สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 792 ชาวบ้านคือรากฐานของแคว้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 792 ชาวบ้านคือรากฐานของแคว้น

กล่าวจบ จ้าวเซิ่งหยิบสูตรยารักษาโรคระบาดที่จดไว้บนหนังแกะออกมาจากอกแล้วโยนใส่หยางอู่เช่อ

“องค์หญิงเจิ้นกั๋วให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้สหายหยาง นางกล่าวว่านี่คือสูตรยารักษาโรคระบาดที่ใช้รักษาชาวบ้านต้าจิ้น สหายหยางได้โปรดมอบมันให้ราชสำนักต้าเหลียงด้วย เช่นนี้จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านและทหารชาวต้าเหลียงได้มากขึ้น ความจริงสงครามระหว่างแคว้นเกิดขึ้นเพราะการแย่งชิงผลประโยชน์ของแคว้นตัวเองเท่านั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะผู้มีอำนาจของแคว้นต้องการแย่งชิงผลประโยชน์ให้ตัวเอง ทว่า ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์และทหารกลับเป็นผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุด! ถึงแม้วันนี้สหายหยางจะไม่ยอมทรยศแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเอง องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็ทรงเข้าพระทัยในความจงรักภักดีของท่านดี หากบุกเข้ามาในเมืองหลิ่วโจวได้สำเร็จ นางจะควบคุมทหารกองทัพจิ้นไม่ให้ทำลายที่อยู่อาศัย ทำร้ายชาวบ้านในเมืองแม้แต่ผู้เดียว!”

หยางอู่เช่อกำสูตรยาหนังแกะที่อยู่ในมือแน่น แววตาที่มองไปทางจ้าวเซิ่งเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

“สหายหยาง บัดนี้แคว้นต้าเยี่ยนบุกโจมตีแคว้นเว่ยเพราะต้องการทำลายล้างแคว้นเว่ยเพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง เช่นนี้พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลดินแดนทางใต้ของพวกเขา! ที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วเดินทางบุกมายังต้าเหลียงเพื่อยึดครองต้าเหลียงในวันนี้ก็เพราะต้องการกำจัดอุปสรรคทางทิศเหนือของตัวเองเพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งในวันข้างหน้า องค์หญิงเจิ้นกั๋วมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ นางไม่มีทางหยุดแค่นี้แน่นอน”

“ใต้หล้าแห่งนี้ไม่ขาดแคลนนักรบที่มีฝีมือในการรบ ทว่า เราขาดผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้ใต้หล้าแห่งนี้สงบสุขได้อย่างแท้จริง สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนักรบอยากพวกเราคือการได้เจอและจงรักภักดีต่อผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งได้ ต้าเยี่ยนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หากสหายหยางพลาดจากองค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันหน้าสหายหยางคงทำได้เพียงหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในเมืองหลิ่วโจว มองดูผู้อื่นแย่งกันเป็นหนึ่งในใต้หล้าแห่งนี้เท่านั้น!”

จ้าวเซิ่งกล่าวจบก็ยกมือคารวะหยางอู่เช่อ จากนั้นขี่ม้าจากไปทันที

หยางอู่เช่อถือหนังแกะซึ่งมีสูตรยารักษาโรคระบาดเขียนอยู่ไว้ในมือพลางมองตามแผ่นหลังของจ้าวเซิ่งไปอย่างไม่เข้าใจ เขาคลี่หนังแกะออก ไม่รู้ว่าสูตรยาที่ได้มาคือของจริงหรือไม่ เขากวาดสายตามองดูอย่างคร่าวๆ รู้สึกเพียงว่าสูตรยาแผ่นนี้ไม่เหมือนกับสูตรยาที่ถูกส่งมาจากวัดนอกเมือง เขาหรี่ตาแคบแล้วมองตามแผ่นหลังของจ้าวเซิ่งไปอีกครั้ง

หยางอู่เช่อรายงานเรื่องสูตรยารักษาโรคระบาดของกองทัพจิ้นในวัดนอกเมืองที่ถูกส่งมายังเมืองหลิ่วโจวให้ราชสำนักรับรู้แล้ว เขาหวังว่าจักรพรรดิต้าเหลียงจะกระจายสูตรยาออกไปยังทุกที่ของต้าเหลียงโดยเร็วที่สุด เช่นนี้ชาวบ้านแคว้นต้าเหลียงก็จะได้รับการช่วยเหลือ ทว่า บัดนี้ยาสูตรนี้กลับไม่เหมือนยาที่ได้มาจากวัดนอกเมืองก่อนหน้านี้

หยางอู่เช่อไม่เชื่อว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะโง่เขลาถึงขนาดไม่รู้ว่าต้าเหลียงได้รับสูตรยาจากวัดนอกเมืองแล้ว ทว่า ยังส่งสูตรยาปลอมมาให้เช่นนี้อีก

ต้าจิ้นวางแผนสิ่งใดอยู่กันแน่นะ

หยางอู่เช่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนำหนังแกะกลับไปยังเมืองหลิ่วโจว เขาเรียกบรรดาหมอทั้งหมดมารวมตัวกันเพื่อวิเคราะห์ว่าสูตรยาที่ได้มาใหม่เป็นของจริงหรือไม่

จ้าวเซิ่งขี่ม้ากลับเข้าไปในค่ายทหารของต้าจิ้น เขายังไม่ทันรายงานหลิวหงและองค์หญิงเจิ้นกั๋วก็ได้ยินหลินคังเล่อเอ่ยถามขึ้นก่อน “เมื่อครู่เจ้าให้สิ่งใดกับหยางอู่เช่อ”

“ข้าให้แม่ทัพจ้าวมอบสูตรยาที่ปรับเปลี่ยนใหม่ให้หยางอู่เช่อ” ไป๋ชิงเหยียนมองหลินคังเล่อ “แม่ทัพหลินไม่ต้องเป็นห่วง”

เมื่อหลินคังเล่อได้ยินเช่นนี้ก็เบิกตาโต ทว่า เขาไม่ได้คัดค้านจ้าวเซิ่งต่อหน้า ทว่า เมื่อกลับไปถึงค่ายทหาร เขาตัดสินใจไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างทนไม่ไหว

หวังสี่ผิงเกลี้ยกล่อมหลินคังเล่อก่อนไปแล้ว ทว่า เขารั้งหลินคังเล่อไว้ไม่ได้ หวังสี่ผิงกลัวว่าหลินคังเล่อจะกล่าววาจาล่วงเกินไป๋ชิงเหยียนเพราะความวู่วามจึงจำต้องตามมาด้วย เพราะตอนนี้ร่างกายของไป๋ชิงเหยียนอ่อนแอจนแทบไม่ไหวแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนนั่งมองไป๋จิ่นจื้อพลิกแผนที่อ่านอยู่ในกระโจมที่พัก

เมื่อยึดเมืองหลิ่วโจวได้ ไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นจื้อและหลิวหงจะแยกกันออกเดินทาง เส้นทางของไป๋จิ่นจื้อถูกกำหนดไว้แล้ว สาวน้อยย่อมต้องสำรวจเส้นทางในแผนที่อย่างละเอียดเพื่อความสะดวกในการออกรบ

ขณะที่ไป๋จิ่นจื้อกำลังเหม่อลอย สาวน้อยเงยหน้าขึ้นเห็นหลินคังเล่อและหวังสี่ผิงที่เดินฉุดกระชากกันมายังกระโจมที่พักของนาง สาวน้อยหันไปหาไป๋ชิงเหยียนนี่เอนกายอ่านตำราอยู่บนเก้าอี้

“พี่หญิงใหญ่ ดูเหมือนแม่ทัพหลินและแม่ทัพหวังจะมาหาพี่หญิงใหญ่เจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนซึ่งถือตำราอยู่ในมือนั่งหยัดกายตรง จากนั้นกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อ

“เจ้าไปเชิญแม่ทัพหลินคังเล่อและแม่ทัพหวังสี่ผิงเข้ามาที”

ไป๋จิ่นจื้อรับคำพลางลุกขึ้นยืน จากนั้นเดินออกไปนอกกระโจม ยืนเอามือไขว้หลังมองหลินคังเล่อและหวังสี่ผิงที่ยังคงฉุดกระชากกันอยู่พลางกล่าวยิ้มๆ “แม่ทัพหลิน แม่ทัพหวัง!”

เมื่อหลินคังเล่อเห็นไป๋จิ่นจื้อ เขาจึงกระชากแขนของตัวเองออกจากการจับกุมของหวังสี่ผิง จากนั้นสาวเท้าไปยังกระโจมที่พัก ทำความเคารพไป๋จิ่นจื้อแล้วเดินเข้าไปในกระโจมทันที เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว กระหม่อมขอบังอาจทูลถามสักเรื่อง ก่อนหน้านี้ตอนที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงมีรับสั่งให้จ้าวหร่านพาท่านหมอและยารักษาโรคระบาดไปรักษาชาวบ้านต้าเหลียงที่ถูกทอดทิ้งในวัดนอกเมือง กระหม่อมก็กังวลแล้วว่าหมอของต้าเหลียงอาจขโมยสูตรยากลับไปให้ต้าเหลียง ทว่า วันนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วกลับมอบสูตรยาให้พวกเขาอย่างซึ่งๆ หน้า หากต้าเหลียงไม่มีสูตรยารักษาโรค พวกเราจะยึดเมืองต้าเหลียงได้อย่างง่ายดาย ทหารของเราจึงจะสูญเสียน้อยที่สุดไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เข้าใจการกระทำขององค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”

หวังสี่ผิงเดินเข้ามาในกระโจม จากนั้นรีบทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

“คารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้หวังสี่ผิงเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางหลินคังเล่อที่กำลังโมโห

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นแม่ทัพหลินโมโหมากเช่นนี้”

หวังสี่ผิงรีบก้าวเข้าไปกล่าวยิ้มๆ “แม่ทัพหลินกลัวว่าหากชาวบ้านต้าเหลียงหายขาดจากโรคระบาดทั้งหมด พวกเขาจะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อมาต่อสู้กับต้าจิ้นของเรา ทำให้ทหารของเราล้มตายมากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่าถือสาแม่ทัพหลินเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนวางตำราไม้ไผ่ในมือลง ส่งสัญญาณให้หวังสี่ผิงและหลินคังเล่อนั่งลงก่อน จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “แม่ทัพหลินสงสัยว่าทั้งๆ ที่ข้ารู้ว่าหมอต้าเหลียงส่งสูตรยารักษาโรคระบาดกลับไปยังเมืองหลิ่วโจวตั้งแต่ตอนที่จ้าวหร่านพาหมอไปรักษาอาการของชาวบ้านต้าเหลียงที่วัดแล้ว เหตุใดยังต้องมอบสูตรยาให้แม่ทัพหยางอู่เช่ออีกใช่หรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนถามกลับ หลินคังเล่อจึงไปต่อไม่ถูก

“แม่ทัพหลินเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าชาวบ้านคือรากฐานของแคว้นหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามยิ้มๆ

หลินคังเล่อที่คุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะเล็กพยักหน้าเล็กน้อยพลางกำดาบที่เอวแน่น เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่เห็นด้วย

“แม่ทัพหลินต้องมองให้กว้างกว่านี้ พวกเราโจมตีต้าเหลียงเพื่อยึดครองดินแดนของต้าเหลียง เช่นนั้นวันข้างหน้าชาวบ้านของต้าเหลียงก็คือชาวบ้านของต้าจิ้น บัดนี้โรคระบาดระบาดอย่างรุนแรง ข้ามอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้ต้าเหลียง หากจักรพรรดิต้าเหลียงสามารถช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้ก็ถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ แม่ทัพหยางอู่เช่อได้ยากรักษาโรคระบาดไปจากกองทัพจิ้น วันหน้าแม่ทัพและชาวบ้านของเมืองอื่นในต้าเหลียงจะไม่ซาบซึ้งในบุญคุณของพวกเราอย่างนั้นหรือ”

หลินคังเล่อก้มหน้าคิดตามคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน

“เมื่อจักรพรรดิต้าเหลียงได้รับสูตรยารักษาโรคระบาด พวกเขาต้องการสมุนไพรจำนวนมากมาปรุงยา ทว่า จักรพรรดิต้าเหลียงจะเลือกช่วยทหารหรือชาวบ้านของต้าเหลียงก่อนกันแน่”

ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากให้หลินคังเล่อ ไม่มีท่าทีโมโหแม้แต่น้อย รัศมีของหญิงสาวน่ายำเกรงมาก

“จักรพรรดิต้าเหลียงคิดแต่จะแก้แค้น พระองค์ต้องเลือกช่วยเหล่าทหารก่อนแน่นอน” หลินคังเล่อเงยหน้าพลางกล่าวขึ้น

“เช่นนี้บรรดาชาวบ้านจะไม่รอคอยให้กองทัพจิ้นที่สามารถช่วยรักษาพวกเขาให้รอดพ้นจากโรคระบาดได้เดินทางไปยึดเมืองของพวกเขาเพื่อที่พวกเราและครอบครัวจะได้รอดชีวิตหรืออย่างไรกัน”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท