ตอนที่ 880 ถือโอกาสก่อความวุ่นวาย
“ว่าอย่างไรนะ!” ฮูหยินห้าอุทานออกมาอย่างตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เสียงสั่นระริก “เจ้ากล่าวอีกรอบสิ!”
คุณชายเจ็ด!
ไป๋ชิงเจวี๋ย!
ต่งซื่อกำที่วางแขนแน่นพลางหันไปมองฮูหยินสี่หวังซื่อ
องครักษ์ไป๋กล่าวจบก็เงยหน้าที่ไม่รู้ว่าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาตั้งแต่เมื่อใดขึ้น เขามองไปทางฮูหยินทุกคนที่มีสีหน้าตกตะลึง จากนั้นกล่าวเสียงสะอื้น “ฮูหยิน คุณชายเจ็ดยังมีชีวิตอยู่ขอรับ คุณชายเจ็ดยังมีชีวิตอยู่ขอรับ!”
ลูกประคำที่อยู่ในมือของฮูหยินสี่หล่นลงพื้น นางรีบก้มหยิบขึ้นมา จากนั้นเอ่ยถามทั้งน้ำตา “เจ้าบอกว่าอาเจวี๋ยจะกลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ”
“ท่านแม่!” ไป๋จิ่นเจารีบเข้าไปช่วยประคองฮูหยินสี่ “พี่ชายเจ็ดจะกลับมาแล้วเจ้าค่ะ นี่คือเรื่องดีเจ้าค่ะ เหตุใดท่านแม่ต้องร้องไห้เจ้าคะ” ไป๋จิ่นหวาเข้าไปประคองฮูหยินสี่ทางด้านขวา จากนั้นกล่าวเสียงสะอื้น “พี่ชายเจ็ดจะกลับมาแล้ว! ท่านแม่ พี่ชายเจ็ดจะกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”
แม้ไป๋ชิงเหยียนจะบอกฮูหยินสี่หวังซื่อนานแล้วว่าไป๋ชิงเจวี๋ยยังมีชีวิตอยู่ ทว่า หวังซื่อคิดว่าชาตินี้นางคงไม่ได้พบหน้าบุตรชายของนางอีกแล้ว นางสวดมนต์ภาวนาทุกวันว่าอย่างน้อยก็ขอให้ได้เจอหน้าบุตรชายของตัวเองก่อนตายสักครั้ง นึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะส่งคนกลับมาบอกว่าไป๋ชิงเจวี๋ยจะกลับมายังซั่วหยาง มารับพวกนางกลับเมืองหลวงในอีกไม่ช้านี้
“เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่ เป็นอาเจวี๋ยจริงๆ ใช่หรือไม่” ฮูหยินสามถามอย่างร้อนรน
“คุณหนูใหญ่บอกข้าด้วยตัวเองขอรับ นางบอกว่าฮูหยินทุกท่านไม่ต้องรีบร้อนกลับเมืองหลวง คุณชายเจ็ดจะนำกองทัพไป๋มาคุ้มกันฮูหยินทุกท่านไปยังเมืองหลวงขอรับ คุณหนูใหญ่ยังกำชับอีกว่าให้ข้าเรียนฮูหยินทุกท่านว่าคุณชายเจ็ดยังมีชีวิตอยู่ขอรับ!”
หลี่ซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากร้องไห้ น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย
ฮูหยินห้าฉีซื่อกำที่วางแขนของเก้าอี้แน่นเช่นเดียวกัน นางถามอย่างกลั้นสะอื้น “คุณชายเจ็ดยังมีชีวิตอยู่ แล้วคุณชายคนอื่นๆ เล่า พวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”
ไป๋ชิงเจวี๋ยยังมีชีวิตอยู่แสดงว่าลูกๆ ของพวกนางคนอื่นๆ อาจจะยังมีวิตอยู่เหมือนกันใช่หรือไม่!
มีคนรอดชีวิตมาจากความตายได้คนหนึ่ง แสดงว่าเด็กคนอื่นๆ ก็อาจรอดชีวิตเหมือนกันใช่หรือไม่
สวรรค์มีตา ได้โปรดพาเด็กๆ เหล่านั้นกลับมาทั้งหมดได้หรือไม่
ข่าวการมีชีวิตอยู่ของไป๋ชิงเจวี๋ยทำให้ทุกคนในตระกูลไป๋ตกตะลึงยิ่งกว่าข่าวการขึ้นครองราชย์ของไป๋ชิงเหยียนในวันที่ยี่สิบ เดือนหกนี้เสียอีก
บางทีอาจเป็นเพราะฮูหยินไป๋ทุกคนมองออกตั้งนานแล้วว่าราชวงศ์หลินเน่าเฟะจนถึงรากเหง้า การผลัดเปลี่ยนแผ่นดินคงเกิดขึ้นในไม่ช้า ที่สำคัญบรรดาฮูหยินของตระกูลไป๋ล้วนเป็นคนฉลาด พวกนางพอจะมองออกอยู่แล้วว่าไป๋ชิงเหยียนจะขึ้นแทนที่ราชวงศ์หลินในสักวันหนึ่ง ทว่า บุรุษตระกูลไป๋ถูกบันทึกในรายงานสถานการณ์รบว่าเสียชีวิตลงหมดแล้ว!
ลำคอของต่งซื่อร้อนผ่าว นางพยายามห้ามใจไม่ถามออกไปว่าอาอวี๋จะกลับมาหรือไม่ นางกำที่วางแขนของเก้าอี้อย่างแรง
“คุณหนูใหญ่ประกาศตามคุณชายตระกูลไป๋และกองทัพไป๋ที่มีชีวิตรอดจากสงครามหนานเจียงในรัชศกเซวียนเจียให้รีบกลับมาร่วมพิธีราชาภิเษกของคุณหนูใหญ่และร่วมสานปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลไป๋ร่วมกับนางต่อไปแล้วขอรับ! บัดนี้ราชโองการถูกส่งไปยังเมืองต่างๆ แล้วขอรับ อีกไม่นานทั่วทั้งแคว้นคงรับรู้เรื่องนี้แล้วขอรับ”
ฮูหยินห้าฉีซื่อถอนหายใจยาวออกมา นางหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง จากนั้นหยัดแผ่นหลังงตรงพลางมองไปทางต่งซื่อ “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ อาเป่าขึ้นครองบัลลังก์โดยไม่กลัวคำครหาของผู้อื่นเพราะนางต้องการให้คนตระกูลไป๋ กองทัพไป๋ที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เดินทางกลับมาอย่างสง่าผ่าเผย แคว้นต้าจิ้นผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแล้ว อาเป่าต้องการให้พวกเขารับรู้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถใส่ร้ายว่าพวกเขาเป็นกบฏได้อีกแล้ว แผ่นดินนี้ตกเป็นของตระกูลไป๋แล้วเจ้าค่ะ!”
พวกนางรู้ดีว่าหลังจากที่บุรุษทุกคนของตระกูลไป๋เสียชีวิตลงในสงครามที่หนานเจียง ไป๋ชิงเหยียนต้องแบกภาระหน้าที่ที่หนักหนาของตระกูลไป๋ ทว่า พวกนางไม่คิดเลยว่าภาระหน้าที่ที่อยู่บนบ่าของไป๋ชิงเหยียนจะหนักอึ้งถึงเพียงนี้
พวกนางไม่รู้เลยสักนิดว่าอาเป่าเริ่มวางแผนเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อใด หากพวกนางรู้สักนิด…อย่างน้อยพวกนางจะได้เอ่ยปากขอร้องให้ตระกูลฝั่งมารดาของพวกนางช่วยไป๋ชิงเหยียนอีกแรง!
แม้ในสายตาของผู้อื่นไป๋ชิงเหยียนจะเป็นแม่ทัพที่ไร้เทียมทาน มีความสามารถรอบด้าน ทว่า ในสายตาของเหล่าอาสะใภ้อย่างพวกนาง อาเป่าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
ลำคอของต่งซื่อร้อนผ่าว ดวงตาสองข้างพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา นางพยักหน้าลงน้อยๆ “หวังว่าจะมีคนตระกูลไป๋ที่รอดชีวิตในสนามรบกลับมาได้! อย่างน้อยก็ให้เด็กเหล่านั้นปลอดภัยกลับมาทั้งหมด การลำบากในครั้งนี้ของอาเป่าก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!”
หลี่ซื่อพยักหน้าทั้งน้ำตา “หวังว่าสวรรค์จะมีตา ให้อาลั่วและอาอวิ๋นกลับมาอย่างน้อยสักคนก็ยังดี แม้เพียงสักคนก็ยังดี…”
ความดีใจปนเศร้าใจเกิดขึ้นกลางโถงรับรองของจวนไป๋ที่สว่างด้วยแสงเทียน บรรดาฮูหยินกอดคอกันร้องไห้ ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าลูกๆ ของพวกนางทุกคนจะมีชีวิตรอดกลับมาร่วมพิธีบรมราชาภิเษกของไป๋ชิงเหยียน
ฮูหยินห้าก้มหน้าร้องไห้อยู่สักพัก จากนั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่หางตา กล่าวเสียงหนักแน่น “พี่สะใภ้ใหญ่ บัดนี้อาเป่าขึ้นครองบัลลังก์แล้ว พวกเรามีเรื่องต้องทำเพื่อช่วยเหลือนางอีกมากมาย พวกเราให้คนส่งจดหมายกลับไปยังตระกูลฝั่งมารดาเถิดเจ้าค่ะ ตระกูลฝั่งมารดาของพวกเรามีอำนาจในเมืองต่างๆ อยู่เหมือนกัน แม้จะช่วยเหลือเรื่องใหญ่ไม่ได้ อย่างน้อยช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อยก็ยังดีเจ้าค่ะ การผลัดเปลี่ยนแผ่นดินต้องควบคุมอำนาจในแต่ละเมืองให้ได้ อาเป่าเป็นสตรี ต้องมีคนถือโอกาสนี้ก่อความวุ่นวายขึ้นมาแน่นอนเจ้าค่ะ”
“น้องสะใภ้ห้ากล่าวถูกแล้ว!” หลี่ซื่อได้สติขึ้นมาเช่นเดียวกัน “ข้าจะเขียนจดหมายส่งไปให้ตระกูลฝั่งมารดาของข้าเจ้าค่ะ”
ฮูหยินสี่ที่ร้องไห้จนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหวรีบพยักตามทันที “ทว่า คำกล่าวของข้าไม่ค่อยสำคัญ ไม่รู้ว่าตระกูลฝั่งมารดาของข้าจะทำตามหรือไม่เจ้าค่ะ”
แม้ฮูหยินสี่จะเป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาเอก ทว่า น้องชายแท้ๆ ของนางเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ท่านแม่ของนางเจ็บป่วยจนไม่อาจมีบุตรได้อีก ตระกูลหวังจึงให้ท่านแม่ของนางรับบุตรอนุในตระกูลหวังไปเป็นบุตรแท้ๆ บัดนี้บุตรอนุผู้นั้นคือประมุขของตระกูลหวัง เขาคงไม่ฟังคำของนาง
“พี่สะใภ้สี่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ อาเป่ากำลังจะขึ้นครองราชย์ คนฉลาดจะเอนเอียงไปตามอำนาจอยู่แล้วเจ้าค่ะ…” ฮูหยินห้าฉีซื่อกล่าว
จวนไป๋ไม่ได้จงใจปิดข่าว ข่าวเรื่องนี้จึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานตระกูลบรรพบุรุษไป๋ก็ทราบข่าวเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนกำลังจะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี ทุกคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ดีใจจนแทบเสียสติ
เมื่อฟางซื่อภรรยาของไป๋ฉีเหอรู้ข่าวเรื่องนี้ก็ดีใจมาก ทว่า อดบ่นไป๋ฉีเหอและไป๋ชิงผิงไม่ได้
“สองพ่อลูกคู่นี้ช่างเป็นปรปักษ์กับข้าเสียจริง” ฟางซื่อในชุดกระโปรงยาวสีเขียวอ่อนเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นบ่นกับผูหลิ่ว “ตอนนั้นข้าบอกให้ท่านพี่และอาผิงพาบุตรสาวทั้งสองไปยังจวนไป๋บ่อยๆ ให้พวกนางปรากฏตัวต่อหน้าองค์หญิงเจิ้นกั๋วบ่อยๆ ล้วนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พวกนางควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ถึงจะถูก”
ฟางซื่อสะบัดผ้าเช็ดหน้าอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำเพราะความโมโห “ทว่า พวกเขากลับไม่สนใจคำกล่าวของข้า! ราวกับว่าบุตรสาวทั้งสองของข้าไม่ใช่บุตรของท่านพี่ ไม่ใช่น้องสาวของอาผิงอย่างนั้น พวกเขาไม่สนใจพวกนางเลยสักนิด! คนเนรคุณ ไม่ทำเพื่อน้องสาวของตัวเอง ยังกลัวว่าข้าจะส่งบุตรทั้งสองไปสืบความลับจากจวนไป๋อีก! แล้วดูตอนนี้สิ ไป๋ชิงเหยียนจะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแล้ว บุตรสาวสองคนของข้ายังไม่สนิทสนมกับนางเลยด้วยซ้ำ!”