ตอนที่ 917 กลับบ้านอย่างปลอดภัย
“ท่านย่า อาเป่ายังไม่ได้บอกท่านย่าเลยเจ้าค่ะว่าอาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ ทว่า ฐานะของอาอวี๋ค่อนข้างพิเศษ อาเป่าจึงคิดว่าอาเป่าจะพาเขามาคารวะท่านย่าด้วยตัวเองในวันที่เขากลับมาเจ้าค่ะ”
ทว่า บัดนี้ร่างกายของท่านย่าฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว นางอยากบอกข่าวนี้กับท่านย่าก่อนที่ท่านจะจากไป
“พี่หญิงใหญ่!” ไป๋จิ่นซิ่วเบิกตาโพลง เกือบร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
อาอวี๋…
ทายาทสายหลักของตระกูลไป๋!
ไป๋จิ่นซิ่วเงยหน้ามองใบหน้าที่สงบนิ่งของท่านย่า นางไม่อยากให้พี่หญิงใหญ่เสียใจ นางรู้ดีว่าแม้ตอนนี้พี่หญิงใหญ่จะไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทว่า ในใจคงเต็มไปด้วยน้ำตาและความรู้สึกผิด ไป๋จิ่นซิ่วจึงพยายามกัดปากกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาไม่ให้ไหลรินลงมา
ดีจริง อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่!
คือเรื่องดีมากจริงๆ
ท่านย่ายังไม่ได้พบหน้าอาอวี๋ อาเจวี๋ยและอาอวิ๋นเลย…
พี่หญิงใหญ่ประกาศตามหาคนตระกูลไป๋ที่รอดชีวิตในสนามรบที่หนานเจียงกลับมาร่วมพิธีบรมราชาภิเษกของนางในวันที่ยี่สิบ เดือนหกแล้ว เหตุใดท่านย่าไม่รออีกสักนิด ไม่แน่อาจมีคนตระกูลไป๋รอดชีวิตเพิ่มอีกก็ได้!
เหตุใดต้องทำเด็ดขาดถึงขั้นไม่ยอมพบหน้ากันครั้งสุดท้ายเช่นนี้ด้วย
ไป๋ชิงเหยียนสัมผัสได้ว่านิ้วมือของท่านย่าขยับเล็กน้อย ลำคอของหญิงสาวตีบตันขึ้นทันที นางรู้ว่าท่านย่าได้ยินสิ่งที่นางกล่าวแล้ว…
น้ำเสียงของหญิงสาวนุ่มนวลและอ่อนโยน “วันที่ยี่สิบ เดือนหกนี้อาเป่าหวังว่าจะมีคนตระกูลไป๋รอดชีวิตกลับมาเพิ่มเจ้าค่ะ หากมี…อาเป่าจะพาน้องๆ มาคารวะท่านย่า บอกกับท่านย่าว่าพวกเขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ”
หางตาที่เหี่ยวย่นขององค์หญิงใหญ่มีน้ำตาซึมออกมาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา
หมอหงและเสิ่นเทียนจือยืนรออยู่นอกกระโจมใหญ่นิ่ง ทั่วทั้งค่ายทหารเงียบสงัด
ทุกคนต่างรู้ดีว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเสด็จมาช่วยองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าจิ้นผู้เป็นย่าของตัวเองที่เมืองลั่วหงด้วยตัวเอง ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อช่วยออกมาแล้วองค์หญิงใหญ่จะทานยาพิษเข้าไปเช่นนี้แล้ว
คนส่วนใหญ่เดาว่าองค์หญิงใหญ่ทำเช่นนี้เพื่อแสดงความโกรธให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวรับรู้ นางต้องการให้สิ่งนี้เป็นหนามทิ่มแทงใจของจักรพรรดินีต้าโจวตลอดไป
เมื่อจักรพรรดินีต้าโจวขึ้นครองราชย์ นางจะได้หวนนึกอยู่เสมอว่าบัลลังก์แห่งนี้แลกมาด้วยชีวิตของย่าตัวเอง
ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายทั้งสิ้น
หมอหงสะพายกล่องยาไว้ที่ไหล่พลางขมวดคิ้วแน่น เขาเงยหน้ามองเปลวเพลิงที่ลุกโหมในเมืองลั่วหงแล้วไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกที่มีในใจเช่นไร หวังว่าเปลวไฟในครั้งนี้จะเผาทำลายความเน่าเฟะของราชวงศ์ต้าจิ้นไปพร้อมกับเมืองลั่วหงด้วย
ตู้ซานเป่าวิ่งหอบเข้ามายื่นจดหมายให้หมอหง “มีจดหมายส่งมาจากเมืองหลวงขอรับท่านหมอหง เราควรรีบมอบจดหมายให้ฝ่าบาทขอรับ”
“เอามานี่!” หมอหงยื่นมือไปรับจดหมายมา จากนั้นเปิดอ่าน “เชื้อพระวงศ์เก่าของต้าเหลียงไม่พอใจจึงก่อความวุ่นวายขึ้นหลังจากที่คุณหนูใหญ่จากมา คุณหนูสี่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว เชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ต้าจิ้นต้องการร่วมมือกับอ๋องที่ได้รับศักดินาทั้งห้าของราชวงศ์ต้าจิ้นเจรจาขอบรรดาศักดิ์และเมืองของตัวเองจากองค์หญิงใหญ่และคุณหนูใหญ่!”
“พวกนี้ฝันไปหรืออย่างไร” ตู้ซานเป่าถ่มน้ำลายออกมา
“พวกอ๋องที่ได้รับศักดินาของราชวงศ์เก่าไม่มีทางก่อปัญหาได้หรอก ก่อนคุณหนูใหญ่จะเดินทางมาที่เมืองลั่วหง คุณหนูใหญ่สั่งให้กองทัพไป๋มุ่งหน้าไปเชิญซื่อจื่อและอ๋องจากเมืองกว่างอันและไป๋สุ่ยมาร่วมพิธีบรมราชาภิเษกที่เมืองหลวง จากนั้นให้กองทัพไป๋รับช่วงต่อดูแลเมืองทั้งสองแล้ว พวกเขาไม่กล้าไม่มาหรอก” หมอหงกล่าวเสียงขรึม “คุณหนูใหญ่สั่งให้คนแพร่กระจายข่าวเรื่องการปฏิรูปการปกครองระบอบใหม่ที่เมืองเหล่านั้น อธิบายให้ชาวบ้านรับรู้ถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ ทหารประจำเมืองเหล่านั้นล้วนมาจากชาวบ้านธรรมดา ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์เท่ากับเขาก็ได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกัน คนเหล่านั้นจะทำตามคำสั่งของอ๋องแห่งเมืองนั้นอย่างไม่คิดชีวิตอีกหรือ”
เสิ่นเทียนจือพยักหน้า ไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับชาวบ้านเสมอมา ไม่แปลกที่หญิงสาวจะทำเช่นนี้
ตู้ซานเป่าวางใจลงเช่นเดียวกัน
“ที่คุณหนูใหญ่ไม่ได้ส่งคนไปยังเหอตง อันซีและซั่วฟางคงเป็นเพราะคุณหนูใหญ่ต้องการเดินทางไปด้วยตัวเองตอนกลับเมืองหลวง พวกเราสามารถอ้อมไปยังสามเมืองนี้ก่อนได้โดยไม่เสียเวลาเท่าใดนัก คุณหนูใหญ่นำทหารไปพบพวกเขาด้วยตัวเอง พวกเขาคงไม่กล้าก่อปัญหาแน่”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหมอหงเสิ่นเทียนจือเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะทำเช่นนี้…
หากเสิ่นเทียนจือเดาไม่ผิด ไป๋ชิงเหยียนคงต้องการยกเลิกระบบศักดินาและรวบรวมอำนาจเข้าศูนย์กลางแทน
กล่าวง่ายๆ ก็คือผู้ใดมีกำลังทหารมากกว่า ผู้นั้นก็มีสิทธิ์ขาด
กำลังทหารในมือของไป๋ชิงเหยียนมากกว่า เมื่อนำทัพไปล้อมเมืองของอ๋องเหล่านั้น ควบคุมครอบครัวและจวนของพวกเขาไว้ พวกเขาก็จำต้องยอมจำนน…ที่สำคัญระบอบการปกครองใหม่ของไป๋ชิงเหยียนเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านที่เดิมทียินดีรับใช้อ๋องผู้เป็นเจ้าของเมืองรับรู้ข่าวนี้ พวกเขาจะไม่ยินดีต้อนรับไป๋ชิงเหยียนอย่างนั้นหรือ
ตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนรับช่วงต่อดูแลเมืองหลวงและสืบรู้อำนาจของเชื้อพระวงศ์เหล่านี้ หญิงสาวจึงเตรียมแผนป้องกันพวกเขาไว้แล้ว หญิงสาววางแผนป้องกันอ๋องแห่งราชวงศ์เก่าที่มีกำลังทหารส่วนตัวอยู่ในมือก่อกบฏนานแล้ว
ไม่นานหมอหงก็เห็นหลินคังเล่อที่ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยเขม่าควันวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน หลินคังเล่อคารวะหมอหงและเสิ่นเทียนจืออย่างลวกๆ จากนั้นเตรียมเข้าไปในกระโจม เสิ่นเทียนจือรีบห้ามหลินคังเล่อทันที “แม่ทัพหลินช้าก่อน”
หลินคังเล่อคิดว่าเสิ่นเทียนจือไม่พอใจที่เขาคารวะลวกๆ จึงปัดมือเสิ่นเทียนจือออก “นี่มันเวลาใดแล้ว ข้าไม่มีเวลาคำนึงถึงมารยาทหรอก ข้าต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท อดีตองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าจิ้นและฉินซ่างจื้อมายอมจำนนแล้วขอรับ!”
“อย่าเพิ่งเข้าไป…” หมอหงกล่าว
หลินคังเล่อติดตามไป๋ชิงเหยียนมานานแล้ว เขารู้ดีว่าหมอหงสำคัญต่อไป๋ชิงเหยียนมาก เขาเหลือบมองสีหน้าเคร่งขรึมของเสิ่นเทียนจือ เรื่องอดีตองค์รัชทายาทมายอมจำนนไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างนั้นหรือ
ฝ่าบาทอยากได้ฉินซ่างจื้อมาเป็นพวกไม่ใช่หรืออย่างไร บัดนี้คนมาหาถึงที่แล้ว เหตุใดถึงได้ไม่ร้อนใจกันสักนิด
หลินคังเล่อยกมือคารวะหมอหง “ท่านหมอหงได้โปรดชี้แนะด้วยขอรับ”
หมอหงโบกมือ “ไม่มีสิ่งใดต้องชี้แนะ องค์หญิงใหญ่ไม่ไหวแล้ว คุณหนูใหญ่และคุณหนูรองอยู่เป็นเพื่อนท่านด้านใน อย่าเพิ่งไปรบกวนคุณหนูใหญ่ตอนนี้เลย”
หลินคังเล่อเข้าใจเรื่องทุกอย่างในทันที เขามองไปทางกระโจมใหญ่ที่มีผ้าม่านปิดแวบหนึ่ง จากนั้นก้าวเข้าไปกล่าวกับหมอหง “ท่านหมอหง อดีตองค์รัชทายาทถูกแทงที่หน้าอก ท่านจะไปตรวจดูอาการหรือไม่ขอรับ”
“เหตุใดต้องไปดูอาการของเขาด้วย หากท่านหมอหงมีเวลาไม่สู้ไปตรวจดูอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ดีกว่า!” ตู้ซานเป่ากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
ตู้ซานเป่าได้รับคำสั่งให้รออยู่ในค่ายทหาร สหายที่ได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้ถูกทยอยหามเข้ามาในค่าย หมอทหารแทบไม่มีเวลารักษาพวกเขา เหตุใดยังต้องไปช่วยอดีตองค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นนั่นอีก
แคว้นต้าจิ้นดับสูญลงแล้ว ผู้ใดยอมรับเขาเป็นองค์รัชทายาทอีกกัน
หมอหงพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นมองไปทางหลินคังเล่อ “ส่งหมอทหารไปรักษาอาการเขาสักคนก็สิ้นเรื่องแล้ว ข้าต้องอยู่เฝ้าที่นี่ พระวรกายของฝ่าบาทยังไม่ฟื้นเต็มที่ หากเกิดสิ่งใดขึ้นมา ชีวิตของอดีตองค์รัชทายาทจะชดใช้ได้หรืออย่างไร”