมเดินไปเปิดหน้าต่างก็ได้ยินเสียงเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเตือนขึ้นก่อน “สวมผ้าคลุมอีกชั้นด้วย ด้านนอกอากาศหนาว ระวังจะเป็นหวัดได้”

“ท่านรอสักครู่…” ไป๋ชิงเหยียนหยิบผ้าฝ้ายผืนบางขึ้นมาคลุมร่าง แหวกมุ้งมองไปทางสาวใช้ที่นอนหลับสนิทอยู่นอกห้องแวบหนึ่ง จากนั้นถือตะเกียงเดินไปริมหน้าต่าง เปิดหน้าต่างออก

ดวงจันทร์ส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ

กระเบื้องบนหลังคาของเรือนปัวอวิ๋นถูกแสงจันทร์ส่องสะท้อนจนกลายเป็นสีเทาขาวหม่นๆ

เซียวหรงเหยี่ยนสวมเสื้อคลุมกันลมยืนอยู่นอกหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนเปิดหน้าต่างจึงหันไปมองทางหญิงสาว…

ดวงดาวลอยประปรายลอยอยู่บนท้องฟ้าที่มืดหม่น ดวงจันทร์ถูกเมฆขาวบดปังจนฟ้ามืดลงถนัดตา

เปลวไฟจากเทียนในมือของไป๋ชิงเหยียนสะบัดไปมา ส่องกระทบใบหน้าภายในหมวกคลุมสีดำของเซียวหรงเหยี่ยน

ชุดของเซียวหรงเหยี่ยนเปื้อนไปด้วยฝุ่นโคลน ใบหน้าของชายหนุ่มคมชัดมากขึ้นเพราะซูบผอมลงจากการเดินทางโดยไม่หยุดพัก ชายหนุ่มเปิดหมวกคลุมออก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น สีหน้าส่อแววอ่อนล้าเล็กน้อย ทว่า ชายหนุ่มดูสุมขุมมากกว่าเดิมเมื่ออยู่ภายใต้แสงของดวงจันทร์

ลมหนาวพัดโชยเข้ามา ผ้าคลุมร่างผืนบางของไป๋ชิงเหยียนพัดไปติดอยู่ที่มุมปากของหญิงสาว เปลวไฟในมือของหญิงสาวดับลงชั่วขณะ จากนั้นสว่างขึ้นอีกครั้ง

แววตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าเด่นชัด กล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านมาได้เช่นไร”

“พรุ่งนี้คือวันเกิดของเจ้า ข้ากลัวมาไม่ทันจึงเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน นึกไม่ถึงว่าจะมาถึงก่อนวันหนึ่ง…” น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนทุ้มต่ำ ทำให้คนรู้สึกมึนเมาเมื่อได้ยินราวกับเหล้าที่หมักไว้หลายปี

เซียวหรงเหยี่ยนมาถึงซั่วหยางช่วงกลางดึกจึงไม่อาจมาหาไป๋ชิงเหยียนที่จวนไป๋ได้ ทว่า ชายหนุ่มทนความคิดถึงของตัวเองไม่ไหวจึงได้แต่สั่งให้เยว่สือล่อองครักษ์ไป๋ไปทางอื่น ส่วนเขาลอบเข้ามาพบไป๋ชิงเหยียน

เซียวหรงเหยี่ยนล้วงหยิบกล่องไม้สีเหลี่ยมสีแดงออกมาจากอก ดูเหมือนจะเป็นกล่องสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างเช่นกำไลข้อมือ

“หากเหยี่ยนมีวาสนา เหยี่ยนหวังว่าชาตินี้จะได้ครองคู่ ได้ใช้ชีวิตร่วมกับอาเป่าตลอดไป”

ริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียนขยับเล็กน้อย ทว่า ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกไป ความอุ่นวาบแผ่ซ่านเข้ามาในใจ หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าสถานการณ์ของต้าเยี่ยนในตอนนี้เป็นเช่นไร ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนกลับนึกถึงวันเกิดของนาง

ทุกปีที่ผ่านมา…หากท่านปู่ ท่านพ่อ บรรดาท่านอาและน้องชายยังมีชีวิตอยู่ วันเกิดของนางคือช่วงเวลาที่คึกครื้นที่สุด ปีนี้ท่านแม่กลัวว่าบรรดาท่านอาสะใภ้จะเสียใจจึงสั่งให้จัดทุกอย่างอย่างเรียบง่าย บรรดาพี่น้องรับประทานอาหารร่วมกันก็ถือเป็นการฉลองแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนรับกล่องไม้แกะสลักสีแดงมาถือไว้ในมือ นึกถึงคำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยน ‘ได้ครองคู่ ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน’ นึกถึงคำที่ชายหนุ่มเคยกล่าวว่า…ขาดนางจะมีความสุขได้อย่างไร ใบหน้าและใบหูของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำขึ้นมาทันที

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนพลางกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณที่ท่านจำได้!”

เมฆค่อยๆ ลอยห่างออกไป…

แสงจันทร์สาดส่องลงกลางเรือนปัวอวิ๋นจนสว่างราวกับเป็นเวลากลางวัน ส่องกระทบใบหน้าเกลี้ยงเกลาของไป๋ชิงเหยียนจนดูงดงามและเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเดิม งามราวกับเทพธิดาบนดวงจันทร์

เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอย่างห้ามใจไว้ไม่อยู่ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจัดผ้าคลุมไหล่ของหญิงสาวให้เข้าที สายตาหยุดอยู่ที่ลำคอเพรียวระหงของหญิงสาว ลำคอของชายหนุ่มร้อนผ่าว เงยหน้าขึ้นสบตาไป๋ชิงเหยียน “พบหน้าเจ้าแล้วข้าก็ต้องรีบเดินทางต่อไปยังแคว้นเว่ยทันที”

“ลำบากเช่นนี้ เหตุใดท่านจึงต้องมาที่นี่ด้วย…” ไป๋ชิงเหยียนกำกล่องไม้สีแดงในมือแน่น “หากมีเวลาค่อยมาหาข้าที่ซั่วหยางก็ได้”

“ไม่เหมือนกัน!” เซียวหรงเหยี่ยนมองใบหน้าขาวใสของไป๋ชิงเหยียน สายตาของชายหนุ่มสงบนิ่งและอบอุ่น รอยยิ้มของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งจนคนหวั่นไหว

“อาเป่า ต่อจากนี้ข้าไม่อยากพลาดวันเกิดของเจ้าแม้แต่ปีเดียว”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นดวงตาของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มเหนื่อยล้ามาก ทว่า หญิงสาวรู้ดีว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นห่วงแคว้นต้าเยี่ยน นางจึงกลืนถ้อยคำที่ตั้งใจจะโน้มน้าวให้เซียวหรงเหยียนพักผ่อนลงไปในลำคอ กล่าวเพียง “องค์รัชทายาทส่งหลิ่วหรูซื่อไปขอแบ่งดินแดนแล้ว แม่ทัพหลิวหงนำทัพไปยังต้าเหลียงแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขาคงพอช่วยลดแรงกดดันที่ต้าเยี่ยนมีอยู่ได้บ้าง”

บัดนี้ยังกล่าวสิ่งใดมากไม่ได้

แคว้นต้าจิ้นส่งทูตไปเจรจาขอแบ่งดินแดนจากต้าเหลียงเพื่อแผนการระยะยาวในภายภาคหน้า เดิมทีเซียวหรงเหยี่ยนต้องการให้เป่ยหรงถือโอกาสนี้ส่งทูตไปยังต้าเหลียงเพื่อขอให้ต้าเหลียงร่วมมือกับเป่ยหรงโจมตีต้าจิ้น ให้ต้าเหลียงเข้ามาพัวพันในสงครามกับต้าจิ้นด้วย เช่นนี้ไม่ว่าต้าเหลียงหรือต้าจิ้นจะได้ไม่มีเวลาปลีกตัวไปสนใจเรื่องอื่น แคว้นต้าเยี่ยนของพวกเขาจะได้ทำลายแคว้นเว่ยได้อย่างไม่ต้องกังวลหลัง

มิเช่นนั้นหากต้าเยี่ยนรบกับต้าเว่ยได้ครึ่งทางแล้วจู่ๆ ต้าจิ้นสังเกตได้ว่าต้าเยี่ยนไม่เหมือนต้าเยี่ยนในตอนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เขาต้องเข้ามาขัดขวางต้าเยี่ยน ไม่มีทางปล่อยให้ต้าเยี่ยนยึดครองต้าเว่ยโดยที่ตัวเองอยู่เฉยๆ แน่นอน

ทว่า อ๋องของเป่ยหรงยังลังเลอยู่ เป่ยหรงและต้าเหลียงเป็นศัตรูกันมาก่อน อ๋องแห่งเป่ยหรงกลัวว่าจะเป็นดูถูกศักดิ์ศรีของแคว้นตัวเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่มีแคว้นใดร่วมมือกับต้าเหลียงโจมตีต้าจิ้น ต้าเหลียงอาจยอมแบ่งดินแดนของตัวเองให้ต้าจิ้น จากนั้นหันไปตั้งใจโจมตีต้าเยี่ยน

“แม้จักรพรรดิของต้าจิ้นจะเลอะเลือน องค์รัชทายาทไร้ความสามารถ ทว่า ต้าจิ้นไม่มีทางทนมองต้าเยี่ยนยึดครองต้าเว่ยอยู่เฉยๆ ปล่อยต้าจิ้นมีอันตรายจากศัตรูทั้งสองทิศแน่นอน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

นี่ไม่เป็นผลดีต่อต้าจิ้นแม้แต่น้อย แม้แต่ไป๋ชิงเหยียนก็ไม่มีทางยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแน่นอน แม้ไป๋ชิงเหยียนจะรู้ว่าต้าเยี่ยนตั้งใจจะดึงต้าจิ้นเข้าไปเกี่ยวข้องในสงครามด้วยเพื่อที่ต้าเยี่ยนจะได้ไม่ต้องกังวลหลัง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ไม่อาจเห็นต้าเหลียงครอบครองแผ่นดินของต้าเยี่ยนได้อยู่ดี!

ครั้งนี้หากต้าเยี่ยนจะทำลายล้างแคว้นเว่ย ทางที่ดีที่สุดสำหรับต้าจิ้นก็คือการทำลายล้างต้าเหลียง!

เช่นนี้ทางเหนือของต้าจิ้นจะได้ติดทะเล ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยทางทิศเหนือของแคว้นอีกต่อไป ต่อมาค่อยหาทางร่วมมือกับหรงตี๋และซีเหลียงโจมตีต้าเยี่ยน เมื่อโจมตีต้าเยี่ยนสำเร็จ ความสงบสุขของใต้หล้าก็อยู่ใกล้เพียงเอื้อมแล้ว

แน่นอนว่าต้าเยี่ยนก็สามารถใช้แผนการเช่นนี้กับต้าจิ้นได้เช่นเดียวกัน

สิ่งที่พวกเขาต้องแข่งกันก็คือดูว่าหลังจากจบสงครามในครั้งนี้แล้ว ผู้ใดจะลงมือได้รวดเร็วกว่ากัน มีอาอวี๋อยู่ที่หนานหรง ไป๋ชิงเหยียนเชื่อว่าชัยชนะจะตกเป็นของต้าจิ้น

เซียวหรงเหยี่ยนมองเห็นปณิธานแรงกล้าในแววตาของไป๋ชิงเหยียน รอยยิ้มที่มุมปากของชายหนุ่มกว้างมากกว่าเดิม เขาไล้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสไปยังใบหน้าด้านข้างซึ่งไร้ที่ติของไป๋ชิงเหยียน

“ครั้งล่าสุดที่เห็นแววตาเช่นนี้ของเจ้าคือตอนที่เจ้าขัดขวางข้ออ้างเรื่องเสบียงอาหารของข้า ทูลขอให้องค์รัชทายาทส่งทูตไปยังหรงตี๋”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท