ตอนที่ 764 ที่ปรึกษากองทัพที่ดี
เฉวียนอวี๋พยักหน้ารับ เมื่อเตรียมกล่าวสิ่งใดต่อก็เห็นไป๋ชิงเหยียนหยัดกายลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เขาเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่มีแววตาคมกริบ จากนั้นรีบลุกขึ้นยืนตามทันที
เขาเห็นหญิงสาวเดินออกไปนอกโถงรับรอง จากนั้นกล่าวเสียงเรียบ “รบกวนเฉวียนอวี๋กงกงกลับไปบอกขุนนางในราชสำนักเหล่านั้นด้วยว่าเมืองที่สูญไปด้วยน้ำมือของตระกูลไป๋ ข้าไป๋ชิงเหยียนจะนำกลับมาด้วยตัวเอง ผู้อื่นไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง!”
แม้เสียงของไป๋ชิงเหยียนจะไม่ดังมาก ทว่า น้ำเสียงหนักแน่นจนเฉวียนอวี๋สั่นสะท้าน
“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” เฉวียนอวี๋รีบคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน ดวงตาทั้งสองของเขาแดงก่ำ “ร่างกายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่สมควรเดินทางไปออกรบพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายให้เฉวียนอวี๋มาที่นี่ ทว่า ไม่ได้ต้องการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงออกรบด้วยตัวเอง องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดคำนึงถึงร่างกายของตัวเองเป็นหลักด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ข่าวเรื่องที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วไป๋ชิงเหยียนซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงมาเกือบหนึ่งปีลุกขึ้นมาสวมชุดเกราะอีกครั้งเพื่อมุ่งหน้าไปยึดเมืองต้าเหลียงที่สูญเสียไปคืนมาแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองซั่วหยางอย่างรวดเร็วราวกับติดปีกภายในไม่ถึงครึ่งชั่วยาม
ยามเว่ย[1]ประมุขไป๋ไป๋ฉีเหอ ไป๋ชิงผิง เสิ่นเยี่ยนฉง เสิ่นเยี่ยนอันและเสิ่นเยี่ยนจ้งบุตรชายคนโตและคนรองของเสิ่นเทียนจือที่เขาทิ้งไว้ให้อยู่รับใช้ไป๋ชิงเหยียนก่อนที่เขาจะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ เฉิงซ่านหรู ผู้ดูแลหลิว หลูผิงและพ่อบ้านเหาต่างมารวมตัวกันที่โถงรับรองหลักของจวนไป๋เพื่อปรึกษาเรื่องการเดินทางไปออกรบของไป๋ชิงเหยียน แม้แต่ไช่จื่อหยวนอดีตที่ปรึกษาของจวนหลี่ก็ยังมารวมตัวอยู่ที่โถงรับรองเช่นเดียวกัน
“สามารถส่งเสบียงอาหารไปก่อนกองทัพได้ขอรับ ในเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการพาทหารใหม่ของซั่วหยางเดินทางไปยังต้าเหลียง ไม่สู้ให้ไป๋ชิงผิงขนเสบียงเดินทางล่วงหน้าไปก่อนดีหรือไม่ขอรับ” ไป๋ฉีเหอกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนบอกเรื่องการออกรบครั้งนี้กับเฉวียนอวี๋อย่างชัดเจน ในเมื่อเฉวียนอวี๋กล่าวว่ารัชทายาทลำบากใจมาก เช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนก็ไม่อาจทำให้รัชทายาทลำบากใจได้ นางไม่ควรสร้างปัญหาให้รัชทายาทอีก ทหารใหม่ที่ฝึกซ้อมสำหรับปราบปรามโจรป่าสามารถใช้งานได้พอดี ไป๋ชิงเหยียนจะใช้เงินของตระกูลไป๋และตระกูลบรรพบุรุษไป๋เป็นทุนสำหรับการนำทหารซั่วหยางไปออกรบในครั้งนี้
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เพราะต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อรัชทายาทเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือไป๋ชิงเหยียนไม่อยากขอกองทัพจากราชสำนัก ไป๋ชิงเหยียนสามารถนำสมบัติและของมีค่าทั้งหมดที่ได้จากการยึดเมืองมาใช้ในกองทัพของตัวเองได้ เช่นนี้หญิงสาวจะสามารถสั่งให้คนส่งเงินและของที่จำเป็นไปยังซีเหลียงได้อย่างไม่ขาดสาย ทำให้แผนการสร้างความอ่อนแอให้ซีเหลียงของไป๋จิ่นถงน้องหญิงสามของนางสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ไป๋ชิงเหยียนมีเส้นทางการขนส่งของไปยังซีเหลียงอยู่ในใจแล้ว นางต้องการให้ผู้ดูแลหลิ่วอยู่รอฟังคำสั่งจากนางที่ซั่วหยางจากนั้นสั่งการไปยังจี้ถิงอวี๋ ให้เขานำของที่ไป๋จิ่นถงต้องการไปมอบให้แม่ทัพเสิ่นคุนหยาง จากนั้นค่อยส่งต่อไปยังซีเหลียง
“ปีนี้ทหารซั่วหยางแข็งแกร่งขึ้นมาก ข้าและเยี่ยนฉงนำจับนวนทหารทั้งหมดเรียบร้อยแล้วขอรับ หากรวมจำนวนทหารที่ไม่ได้ส่งรายชื่อไปให้ราชสำนักด้วย บัดนี้ทหารในซั่วหยางมีจำนวนทั้งหมดหนึ่งหมื่นหนึ่งพันนายและมีแต่จะเพิ่มขึ้นอีกขอรับ” ไป๋ชิงผิงกล่าว
ใจของไช่จื่อหยวนที่นั่งอยู่ท้ายสุดกระตุกวูบ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแค่กำลังทหารในซั่วหยางขององค์หญิงเจิ้นกั๋วก็มีถึงหนึ่งหมื่นกว่านายแล้ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้บังคับเกณฑ์ทหาร ชาวบ้านล้วนยินดีมาสมัครเข้าร่วมด้วยตัวเองทั้งสิ้น ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งปีกลับรวบรวมทหารได้มากถึงหนึ่งหมื่นนาย นี่เป็นจำนวนที่น่าหวาดกลัวมากจริงๆ
เฉิงซ่านหรูนับนิ้วที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ จากนั้นกำหมัดคารวะไป๋ชิงเหยียน “ส่วนเรื่องอาวุธ หากคุณหนูใหญ่ต้องการใช้อาวุธเก่าคงไม่มีปัญหาอันใด ทว่า หากคุณหนูใหญ่ต้องการให้ทหารใช้อาวุธใหม่ทั้งกองทัพ ข้าจะสั่งให้คนเร่งลงมือผลิตออกมาให้ทันขอรับ คำนวณดูแล้วน่าจะเริ่มส่งอาวุธชุดแรกไปยังต้าเหลียงได้ภายในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ขอรับ ทว่า ตอนนี้เรามีอาวุธใหม่เพียงพอสำหรับทหารหนึ่งพันนายขอรับ”
ไช่จื่อหยวนตกใจยิ่งกว่าเดิม องค์หญิงเจิ้นกั๋วหลอมอาวุธเองด้วยอย่างนั้นหรือ องค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการทำสิ่งใดกันแน่!
นางต้องการกบฏอย่างนั้นหรือ!
ไช่จื่อหยวนเบิกตาโพลงมองไปทางไป๋ชิงเหยียน เขาเห็นสตรีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านบนสุดโบกมือด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาหนักแน่น “ยังไม่รีบร้อนใช้อาวุธใหม่ พวกเราต้องการความแม่นยำและมีฝีมือ ไม่ใช่จำนวนที่มาก ข้าตั้งใจจะนำทหารไปเพียงห้าพันนายเท่านั้น ส่วนที่เหลืออยู่ป้องกันที่ซั่วหยางเพื่อความไม่ประมาท รบกวนพ่อบ้านเหาจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย”
ความไม่ประมาทที่ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถึงคือหากราชสำนักพบความไม่ชอบมาพากล พวกเขาอาจส่งคนมาจับคนตระกูลไป๋ไปเป็นเครื่องต่อรองได้
“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงขอรับ เรื่องทางซั่วหยางปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ข้าจะคุ้มกันเมืองซั่วหยางอย่างแน่นหนาที่สุดขอรับ” พ่อบ้านเหากำหมัดคารวะ
ป้องกันเพื่อความไม่ประมาทอย่างนั้นหรือ! มือของไช่จื่อหยวนสั่นเทาเล็กน้อย ไช่จื่อหยวนรู้ดีว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเตรียมป้องกันสิ่งใด
ดูเหมือนองค์หญิงเจิ้นกั๋วเตรียมจะกบฏจริงๆ
แม้ไช่จื่อหยวนจะตกใจ ทว่า เขาก็เข้าใจดี ไป๋ชิงเหยียนให้เขามานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยแสดงว่าหญิงสาวเห็นเขาเป็นพวกเดียวกัน นางจึงยอมให้เขามาเข้าร่วมการประชุมลับเช่นนี้ด้วย
เขายิ่งรู้สึกไม่อยากเชื่อเข้าไปใหญ่ องค์หญิงเจิ้นกั๋วตัดสินใจนำทัพไปยังต้าเหลียงอย่างกะทันหัน ที่สำคัญจะออกเดินทางภายในวันพรุ่งนี้แล้ว ทว่า คนของตระกูลไป๋เหล่านี้กลับจัดการเรื่องเสบียงอาหารและอาวุธได้อย่างรอบคอบและเหมาะสมภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้
ความสามัคคีของตระกูลไป๋คือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นในจวนหลี่มาก่อน
“ให้เสิ่นเยี่ยนฉงเป็นคนจัดการเรื่องขนส่งเสบียงอาหารไปยังต้าเหลียง จากนั้นเสิ่นเยี่ยนฉงจงติดตามข้าไปยังต้าเหลียง!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองเสิ่นเยี่ยนฉง
เลือดร้อนในกายของเสิ่นเยี่ยนฉงพุ่งพล่านขึ้นมาทันที เขารีบกำหมัดรับคำ “ขอรับ!”
บัดนี้ทุกคนในจวนเสิ่นต่างรับรู้ว่าเสิ่นเทียนจือพาตระกูลเสิ่นข้าร่วมกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วทั้งตระกูล พวกเขาย่อมเชื่อฟังคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน
“ไป๋ชิงผิงอยู่ควบคุมทหารซั่วหยางส่วนที่เหลือในซั่วหยาง เจ้าเป็นคนรอบคอบ จงดูแลเมืองซั่วหยางให้ดี อย่าให้ผู้อื่นสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเด็ดขาด” ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋ชิงผิงแล้วกล่าวขึ้น
ไป๋ชิงผิงรู้ดีว่าวรยุทธ์ของตัวเองสู้เสิ่นเยี่ยนฉงไม่ได้ มีเสิ่นเยี่ยนฉงติดตามไปรับใช้ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงผิงวางใจขึ้นมาก เขาพยักหน้ารับคำ “ไป๋ชิงผิงน้อมรับบัญชาขอรับ!”
“เสิ่นเยี่ยนจ้ง เสิ่นเยี่ยนอัน พวกเจ้าจงฟังคำสั่งของผู้ดูแลหลิว เขามีเรื่องอื่นมอบหมายให้พวกเจ้าทำ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของต้าจิ้น พวกเจ้าจงรอบคอบให้มาก จงให้ความร่วมมือกับผู้ดูแลหลิวให้ดี อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นเด็ดขาด!”
เสิ่นเยี่ยนจ้งและเสิ่นเยี่ยนอันกำหมัดรับคำ
“ลุงผิง ครั้งนี้ลุงไม่ต้องตามข้าไปยังต้าเหลียงหรอก มีเสิ่นเยี่ยนฉงและไช่จื่อหยวนเซียนเซิงไปกับข้าก็พอแล้ว หากมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นที่ซั่วหยาง มีท่านและพ่อบ้านเหาอยู่ ข้าจะได้ไม่ต้องกังวล”
เมื่อไช่ชื่อหยวนถูกเอ่ยเรียก เขาจึงหยัดแผ่นหลังตรงทันที เขามองไปทางหลูผิงที่มองมาทางเขาอย่างสำรวจพลางกำเสื้อของตัวเองแน่น
“ทว่า ไช่จื่อหยวนเซียนเซิง…” หลูผิงกำหมัดแน่น
ไช่จื่อหยวนคิดว่าหลูผิงจะบอกว่าเขาเคยเป็นที่ปรึกษาของจวนหลี่มาก่อน เขางอแผ่นหลังลงเล็กน้อย ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าหลูผิงจะกล่าวต่อมาว่า “ไช่เซียนเซิงเป็นเพียงบัณฑิตอ่อนแอ เขาเดินทางไปต้าเหลียงด้วยไม่เพียงจะปกป้องคุณหนูใหญ่ไม่ได้อาจเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองด้วย ให้ไช่เซียนเซิงอยู่ดูแลซั่วหยางกับพ่อบ้านเหาแล้วข้าไปกับคุณหนูใหญ่แทนดีหรือไม่ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “ในสนามรบ ที่ปรึกษากองทัพที่ดีหนึ่งคนเทียบเท่ากับทหารหลายหมื่นนาย!”
ไช่จื่อหยวนกำหมัดแน่น เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้เลือดร้อนในกายของเขาเดือดพล่านขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้นยืนโค้งคำนับให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหันไปโค้งกายให้หลูผิง “ใต้เท้าหลูไม่ต้องเป็นห่วง ข้าโชคดีได้รับความไว้วางใจจากองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ข้าจะใช้สติปัญญาที่มีทั้งหมดของข้าช่วยให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วและเกาอี้จวิ้นจู่ได้รับชัยชนะกลับมาจากต้าเหลียงแน่นอนขอรับ”
[1] ยามเว่ย เวลาะระหว่าง 13.00-15.00 นาฬิกา