สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 855 แผนร้าย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 855 แผนร้าย

หญิงชราเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนพลางร้องไห้ออกมาเช่นกัน “ครอบครัวที่มีเงินทองต่างใช้เงินซื้อชีวิตลูกหลานของพวกเขา ทว่า คนจนอย่างพวกเราจะทำเช่นไร ลูกหลานของคนจนอย่างพวกเราก็คือคนเหมือนกัน จะถูกส่งไปให้ฮ่องเต้ใช้ปรุงยาวิเศษได้เช่นไร องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดช่วยชีวิตเด็กสองคนนี่ด้วยเถิดเพคะ จะให้หม่อมฉันทำสิ่งใดเป็นการตอบแทนก็ได้ทั้งสิ้นเพคะ…เอาชีวิตหม่อมฉันไปแทนก็ได้ ได้โปรดช่วยด้วยเถิด! ได้โปรดเถิดเพคะ!”

หญิงชราเอาแต่โขกศีรษะลงบนพื้นอย่างแรง

เมื่อสตรีสาวเห็นว่าหญิงชราเอาแต่โขกศีรษะลงบนพื้น นางจึงทำตามบ้าง ก้อนหินที่อยู่ริมแม่น้ำกลายเป็นสีเลือด

“ท่านทั้งสอง!” ไป๋ชิงเหยียนรีบเข้าไปพยุงร่างของสตรีสาวและหญิงชราให้ลุกขึ้น

หลินคังเล่อรีบเข้าไปช่วยพยุงด้วยตาที่แดงก่ำเช่นกัน

หลิวหงรีบอธิบายกับคนทั้งสอง “ท่านทั้งสอง ฝ่าบาททรงมีราชโองการเกณฑ์เด็กเพื่อขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นพร้อมกับพระองค์เท่านั้น ไม่ได้จะใช้ชีวิตของเด็กเหล่านั้นปรุงยา พวกท่านกล่าววาจาให้ร้ายฝ่าบาทเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!”

เมื่อหญิงชราได้ยินคำกล่าวของหลิวหงจึงหันไปถ่มน้ำลายใส่เขา “เจ้าเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของฮ่องเต้สินะถึงได้แต่งคำพูดมาหลอกพวกเราเช่นนี้ หากข้ามอบเด็กให้พวกเขาจริงๆ เด็กๆ จะมีชีวิตรอดกลับมาอย่างนั้นหรือ! หากเป็นเช่นนั้นจริงเหตุใดไม่มอบลูกหลานของพวกเจ้าให้ฮ่องเต้เองเล่า!”

หลิวหงหลับตาลง เขาใช้มือเช็ดน้ำลายที่เปื้อนบนใบหน้าทิ้ง รู้สึกหวั่นวิตกที่ชาวบ้านโกรธแค้นจักรพรรดิต้าจิ้นถึงเพียงนี้

ชาวบ้านและคนของทางการที่ออกมาตามจับตัวหญิงชรา สตรีสาวและเด็กสองคนมองเห็นพวกนางถูกทหารในเครื่องแบบจับตัวได้แล้วจึงรีบชี้ไปทางไป๋ชิงเหยียนและหยางอู่เช่อ จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น “อยู่นั่น! อยู่ตรงนั้น ทหารจับพวกมันได้แล้ว!”

หญิงชราและสตรีสาวตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวทันทีที่ได้ยินเสียง พวกนางหันไปจับแขนไป๋ชิงเหยียนแน่นราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดร้าย

สตรีสาวเอ่ยขอร้องไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง “องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดช่วยลูกทั้งสองคนของหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ! ได้โปรดช่วยด้วยเพคะ ให้หม่อมฉันทำสิ่งใดตอบแทนก็ได้ทั้งสิ้นเพคะ”

หญิงชราเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนพลางร้องไห้ออกมาอย่างคนสิ้นหวัง “สามีและลูกชายของหม่อมฉันทั้งสามคนล้วนตายในสนามรบหมดแล้ว! ครอบครัวของเราเหลือเพียงเด็กสองคนนี้เท่านั้น เด็กสองคนนี้คือความหวังของครอบครัวเรา! ท่านคือทายาทของตระกูลไป๋ ท่านจะช่วยปกป้องคุ้มครองชาวบ้านอย่างพวกเราใช่หรือไม่ ขอเพียงท่านยินดีช่วยชีวิตหลานทั้งสองของหม่อมฉัน หม่อมฉันยินดีจะตายไปตอนนี้เลย ขอร้องเถิดเพคะ!”

“ท่านย่า ท่านแม่!”

เด็กทั้งสองคนสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมของทหารที่อุ้มพวกเขาอยู่ พวกเขาวิ่งเข้าไปหาย่าและมารดาของตัวเอง จากนั้นกอดย่าและมารดาไว้พลางร้องไห้ออกมา

สตรีสาวปล่อยแขนไป๋ชิงเหยียน จากนั้นรวบตัวบุตรทั้งสองเข้ามากอดไว้แนบอก นางหันไปมองชาวบ้านและทางการที่กรูกันมาทางพวกนางด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนอย่างสิ้นหวัง ความรู้สึกที่อยากปกป้องบุตรของตัวเองไว้ให้ได้ทว่าไม่มีปัญญา ทำให้นางรู้สึกปวดใจยิ่งนัก ใจของนางแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อบรรดาชาวบ้านเห็นทหาร พวกเขาจึงค่อยๆ ลดความเร็วลง ทว่า คนของทางการที่พกดาบมาด้วยกลับเดินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนและหลิวหงอย่างกล้าหาญ

เมื่อเห็นคนของทางการเดินเข้ามาใกล้ สตรีสาวกอดบุตรทั้งสองแน่นกว่าเดิม นางใช้มือลูบศีรษะของบุตรทั้งสองอย่างปลอบโยน นางไม่รู้จะทำเช่นไรดีจึงได้แต่ปิดหูของบุตรทั้งสอง จากนั้นกล่าวเสียงสะอื้น “หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่สามารถขัดราชโองการเพื่อช่วยเหลือพวกเราได้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดปล่อยพวกเราแม่ลูกไปเถิดเพคะ ให้พวกเราแม่ลูกตายไปพร้อมกันก็ยังดีกว่าถูกนำไปปรุงเป็นยาวิเศษเพคะ”

หลินคังเล่อกำหมัดแน่น เขาขบกรามแน่นโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น เหตุใดจักรพรรดิต้าจิ้นถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้กัน…

ไป๋ชิงเหยียนคุกเข่าลงตรงหน้าสตรีสาว กล่าวด้วยเสียงจริงจัง “ไม่เพียงแต่ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋เท่านั้น ทว่า ศรัทธาแรกเริ่มในการจัดตั้งกองทัพทุกกองทัพล้วนเป็นเพราะต้องการปกป้องคุ้มครองชาวบ้านให้ปลอดภัยทั้งสิ้น”

คนของทางการที่เดินทางมาถึงแววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นธงที่กองทัพชูขึ้นขณะพักอยู่กับที่ก็รู้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือแม่ทัพหลิวหงและองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขารีบเข้าไปทำความเคารพ “ขอบพระคุณองค์หญิงเจิ้นกั๋วและแม่ทัพหลิวหงที่ช่วยเหลือขอรับ!”

คนของทางการกล่าวพลางเอื้อมมือไปจับตัวเด็กทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอดของสตรีสาว หลินคังเล่อและหยางอู่เช่อที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียนชักดาบออกมาจ่อไปที่คอของทางการผู้นั้น

สีหน้าของหลินคังเล่อและหยางอู่เช่อเคร่งขรึม

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่าศรัทธาแรกเริ่มในการก่อตั้งกองทัพทุกกองทัพคือการปกป้องชาวบ้าน หญิงสาวหมายความว่าต้องการปกป้องชีวิตของเด็กทั้งสอง ที่สำคัญเด็กทั้งสองคนนี้คือทายาทของทหาร ในฐานะทหารด้วยกันหยางอู่เช่อและหลินคังเล่อจะปล่อยให้ทางการจับตัวเด็กสองคนนี้ไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกัน

โดยเฉพาะหลินคังเล่อที่รู้สึกเดือดดาลมาก จักรพรรดิต้าจิ้นไม่เห็นชาวบ้านเหล่านี้เป็นคน ทหารอย่างพวกเขาสละเลือดเนื้อสละชีพเพื่อบ้านเมือง พวกเขามีทายาทหลงเหลืออยู่เพียงแค่นี้ยังต้องสังเวยให้จักรพรรดิต้าจิ้นไปปรุงยาวิเศษอีกหรือ!

จักรพรรดิต้าจิ้นเห็นชีวิตทหารเป็นสิ่งใด! เห็นชาวบ้านเป็นตัวอันใด! เห็นเด็กเหล่านี้เป็นสิ่งใดกัน! จักรพรรดิต้าจิ้นเห็นพวกเขาเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่จะฆ่าแกงเมื่อใดก็ได้อย่างนั้นหรือ!

คนของทางการมองเห็นดาบคมของหลินคังเล่อและหยางอู่เช่อจึงรีบยิ้มประจบ “เดี๋ยวก่อนขอรับท่านแม่ทัพทั้งสอง…ข้าเพียงแค่ทำตามราชโองการเท่านั้น ราชโองการประกาศว่าต้องการสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้เสร็จภายในสิบวัน ให้พวกเรารวบรวมเด็กชายและเด็กหญิงอายุระหว่างห้าถึงสิบปีจำนวนหนึ่งพันคนให้ได้ภายในวันที่สี่ เดือนห้า! ตอนนี้พวกเราขาดแค่เด็กสองคนนี้เท่านั้น! หากรวบรวมไม่ครบ ไม่เพียงแต่หัวของข้าเท่านั้นที่จะขาด ทว่า ชาวบ้านทั้งหมดในเมืองชุนมู่จะพลอยเดือดร้อนไปด้วยนะขอรับ”

ชาวบ้านที่เดินตามทางการมาต่างพากันคุกเข่าขอร้อง “ท่านแม่ทัพ หากไม่มอบตัวเด็กเหล่านี้ให้ทางการพวกเราจะตายกันหมดขอรับ เบื้องบนมีคำสั่งว่าหากครอบครัวใดซุกซ่อนเด็กเอาไว้ เพื่อนบ้านละแวกนั้นจะโดนโทษด้วยขอรับ พวกเราจะตายกันหมดเพราะเด็กเพียงสองคนไม่ได้นะขอรับ!”

“ซู่ฉิน…เจ้ามีสติหน่อยได้หรือไม่ เจ้าช่วยพวกเราด้วยเถิด! หากเจ้าไม่ส่งตัวหู่ตั้นและนิวนิวให้ทางการ ครอบครัวของลุงสองทั้งครอบครัวจะพลอยเดือดร้อนไปกับเจ้าด้วยนะ!” ชาวบ้านคนหนึ่งคุกเข่าก้มศีรษะคำนับแนบพื้นให้สตรีสาว

“เหตุใดพวกเจ้าไม่ส่งลูกหลานของตัวเองไปเล่า!” สตรีสาวนามว่าซู่ฉินกอดบุตรทั้งสองของตัวเองแน่น “เด็กสองคนนี้คือชีวิตของข้า พ่อของพวกเขาตายในสนามรบที่หนานเจียง เหลือสายเลือดของเขาไว้เพียงสองคนเท่านั้น พวกเจ้ารังแกสตรีหม้ายอย่างข้าอย่างโหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!”

“ลูกหลานของครอบครัวใดไม่ใช่สายเลือดของครอบครัวนั้นกัน! ฝ่าบาทประกาศราชโองการลงมาเช่นนี้พวกเราจะทำสิ่งใดได้ ผู้ใดให้ลูกหลานของพวกเราอายุครบห้าปีในปีนี้พอดีกัน!” ชาวบ้านคนหนึ่งร้องไห้เกลี้ยกล่อมสตรีสาว “หลานชายของข้าเพิ่งอายุครบห้าปีเมื่อวาน ทว่า กลับถูกเพื่อนบ้านที่กลัวเดือดร้อนไปด้วยจับตัวส่งให้ทางการไปแล้ว หลานชายของข้าเพิ่งอายุครบห้าปีเมื่อวานแท้ๆ…”

เมื่อชาวบ้านผู้นั้นร้องไห้ ชาวบ้านคนอื่นที่ตามมาจับตัวสามแม่ลูกก็พากันร้องไห้ตาม บุตรหลานของทุกคนในนี้ล้วนถูกส่งตัวไปยังทางการแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนขบกรามแน่น รู้สึกเดือดดาลขึ้นทันที

“ให้ตายเถิด!” หลิงคังเล่อสบถออกมา “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ต่อให้วันนี้กระหม่อมต้องออกจากการเป็นทหาร กระหม่อมก็จะไม่มีวันส่งตัวเด็กเหล่านี้ไปพ่ะย่ะค่ะ”

หลิวหงเห็นดังนี้จึงเริ่มร้อนใจ

“นี่ต้องไม่ใช่พระประสงค์ของฝ่าบาทแน่ อาจ…เป็นแผนการชั่วร้ายของเหลียงอ๋อง ต้องเป็นเหลียงอ๋องแน่นอน!” หลิวหงกล่าวเสียงดัง “เหลียงอ๋องคือกบฏ เขาต้องบังคับให้ฝ่าบาทเขียนราชโองการเช่นนี้ขึ้นมาแน่นอน!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท