สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 845 วางแผนรอบคอบ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 845 วางแผนรอบคอบ

ก่อนหน้านี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วและแม่ทัพหลิวหงแยกกันออกเดินทาง เขายังแปลกใจอยู่เลยว่าเหตุใดเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วมาถึง กองทัพของเกาอี้จวิ้นจู่ที่ไม่ได้บุกโจมตีเมืองใดเลยระหว่างทางถึงได้มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นนี้

บัดนี้เขาเข้าใจแล้วว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วทำเช่นนี้เพราะต้องการดึงดูดความสนใจของกองทัพหลักของต้าเหลียง เกาอี้จวิ้นจู่จะได้บุกตรงมายังเมืองหานได้อย่างราบรื่น!

อัครมหาเสนาบดีชราของต้าเหลียงนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเกือบย้ายเมืองหลวงไปยังเซียงเหลียง หากตอนนั้นพวกเขาเดินทางไปฝั่งตะวันออกของเมืองหานจริง ระหว่างทางต้องเผชิญหน้ากับกองทัพของเกาอี้จวิ้นจู่แน่นอน ถึงเวลานั้นกองทัพของต้าเหลียงคงพ่ายแพ้ทั้งแคว้นจริงๆ แน่

อัครมหาเสนาบดีชราสงสัยกระทั่งว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเลือกเส้นทางเช่นนี้เพราะต้องการบีบให้ราชวงศ์ต้าเหลียงหนีไปทางตะวันออกอยู่แล้ว!

แคว้นต้าจิ้นต้องการให้พวกเขาหนีไปเผชิญหน้ากับกองทัพของเกาอี้จวิ้นจู่ด้วยตัวเอง!

ในใจของอัครมหาเสนาบดีชราเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ครั้งนี้กองทัพต้าจิ้นวางแผนได้ละเอียดรอบคอบถึงเพียงนี้ ต้าเหลียงคงพ่ายแพ้แน่นอน!

แม่ทัพหน้ากากผีแห่งหนานหรงก็คงมาช่วยต้าเหลียงไม่ทันแล้ว!

หากจะโทษ…ก็ต้องโทษที่จักรพรรดิต้าเหลียงคิดแต่จะแก้แค้นให้โอรสของตัวเอง ไม่สนใจต้าเหลียงแม้แต่น้อย

บัดนี้ขุนนางใหญ่อย่างพวกของอัครมหาเสนาบดีชราต่างรู้สึกปวดศีรษะกับการโต้เถียงของบรรดาขุนนางในราชสำนักมาก เขาได้แต่รอให้องค์ชายสามตัดสินพระทัย

องค์ชายสามที่มีใบหน้ากลมอุดมสมบูรณ์ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของตัวเอง ในที่สุดเขาก็กล่าวออกมาอย่างตัดสินใจได้ “ไม่จำเป็นต้องให้เหล่าทหารสละชีพของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เราจะออกไปยอมจำนน!”

“องค์ชาย! ไม่ได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย!” ขุนนางที่สนับสนุนให้ทำศึกจนตัวตายต่างพากันคุกเข่าขอร้ององค์ชายสาม

“ไม่ว่าจะยอมจำนนหรือตายในสนามรบก็ล้วนหนีไม่พ้นการดับสูญของแคว้นอยู่ดี เหตุใดต้องให้เหล่าทหารเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ด้วย”

“พวกกระหม่อมยินดีต่อสู้จนตัวตายพ่ะย่ะค่ะ หากสุดท้ายพ่ายแพ้…พวกกระหม่อมจะปลิดชีพเพื่อแคว้นพ่ะย่ะค่ะ!” นักรบคนหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตา

“เหตุใดต้องทำถึงเพียงนี้ด้วย!” น้ำเสียงขององค์ชายสามแผ่วเบา “ใจของชาวบ้านต้าเหลียงล้วนเอนเอียงไปทางแคว้นต้าจิ้นแล้ว พวกเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ ตอนที่ราชสำนักต้าเหลียงแย่งยารักษาโรคไปจากชาวบ้านโดยไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเขา องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนนำยาไปมอบให้ชาวบ้านเหล่านั้น! ชาวบ้านต้าเหลียงที่ได้รับการช่วยเหลือจากต้าจิ้นคือชาวบ้านที่ถูกต้าจิ้นซื้อใจไปแล้ว!”

“กองทัพจ้าวจงรักภักดีต่อแคว้นต้าเหลียงมาทุกรุ่น เหตุใดเมื่อมาถึงรุ่นของจ้าวเซิ่งถึงได้ยอมสวามิภักดิ์กับองค์หญิงเจิ้นกั๋วกัน นั่นก็เพราะราชสำนักต้าเหลียงทำให้ชาวบ้านผิดหวังอย่างไรเล่า!” องค์ชายสามกล่าวเสียงสะอื้น “เสด็จพ่อประชวรอยู่บนเตียง ข้าในฐานะองค์ชายแห่งแคว้นต้าเหลียงจะขอทำหน้าที่นำตราประทับของเสด็จพ่อออกไปยอมจำนนกับต้าจิ้นที่นอกเมืองเอง”

วันที่สิบสาม เดือนสี่ รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด เกาอี้จวิ้นจู่ไป๋จิ่นจื้อโจมตีเมืองหลวงหานของต้าเหลียงแตก องค์ชายสามแห่งแคว้นต้าเหลียงนำบรรดาขุนนางที่คาดผ้าขาวไว้บนศีรษะนำตราประทับประจำแคว้นต้าเหลียงและกริชออกไปคุกเข่าแสดงความจำนนต่อหน้าม้าศึกของไป๋จิ่นจื้อ

ไป๋จิ่นจื้อที่ร่างเปื้อนไปด้วยเลือดและเต็มไปด้วยไอสังหารรับตราประทับและกริชประจำแคว้นต้าเหลียงมาไว้ในมือ จากนั้นส่งให้เสิ่นชิงจู๋

บัดนี้แคว้นต้าเหลียงที่เคยแข็งแกร่งและเป็นเจ้าแห่งดินแดนทางเหนือมานับร้อยปีดับสูญลงแล้ว ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ของต้าเหลียงตกเป็นของต้าจิ้นทั้งหมด

ไป๋จิ่นจื้อก้าวลงจากหลังม้า จากนั้นออกคำสั่งเสียงดังลั่น “รีบเก็บกวาดเมือง! ต้อนรับองค์หญิงเจิ้นกั๋วและแม่ทัพหลิวหงเข้ามาในเมือง”

เมื่อไป๋จิ่นจื้อยึดเมืองหานได้แล้ว ไช่จื่อหยวนจึงตามกองทัพใหญ่เข้ามาในเมืองทีหลัง เมื่อเขาเห็นร่างองอาจสง่างามที่เปื้อนไปด้วยเลือดของไป๋จิ่นจื้อท่ามกลางแสงแดดที่สว่างเรืองรอง ใจของเขาเดือดพล่านอย่างควบคุมไม่ได้ขึ้นมาทันที

มิน่าถึงมีคนเคยกล่าวว่าที่ตระกูลนักรบนับร้อยปีอย่างจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกระดูกสันหลังของแคว้นต้าจิ้นมาทุกรุ่นเป็นเพราะ…จวนเจิ้นกั๋วกงไม่เคยมีทายาทที่ไร้ประโยชน์

เด็กสาวที่อายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีกลับมีไอสังหารที่เด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้ บุรุษอีกมากมายไม่อาจเทียบเทียมนางได้

“ไช่เซียนเซิง!” ไป๋จิ่นจื้อสั่งให้เสิ่นชิงจู๋มอบตราประทับและกริชประจำแคว้นต้าเหลียงให้ไช่จื่อหยวน “รบกวนไช่เซียนเซิงนำตราประทับและกริชเล่มนี้ออกไปมอบให้พี่หญิงใหญ่ที่นอกเมืองด้วยเถิด”

“ขอรับ!” ไช่จื่อหยวนพยักหน้ารับคำ

ภายในวังหลวง เมื่อจักรพรรดิต้าเหลียงได้ยินว่าองค์ชายสามเป็นตัวแทนของเขาออกไปยอมจำนนกับต้าจิ้นก็โมโหจนฝืนจับมือของขันทีชราลุกขึ้นยืน เขาชักดาบออกมาด้วยท่าทีโมโหราวกับต้องการสังหารองค์ชายสาม ทว่า เมื่อเดินไปได้สองก้าวก็กระอักเลือดออกมา เบิกตาที่แดงฉานโพลง จากนั้นล้มลงบนพื้นทันที

บรรดาขันทีในตำหนักรีบเข้าไปช่วยประคองร่างของจักรพรรดิต้าเหลียงอย่างวุ่นวายเป็นพัลวัน หมอหลวงคลานเข่าเขาไปตรวจอาการ จากนั้นพบว่าจักรพรรดิต้าเหลียงหมดลมหายใจลงแล้ว จักรพรรดิต้าเหลียงบันดาลโทสะจนสวรรคตลง

ไป๋จิ่นจื้อนำทหารไปจัดการกับคนในราชสำนักที่ต่อต้านต้าจิ้น หญิงสาวสั่งให้จับกุมตัวบรรดานางสนมและขุนนางในราชสำนักที่คุกเข่าอ้อนวอนขอให้ไว้ชีวิตไว้ทั้งหมด

ไป๋จิ่นจื้อยังไม่ทันได้จัดการเรื่องในราชสำนักต้าเหลียงให้เรียบร้อยเพื่อต้อนรับพี่หญิงใหญ่เข้ามาก็ได้รับคำสั่งว่าให้เสี่นเยี่ยนฉงรับหน้าที่จัดการเรื่องในราชสำนักแทนนาง ให้นางกับเสิ่นชิงจู๋รีบขี่ม้าออกไปพบไป๋ชิงเหยียนที่นอกเมืองเพื่อปรึกษาเรื่องสำคัญ

ไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นชิงจู๋รีบออกจากเมืองทันทีที่ได้รับคำสั่ง

ไม่นานไป๋จิ่นจื้อและเสิ่นชิงจู๋ก็ออกจากเมืองมาถึงค่ายทหารของต้าจิ้น แม่ทัพของต้าจิ้นรวมถึงแม่ทัพของต้าเหลียงที่ก่อนหน้านี้ยอมจำนนกับต้าจิ้นล้วนอยู่ในกระโจมของแม่ทัพหลิวหงทั้งหมด

ไช่จื่อหยวนนำตราประทับและกริชประจำแคว้นต้าเหลียงมามอบให้ไป๋ชิงเหยียนแล้ว บัดนี้ของสองสิ่งวางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน

แม่ทัพหลิวหงมีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเห็นไป๋จิ่นจื้อเดินเข้ามาจึงผายมือเชิญให้ไป๋จิ่นจื้อนั่งลง ไป๋จิ่นจื้อรีบเดินตรงไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นนั่งลงข้างๆ พี่สาว สาวน้อยเอ่ยทักพี่สาวอย่างตื่นเต้น “พี่หญิงใหญ่!”

ไป๋ชิงเหยียนมองดูไป๋จิ่นจื้อที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก หญิงสาวเอื้อมมือลูบศีรษะของน้องสาวอย่างแผ่วเบา จากนั้นหันไปมองเสิ่นชิงจู๋ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังไป๋จิ่นจื้อด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางพยักหน้าขอบคุณที่เสิ่นชิงจู๋ช่วยดูแลไป๋จิ่นจื้อเป็นอย่างดีตลอดการทำสงครามที่ผ่านมา

เมื่อแม่ทัพหลิวหงเห็นว่าคนมาครบแล้วจึงหันไปทางไป๋ชิงเหยียน “ในเมื่อคนมาครบแล้ว องค์หญิงเจิ้นกั๋วเชิญแบ่งหน้าที่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นกล่าวขึ้น “เหลียงอ๋องก่อกบฏขึ้นที่เมืองหลวงของต้าจิ้น! ข้าและแม่ทัพหลิวหงต้องรีบนำทัพกลับไปคุ้มครองฝ่าบาท! ไป๋จิ่นจื้อและแม่ทัพจ้าวเซิ่งควบคุมกองทัพต้าจิ้นทั้งหมด กองทัพค่ายผิงอันและกองทัพจ้าวอยู่ที่เมืองหาน จากนั้นให้ขุนนางในราชสำนักต้าเหลียงเขียนหนังสือยอมจำนนประกาศให้ใต้หล้าได้รู้ว่าแคว้นต้าเหลียงตกเป็นของต้าจิ้นแล้ว”

แม่ทัพหลิวหงกำหมัดแน่น เขาเกือบนั่งไม่ติดที่ เขานึกไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะบอกเรื่องความวุ่นวายในเมืองหลวงของต้าจิ้นให้ทหารต้าเหลียงรับรู้ตามจริงเช่นนี้ หากแม่ทัพยอมจำนนเหล่านี้มีใจคิดเป็นอื่นจะทำเช่นไรกัน

แม่ทัพหลิวหงเข้าใจดีว่าเหตุใดไป๋ชิงเหยียนจึงทิ้งกองทัพต้าจิ้นทั้งหมดไว้ที่เมืองหาน หญิงสาวคงกลัวว่าเมื่อนางและเขาจากไป กองทัพต้าเหลียงอาจคิดกบฏขึ้นมาได้ ทว่า การที่หญิงสาวจะพาแม่ทัพที่ยอมจำนนของต้าเหลียงกลับไปยังต้าจิ้นทั้งหมดเช่นนี้ หากพวกเขาคิดไม่ซื่อระหว่างทางจะทำเช่นไรกัน

หลิวหงเป็นคนรอบคอบ ทว่า เขาคิดซ้ำไปซ้ำมาก็ยังหาแผนการที่รัดกุมและรอบคอบที่สุดไม่เจอ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยต้าเหลียงที่พวกเขาทำสงครามยึดมาได้อย่างยากลำบากให้หลุดลอยไปแน่นอน

ปล่อยให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วพาแม่ทัพยอมจำนนเหล่านี้กลับไปช่วยเหลือฝ่าบาทด้วยก็ได้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วนำคนเหล่านี้บุกโจมตีเมืองต้าเหลียงมาตลอดทาง องค์หญิงเจิ้นกั๋วคงมีทางควบคุมคนเหล่านี้อยู่กระมัง

แม่ทัพของต้าเหลียงมองหน้ากันไปมา ทว่า จ้าวเซิ่งรู้ดีว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องโค่นล้มราชวงศ์ต้าจิ้นแน่นอน

จ้าวเซิ่งคิดว่านี่ถือเป็นเรื่องดี คนที่เขายอมจำนนด้วยตั้งแต่แรกคือองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ใช่แคว้นต้าจิ้น

บัดนี้เมืองหลวงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเช่นนี้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะได้เข้าแทนที่ราชวงศ์ต้าจิ้นได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

เมื่อไม่มีราชวงศ์ต้าจิ้นที่ไม่มีปณิธานยิ่งใหญ่ คิดแต่จะปกป้องอำนาจของราชวงศ์ตัวเองคอยขัดขวาง ไป๋ชิงเหยียนต้องรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท