สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 793 ภาวะคับขัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 793 ภาวะคับขัน

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวถ้อยคำแต่ละคำออกมาอย่างช้าๆ และชัดเจนด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงเต็มไปด้วยบารมีและจิตวิญญาณของการเป็นผู้นำ

หลินคังเล่อเข้าใจขึ้นมาทันที เขาหันไปมองหวังสี่ผิง

“ทว่า หากชาวบ้านต้าเหลียงไม่รู้ว่าจักรพรรดิต้าเหลียงได้สูตรยารักษาโรคระบาดแล้วเล่าพ่ะย่ะค่ะ” หลินคังเล่อถาม

“หากชาวบ้านต้าเหลียงไม่รู้ว่าจักรพรรดิต้าเหลียงได้สูตรยารักษาโรคระบาดมาแล้ว ทว่า ทรงเลือกรักษาทหารที่ด่านหน้าก่อนโดยไม่สนใจชีวิตของชาวบ้านเล่าพ่ะย่ะค่ะ” หวังสี่ผิงเอ่ยถามเช่นเดียวกัน

“ดังนั้นพี่หญิงใหญ่จึงให้จ้าวหร่านหาใบนำทางของพ่อค้าไว้พร้อมแล้ว เมื่อคนของเราเข้าไปในเมืองหลิ่วโจวได้แล้ว พวกเขาจะปลอมตัวเป็นลูกน้องของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคระบาดรวบรวมกำลังคนนำสินค้าไปส่งยังเมืองหาน แน่นอนว่าคนที่คนของเราจะพาไปต้องเป็นชาวบ้านของเมืองหลิ่วโจว ระหว่างทางพวกเขาจะกระจายข่าวว่ากองทัพต้าจิ้นมอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้แม่ทัพคุ้มกันเมืองหลิ่วโจวหยางอู่เช่อแล้ว จะบอกพวกเขาว่ากองทัพต้าจิ้นเป็นคนช่วยชีวิตชาวบ้านที่ติดเชื้อโรคระบาดของเมืองหลิ่วโจวที่ถูกทอดทิ้งอยู่ที่วัดนอกเมือง”

ไป๋จิ่นจื้อยืนเอามือไขว้หลังด้วยใบหน้าภาคภูมิใจปนได้ใจเล็กน้อย พี่หญิงใหญ่ของนางทำสิ่งใดมักมีแผนสำรองเสมอ พี่หญิงใหญ่ไม่ได้คิดตื้นๆ เช่นเดียวกับหลินคังเล่อและหวังสี่ผิง

“ที่ต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนคืนมาได้ในตอนนั้นก็เพราะชาวบ้านเมืองหนานเยี่ยนรู้ว่าหากต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนกลับคืนไปได้จะส่งผลดีต่อพวกเขา ดังนั้นต้าเยี่ยนจึงยึดหนานเยี่ยนได้อย่างราบรื่นเช่นนั้น! บัดนี้พี่หญิงใหญ่ของข้าก็กำลังทำเช่นเดียวกันอยู่” ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ จากนั้นกล่าวกับหลินคังเล่อและหวังสี่ผิงต่อ “พวกเรามอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้จักรพรรดิต้าเหลียง พวกเขาจะให้สิ่งใดเราเป็นการแลกเปลี่ยน พวกท่านว่าจักรพรรดิต้าเหลียงจะหนักพระทัยกับเรื่องนี้หรือไม่”

ไป๋จิ่นจื้อหยิบแผนที่ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาชี้ “หนึ่งในสมุนไพรที่ไม่อาจหาสมุนไพรตัวอื่นมาทดแทนได้คือหวงเฉิน ต้าจิ้น ต้าเยี่ยน หรงตี๋และซีเหลียงล้วนมีสมุนไพรชนิดนี้ มีเพียงแคว้นเว่ยและต้าเหลียงเท่านั้นที่แทบไม่ค่อยมี!”

“แคว้นต้าจิ้นของพวกเรากำลังทำสงคราม ชาวบ้านในแคว้นของเรายังไม่หายขาดจากโรคระบาด ต้าจิ้นย่อมไม่มีทางมอบหวงเฉินให้ต้าเหลียงแน่นอน!”

ไป๋จิ่นจื้อวางแผนที่ในมือลง จากนั้นกล่าวต่อ “ตอนแรกต้าเหลียงจะร่วมมือกับแคว้นเว่ยบุกโจมตีต้าเยี่ยน ต่อให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนยินดีขายหวงเฉินให้แก่ต้าเหลียง ทว่า ราคาคงสูงมากอีกทั้งขายเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น ส่วนหรงตี๋…บัดนี้เป่ยหรงถูกหนานหรงโจมตีจนแทบต้านทานไม่ไหว พวกเขาขอร้องให้ต้าเหลียงยกทัพไปช่วยเหลือหลายครั้ง ทว่า ต้าเหลียงก็ไม่เคยยกทัพไปช่วยสักครั้ง หากต้าเหลียงขอหวงเฉินจากเป่ยหรงในตอนนี้ เป่ยหรงจะเอามีดจี้คอขอให้ต้าเหลียงยกทัพไปช่วยเป่ยหรงหรือไม่นะ”

หลินคังเล่อและหวังสี่ผิงเข้าใจเรื่องทุกอย่างในทันที โดยเฉพาะหลินคังเล่อ เขารีบลุกขึ้นยืนคำนับไป๋ชิงเหยียน “องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงคิดได้อย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด กระหม่อมล่วงเกินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“พวกท่านทั้งสองทำเพื่อแคว้นต้าจิ้น จะถือเป็นการล่วงเกินได้อย่างไรกัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ

บรรดาหมอในเมืองหลิ่วโจวตรวจชีพจรของชาวบ้านที่หายจากโรคระบาดทุกคนแล้ว การใช้ยารักษาโรคระบาดของต้าจิ้นทำให้อาการของพวกเขาดีขึ้นจริงๆ ทว่า สมุนไพรในสูตรยาที่หมอจากวัดนอกเมืองส่งมาให้มีอยู่สองสามตัวที่ราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวงเฉินที่เป็นปัญหาใหญ่ หวงเฉินคือตัวยาสำคัญในการรักษาโรคระบาดในครั้งนี้ ทว่า ต้าเหลียงไม่ค่อยมีสมุนไพรชนิดนี้ พวกเขาต้องหาซื้อจากแคว้นอื่น

เมื่อบรรดาหมอในเมืองหลิ่วโจวได้สูตรยาจากหยางอู่เช่อ พวกเขานั่งวิเคราะห์ซ้ำไปซ้ำมาจนได้ผลสรุปว่าสูตรยานี้คือยาที่ปรับสูตรให้ดีขึ้นแล้ว สมุนไพรราคาสูงสองสามชนิดถูกเปลี่ยนเป็นสมุนไพรอื่นที่ราคาถูกกว่า ทว่า หวงเฉินยังคงจำเป็นสำหรับยารักษาโรคระบาด

เมื่อบรรดาหมอรักษาชาวบ้านที่ติดเชื้อโรคระบาดรักษาตามสูตรยาที่ได้มาครบสามวัน พวกเขาพบว่ามันได้ผลจริงๆ ต่างกล่าวกันว่าสูตรยานี้ประหยัดต้นทุนในการรักษาได้มากกว่าเดิมมาก

หยางอู่เช่อรีบเขียนฎีกาขึ้นมาฉบับหนึ่ง เขารายงานในฎีกาเรื่องความเลอะเลือนทรยศบ้านเมืองของจ้าวเซิ่ง รายงานว่าจ้าวเซิ่งมอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้เขา จากนั้นหยางอู่เช่อสั่งให้คนรีบนำฎีกาและสูตรยารักษาโรคระบาดขี่ม้าเร็วส่งไปยังเมืองหานโดยเร็วที่สุด

เมื่อคนนำสูตรยาไปส่งยังเมืองหานแล้ว หยางอู่เช่ออดนึกถึงคำกล่าวของจ้าวเซิ่งขึ้นมาไม่ได้…

เขานั่งมองเปลวไฟในตะเกียงน้ำมันที่สะบัดพลิ้วไปมาบนโต๊ะเล็ก นึกถึงคำกล่าวของจ้าวเซิ่งที่กล่าวว่าบัดนี้ต้าเยี่ยนต้องการทำลายแคว้นเว่ยเพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง

หยางอู่เช่อลุกขึ้นยืน ถือตะเกียงไปยังแผนที่แล้ววิเคราะห์อย่างละเอียด เขานึกถึงสถานการณ์ของแคว้นเว่ยและต้าเยี่ยน จ้าวเซิ่งกล่าวถูกต้องแล้ว

ก่อนหน้านี้ต้าเยี่ยนแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกองเพื่อบุกโจมตีแคว้นเว่ย เมื่อซีเหลียงบุกโจมตีต้าเยี่ยน จักรพรรดิต้าเยี่ยนทรงมีรับสั่งห้ามไม่ให้องค์ชายรองมู่หรงผิงและแม่ทัพเซี่ยสวินย้อนกลับมาช่วยเด็ดขาด เห็นได้ชัดถึงความต้องการทำลายแคว้นเว่ยของจักรพรรดิต้าเยี่ยน

จู่ๆ หยางอู่เช่อก็นึกถึงองค์ชายสี่ที่เดินทางออกจากด่านชิงซีซานเพื่อมุ่งหน้าไปเจรจาสงบศึกที่ต้าจิ้นขึ้นมา ต้าจิ้นตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะทำลายแคว้นต้าเหลียง พวกเขาถึงสังหารองค์ชายสี่อย่างนั้นหรือ!

ใต้หล้าแห่งนี้ไม่ขาดนักรบที่มีความสามารถในการทำศึก ทว่า ขาดผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสามารถทำให้ใต้หล้าสงบสุขอย่างแท้จริง

“ใต้หล้าแห่งนี้ไม่ขาดแคลนนักรบที่มีฝีมือในการรบ ทว่า เราขาดผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้ใต้หล้าแห่งนี้สงบสุขได้อย่างแท้จริง สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนักรบอย่างพวกเราคือการได้เจอและจงรักภักดีต่อผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งได้ ต้าเยี่ยนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หากสหายหยางพลาดจากองค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันหน้าสหายหยางคงทำได้เพียงหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในเมืองหลิ่วโจว มองดูผู้อื่นแก่งแย่งกันเป็นหนึ่งในใต้หล้าแห่งนี้เท่านั้น!”

ถ้อยคำของจ้าวเซิ่งผุดขึ้นมาในสมองของหยางอู่เช่ออีกครั้ง หยางอู่เช่อถือตะเกียงในมือแน่น เขาหายใจอย่างรุนแรงจนเปลวไฟในตะเกียงน้ำมันสะบัดแรงขึ้น

เขาเดินไปมาอยู่หน้าแผนที่พลางมองไปยังแผนที่ที่สะท้อนแสงไฟนิ่ง

องค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยเหลือชาวบ้านเมืองต้าเหลียงเพราะนางต้องการยึดครองต้าเหลียงให้ได้ นางมองชาวบ้านของต้าเหลียงเป็นชาวบ้านของแคว้นต้าจิ้นใช่หรือไม่

ต้าเยี่ยนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว จักรพรรดิต้าเหลียงไม่ได้มีปณิธานที่ยิ่งใหญ่อย่างการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง เขาควรจะจงรักภักดีต่อจักรพรรดิและแคว้นต้าเหลียงจนวันตายหรือควรไปร่วมสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้มีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ตามที่ใจปรารถนากันแน่นะ

หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไปคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว หยางอู่เช่อตกอยู่ในภาวะคับขัน สับสนวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก

สมองของหยางอู่เช่อสับสนวุ่นวายมาก เขายกมือขึ้นปาดใบหน้าของตัวเองพลางตะโกนเสียงดังลั่น “ผู้ใดก็ได้ไปตามรองแม่ทัพหลี่มาพบข้าที”

เมืองหลวง

เมื่อว่าราชการตอนเช้าเสร็จ องค์รัชทายาทถูกฮ่องเต้เรียกไปพบที่ตำหนัก ฮ่องเต้กล่าวว่าการสร้างหอบูชาเก้าชั้นใช้กำลังคนและกำลังทรัพย์ไปมากมาย ในที่สุดปีนี้ก็ใกล้จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว กรมโยธาคำนวณว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในครึ่งปีนี้

ฮ่องเต้สั่งให้องค์รัชทายาทหาเด็กชายและเด็กหญิงอย่างละห้าร้อยคนติดตามเขาขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นในวันที่หอสร้างเสร็จสมบูรณ์

การหาเด็กชายและเด็กหญิงอย่างละห้าร้อยคนติดตามฮ่องเต้ขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นไม่ใช่เรื่องยาก องค์รัชทายาทรับปากฮ่องเต้ว่าจะหาเด็กชายและเด็กหญิงมาให้ครบตามจำนวนก่อนวันที่หอบูชาเก้าชั้นจะสร้างเสร็จ

ฮ่องเต้ชมว่าองค์รัชทายาทเป็นคนกตัญญู จากนั้นปล่อยให้องค์รัชทายาทกลับไปอย่างอารมณ์ดี

เมื่อองค์รัชทายาทเดินออกมาจากตำหนัก เขาซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ไม่มิด ยังไม่ทันได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เฉวียนอวี๋ฟังก็ได้รับรายงานว่าจางตวนหนิงกลับมาขอเข้าเฝ้าเขาพร้อมกับจดหมายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วก่อนตามลำพัง

ใจขององค์รัชทายาทกระตุกวูบ เขารีบสั่งให้คนบังคับม้ากลับไปยังจวนองค์รัชทายาททันที จากนั้นรีบไปพบจางตวนหนิงทันทีโดยไม่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายก่อนแม้แต่น้อย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท