ตอนที่ 811 โอกาส
ทางใดทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังกว่ากัน
ทางใดถึงจะเป็นการแก้แค้นให้องค์ชายสี่กันแน่
เห็นกันชัดๆ อยู่แล้ว
เฉาเหรินอี้อยากสร้างความดีความชอบ ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับองค์หญิงเจิ้นกั๋วเขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เฉาเหรินอี้มองสำรวจรอบๆ ค่ายทหาร สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว หวังหาหนทางแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายตรงหน้า
ไม่นานเฉาเหรินอี้ก็คิดหาวิธีขึ้นมาได้ เขาบีบมือลูกน้องคนสนิทของตัวเองแน่น กล่าวเสียงจริงจัง “เจ้าจงพาพลธนูไปยังกระโจมที่พักขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว เดี๋ยวข้าจะประกาศสั่งให้บรรดาทหารทุกคนหาทางตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วให้ได้ ทหารต้าจิ้นต้องคุ้มกันองค์หญิงเจิ้นกั๋วถอยหนีแน่นอน เจ้าจงหาทางตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วให้ได้ หากเราแพ้ในสงครามครั้งนี้ ต้าเหลียงคงไม่มีโอกาสฟื้นอีกแล้ว”
แม่ทัพต้าเหลียงผู้นั้นมองไปทางกระโจมใหญ่ที่สว่างอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นกำหมัดกล่าวกับเฉาเหรินอี้ท่ามกลางเสียงฆ่าฟันที่ดังระงม “ข้าจะบุกเข้าไปตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วในกระโจมใหญ่มาเองขอรับ!”
“ไม่ได้!” เฉาเหรินอี้กระชากร่างลูกน้องของตัวเองอย่างแรง จากนั้นกล่าวเสียงร้อนรน “กระโจมทุกกระโจมในค่ายทหารล้วนดับไฟ มีเพียงกระโจมใหญ่เท่านั้นที่สว่างอยู่ องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนโง่หรืออย่างไร นางจะรอให้เจ้าไปสังหารนางในกระโจมอย่างนั้นหรือ นั่นต้องเป็นกับดักแน่นอน เจ้าต้องอ้อมไปทางด้านหลัง รีบไปเร็ว!”
เฉาเหรินอี้เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วอาจไม่ได้อยู่ในกระโจมใหญ่นั่น ทว่า เมื่อครู่เขาสังเกตเห็นว่าทหารถ่ายทอดคำสั่งเดินเข้าออกกระโจมนั้นอยู่หลายครั้ง ดังนั้นหากในกระโจมนั่นไม่ใช่ไป๋ชิงเหยียนก็คงเป็นแม่ทัพใหญ่ของต้าจิ้น กระทั่งอาจเป็นหยางอู่เช่อหรือจ้าวเซิ่ง
ไม่ว่าเป็นผู้ใด ขอเพียงตัดศีรษะของเขามาได้ กองทัพต้าจิ้นต้องเสียขวัญกำลังใจอย่างแน่นอน
ลูกน้องของเฉาเหรินอี้รับคำสั่ง เขาพาพลธนูและพลโล่ฝ่าวงล้อมออกไป จากนั้นอ้อมไปทางด้านหลังค่ายทหารตามคำสั่งของเฉาเหรินอี้
ลูกน้องของเฉาเหรินอี้อาศัยช่วงโกลาหลบุกอ้อมไปทางด้านหลัง จากนั้นชูดาบขึ้นสูงพลางตะโกนลั่น “ทหารต้าเหลียงทุกคน กองทัพของเรามีคนทรยศ บัดนี้พวกเราไม่มีทางหนีแล้ว ขอเพียงพวกเราตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้ พวกเราจะได้รับชัยชนะทันที ทหารต้าเหลียงทุกคน! กองทัพต้าจิ้นไม่เหลือทางรอดให้พวกเรา ต้องการสังหารพวกเราทุกคนให้สิ้นซาก พวกเราก็จะตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วมาให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม เมื่อหัวหน้าโจรถูกสังหาร ทหารของพวกมันต้องเสียขวัญกำลังใจแน่นอน!”
ลูกน้องของเฉาเหรินอี้ตะโกนเสียงดังลั่น “ทหารทุกคนฟังทางนี้ ผู้ใดตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้จะได้รางวัลอย่างงาม! ลุย!”
ทหารต้าเหลียงที่เมื่อครู่ขวัญผวาเพราะคำสั่งถอยทัพของแม่ทัพใหญ่ บัดนี้มีเป้าหมายขึ้นมาทันที พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปยังกระโจมใหญ่ที่สว่างอยู่เพียงกระโจมเดียว เป้าหมายของทุกคนแน่ชัด…นั่นคือศีรษะของไป๋ชิงเหยียน
บรรดาทหารต้าเหลียงที่ถูกกองทัพต้าจิ้นล้อมจนหมดกำลังใจมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งเพราะคำกล่าวของเฉาเหรินอี้ แววตาของทุกคนมองตรงไปยังกระโจมของแม่ทัพใหญ่ จากนั้นบุกตรงไปยังกระโจมด้วยแรงทั้งหมดที่มี พลางตะโกนว่าจะตัดศีรษะของไป๋ชิงเหยียนให้ได้
ภายในกระโจมใหญ่ เสิ่นชิงจู๋ที่กำดาบยาวแน่น นางยืนนำบรรดาองครักษ์และเยว่สือคอยตั้งรับอย่างระมัดระวังตัวเต็มที่ หญิงสาวออกคำสั่งเสียงดัง “จุดไฟ”
สิ้นเสียงคำสั่งของเสิ่นชิงจู๋ เปลวไฟในกระโจมของค่ายทหารทุกกระโจมค่อยๆ สว่างขึ้น ทหารต้าเหลียงที่มุ่งหน้าตามแสงไฟมายังกระโจมที่พักใหญ่หลงทิศทางในทันที
กระโจมที่พักของบรรดาแม่ทัพที่อยู่ในบริเวณเดียวกันสว่างขึ้นมาพร้อมกัน ทหารต้าเหลียงที่กำลังสับสนวุ่นวายอยู่ในสงครามแยกไม่ออกทันทีว่ากระโจมใดคือกระโจมที่พักของไป๋ชิงเหยียน
เฉาเหรินอี้ง้างดาบยาวฟันลงไปบนศีรษะของทหารต้าจิ้น เขาขบกรามแน่น พยายามควบคุมสติของตัวเอง จากนั้นก้มกระซิบข้างใบหูของทหารต้าเหลียงชั้นผู้น้อยที่ยืนอยู่ข้างกาย “เจ้าพาคนบุกเข้าไปใกล้กระโจมใหญ่ที่มีไฟสว่าง จากนั้นตัดศีรษะของทหารคนใดก็ได้แล้วตะโกนว่าตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้แล้ว เช่นนี้กองทัพต้าจิ้นจะเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที พวกเราจะได้มีโอกาสชนะ”
หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้อยู่ในค่ายทหารแห่งนี้ การทำเช่นนี้ต้องข่มขวัญทหารต้าจิ้นได้แน่
หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วอยู่ในค่ายทหาร การทำเช่นนี้ถือเป็นการบีบให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วออกมาปรากฏตัว เช่นนั้นเขาจะสามารถตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้ง่ายขึ้น
“ขอรับ!” ทหารต้าเหลียงรับคำสั่งแล้วจากไปทันที
เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินทหารต้าเหลียงพากันตะโกนว่าจะตัดศีรษะของไป๋ชิงเหยียนให้ได้ เขาจึงเงยหน้ามองไปทางเยว่สือ
เยว่สือได้ยินเฉาเหรินอี้ประกาศกร้าวว่าจะตัดศีรษะของไป๋ชิงเหยียนให้ได้ เขากำลังรู้สึกไม่พอใจอยู่พอดี เมื่อเห็นสายตาของเซียวหรงเหยี่ยนจึงรับรู้ทันทีว่าเจ้านายของเขาต้องการให้เขาไปตัดศีรษะของเฉาเหรินอี้ เยว่สือพยักหน้าเตรียมจากไป ทว่า ถูกเสิ่นชิงจู๋รั้งไว้เสียก่อน
เสิ่นชิงจู๋หันไปมองไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาราบเรียบและสงบนิ่ง “คุณหนูใหญ่ กองทัพต้าเหลียงต่างมุ่งหน้ามาทางนี้ ให้เยว่สือพาคุณหนูใหญ่และเซียวเซียนเซิงหลบไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะไปตัดศีรษะของสุนัขเฉาเหรินอี้เองเจ้าค่ะ”
เยว่สือก้าวไปด้านหน้า กำมัดคารวะพลางกล่าวขึ้น “นายท่าน ข้าจะไปกับแม่นางเสิ่นเองขอรับ จะตัดศีรษะของเฉาเหรินอี้มาให้ได้ขอรับ”
“ถอยอย่างนั้นหรือ! กองทัพต้าจิ้นกำลังสู้อย่างฮึกเหิม หากข้าหนีไปตอนนี้แล้วทหารต้าจิ้นรู้เข้า พวกเขาจะหมดกำลังใจในการต่อสู้ทันที เฉาเหรินอี้จะมีโอกาสอีกครั้ง!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงจริงจัง ไป๋ชิงเหยียนหยิบกระบอกใส่ลูกธนูที่วางอยู่บนโต๊ะมาแขวนไว้ที่เอว “จุดไฟในกระโจมให้สว่าง ให้ทหารทุกคนเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่นี่!”
องครักษ์ไป๋ในกระโจมรับคำสั่ง เขาจุดเทียนในกระโจมจนสว่างขึ้นทันที
ไป๋ชิงเหยียนไม่เคยลืมคำสอนของท่านปู่และท่านพ่อ
หากแม่ทัพกล้าเสี่ยงอันตรายอยู่ด่านหน้า ทหารทุกคนจะเลือดร้อนขึ้นมาทันที สงครามครั้งนั้นจะได้รับชัยชนะอย่างสง่างาม
เมื่อแสงในกระโจมถูกจุดสว่างขึ้น ทหารคนหนึ่งจากด้านนอกก็ตะโกนเสียงดังลั่น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วถูกสังหารแล้ว ศีรษะของนางอยู่ที่นี่! กองทัพต้าจิ้นรีบยอมจำนนบัดนี้! ผู้ใดยอมจำนนจะไว้ชีวิต!”
ทุกคนในกระโจมพากันหันไปมองนอกกระโจมอย่างตกตะลึง เมื่อหันกลับมาในกระโจมอีกครั้งก็เห็นไป๋ชิงเหยียนก้มลงหยิบบธนูเซ่อรื้อที่วางอยู่บนโต๊ะ “ดูเหมือนว่าเฉาเหรินอี้กำลังหาทางบีบให้ข้าโผล่หน้าออกไปให้ได้”
“คุณหนูใหญ่!” เสิ่นชิงจู๋ผลักเยว่สือที่ยืนขวางทางออก จากนั้นก้าวเข้าไปหยิบธนูเซ่อรื้อขึ้นมาก่อนไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ ได้ยินว่าเฉาเหรินอี้ผู้นี้ยิงธนูได้แม่นยำมากเช่นเดียวกัน ให้ข้าปลอมเป็นคุณหนูใหญ่ออกไปเถิดเจ้าค่ะ”
“แม่นางเสิ่นไม่ต้องเป็นห่วง มีข้าอยู่ ข้าไม่มีทางปล่อยให้คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บแน่นอน” เซียวหรงเหยี่ยนจัดชายเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย ชายหนุ่มยังคงมีท่าทีเรียบเฉย ไม่ร้อนรนเช่นเดิม
เสิ่นชิงจู๋ขมวดคิ้วแน่น ทว่า สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้า หญิงสาวยื่นธนูเซ่อรื้อคืนให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยมือทั้งสองข้าง
“เยว่สือ!” ไป๋ชิงเหยียนรับธนูเซ่อรื้อมาแล้วหันไปทางเยว่สือ “เจ้านายของเจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่ คุ้มกันเจ้านายของเจ้าให้ดี”
เยว่สืออึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นรับคำ “ขอรับ!”
นอกกระโจมเต็มไปด้วยเสียงต่อสู้ ไป๋ชิงเหยียนเดินไปด้านนอกด้วยฝีเท้าที่มั่นคง ดวงตาล้ำลึกมองไปด้านนอกด้วยสายตาที่คมกริบราวกับมีด
เยว่สือโยนดาบยาวที่แขวนอยู่ในกระโจมของไป๋ชิงเหยียนให้เซียวหรงเหยี่ยน “นายท่าน!”
เซียวหรงเหยี่ยนรับดาบแล้วเดินออกไปนอกกระโจมพร้อมกับไป๋ชิงเหยียนที่ถือธนูเซ่อรื้ออยู่ในมือ จากนั้นผิวปากเบาๆ
สิ้นเสียง ม้าสีขาวราวกับหิมะตัวหนึ่งวิ่งมาทางเขาท่ามกลางสงครามที่กำลังวุ่นวาย ด้านหลังคือม้าอีกสิบกว่าตัวที่ถูกพาไปพักยังคอกม้า
ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นว่าม้าที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้าสุดคือไท่ผิง หญิงสาวประหลาดใจเล็กน้อย หันกลับไปมองเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังผิวปากอยู่
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ถามว่าเหตุใดไท่ผิงจึงฟังคำสั่งของเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวก้าวไปด้านหน้า จากนั้นกระโจนตัวขึ้นไปบนหลังไท่ผิงแล้วควบทะยานออกไป หญิงสาวหยิบลูกธนูออกมาจากกระบอก เล็งยิงไปทางทหารที่ถือศีรษะไว้ในมือพลางตะโกนว่าตัดศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วได้แล้ว