สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 862 กองกำลังพิเศษ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 862 กองกำลังพิเศษ

“ช้าก่อนเจ้าค่ะพี่หญิงห้า!” ไป๋จิ่นหวาเอ่ยห้าม นางมองไปทางกองทัพที่กำลังเคลื่อนพลเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์สีดำ จากนั้นกล่าวขึ้น “พี่หญิงใหญ่อยู่ไกลถึงซั่วหยาง คำนวณจากเวลาแล้วพี่หญิงใหญ่ไม่มีทางกลับมาถึงเร็วเพียงนี้หรอกเจ้าค่ะ บัดนี้พวกเรายังไม่รู้ว่านั่นคือมิตรหรือศัตรู ไม่แน่นี่อาจเป็นแผนการของหลี่หมิงรุ่ยที่ต้องการล่อให้พวกเราออกไปติดกับก็ได้ ดังนั้นเราควรอยู่คุ้มกันเมืองซั่วหยางให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ!”

ไป๋จิ่นเจาที่กำลังเหนื่อยหอบเห็นด้วยกับคำกล่าวของไป๋จิ่นหวา สีหน้าตื่นเต้นของสาวน้อยสงบลงทันที จากนั้นพยักหน้าน้อยๆ

ตอนที่ไป๋ชิงผิงเห็นธงสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ก็ดีใจจนลืมฉุกคิดไปเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินไป๋จิ่นหวากล่าวเช่นนี้ เขาจึงตะโกนสั่ง “ตีกลอง เตรียมพร้อม!”

ไม่นานพลธนูกลุ่มแรกก็ขึ้นไปยืนอยู่บนกำแพงเมืองอีกครั้ง พวกเขาเล็งไปด้านล่างกำแพง พลธนูกลุ่มที่สองและสามต่อแถวย่อกายเตรียมพร้อมรับช่วงต่ออยู่ด้านล่างกำแพง

ทหารซั่วหยางและชาวบ้านอาศัยช่วงที่ได้พักหายใจนี้ขนหินขึ้นไปบนกำแพงเพื่อเตรียมรับมือกับสงครามครั้งต่อไป

หลี่หมิงรุ่ยพาทหารหนีไปทางทิศเหนือ เหล่าทหารภายใต้การนำของจี้ถิงอวี๋ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองซั่วหยางเปลี่ยนทิศทางไล่ตามกองทัพของหลี่หมิงรุ่ยไปทางทิศเหนือทันที

ไป๋จิ่นเจากำธนูในมือแน่น สาวน้อยเห็นกองทัพที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใดไล่ตามกองทัพของหลี่หมิงรุ่ยไปอย่างรวดเร็วและดุดัน ภาพตรงหน้าน่าสะพรึงมากจนไป๋จิ่นเจาตกตะลึง นี่คือสนามรบจริงๆ อย่างนั้นสินะ

การต่อสู้ที่นอกเมืองยังคงดำเนินต่อไป ใบหน้าของพลธนูที่ย่อกายเตรียมพร้อมอยู่บนกำแพงเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่หยดลงสู่พื้น ทว่า ไม่มีผู้ใดกล้าลดธนูลงแม้แต่คนเดียว

กองทัพที่โผล่มาเมื่อสักครู่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและดุเดือด หากพวกเขาทำลายศัตรูหมดแล้วย้อนกลับมาโจมตีเมือง พวกเขาต้องเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา

เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า กลุ่มของไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาเห็นคนนำกองกำลังพิเศษกลุ่มนั้นมุ่งหน้ามาทางเมืองซั่วหยางอีกครั้ง ไป๋ชิงผิงยกมือขึ้นสูง “พลธนูเตรียมพร้อม!”

แม่ทัพของกองกำลังนั้นที่มีแขนเพียงข้างเดียวขี่ม้าเร็วมาหยุดอยู่ด้านหน้ากำแพงเมือง เขามองดูพื้นที่เต็มไปด้วยลูกธนูและศพของทหารกองทัพจิ้น เขาหยุดม้าลงพลางถอดหมวกเกราะออกจากศีรษะ จากนั้นตะโกนลั่น “จี้ถิงอวี๋นำทัพมาช่วยเหลือเมืองซั่วหยาง ทำลายศัตรูจนราบคาบ จับเป็นหลี่หมิงรุ่ยได้แล้วขอรับ ช่วยเปิดประตูเมืองด้วยขอรับ!”

ไป๋จิ่นเจาเบิกตาโพลง นางมองไปทางจี้ถิงอวี๋ที่เหลือแขนเพียงข้างเดีย ผิวคล้ำและผอมซูบกว่าเดิมที่อยู่ด้านล่างกำแพง ขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้นทันที “นั่นจี้ถิงอวี๋! รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า!”

ไป๋ชิงผิงไม่รู้จักจี้ถิงอวี๋ ทว่า เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นของคุณหนูห้าไป๋จิ่นเจา เขาจึงมองไปทางคุณหนูหกไป๋จิ่นหวาอย่างขอความเห็น ไป๋จิ่นหวาหันมามองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จากนั้นกล่าวขึ้น “รีบเปิดประตูเมือง นั่นคือคนของกองทัพไป๋ กองทัพไป๋จริงๆ!”

จี้ถิงอวี๋ได้รับคำสั่งจากไป๋ชิงเหยียนให้ซุ่มฝึกซ้อมทหาร ตอนที่เขาได้ยินเรื่องที่เหลียงอ๋องก่อกบฏในเมืองหลวง เดิมทีเขาตั้งใจจะนำกองทัพบุกไปซ่อนตัวอยู่แถวเมืองหลวง หากคุณหนูใหญ่และคุณหนูสี่กลับมาไม่ทัน เขาจะได้บุกเข้าไปยึดเมืองหลวงไว้ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้าย

ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าเหลียงอ๋องจะส่งหลี่หมิงรุ่ยมาโจมตีเมืองซั่วหยางเช่นนี้ คุณหนูรองมีกองทัพหย่วนผิงอยู่ในมือ บัดนี้หญิงสาวกำลังนำกองทัพบุกเข้าไปโจมตีเมืองหลวงแล้ว

จี้ถิงอวี๋จึงตัดสินใจนำทัพมาช่วยเหลือซั่วหยางก่อน

เมื่อเข้ามาในเมืองซั่วหยาง จี้ถิงอวี๋ตรงไปยังจวนไป๋ทันทีโดยไม่รีรอ

เมื่อต่งซื่อได้ยินว่าจี้ถิงอวี๋นำทัพมาช่วยเหลือซั่วหยาง ขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้นทันที ที่แท้บุตรสาวของนางเตรียมการเรื่องในซั่วหยางไว้พร้อมก่อนที่จะเดินทางไปยังต้าเหลียงแล้ว

นางคาดไม่ถึงเลยว่าผู้ที่นำทัพมาช่วยเหลือสถานการณ์ในซั่วหยางจะเป็นจี้ถิงอวี๋…ผู้ที่เคยสละชีพเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตระกูลไป๋ ผู้ที่เกือบถูกองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์หลินผู้เป็นแม่สามีของนางฆ่าปิดปากผู้นั้น

ต่งซื่อพยายามข่มความเจ็บปวดที่มีในใจ ลุกขึ้นยืน จากนั้นพาฮูหยินสามหลีซื่อ ฮูหยินสี่หวังซื่อและฮูหยินห้าฉีซื่อออกไปต้อนรับจี้ถิงอวี๋ที่หน้าจวนไป๋

จี้ถิงอวี๋ ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาขี่ม้าเร็วไปตามถนนท่ามกลางสายตาของชาวบ้านในเมืองซั่วหยาง

เมื่อเห็นฮูหยินทั้งสี่ของตระกูลไป๋ยืนรออยู่ที่หน้าจวนไป๋ จี้ถิงอวี๋กระตุกบังเหียนม้าให้หยุดลง จากนั้นกระโดดลงจากหลังม้าโดยไม่รอให้ม้าหยุดสนิท เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น วางแขนที่เหลือเพียงข้างเดียวไว้บนเข่า จากนั้นกล่าวเสียงดัง “จี้ถิงอวี๋คารวะฮูหยินทั้งสี่ขอรับ!”

“รีบลุกขึ้นเถิด!” ต่งซื่อรีบเดินลงมาจากบันไดสูง ประคองจี้ถิงอวี๋ให้ลุกขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างแดงฉาน

“สองปีที่เจ้าจากไป ข้าคิดตระกูลไป๋ทำร้ายจิตใจของเจ้าจนเจ้าไม่อยากกลับมาที่ตระกูลไป๋อีกแล้ว!”

จี้ถิงอวี๋เม้มปากแน่น จากนั้นกล่าวขึ้น “จี้ถิงอวี๋คือคนของกองทัพไป๋ คือบ่าวใช้ของตระกูลไป๋และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮูหยินห้าฉีซื่อได้ยินดังนี้จึงรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา

ฮูหยินสามหลีซื่อรีบกล่าวขึ้น “ให้จี้ถิงอวี๋เข้าไปพักผ่อนด้านในก่อนเถิด”

“ไม่แล้วขอรับฮูหยินสาม” จี้ถิงอวี๋กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “บัดนี้คุณหนูรองกำลังนำทัพหย่วนผิงปิดล้อมเมืองหลวงอยู่ จี้ถิงอวี๋ต้องรีบเดินทางไปช่วยคุณหนูรองขอรับ นอกจากกองทัพซั่วหยางแปดพันนายแห่งภูเขาหนิวเจี่ยวที่คุณหนูใหญ่ทิ้งไว้คุ้มครองเมืองซั่วหยางแล้ว ทหารแห่งภูเขาหนิวเจี่ยวอีกสองพันนายจะอยู่คุ้มครองที่นี่ต่อขอรับ ฮูหยินทั้งสี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ!”

ต่งซื่อพยักหน้า “ลำบากเจ้าแล้ว ไปเถิด!”

“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่!” ไป๋จิ่นเจาเดินไปด้านหน้าพลางคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น “ไป๋จิ่นเจาขออนุญาตตามจี้ถิงอวี๋ไปช่วยเหลือพี่หญิงรองที่เมืองหลวงด้วยเจ้าค่ะ”

“คุณหนูห้าอยู่ที่ซั่วหยางดีกว่าขอรับ กันไว้ดีกว่าแก้” จี้ถิงอวี๋กล่าวกับไป๋จิ่นเจา “ซั่วหยางคือสถานที่ที่สำคัญที่สุด ฮูหยินและคนตระกูลไป๋ทุกคนล้วนอยู่ในซั่วหยาง หากประมาทพวกเราอาจถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่คุณหนูใหญ่ได้ คุณหนูห้าอยู่คุ้มครองเมืองซั่วหยางถือว่าเป็นการช่วยเหลือคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองที่ดีที่สุดแล้วขอรับ”

ไป๋จิ่นเจาขมวดคิ้วแน่น ครู่หนึ่งจึงลุกขึ้นยืน จากนั้นพยักหน้าให้จี้ถิงอวี๋ “ฝากบอกพี่หญิงรองด้วยว่าข้าจะคุ้มครองเมืองซั่วหยางให้ดี พี่หญิงรองไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้”

วันที่เจ็ด เดือนห้า รัศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด กองทัพหย่วนผิงที่นำโดยไป๋จิ่นซิ่วและกองทัพไป๋ภายใต้การนำของจี้ถิงอวี๋โจมตีเมืองหลวงได้สำเร็จ เหลียงอ๋องสั่งให้คนนำตัวรัชทายาท พระชายาเอกและองค์ชายน้อยออกมาจากคุก จากนั้นจับรัชทายาทเป็นตัวประกัน ให้กองกำลังรักษาพระองค์ถอยหนีไปคุ้มกันวังหลวงเอาไว้

สถานการณ์ของเหลียงอ๋องตกเป็นรองไป๋จิ่นซิ่วภายในเวลาไม่ถึงเดือน บัดนี้เหลียงอ๋องถอยไปคุ้มกันวังหลวงเอาไว้ กองทัพของไป๋จิ่นซิ่วจ่ออยู่หน้ากำแพงวังหลวง

เหลียงอ๋องถูกเซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีเชิญเข้าไปในวังหลวงในวันที่ยี่สิบสาม เดือนสี่ เขาเชื่อคำแนะนำของหลี่หมิงรุ่ยที่ให้คอยระวังองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่จงรักภักดีต่อรัชทายาท หลี่หมิงรุ่ยกล่าวว่าเมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับมาเมืองหลวงแล้วพบว่าเหลียงอ๋องได้ขึ้นครองราชย์แล้ว หญิงสาวอาจจับรัชทายาทไปเป็นตัวประกันและก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีกได้

ดังนั้นหลังจากที่เหลียงอ๋องควบคุมวังหลวงได้แล้ว เขาจึงสั่งให้วังหลวงเตรียมกักตุนเสบียงอาหาร จากนั้นให้คนนำราชโองการและป้ายอาญาสิทธิ์ไปเชิญกองทัพผิงหยางมาคุ้มครองที่เมืองหลวงตามคำแนะนำของหลี่เม่า

ไป๋จิ่นซิ่วต้องการเตรียมการให้พี่หญิงใหญ่ของตนได้เข้าแทนที่ราชวงศ์หลิน หญิงสาวต้องพยายามรั้งไม่ให้เหลียงอ๋องลงมือกับจักรพรรดิต้าจิ้นและรัชทายาทในตอนนี้ หญิงสาวต้องยื้อไว้จนกว่าพี่หญิงใหญ่จะกลับมาถึงเมืองหลวง

เหลียงอ๋องไม่ตอบโต้ใดๆ เช่นเดียวกัน เป้าหมายของเหลียงอ๋องคือการถ่วงเวลาเช่นเดียวกัน เขาต้องถ่วงเวลาไว้จนกว่ากองทัพผิงหยางจะมาถึงเมืองหลวง กลายเป็นกองกำลังพิเศษของเขา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท