สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 908 เสียชีวิตที่หนานเจียง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 908 เสียชีวิตที่หนานเจียง

หงเชี่ยวรู้ดีว่าต้าจิ้นกำลังจะดับสลายลงแล้ว เหลียงอ๋องจึงต้องการพยายามครั้งสุดท้าย

เดิมทีพวกนางคือบ่าวรับใช้ขององค์ชายรอง ต่อมาถูกเหลียงอ๋องช่วยชีวิตเอาไว้ เหลียงอ๋องทำเพื่อถงกุ้ยเฟยและองค์ชายรองมาทั้งชีวิต บ่าวอย่างพวกนางจะถอยหนีได้อย่างไรกัน

หงเชี่ยวพยักหน้า “เพคะ!”

“ช่วยฟ่านอวี่ไหวและแม่ทัพที่ติดตามข้ามาทั้งหมดออกมาจากคุก ให้พวกเขาตามข้าไปช่วยเหลือเสด็จพ่อ!”

“แล้วพวกหลี่เม่าล่ะเจ้าคะ” หงเชี่ยวถามต่อ

“พวกไม่มีประโยชน์ช่วยไปก็เท่านั้น ปล่อยพวกนั้นไปตามยถากรรม” เหลียงอ๋องจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นสาวเท้าเดินออกไปจากคุก

เมืองลั่วหงเกิดความวุ่นวายครั้งยิ่งใหญ่ ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงร้อง เปลวเพลิงลุกโหมขึ้น…

มีคนแหกคุกช่วยเหลียงอ๋องออกมา มีคนถือโอกาสช่วงโกลาหลเข้าไปช่วยลูกหลานของตัวเองออกมา

ชาวบ้านที่ลูกหลานถูกจักรพรรดิต้าจิ้นจับตัวไปคิดได้ว่าลูกหลานของตนเองยังถูกขังอยู่ในจวนว่าการราวกับสัตว์จะไม่ร้อนใจได้อย่างไรกัน

ชายฉกรรจ์ที่พร้อมช่วยเหลือเด็กเหล่านั้นโดยไม่กลัวตายวิ่งไปเคาะประตูเรียกชายฉกรรจ์คนอื่นๆ ประมาณยี่สิบคนที่เด็กถูกจับตัวไปเช่นเดียวกันถืออาวุธที่มีในจวนของตัวเองมุ่งหน้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ออกมาจากจวนว่าการ

ทหารทั้งหมดของจวนว่าการถูกเรียกไปต่อต้านศัตรูหมดแล้ว มีเพียงทหารหกคนอยู่เฝ้าเด็กที่ถูกขังอยู่ในจวนว่าการเท่านั้น

ผู้นำของชาวบ้านกลัวว่าการบุกเข้าไปต่อสู้ซึ่งๆ หน้าอาจพลาดทำให้เด็กๆ ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเขาเห็นควันไฟที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงจึงคิดวิธีออกทันที เขาพาชาวบ้านสามคนอ้อมไปจุดไฟเผาหลังจวนว่าการ

เมื่อเปลวไฟล่อทหารคุ้มกันจวนว่าการเหล่านั้นออกไปได้ ชาวบ้านจึงพังประตูเข้าไปด้านใน พวกเขาใช้ค้อนทุบกรงที่ถูกล่ามด้วยโซ่ จากนั้นช่วยเหลือเด็กๆ หนีออกไปนอกจวน…

ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขายังไม่ทันหนีออกไปสำเร็จ พวกเขาก็เห็นทหารพกดาบสิบกว่านายบุกเข้ามาในจวนว่าการเสียก่อน ชายฉกรรจ์ยี่สิบกว่าคนรีบซ่อนตัวเด็กๆ ไว้ทางด้านหลัง บางคนชูเคียวของตัวเองขึ้น บางคนยกค้อนในมือขึ้นราวกับพร้อมจะปกป้องลูกหลานของพวกเขาจนตัวตาย

“ท่านพ่อข้ากลัวเจ้าค่ะ!” เด็กสาวคนหนึ่งกอดขาบิดาของตัวเองแน่น นางมองไปทางทหารที่อยู่หน้าประตูทั้งน้ำตาพลางตะโกนเสียงสะอื้น

ก่อนเข้ามาในเมืองลั่วหงไป๋ชิงเหยียนสั่งการไว้ว่าให้ทหารหนึ่งร้อยนายที่เข้ามาในเมืองพร้อมนางแบ่งกำลังคนสิบนายไปช่วยเหลือเด็กที่ถูกจับอยู่ที่จวนว่าการ ต้องปกป้องเด็กเหล่านั้นให้ปลอดภัยให้ได้

พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อพวกเขาบุกมาช่วยเด็กเหล่านี้ บิดาของเด็กเหล่านี้จะชิงตัดหน้ามาช่วยเหลือเด็กๆ ก่อนแล้ว

หัวหน้าทหารต้าโจวลดดาบลง จากนั้นกำหมัดคารวะกลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้า “ข้าคือทหารของฮูหยินฉินไป๋จิ่นซิ่ว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทรงมีรับสั่งให้ข้ามาช่วยเหลือเด็กที่ถูกจักรพรรดิต้าจิ้นจับขังคุกออกไป ในเมื่อพวกท่านมาเร็วกว่าข้า เช่นนั้นก็จงรีบพาเด็กๆ กลับบ้านไปเถิด เมืองลั่วหงกำลังวุ่นวาย พยายามอยู่แต่ในจวนของตัวเองอย่าเพิ่งออกมา! จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทรงมีรับสั่งห้ามทำร้ายชาวบ้านในเมืองแม้แต่คนเดียว เมื่อเรื่องในเมืองสงบลง พวกข้าจะไปแจ้งให้ทุกท่านทราบ!”

หัวหน้าทหารกล่าวจบก็พาทหารคนอื่นจากไปต่อสู้ในสงครามต่อทันที

“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างนั้นหรือ” ชาวบ้านเมืองลั่วหงรู้สึกงุนงง

“ข้ารู้จักฮูหยินฉินไป๋จิ่นซิ่ว นางคือน้องสาวขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว!”

“ได้ยินว่าตอนที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วนำทัพเสริมกลับไปช่วยเหลือที่เมืองหลวง นางช่วยเด็กที่ถูกเกณฑ์ไปยังหอบูชาเก้าชั้นได้มากมาย นางกบกฎราชวงศ์หลินแล้ว หรือว่านางขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแล้วอย่างนั้นหรือ!”

“นี่ไม่ใช่เวลามากล่าวเรื่องนี้ รีบพาเด็กๆ กลับจวนก่อนเถิด ทหารผู้นั้นกล่าวว่าอย่าเพิ่งออกมาเพ่นพ่านด้านนอกตอนนี้!” ผู้นำชาวบ้านกล่าวขึ้น “รีบไปเถิด!”

ชาวบ้านต่างจูงมือลูกหลานของตัวเองวิ่งกลับจวนของตัวเองโดยอาศัยความมืดในยามค่ำคืนเป็นที่กำบัง

ภายในหอลั่วหง จักรพรรดิต้าจิ้นจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนเขม็งราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกจับ ทว่า เขาไม่ได้สะบัดเกาเต๋อเม่าที่กอดขาเขาแน่นออกแต่อย่างใด

จักรพรรดิต้าจิ้นรู้ดีว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไป๋ชิงเหยียน ด้านนอกไม่มีคนของเขาแม้แต่คนเดียว ที่สำคัญตอนนี้ไป๋จิ่นซิ่วนำทัพบุกเข้ามาในเมืองลั่วหงแล้ว ต้าจิ้นพ่ายแพ้แล้ว

ทว่า เขาคือจักรพรรดิแห่งต้าจิ้น! ไป๋ชิงเหยียนกล้าก่อกบฏเขาได้อย่างไรกัน!

องค์หญิงใหญ่มองดูจักรพรรดิต้าจิ้นที่ดวงตาวาวโรจน์นิ่ง จากนั้นเอ่ยขึ้นช้าๆ “ตอนที่ตระกูลไป๋ไม่เคยคิดกบฏต่อราชวงศ์หลิน ฝ่าบาทหวาดระแวงว่าตระกูลไป๋จะกบฏ ขุนนางในราชสำนักต้องการประจบฝ่าบาทจึงช่วยออกความคิดกำจัดตระกูลไป๋ให้พระองค์ บัดนี้ตระกูลไป๋ก่อกบฏดังที่ฝ่าบาทต้องการแล้ว นี่คือเรื่องที่ทรงคาดการณ์ไว้แล้ว เหตุใดจึงพิโรธเช่นนี้อีก”

“พวกกบฏ! พวกเจ้าล้วนเป็นกบฏ!” จักรพรรดิต้าจิ้นโมโหจนเส้นเลือดปูด “เจ้าคือองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์หลิน ทว่า กลับช่วยให้หลานสาวของตัวเองโค่นล้มราชวงศ์หลิน เจ้าไม่กลัวว่าเมื่อตายไปจะไม่มีหน้าพบบรรพบุรุษอย่างนั้นหรือ!”

องค์หญิงใหญ่ที่นั่งอยู่ใต้แสงไฟมองไปทางจักรพรรดิต้าจิ้น

“ช่างน่าละอายจริงๆ ที่ย่าอย่างข้าไม่เคยช่วยเหลือหลานสาวของตัวเองให้ขึ้นครองราชย์แม้แต่น้อย ทว่า กลับทำทุกวิธีถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้นางโค่นล้มราชวงศ์หลิน!” องค์หญิงใหญ่เอนกายพิงหมอนอิง ใบหน้าส่อแววอ่อนล้า นางกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ มองไปทางจักรพรรดิต้าจิ้นพลางส่ายหน้าเล็กน้อย แววตาคมกริบของนางแฝงไปด้วยความเจ็บปวดและเกลียดชัง “เจ้าต่างหาก เจ้าคิดแต่จะสร้างหอบูชาเก้าชั้น เจ้าคิดใช้ชีวิตเด็กมาปรุงยาวิเศษเพื่อต่ออายุของตัวเองจนชาวบ้านต้าจิ้นต่างโกรธแค้น ชีวิตของชาวบ้านไม่สงบสุข พวกเขาต่างลุกขึ้นมาก่อกบฏ เจ้าคือคนที่ช่วยให้หลานสาวของข้าขึ้นครองราชย์ได้อย่างราบรื่นที่สุด เจ้าล้วนรู้ดีแก่ใจ เหตุใดยังต้องหลอกตัวเองเช่นนี้อีก!”

“ข้าไม่เคยทำผิดต่อราชวงศ์หลิน วันหน้าหากพบบรรพบุรุษของตระกูลหลิน ข้ายังมีหน้าไปพบพวกเขาได้ ทว่า เมื่อราชวงศ์หลินตกอยู่ในมือของเจ้า เจ้ากลับตัดแขนของตัวเองทิ้ง เจ้าสังหารเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิง ราชวงศ์หลินย่อยยับในมือของเจ้า!” สร้อยลูกประคำในที่สวมอยู่บนข้อมือขององค์หญิงใหญ่หลุดไปอยู่ในฝ่ามือของนาง องค์หญิงใหญ่เริ่มนับลูกประคำอย่างช้าๆ “ผู้ที่ควรกังวลว่าจะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษตระกูลหลินได้อย่างไรไม่ใช่ข้าแต่เป็นเจ้าต่างหาก! สิ่งที่ข้ากังวลคือเมื่อตายไปข้าจะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษตระกูลไป๋ได้อย่างไรต่างหาก เจ้าและข้าคือคนที่ทำผิดมหันต์ คนหนึ่งทำผิดต่อตระกูลหลิน อีกคนผิดต่อตระกูลไป๋! เมื่อข้าข้าตายไปข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อของเจ้าฟัง เจ้าคงยังจำสัมผัสไม้โบยของเสด็จพ่อเจ้าได้ดีใช่หรือไม่”

เมื่อกล่าวถึงไม้โบยจักรพรรดิต้าจิ้นรู้สึกปวดก้นของตัวเองขึ้นมาทันที เขาเดือดดาลถึงขีดสุด ไม่ฟังคำกล่าวขององค์หญิงใหญ่อีกแม้แต่น้อย เขาตวาดลั่น “พวกกบฏ พวกเจ้ามันเป็นกบฏ! พวกเจ้าไม่ตายดีแน่!”

ในใจของจักรพรรดิต้าจิ้นเต็มไปด้วยความคิดว่าเสด็จป้าของตัวเองทรยศราชวงศ์หลิน หลานสาวของนางคือขุนนางกบฏของต้าจิ้น

ตอนนี้จักรพรรดิต้าจิ้นรู้สึกเสียดายมาก เขาควรจัดการกับสตรีตระกูลไป๋ทั้งหมดให้สิ้นซากตั้งแต่ตอนที่บุรุษตระกูลไป๋เสียชีวิตลงที่หนานเจียงทั้งหมด เช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นซิ่วจะได้ไม่มีโอกาสทำลายการขึ้นไปบนหอบูชาเก้าชั้นของเขาเช่นนี้

ตระกูลไป๋คือกาลกิณีของเขาจริงๆ เหตุใดตอนที่ไป๋เวยถิงไปออกรบที่หนานเจียงเขาจึงไม่พาทายาทของตระกูลไป๋ไปที่นั่นทั้งหมด เหตุใดพวกมันไม่ตายอยู่ที่หนานเจียงทั้งหมดกัน!

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท