ตอนที่ 700 ความกล้า
แสงไฟสีเหลืองจากระเบียงทางเดินส่องกระทบลงบนกระเบื้องหินสีเขียวตรงทางเดิน สะท้อนให้เห็นตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่ตามกำแพงอย่างชัดเจน
ชุนเถาเดินถือถ้วยยาเปล่าแหวกม่านผืนบางสีเขียวไม้ไผ่ออกมาด้านนอก นางเห็นไป๋จิ่นจื้อยืนใช้เท้าเตะก้อนหินก้อนเล็กบริเวณปลายเท้าเล่นอยู่ตามลำพังหน้าประตูห้อง
“คุณหนูสี่!” ชุนเถารีบยื่นถาดอาหารสีเหลี่ยมสีดำที่มีถ้วยยาเปล่าวางอยู่บนนั้นให้สาวใช้ที่ยืนอยู่หน้าประตู จากนั้นเดินเข้าไปทำความเคารพไป๋จิ่นจื้อ “เหตุใดคุณหนูสี่จึงไม่เข้าไปด้านในเจ้าคะ”
“พี่หญิงใหญ่หลับพักผ่อนแล้วหรือไม่” ไป๋จิ่นจื้อมองเข้าไปในห้องด้านในแวบหนึ่ง
“ยังเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่กล่าวว่าคุณหนูสี่อาจมาหา นางจึงรอคุณหนูสี่อยู่เจ้าค่ะ” ชุนเถากล่าวพลางหลีกทางให้ไป๋จื้น ผายมือเชิญสาวน้อยเข้าไปด้านใน “เชิญคุณหนูสี่เจ้าค่ะ…”
“พี่หญิงใหญ่เดาได้ว่าข้าจะมาอย่างนั้นหรือ!” ไป๋จิ่นจื้อยิ้มอย่างกระอักกระอวน จากนั้นเดินตามชุนเถาเข้าไปในห้อง
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงของไป๋จิ่นจื้อจึงเงยหน้าขึ้นจากตำราโบราณ มองไปทางไป๋จิ่นจื้อ “นั่งเถิด ให้ชุนเถาเตรียมนมหมักให้เจ้าดีหรือไม่”
“เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้ารับ จากนั้นนั่งลงข้างกายไป๋ชิงเหยียนอย่างสงบเสงี่ยมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“บ่าวจะออกไปเตรียมของให้คุณหนูสี่เจ้าค่ะ…” ชุนเถาทำความเคารพแล้วเดินออกจากห้องไป
ภายในห้องใหญ่เหลือเพียงสองพี่น้อง ไป๋ชิงเหยียนวางตำราในมือลง เสียงพับเก็บม้วนไม่ไผ่ดังอยู่ข้างหูของไป๋จิ่นจื้อ สาวน้อยหันไปทางไป๋ชิงเหยียน ”พี่หญิงใหญ่ พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางแล้วเจ้าค่ะ”
“พี่มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งมอบหมายให้เจ้าทำ!” ไป๋ชิงเหยียนนั่งหลังตรง มองไปทางไป๋จิ่นจื้อด้วยสายตาจริงจัง จากนั้นวางม้วนไม้ไผ่ลงบนโต๊ะด้านข้าง
ไป๋จิ่นจื้อแทบไม่เคยเห็นไป๋ชิงเหยียนมีท่าทีจริงจังเช่นนี้ ใจของนางตึงเครียดขึ้นมาทันที “พี่หญิงใหญ่กล่าวมาได้เลยเจ้าค่ะ…”
“เมื่อเจ้าไปถึงค่ายทหารผิงอัน เจ้าจงสังเกตความเคลื่อนไหวของแคว้นต้าเยี่ยนอยู่ตลอดเวลา หากครั้งนี้ต้าเยี่ยนเปิดศึกกับแคว้นเว่ย ตั้งใจจะทำลายล้างแคว้นเว่ยให้สิ้นซาก ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธียั่วยุให้เกิดสงครามกับต้าเหลียงหรือว่าตอนนั้นต้าจิ้นเริ่มทำสงครามกับต้าเหลียงก่อนแล้ว เจ้าจงถือโอกาสนี้ทำลายแคว้นต้าเหลียงให้ได้!”
ไป๋จิ่นจื้อฟังจบก็กระพริบตาปริบๆ ”พี่หญิงใหญ่ต้องการทำลายล้างต้าเหลียงจริงๆ หรือเจ้าคะ”
“หากต้าเยี่ยนทำลายต้าเว่ยได้สำเร็จ ต้าจิ้นก็ต้องทำลายต้าเหลียงให้ได้ ห้ามลังเลเด็ดขาด มิเช่นนั้นวันหน้าเราจะไม่มีโอกาสแย่งชิงใต้หล้ากับต้าเยี่ยนอีก!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นจื้ออย่างตรงไปตรงมาที่สุด
ไป๋จิ่นจื้อกำหมัดแน่น “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้ารู้ขอบเขตดี หากครั้งนี้ต้าเหลียงเปิดศึกกับต้าจิ้น ข้าจะทูลขอให้องค์รัชทายาทส่งข้าไปเสริมทัพ ถึงเวลานั้นข้าจะทำลายแคว้นต้าเหลียงให้ได้ภายในเวลาอันสั้นที่สุดเจ้าค่ะ! หากต้าเหลียงไม่ได้เปิดศึกกับเรา ข้าจะหาวิธียุแยงให้องค์รัชทายาทคิดว่าต้าเหลียงมุ่งร้ายต่อเรา ให้พระองค์อนุญาตให้ข้านำทัพไปทำลายแคว้นต้าเหลียงให้ได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “พี่มอบเรื่องนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดการทั้งหมด พี่เชื่อว่าเจ้าจะทำได้ดี ต่อให้เกิดข้อผิดพลาดก็ไม่ต้องกังวล หาทางแก้ไขให้ได้ก็สิ้นเรื่อง หากเจ้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆ สามารถให้คนนำจดหมายมาให้พี่ได้”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า “เสี่ยวซื่อเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
จู่ๆ ไป๋ชิงเหยียนมอบหมายภารกิจสำคัญให้ไป๋จิ่นจื้อ ทว่า ไป๋จิ่นจื้อกลับรู้สึกสงบลงกว่าเดิมมาก
“เสี่ยวซื่อเติบโตแล้ว บัดนี้กลายเป็นสตรีที่พี่สามารถมอบหมายงานสำคัญให้ทำได้แล้ว หากท่านอาสามรับรู้ ท่านต้องภูมิใจมากแน่นอน!” ไป๋ชิงเหยีนนกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ จากนั้นหยิบกล่องไม้สีแดงจากทางด้านหลังส่งให้ไป๋จิ่นจื้อ “ในนี้คือพู่สำหรับห้อยดาบที่ท่านอาสามเคยมอบให้พี่ หยกที่แขวนอยู่กับพู่คือของที่ท่านปู่มอบให้ท่านอาสามตอนที่ท่านทำความดีความชอบกลับมาจากสงครามเป็นครั้งแรก บัดนี้พี่ขอมอบพู่นี้ให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ท่านอาสามและพี่ต้องผิดหวัง”
เมื่อเอ่ยถึงบิดา ดวงตาของไป๋จิ่นจื้อร้อนผ่าว สาวน้อยเอื้อมมือทั้งสองข้างรับกล่องไม้สีแดงมา จากนั้นเปิดออกดูแล้วปิดลงตามเดิม “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เสี่ยวซื่อจะไม่ทำให้พี่หญิงใหญ่ผิดหวังเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องทางนี้ พี่และท่านแม่จะช่วยดูแลท่านอาสะใภ้สามให้เอง เจ้าไม่ต้องกังวล”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า มองไปทางไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวขึ้น “พี่หญิงใหญ่ เสี่ยวซื่อไม่อยู่ทางนี้ พี่หญิงใหญ่ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ ตระกูลไป๋ของพวกเราจะขาดพี่หญิงใหญ่ไปไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ”
ได้ยินไป๋จิ่นจื้อกล่าวเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนจึงพยักหน้ายิ้มๆ “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง พี่จะดูแลตัวเองให้ดี พี่ยังอยากเห็นเสี่ยวซื่อแต่งงานออกเรือนอยู่นะ”
“พี่หญิงใหญ่!” ใบหูของไป๋จิ่นจื้อแดงระเรื่อ “เหตุใดพี่หญิงใหญ่ต้องกล่าวเรื่องพวกนี้ด้วยเจ้าคะ ข้าจะไม่แต่งงาน จะอยู่เป็นคุณหนูของตระกูลไป๋ไปตลอดชีวิต นอกเสียจากว่าพี่หญิงใหญ่จะไม่ต้องการข้าแล้วเจ้าค่ะ”
“เจ้ายังเด็กอยู่ ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ เมื่อเจ้าโตขึ้น เจ้าก็จะไม่กล่าวเช่นนี้อีก”
สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียน ชุนเถาเดินถือถ้วยนมหมักเข้ามาด้านในพอดี ไป๋จิ่นจื้อจึงยุติบทสนทนานี้ลง เมื่อดื่มนมหมักเสร็จ ไป๋จิ่นจื้อจึงกล่าวอำลาไป๋ชิงเหยียนแล้วถือกล่องไม้สีแดงเดินจากไป
เดิมทีไป๋จิ่นจื้อตั้งใจจะกลับไปที่เรือนของตัวเอง ทว่า เมื่อคิดอีกทีสาวน้อยจึงเปลี่ยนใจมุ่งหน้าไปยังเรือนของมารดา วันนี้นางจะนอนกับหลี่ซื่อผู้เป็นมารดาของตน
วันนี้ต่งถิงเจินนอนอยู่ที่เรือนของต่งซื่อเช่นเดียวกัน พรุ่งนี้ไป๋จิ่นจื้อต้องเดินทางไปพบองค์รัชทายาทที่เมืองหลวงก่อนออกเดินทางไปยังค่ายทหารผิงอัน ต่งถิงเจินที่อาศัยอยู่ที่ซั่วหยางมานานหลายเดือนก็เริ่มคิดถึงครอบครัวของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปเมืองหลวงพร้อมกับไป๋จิ่นจื้อ
ต่งถิงเจินสนทนาเป็นเพื่อนต่งซื่อจนฟ้าเกือบสว่างจึงนอนหลับพักผ่อนที่เรือนของต่งซื่อ
เช้าวันต่อมา ทุกคนในตระกูลไป๋ตื่นนอนแต่เช้าตรู่ หลิงจือและหลิวชุ่ยซึ่งเป็นสาวใช้ข้างกายของไป๋จิ่นจื้อร้องไห้จนตัวโยน พวกนางขอร้องให้ไป๋จิ่นจื้อพาพวกนางคนใดคนหนึ่งติดตามไปรับใช้ที่ค่ายทหารด้วย ทว่า ไป๋จิ่นจื้อปฏิเสธ กำชับให้พวกนางสองคนดูแลมารดาและพี่หญิงใหญ่แทนนางให้ดี
ไป๋จิ่นจื้อรู้ดีว่าชีวิตในค่ายทหารลำบากมาก ทว่า นางไม่สามารถพาสาวใช้ทั้งสองคนไปรับใช้ได้ หากเกิดสิ่งใดขึ้นมา…หากนางพาพวกนางกลับมาไม่ได้จะทำเช่นไรกัน
หลิงจือและหลิงชุ่ยเติบโตมาพร้อมกับไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นจื้อจะไม่ยอมให้พวกนางเป็นอันใดไปเด็ดขาด
ที่สำคัญไป๋จิ่นจื้อเดินทางไปยังค่ายทหารผิงอันในฐานะแม่ทัพ นางควรร่วมลำบากไปกับเหล่าทหารถึงจะถูก จะพาสาวใช้ไปคอบปรนนิบัติตัวเองได้อย่างไรกัน
เดิมทีฐานะของสตรีในค่ายทหารก็ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับสักเท่าใดอยู่แล้ว หากพาสาวใช้ไปด้วยจะยิ่งทำให้ทหารดูถูกนาง คิดว่าจวิ้นจู่อย่างนางทนลำบากไม่ได้
ไป๋จิ่นจื้อในชุดนักรบและต่งถิงเจินไปร่ำลาไป๋ชิงเหยียนที่เรือนปัวอวิ๋นก่อน จากนั้นจึงไปอำลามารดา ป้าและอาสะใภ้ที่โถงด้านหน้า จากนั้นก้าวขึ้นไปบนหลังของม้าผิงอันท่ามกลางสายตาของคนในตระกูลไป๋ทุกคน
ต่งถิงเจินทำความเคารพต่งซื่อ บรรดาฮูหยินและน้องสาวของตระกูลไป๋ทั้งน้ำตา
“ถึงเมืองหลวงแล้วอย่าลืมให้คนส่งจดหมายมาบอกป้าด้วย เข้าใจหรือไม่” ต่งซื่อกุมมือต่งถิงเจินพลางกล่าวกำชับ
“ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านอา” ต่งถิงเจินกุมมือต่งซื่อแน่น “พี่หญิงได้รับบาดเจ็บ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก ท่านอาดูแลพี่หญิงให้ดีนะเจ้าคะ”
“ไปเถิด!” ต่งซื่อตบหลังมือของต่งถิงเจินเบาๆ
ต่งถิงเจินทำความเคารพอีกครั้ง จากนั้นจับมือฉินหมัวมัวขึ้นไปบนรถม้า เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถม้าเรียบร้อยจึงแหวกม่านออก โบกมืออำลาทุกคนในตระกูลไป๋