สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 848 ยาก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 848 ยาก

วันที่สาม เดือนห้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด สายลับที่จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าส่งไปสืบข่าวที่ต้าเหลียงกลับมารายงานหลี่หมิงรุ่ยว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วและแม่ทัพหลิวหงนำทัพใหญ่กลับมายังต้าจิ้นแล้ว ขณะที่เขาเดินทางนำข่าวกลับมารายงานที่เมืองหลวง ชาวบ้านระหว่างทางล้วนรับรู้เรื่องที่เหลียงอ๋องก่อกบฏหมดแล้ว

หลี่หมิงรุ่ยกำหมัดแน่น เขารู้ดีว่าจะรอช้าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขารีบขอให้เหลียงอ๋องสั่งทหารบุกโจมตีวังหลวงทันที พวกเขาต้องรีบไปข่มขู่ให้จักรพรรดิต้าจิ้นยกบัลลังก์ให้แก่เหลียงอ๋องให้ได้

ผู้ใดจะคิดว่าขณะที่ฟ่านอวี๋ไหวกำลังจะสั่งให้โจมตีวังหลวง ประตูอู่เต๋อถูกเปิดออกเองเสียก่อน

เซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีเดินออกมาจากประตูอู่เต๋อ เซี่ยอวี่จั่งกล่าวด้วยสีหน้าย่ำแย่ “ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้เชิญเหลียงอ๋องเข้าไปในวังหลวง”

วังหลวงเริ่มขาดเสบียงอาหารตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ทว่า เมื่อดินประสิวที่จักรพรรดิต้าจิ้นใช้สำหรับปรุงยาวิเศษมีไม่เพียงพอ เขาจึงสั่งให้เซี่ยอวี่จั่งเชิญเหลียงอ๋องเข้าไปในวังหลวง

หลู่เซียง เสนาบดีกรมทหารและเซี่ยอวี่จั่งพยายามห้ามปรามจักรพรรดิต้าจิ้นแล้ว ทว่า ไม่ได้ผล จักรพรรดิต้าจิ้นที่กำลังงมงายอยู่กับการปรุงยาวิเศษสั่งให้เซี่ยอวี่จั่งจับตัวหลู่เซียงและเสนาบดีกรมทหารเอาไว้ หลู่เซียงที่ปกติเป็นคนเจ้าเล่ห์คอยประจบจักรพรรดิต้าจิ้นโมโหจนด่าว่าจักรพรรดิต้าจิ้นเป็นทรราชย์

จักรพรรดิต้าจิ้นถือโอกาสนี้ปลดหลู่เซียงออกจากตำแหน่ง จากนั้นหันไปถามเซี่ยอวี่จั่งว่าจะฟังแต่คำสั่งของรัชทายาทใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจะถือว่าเขาขัดขืนราชโองการ…

เมื่อถูกคาดโทษหนักเช่นนี้ ฝูรั่วซีจึงรีบรั้งเซี่ยอวี่จั่งที่พร้อมตายเอาไว้ก่อน จากนั้นออกไปเชิญเหลียงอ๋องเข้ามาในวังหลวงพร้อมกับเซี่ยอวี่จั่ง

ทว่า ในใจของฝูรั่วซีและเซี่ยอวี่จั่งล้วนผิดหวังในตัวจักรพรรดิต้าจิ้นจนถึงที่สุดแล้ว พวกเขาไม่อยากให้บรรดาทหารต้องสละชีพเพื่อผู้นำแคว้นเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงออกมาเชิญเหลียงอ๋องเข้าไปในวังหลวงตามคำสั่งของจักรพรรดิต้าจิ้น

แม้รัชทายาทจะไม่ใช่ผู้นำที่ปรีชาชาญสักเท่าใดนัก ทว่า อย่างน้อยรัชทายาทก็ไม่ใช้คนเจ้าแผนการและเสแสร้งอย่างเหลียงอ๋อง อย่างน้อยรัชทายาทก็ยังรับฟังความเห็นของขุนนางอยู่บ้าง

ทว่า หากเหลียงอ๋องได้ขึ้นครองบัลลังก์ ไม่รู้ว่าแคว้นต้าจิ้นจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรบ้าง

เหลียงอ๋องเป็นคนรอบคอบ เมื่อได้ยินว่าจักรพรรดิต้าจิ้นเชิญเขาเข้าไปในวังหลวงจึงกลัวว่าจะมีกับดักรอตนอยู่ เขาสั่งให้ฟ่านอวี๋ไหวส่งคนไปคุ้มกันประตูวังทุกทิศต่อจากคนของเซี่ยอวี่จั่ง จากนั้นสั่งจับกุมตัวเซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีเอาไว้ ส่วนเขานำกองทัพใหญ่เข้าไปในวังหลวง สั่งให้ฟ่านอวี๋ไหวคุ้มกันหน้าวังหลวงเอาไว้

จักรพรรดิต้าจิ้นนั่งมองดูเหลียงอ๋องนำกองทัพเดินเข้ามาในตำหนักอยู่บนบัลลังก์ของตัวเอง เขามองดูเหลียงอ๋องคุกเข่าทำความเคารพ จากนั้นจึงตบมือลงบนที่วางแขนของบัลลังก์เบาๆ พลางเอ่ยขึ้น “เจ้านำทัพบุกเข้ามาในวังหลวงเพราะต้องการบัลลังก์นี้อย่างนั้นหรือ”

แม้ตอนนี้เหลียงอ๋องจะมีสีหน้านอบน้อมจักรพรรดิต้าจิ้น ทว่า เขาไม่มีสีหน้าหวาดกลัวอย่างที่เคยแสดงออกเมื่อก่อนแม้แต่น้อย เขาก้มศีรษะคำนับแนบพื้น จากนั้นกล่าวขึ้น “ลูกขอร้องให้เสด็จพ่อสละบัลลังก์พ่ะย่ะค่ะ…”

“ดี…ดีจริงๆ!” จักรพรรดิต้าจิ้นมองไปทางเหลียงอ๋องด้วยแววตาขุ่นมัว เขานึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองโอรสองค์นี้ของเขาผิดไป “เหลียงอ๋องเป็นโอรสที่ดีของเราจริงๆ ท่าทีอ่อนแอที่แสดงออกให้เราเห็นทุกวันเป็นเพียงการแสดงสินะ!”

“หากเจ้าต้องการบัลลังก์นี้เราก็จะยกให้ ทว่า เรามีเงื่อนไข…”

เหลียงอ๋องได้ยินเช่นนี้จึงส่อแววดีใจออกมาทันที เขารีบกล่าวขึ้น “เสด็จพ่อไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะไม่ทำร้ายเสด็จพี่รัชทายาทแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ…”

จักรพรรดิต้าจิ้นส่ายหน้า “เราไม่ได้จะขอร้องเรื่องรัชทายาท เราจะกล่าวเรื่องหอบูชาเก้าชั้นต่างหาก! ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้สำเร็จให้ได้! ดังนั้นหากเจ้าต้องการควบคุมราชสำนัก เราจะเขียนราชโองการให้เจ้าเป็นคนดูแลเรื่องในราชสำนักทั้งหมด ส่วนบัลลังก์นี้…เจ้าสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้เราสำเร็จเมื่อใด รวบรวมเด็กชายหญิงมาให้เราครบหนึ่งพันคนเมื่อใด เราจะสละบัลลังก์ให้เจ้าขึ้นครองราชย์แทนทันที!”

เหลียงอ๋องคิดว่าเสด็จพ่อจะขอร้องเขาเรื่องรัชทายาท นึกไม่ถึงเรื่องว่าสิ่งที่เสด็จพ่อเป็นห่วงมากที่สุดจะยังคงเป็นหอบูชาเก้าชั้น

เขาอดรู้สึกเวทนารัชทายาทขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้ในสายตาของเสด็จพ่อรัชทายาทก็ไม่ได้สำคัญสักเท่าใดนัก รัชทายาทเป็นคนที่เสด็จพ่อพร้อมสลัดทิ้งได้ทุกเมื่อเช่นกัน

เมื่อเห็นเหลียงอ๋องไม่ตอบ จักรพรรดิต้าจิ้นจึงกล่าวต่อ “หากเจ้าไม่ทำตามก็สังหารจักรพรรดิอย่างเราแล้วขึ้นครองราชย์เองเสียเลย! ทว่า เราส่งราชโองการลับออกจากวังหลวงให้รัชทายาทไปตามคนมาช่วยเหลือแล้ว! เช่นนี้เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นกบฏแย่งชิงบัลลังก์ตลอดไป!”

เหลียงอ๋องไม่ค่อยเชื่อคำของจักรพรรดิต้าจิ้น เขารู้สึกว่าเสด็จพ่อแค่ข่มขู่เขาเท่านั้น รัชทายาทหนีออกจากเมืองหลวงไปได้เดือนกว่าแล้ว หากเขามีราชโองการที่สามารถเรียกทัพเสริมมาได้จริง ป่านนี้ทัพเสริมคงมาถึงเมืองหลวงนานแล้ว

ทว่า หลี่หมิงรุ่ยที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังเหลียงอ๋องกลับรู้สึกว่ารัชทายาทอาจมีราชโองการลับนั้นอยู่ในมือจริงๆ ที่ตอนนี้ยังไม่มีทัพเสริมมาช่วยอาจเป็นเพราะรัชทายาทยังอยู่ในเมืองหลวง!

ใจของหลี่หมิงรุ่ยกระตุกวูบ เขาเงยหน้ามองไปทางเหลียงอ๋องแอบหนึ่ง ความคิดเห็นแก่ตัวความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง เขาอยากลอบส่งคนไปตามหาตัวรัชทายาท หากรัชทายาทมีราชโองการลับอยู่ในมือจริงๆ วันหน้าหากเหลียงอ๋องขึ้นครองราชย์ ราชโองการลับนั้นจะกลายเป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของเหลียงอ๋องที่ตระกูลหลี่มีไว้ในกำมือ

หลี่หมิงรุ่ยคำนวณเวลาเดินทางของกองทัพของไป๋ชิงเหยียนคร่าวๆ จากนั้นจึงกล่าวกับเหลียงอ๋องเสียงแผ่วเบา “องค์ชาย ขอเพียงฝ่าบาทยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ทุกคนในใต้หล้าจะคิดว่าองค์ชายได้ขึ้นครองราชย์อย่างชอบธรรมนะพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นหากฝ่าบาทสวรรคตลงตอนที่เรายังตัวรัชทายาทไม่ได้เช่นนี้ เมื่อองค์ชายขึ้นครองราชย์ ผู้อื่นอาจคิดว่าองค์ชายได้บัลลังก์มาครอบครองอย่างไม่ชอบธรรมได้พ่ะย่ะค่ะ ขุนนางที่มีใจคิดเป็นอื่นและขุนนางที่จงรักภักดีต่อรัชทายาทอย่างองค์หญิงเจิ้นกั๋วอาจใช้ข้ออ้างนี้ก่อกบฏขึ้นมาได้พ่ะย่ะค่ะ!”

เหลียงอ๋องเม้มปากแน่นไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น หอบูชาเก้าชั้นต้องใช้เวลาสร้างอีกตั้งเดือนกว่ากว่าจะสำเร็จ หากภายในหนึ่งเดือนนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วยกทัพกลับมาทัน…

เหลียงอ๋องมองไปทางจักรพรรดิต้าจิ้น

ถึงเวลานั้นตำแหน่งของเขาและจักรพรรดิต้าจิ้นคงสลับกัน เขาคงกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของจักรพรรดิต้าจิ้นแน่นอน

หลี่หมิงรุ่ยรู้ว่าเหลียงอ๋องกำลังกังวลเรื่องใดอยู่ เขารีบกล่าวเสียงเบา “องค์ชาย หากเราเร่งให้กรมโยธาสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้เร็วขึ้น สามารถสร้างเสร็จภายในยี่สิบวันได้พ่ะย่ะค่ะ”

เหลียงอ๋องรู้ดีว่าเสนาบดีกรมโยธาคือคนของหลี่เม่า หลี่หมิงรุ่ยก่อกบฏร่วมกับเขา หากแพ้ต้องโดนประหารทั้งตระกูล หากไม่มั่นใจว่าหอบูชาเก้าชั้นจะสร้างเสร็จได้ภายในยี่สิบวัน หลี่หมิงรุ่ยคงไม่กล่าวเช่นนี้ออกมา

“องค์ชายทรงตอบรับคำขอของฝ่าบาทเพื่อบัลลังก์ที่ชอบธรรมเถิดพ่ะย่ะค่ะ เรื่องหอบูชาเก้าชั้นและเด็กหญิงชายจำนวนหนึ่งพันคนไม่ใช่เรื่องยากสักนิดพ่ะย่ะค่ะ” หลี่หมิงรุ่ยเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง

เหลียงอ๋องได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองจักรพรรดิต้าจิ้น จากนั้นก้มศีรษะคำนับอีกครั้ง “เสด็จพ่อได้โปรดร่างราชโองการประกาศจับรัชทายาทในข้อหากบฏด้วยพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะจัดการเรื่องหอบูชาเก้าชั้นและเด็กชายหญิงหนึ่งพันคนให้เรียบร้อยภายในยี่สิบวันพ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของจักรพรรดิต้าจิ้นเคร่งขรึมลง “ภายในสิบวัน!”

เหลียงอ๋องขบกรามแน่นพลางมองไปทางหลี่หมิงรุ่ยที่อยู่ทางด้านหลัง

หลี่หมิงรุ่ยคำนวณอยู่ในใจ หากสามารถรวบรวมชาวบ้านมาช่วยสร้างหอบูชาเก้าชั้นได้มากขึ้นภายในสามวัน บางทีพวกเขาอาจสร้างหอบูชาเก้าชั้นเสร็จภายในสิบวันได้

สิ่งที่ยากก็คือเด็กชายและหญิงจำนวนหนึ่งพันคน ก่อนหน้านี้หลี่หมิงรุ่ยได้ยินราชครูเทพกล่าวว่าต้องการเด็กชายและหญิงที่มีอายุระหว่างห้าถึงสิบปีที่มาจากตระกูลสะอาดบริสุทธิ์ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกไปว่าจักรพรรดิต้าจิ้นต้องการชีวิตของเด็กชายและหญิงจำนวนหนึ่งพันนายมาปรุงยาวิเศษให้ตนเอง การรวบรวมเด็กจำนวนหนึ่งพันคนให้ครบภายในสิบวันถือเป็นเรื่องที่ยากมาก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท