ตอนที่ 726 ความปลอดภัย
“ข้าต้องสืบอยู่แล้วขอรับ เพราะหากฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงไม่ยอมช่วยข้า ข้าคงทำได้เพียงพาพยานไปพบรัชทายาทด้วยตัวเอง ท่านพ่อของข้าสามารถข่มความแค้นที่มีต่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วไป๋ชิงเหยียนตอนที่หักขาทั้งสองข้างของน้องชายข้าได้ ทว่า พี่ชายอย่างข้าทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดไม่ได้ขอรับ!” หลี่หมิงรุ่ยเตรียมเหตุผลไว้พร้อมหมดแล้ว
“ใต้เท้าหลี่ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ” เริ่นซื่อเจี๋ยกล่าวชื่นชมหลี่หมิงรุ่ย
หลี่หมิงรุ่ยพยักหน้าให้เริ่นซื่อเจี๋ยยิ้มๆ “ข้ารู้ว่าฟางเหล่าสั่งให้คนจับตัวคนจากซั่วหยางมายังเมืองหลวงแล้ว ข้าช่วยจับตัวผู้คุมคุกผู้นั้นแทนฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงแล้ว ฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงสามารถพาตัวเขาไปได้เลยขอรับ ขอเพียงอย่างเดียว ฟางเหล่าและเริ่นซื่อเจี๋ยโปรดอย่าซักมาถึงข้านะขอรับ! หากท่านพ่อของข้าทราบว่าข้าแอบจัดการกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วลับหลังท่าน ข้าต้องถูกลงโทษด้วยกฎของตระกูลแน่ขอรับ”
ฟางเหล่าหัวเราะออกมาเบาๆ “ใต้เท้าหลี่ไม่อยากได้ความดีความชอบเช่นนี้อย่างนั้นหรือ”
หลี่หมิงรุ่ยส่ายหน้า “ข้าทำเพื่อแก้แค้นเท่านั้น ฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงต้องการความดีความชอบนี้มากกว่าข้า ถือว่าครั้งนี้พวกเราได้ผลประโยชน์กันทุกฝ่าย หากต้องรบกวนฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิง ทว่า สุดท้ายแล้วข้าได้ความดีความชอบอยู่ฝ่ายเดียว วันหน้าหากต้องร่วมมือกันอีก เกรงว่าฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงก็คงไม่อยากร่วมมือกับข้าแล้ว”
หลี่หมิงรุ่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าฟางเหล่าเกลียดไป๋ชิงเหยียนเข้ากระดูกดำ กล่าวเพียงว่าเรื่องนี้ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย สิ่งนี้ทำให้ฟางเหล่าลดความหวาดระแวงลงไปไม่น้อย
“ใต้เท้าหลี่ไม่ใช่คนโลภ” ใบหน้าของฟางเหล่าปรากฏรอยยิ้มขึ้นบางๆ
“หมิงรุ่ยทราบขอบเขตดีขอรับ” หลี่หมิงรุ่ยยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้น “เช่นนั้นข้าขอดื่มชาแทนเหล้าอวยพรให้ฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงได้รับความไว้วางพระทัยจากองค์รัชทายาทมากขึ้นจากเรื่องนี้นะขอรับ หากวันหน้าท่านทั้งสองได้ดีแล้ว อย่าลืมสนับสนุนข้าผู้นี้บางนะขอรับ”
ฟางเหล่ายกถ้วยชาขึ้น “ใต้เท้าหลี่เกรงใจเกินไปแล้ว บิดาของใต้เท้าหลี่คืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของต้าจิ้น อนาคตของใต้เท้าหลี่ยังอีกยาวไกลนัก!”
มองส่งฟางเหล่าและเริ่นซื่อเจี๋ยพาตัวหวังชิวลู่และผู้คุมคุกจากไป ที่ปรึกษาชุดขาวจึงกล่าวกับหลี่หมิงรุ่ย “คุณชาย คนที่พวกเราส่งไปจับตาดูฝูรั่วซีกลับมารายงานว่าฝูรั่วซีไปพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วจริงๆ ขอรับ ฝูรั่วซีคงบอกเรื่องที่เห็นหวังชิวลู่เข้าไปในจวนเหลียงอ๋องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเรายังกังวลอยู่เลยว่าหากฝูรั่วซีไม่ใช่คนขององค์หญิงเจิ้นกั๋วคงไม่มีคนบอกเรื่องที่หวังชิวลู่เข้าไปในจวนเหลียงอ๋องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบขอรับ”
หลี่หมิงรุ่ยหัวเราะออกมาเบาๆ ตบพัดที่อยู่ในมือลงบนฝ่ามืออีกข้างเบาๆ “เจ้าคิดว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้ส่งคนไปเฝ้าจวนเหลียงอ๋องอย่างนั้นหรือ การที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วรู้ล่วงหน้าว่าเหลียงอ๋องสมคบคิดกับเสียนอ๋องก่อบฏอีกทั้งเตรียมการรับมือไว้ก่อนแล้วแสดงว่านอกจวนเหลียงอ๋องมีสายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วอยู่”
“คุณชาย…” สีหน้าของที่ปรึกษาชุดขาวซีดเผือด “เช่นนั้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะส่งคนจับตาดูจวนเราอยู่หรือไม่ขอรับ”
หลี่หมิงรุ่ยหัวเราะออกมาอีกครั้ง จากนั้นใช้พัดชี้ไปที่ชายชราที่ยืนอยู่ด้านในประตู “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหล่าเวิงไม่ใช่คนธรรมดา เขาสามารถแยกแยะฝีเท้าของคนคนและระบุตำแหน่งได้ หากมีคนแอบจับตาดูพวกเราอยู่ เหล่าเวิงคงจับสังเกตได้นานแล้ว”
ที่ปรึกษาชุดขาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นยิ้มตามหลี่หมิงรุ่ย “นึกไม่ถึงเลยว่าฝูรั่วซีจะเป็นคนขององค์หญิงเจิ้นกั๋วนะขอรับ!”
“ตอนที่อยู่ในค่ายทหารผิงอันองค์หญิงเจิ้นกั๋วสามารถสังหารฝูรั่วซีได้ ทว่า นางกลับตัดแขนข้างหนึ่งของฝูรั่วซีเพื่อปกป้องชีวิตของเขา ต่อมาต่งเหล่าไท่จวินเคยไปขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงเจิ้นกั๋ว จากนั้นหลังจากที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วไปพบฝูรั่วซี ฝูรั่วซีก็ยอมสารภาพเรื่องของฮองเฮาออกมา ต่อมาเกิดความวุ่นวายขึ้นที่ประตูอู่เต๋อ…ฝูรั่วซีกลับบังเอิญถูกองครักษ์ไป๋ช่วยชีวิตไว้อย่างประจวบเหมาะ จากนั้นนำทัพทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันที่อยู่นอกเมืองเข้ามาช่วยปราบกบฏได้ทันท่วงทีอย่างนั้นหรือ”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ใช่คนมีเมตตา ใจอ่อนและชอบยุ่งเรื่องผู้อื่นถึงเพียงนั้น หากฝูรั่วซีไม่ใช่คนของนาง หากนางไม่เชื่อใจฝูรั่วซี นางจะกล้าปล่อยให้ฝูรั่วซีนำทัพทหารสองหมื่นนายของค่ายผิงอันมาช่วยเหลือฝ่าบาทและรัชทายาทได้อย่างไรกัน” รอยยิ้มของหลี่หมิงรุ่ยเด่นชัดกว่าเดิม “น่าเสียดายที่การแสดงละครขององค์หญิงเจิ้นกั๋วและฝูรั่วซีสามารถตบตาฝ่าบาท รัชทายาทและผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย!”
“ทว่า ไม่สามารถตบตาคุณชายผู้ฉลาดหลากแหลมของข้าได้” ที่ปรึกษาชุดขาวโค้งกายคำนับหลี่หมิงรุ่ย “เช่นนั้นพวกเราก็ควรส่งคนไปบิกเรื่องที่หวังชิวลู่ลอบติดต่อกับเหลียงอ๋องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบ ให้นางระมัดระวังหวังชิวลู่เอาไว้ เช่นนี้คุณชายก็สามารถกันตัวเองออกจากเรื่องนี้ได้แล้วขอรับ ต่อให้จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วเกิดเรื่องขึ้น องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็ไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดของคุณชายได้ขอรับ”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องส่งจดหมาย ส่งคนไปรายงานนางก็พอ”
ใบหน้าของหลี่หมิงรุ่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาจะค่อยๆ ทำลายความเชื่อใจที่รัชทายาทมีต่อไป๋ชิงเหยียนลงทีละนิด รอให้โซ่วซานกงและราชครูถานที่มีความสามารถในการพิสูจน์ลายมือแก่ตาย เมื่อคนพิสูจน์ลายมือของจวนหลี่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแคว้น ถึงเวลานั้นเขา หลี่หมิงรุ่ยเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดว่าลายมือในจดหมายที่บิดาของเขาและองค์ชายรองเขียนถึงกันในตอนนั้นซึ่งอยู่ในมือของไป๋ชิงเหยียนจะเป็นลายมือจริงหรือปลอม
เขาเสียแรงจัดฉากเรื่องทุกอย่างขึ้นเช่นนี้ วันหน้าจดหมายในมือของไป๋ชิงเหยียนจะไม่กลายเป็นจุดอ่อนของจวนหลี่อีกต่อไป
ที่ปรึกษาชุดขาวหรี่ตาแคบอย่างใช้ความคิด “คุณชาย หวังชิวลู่จะยืนยันองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนช่วยเขาออกมาจากคุกจริงๆ หรือขอรับ”
“หวังชิวลู่เป็นคนหลงงมงายในความรัก! ตอนนั้นเขาขัดคำสั่งเสียนอ๋องนำทหารเสียนตูไปสังหารไป๋ชิงเหยียนก็เพื่อหลิ่วรั่วฟู บัดนี้เขารู้แล้วว่าหลิ่วรั่วฟูที่ตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ในจวนของเหลียงอ๋อง อยู่ในกำมือของพวกเรา เขาย่อมทำตามคำสั่งของพวกเราแน่นอน! หากเขาไม่ทำตามคำสั่ง หลิ่วรั่วฟูไม่มีทางรอดแน่!” หลี่หมิงรุ่ยยิ้ม
“วีรบุรุษช่วยสวยงาม ไม่น่าเชื่อว่าสตรีผู้งดงามอันดับหนึ่งของแคว้นต้าจิ้นอย่างหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูสามารถทำให้หวังชิวลู่ยอมสวามิภักดิ์อย่างหมดใจเช่นนี้ ทว่า บัดนี้ใบหน้าหลิ่วรั่วฟูเสียโฉมแล้ว เขายังจะเป็นห่วงความปลอดภัยของหลิ่วรั่วฟูอีกหรือขอรับ” ที่ปรึกษาชุดขาวอดเป็นกังวลไม่ได้
“ดูก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่เคยมีความรัก!” หลี่หมิงรุ่ยกล่าวยิ้มๆ จากนั้นหันไปสั่งให้ชายชราเฝ้าจวนไว้ให้ดี ส่วนตัวเองขึ้นรถม้ากลับไปยังจวนหลี่
หลิ่วรั่วฟูเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ หลี่หมิงรุ่ยแค่โชคดีช่วยชีวิตสาวใช้ข้างกายของหลิ่วรั่วฟูไว้ได้เท่านั้น เมื่อหลี่หมิงรุ่ยรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหลิ่วรั่วฟูและหลี่หมิงรุ่ย เขาจึงหาสตรีที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับหลิ่วรั่วฟู จากนั้นทำให้ใบหน้าของนางเสียโฉมและทำลายกล่องเสียงของนางทิ้ง ให้สตรีผู้นั้นฝึกเลียนแบบกิริยาท่าทางของหลิ่วรั่วฟูโดยมีสาวใช้ของหลิ่วรั่วฟูคอยช่วยฝึกฝน
ต่อมาเมื่อได้โอกาส หลี่หมิงรุ่ยจึงบอกเรื่องที่หลิ่วรั่วฟูยังมีชีวิตอยู่ให้หวังชิวลู่รับรู้ ให้พวกเขาได้พบกันเพียงชั่วครู่ ให้หวังชิวลู่เข้าใจว่าหลิ่วรั่วฟูยังมีชีวิตอยู่
เช่นนี้หลี่หมิงรุ่ยก็สามารถใช้หวังชิวลู่ทำลายไป๋ชิงเหยียนได้แล้ว
ที่ปรึกษาตู้จือเวยผู้เป็นอาจารย์ของหลี่หมิงรุ่ยเคยบอกกับเขาว่าการสังหารคนคือเรื่องที่โง่ที่สุด ควรใช้แผนการทำลายคนผู้นั้นดีกว่า!
คืนนี้ไป๋จิ่นซิ่วไม่ได้กลับไปที่จวนฉิน หญิงสาวอยู่พักที่เรือนชิงฮุยและเพิ่งได้รายงานจากองครักษ์ลับที่จับตาดูอยู่หน้าจวนรัชทายาทว่าพระชายาเอกประสูติแล้ว