ตอนที่ 748 ไม่เป็นผลดี
เมื่อได้ยินบิดาตอบเช่นนี้ หลี่หมิงรุ่ยจึงวางใจ เขาคลายมือออกจากคอเสื้อของผู้ดูแลจวน จากนั้นสลบไปทันที
“เร็ว! รีบแบกคุณชายเข้าไปด้านในเร็วเข้า!” หลี่เม่าหน้าเปลี่ยนสีทันที
มองดูร่างขอบบุตรชายถูกแบกเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว สีหน้าของหลี่เม่าเคร่งขรึมลงกว่าเดิม เขากำมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น จากนั้นหันไปกระซิบกับพ่อบ้าน “ไปหาเหล่าเวิงที่จวนในซอยจิ่วชวน จากนั้นรีบส่งตัวเขาไปยังจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่เอาชีวิตของเหล่าเวิงจริงๆ…”
หลี่เม่าหยุดชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นกล่าวต่อเสียงเบาหวิว “เมื่อเหล่าเวิงกลับไปที่จวนในซอยจิ่วชวน จงวางยากำจัดเขาเสีย”
พ่อบ้านคาดไม่ถึง “ทว่า หากคุณชายตื่นขึ้นมาอาจโมโหได้นะขอรับ…”
หลี่เม่าหรี่ตาลง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาจนทำให้คนเสียวสันหลัง “หมิงรุ่ยคือบุตรชายคนโตของตระกูลหลี่ เขาจะมีจุดอ่อนไม่ได้เด็ดขาด!”
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเหล่าเวิงคือผู้มีพระคุณของฮูหยินและหลี่หมิงรุ่ย เขาลืมเรื่องราวในอดีตและไม่รู้จักครอบครัวของตัวเอง ตระกูลหลี่เลี้ยงเขาไว้ไม่ถือเรื่องใหญ่อันใด
ทว่า ตอนนี้เหล่าเวิงกลับทำให้บุตรชายของเขาสละชีวิตเพื่อปกป้องเหล่าเวิงถึงเพียงนี้!
หลี่เม่าไม่ใช่คนโง่ เขารู้จักบุตรชายของตัวเองดี หลี่หมิงรุ่ยคงใช้มีดแทงท้องของตัวเองที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วเพื่อปกป้องเหล่าเวิงเอาไว้!
หลี่เม่าจะปล่อยให้คนเช่นนี้อยู่ข้างกายบุตรชายของเขาต่อไปได้อย่างไรกัน
หลี่หมิงรุ่ยคืออนาคตของตระกูลหลี่
“ท่านเสนาบดี หากทำเช่นนี้เมื่อคุณชายตื่นขึ้นมา เขาอาจโทษว่าเป็นความผิดของข้านะขอรับ”
ลึกๆ แล้วพ่อบ้านหวาดกลัวหลี่หมิงรุ่ยจริงๆ แม้ภายนอกคุณชายของเขาจะดูสุขุมอ่อนโยน ทว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นคนโหดเหี้ยมมากคนหนึ่ง
“โยนความผิดให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็สิ้นเรื่อง” หลี่เม่าหันไปทางพ่อบ้าน “เช่นนี้หมิงรุ่ยจะได้เกลียดองค์หญิงเจิ้นกั๋ว หลังจากผ่านรื่องนี้ไปหมิงรุ่ยจะได้รับรู้เสียทีว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วน่ากลัวเพียงใด เขาจะได้ไม่กล้าดูถูกสตรีอย่างองค์หญิงเจิ้นกั๋วและทำทุกสิ่งอย่างรอบคอบมากกว่าเดิมเสียที นี่ถือเป็นผลดีต่อตระกูลหลี่ของเรา!”
เมื่อพ่อบ้านได้ยินหลี่เม่ากล่าวเช่นนี้จึงพยักหน้ารับคำ จากนั้นพาคนไปหาเหล่าเวิงที่จวนตู้ในซอยจิ่วชวน
เหล่าเวิงอยู่ที่จวนตู้ดั่งที่หลี่หมิงรุ่ยคาดการณ์ไว้จริงๆ เหล่าเวิงไม่ได้บาดเจ็บ ทว่า เขานั่งเอามือกุมศีรษะด้วยใบหน้าซีดเผือด ภาพที่ไม่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาในสมองเป็นฉากๆ
เด็กสาวใบหน้าเย็นชาคนหนึ่งกำลังฝึกซ้อมดาบสั้นกลางหิมะ เด็กสาวหนาวจนหน้าเย็นชา ทว่า ไม่คิดยอมแพ้ เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้ายิ้มแย้มคนหนึ่งยื่นน้ำแกงร้อนไปตรงหน้าเด็กสาว จากนั้นเอื้อมมือปัดหิมะที่ติดอยู่บนศีรษะออกให้เด็กสาว “ดื่มน้ำแกงแล้วเลิกซ้อมเถิด กลับเข้าไปผิงไฟในห้องดีกว่า”
เด็กสาวใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำแกงที่ริมฝีปากออก แววตาของนางหนักแน่น
“ท่านอาจารย์กล่าวว่าหากฝึกไม่ครบสองชั่วยามห้ามหยุดพักเด็ดขาด!”
“ท่านอาจารย์เป็นคนปากแข็งใจอ่อน เขาเป็นคนให้ข้านำน้ำแกงมาให้เจ้า”
เด็กสาวได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้ามองไปทางเด็กหนุ่มด้วยแววตาสดใส
เหล่าเวิงกุมศีรษะของตัวเองแน่น เขานึกถึงภาพใบหน้าของเด็กสาวที่เกือบถูกเขาตัดแขนและเรียกเขาว่าอาจารย์ขึ้นมาทันที ใบหน้าของเด็กสาวในความทรงจำเหมือนกันใบหน้าของเด็กสาววันนั้นไม่มีผิดเพี้ยน
แล้วเด็กหนุ่มอีกคนคือผู้ใดกัน…
ยิ่งคิดเหล่าเวิงก็ยิ่งปวดหัว ยิ่งเขาพยายามคิดถึงเรื่องในอดีตมากเท่าใด ศีรษะของเขาก็ปวดจนแทบจะระเบิดมากเท่านั้น
ทันใดนั้นใบหูของเหล่าเวิงขยับเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังซอยจิ่วชวน เหล่าเวิงลุกขึ้นยืนพลางจับดาบที่เอวของตัวเอง ตอนนี้เขาจึงพบว่าดาบของเขาหายไปแล้ว
เหล่าเวิงไม่ได้หลบซ่อนตัว เขาเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวเหล่านั้นอย่างละเอียด เขาเคยได้ยินเสียงฝีเท้าของหนึ่งในคนเหล่านั้นมาก่อน ดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อบ้านของจวนหลี่ที่มาขอให้เขาช่วยไปคุ้มครองหลี่หมิงรุ่ย
เหล่าเวิงคลายความหวาดระแวง เขาเดินไปยังประตูจวนแล้วเปิดประตูออก จากนั้นยืนรออยู่ที่ประตู
ไม่นานรถม้าหยุดลงที่หน้าจวนตู้ เหล่าเวิงข่มความเจ็บปวดที่ศีรษะ มองไปทางพ่อบ้านหลี่ที่เดินตรงมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นพ่อบ้านตระกูลหลี่ทำความเคารพเขา เหล่าเวิงจึงก้มศีรษะให้เล็กน้อย “มีเรื่องอันใด”
“คุณชายใหญ่กลับไปที่จวนแล้ว เขาสั่งให้ข้าพาเหล่าเวิงไปพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เหล่าเวิงไม่ต้องเป็นห่วง คุณชายใช้มีดแทงท้องตัวเองเพื่อขอร้องไม่ให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทำร้ายเหล่าเวิงแล้ว เหล่าเวิงตามข้าไปที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วเถิด”
พ่อบ้านตระกูลหลี่จงใจเน้นย้ำว่าหลี่หมิงรุ่ยทำร้ายตัวเองจนบาดเจ็บหนัก เขาเห็นดวงตาของเหล่าเวิงไหววูบอย่างที่คิดไว้จริงๆ พ่อบ้านตระกูลหลี่เบี่ยงกายให้เหล่าเวิงขึ้นไปบนรถม้า “เชิญเหล่าเวิง”
“คุณชายใหญ่เป็นเช่นไรบ้าง” เหล่าเวิงถาม
พ่อบ้านตระกูลหลี่เอ่ยตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น “บาดแผลค่อนข้างสาหัส เรื่องนี้จบเร็วเท่าใด คุณชายใหญ่ก็จะได้พักรักษาตัวอย่างสบายใจเร็วขึ้นเท่านั้น เหล่าเวิงอย่ามัวเสียเวลาเลย เชิญ…”
เหล่าเวิงขมวดคิ้วแน่น เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจขึ้นไปบนรถม้าของตระกูลหลี่ มุ่งหน้าไปยังจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว
เมื่อเสิ่นชิงจู๋ได้ยินว่าจวนหลี่ส่งตัวเหล่าเวิงมาแล้ว นางดีใจจนนั่งไม่ติดที่ รีบมุ่งหน้าไปที่เรือนชิงฮุยทันที
เมื่อเจินหมิงเห็นเสิ่นชิงจู๋วิ่งมาที่เรือนชิงฮุนย นางปิดปากหัวเราะพลางแหวกม่านให้หญิงสาว
“คุณหนูใหญ่กำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเจ้าค่ะ”
เสิ่นชิงจู๋พยักหน้า เมื่อเดินเข้าไปในห้อง นางเห็นไป๋ชิงเหยียนสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกเรียบร้อยปล้ว ไป๋ชิงเหยียนรับเตาอุ่นมือสีเงินโปร่งแสงลายไม้ไผ่จากเจินกวงมาถือไว้ในมือ เสิ่นชิงจู๋ทำความเคารพหญิงสาว “คุณหนูใหญ่!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าร้อนใจ ไปกันเถิด” ไป๋ชิงเหยียนกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นแล้วเดินออกไปจากเรือนชิงฮุย ฝีเท้าหนักแน่นไม่เหมือนคนที่กำลังป่วยแม้แต่น้อย
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเกี้ยว เสิ่นชิงจู๋เดินขนาบข้างหญิงสาว พยายามบอกกับตัวเองว่าห้ามส่อพิรุธออกมาต่อหน้าคนของตระกูลหลี่เด็ดขาด
ทว่า นางไม่ได้พบหน้าท่านอาจารย์มานานหลายปี ความรู้สึกมากมายถูกเก็บงำอยู่ในใจของเสิ่นชิงจู๋
เมื่อเห็นว่าบ่าวรับใช้แบกเกี้ยวไปคนละทางกับเรือนหน้า เสิ่นชิงจู๋จึงรู้สึกประหลาดใจ “นี่ไม่ใช่ทางไปเรือนหน้านี่เจ้าคะ”
“ข้าให้คนเชิญอาจารย์ของเจ้าไปที่ห้องหนังสือของท่านพ่อข้าแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนก้มมองเสิ่นชิงจู๋ที่เดินอยู่ด้านข้างเกี้ยว “ข้ากลัวว่าเจ้าจะเผลอแสดงพิรุธต่อหน้าคนของตระกูลหลี่หากท่านอาจารย์ของเจ้าไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อ นั่นไม่เป็นผลดีต่ออาจารย์ของเจ้าแน่ๆ”
ไป๋ชิงเหยียนเคยพบหน้าอาจารย์ของเสิ่นชิงจู๋เพียงครั้งเดียว เสิ่นไป่จ้งไม่เคยพักอยู่ที่เมืองหลวงมาก่อน ทว่า ในเมื่อเสิ่นไป่จ้งคือคนที่บิดาของนางไว้ใจ หากให้เขาไปที่ห้องหนังสือของบิดา ไม่แน่ว่าเขาอาจนึกสิ่งใดขึ้นมาบ้างก็ได้
“คุณหนูใหญ่คิดได้รอบคอบมากเจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋รู้สึกซาบซึ้ง
เสิ่นไป่จ้งเดินตามบ่าวรับใช้ของจวนไป๋ไปยังห้องหนังสือของไป๋ฉีซาน เขาเดินผ่านระเบียงทางเดินที่คดเคี้ยว มองดูศาลาที่อยู่สองข้างทางของระเบียงทางเดินหิน
ด้านซ้ายเยื้องไปทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ติดกับทะเลสาบที่ตอนนี้มีหิมะปกคลุมอยู่หนึ่งชั้นมีศาลาแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ตรงกลาง นกเกาะอยู่บนชายคาของศาลา กระดิ่งที่ผูกอยู่ใต้ชายคาและส่ายไปมาตามแรงลมถูกแสงของดวงอาทิตย์ส่องกระทบจนเห็นอย่างชัดเจน…