สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 932 แก้ปัญหาที่ต้นตอ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 932 แก้ปัญหาที่ต้นตอ

“เจ้าค่ะ!” ชุนเถาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเดินออกไปยืนเฝ้าที่ด้านนอก

ฉินหล่างและไป๋จิ่นซิ่วคุกเข่าลงบนเบาะรองนั่ง จากนั้นกล่าวประเด็นสำคัญ “วันนั้นข้าพาท่านแม่ยายไปขอพรให้ทุกคนในตระกูลไป๋ปลอดภัยที่วัด ตอนที่ท่านแม่กำลังสวดมนต์ ข้าจึงพาวั่งเกอออกไปเดินเล่นที่สวนหลังวัด ข้าบังเอิญเห็นไป๋สุ่ยอ๋องซึ่งแต่งกายด้วยชุดชาวบ้านธรรมดา ตอนแรกข้าอยากเข้าไปทักทาย ทว่า ยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยเสียก่อนขอรับ”

สิ้นเสียงของฉินหล่าง ขาของไป๋จิ่นเซ่อที่นอนอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนกระตุกเล็กน้อยราวกับฝันสิ่งใดอยู่

ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปตบไหล่ของไป๋จิ่นเซ่อเบาๆ จากนั้นขยับผ้าห่มคลุมให้นาง

ไป๋ชิงเหยียนขยับกายบังแสงเทียนให้ไป๋จิ่นเซ่อ จากนั้นก้มหน้าอย่างใช้ความคิด หญิงสาวนึกถึงตอนที่กลุ่มของหลู่เซียงรายงานว่าเมื่อหลี่จือเจี๋ยมาถึงเมืองหลวง เขาอ๋องส่งของขวัญไปให้บรรดาขุนนางมากมาย

ฉินหล่างเหลือบมองไป๋จิ่นเซ่อแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อเสียงเบา “ข้ากลัวว่าวั่งเกอจะทำให้สองคนนั้นรู้ตัวเสียก่อนจึงรีบพาวั่งเกอหลบออกมาขอรับ ตอนที่ข้าลงมาจากภูเขากับท่านแม่ยาย ข้าได้ยินคนตัดไม้ที่นั่งดื่มชาอยู่ในเพลิงน้ำชากล่าวว่าเดิมทีเขาจะขึ้นไปตัดฟืนบนภูเขา ทว่า เขาเห็นกองทัพทหารมากมายจึงรีบหนีลงจากภูเขาด้วยความตกใจ! เมื่อกลับถึงบ้านข้าจึงเขียนจดหมายส่งไปยังซั่วหยาง เดิมทีข้าคิดว่าคุณหนูใหญ่และจิ่นซิ่วจะทราบเรื่องนี้แล้ว ทว่า พอเอ่ยถามถึงได้รู้ว่าพวกท่านยังไม่ทราบขอรับ”

“ข้าเป็นคนปิดข่าวไว้เอง” ไป๋ชิงเจวี๋ยมองฉินหล่างพลางกล่าวออกมาอย่างช้าๆ “ตอนได้รับจดหมายทางเมืองหลวงกำลังวุ่นวาย พี่หญิงรองพาคนไปช่วยท่านย่า พี่หญิงใหญ่จัดการความวุ่นวายในเมืองหลวง ข้าคำนวณแล้วว่ากองทัพของไป๋สุ่ยอ๋องมีไม่เกินหนึ่งหมื่นนาย ข้าคิดว่าข้าสามารถควบคุมได้”

“ส่วนเหยียนอ๋อง…” แววตาของไป๋ชิงเจวี๋ยแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา น้ำเสียงเยือกเย็นลง “อยู่ในแคว้นต้าโจว เขาจะก่อปัญหาใดขึ้นมาได้กัน!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยไม่เคยลืมว่าขาของอาอวิ๋นหักด้วยน้ำมือของเหยียนอ๋อง ขาของหลี่จือเจี๋ยจะอยู่บนร่างกายของตัวเองต่อเพียงชั่วคราวเท่านั้น สักวันหนึ่งไป๋ชิงเจวี๋ยจะเอามันคืนมาด้วยตัวเอง!

“ในเมื่ออาเจวี๋ยเตรียมป้องกันไว้แล้ว เช่นนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของไป๋สุ่ยอ๋องอีก” ไป๋จิ่นซิ่วหันไปทางไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ บัดนี้พวกเราเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว พี่หญิงใหญ่จะจัดการกับอดีตรัชทายาทเช่นไรเจ้าคะ”

“พรุ่งนี้พี่จะไปพบอดีตรัชทายาทด้วยตัวเอง…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นช้าๆ

หากอดีตรัชทายาทยอมอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ไป๋ชิงเหยียนจะแต่งตั้งเขาเป็นอ๋องเช่นเดียวกับองค์ชายสามแห่งต้าเหลียง ราชวงศ์ต้าโจวจะเลี้ยงดูเขา นางจะส่งเขาไปกักบริเวณในเมืองที่อุมดสมบูรณ์ของต้าเหลียง ให้เขาได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว

เมื่ออดีตรัชทายาทอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง เขาจะได้ไม่ถูกผู้อื่นหลอกใช้อีก

“เมื่อพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นลง อาเจวี๋ยยินดีนำกองทัพไป๋เดินทางไปช่วยเฉินเจาลู่และหลู่หยวนชิ่งปฏิรูปการปกครองใหม่ที่เมืองหานหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋ชิงเจวี๋ยพลางเอ่ยถาม

“พี่หญิงใหญ่จัดการได้เลยขอรับ ไม่ว่าพี่หญิงใหญ่ต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ข้าจะทำตามคำสั่งของพี่หญิงใหญ่ทุกอย่างขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยรับคำ

ที่จริงไป๋จิ่นซิ่วคือตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ทว่า วั่งเกอยังเล็กเกินไป

ไป๋ชิงเหยียนลังเลอยู่นาน ในที่สุดจึงตัดสินใจให้ไป๋ชิงเจวี๋ยไปแทน

หลี่จือเจี๋ยยืนกำเมล็ดแตงโมอยู่ริมหน้าต่าง เขาเงยหน้าแบมือป้อนอาหารนกแก้วยักษ์ที่มีขนสีน้ำเงินตามลำตัวและขนสีเหลืองที่ลำคอภายใต้แสงเทียนที่สะบัดไปมา ขนสีน้ำเงินของนกแก้วยักษ์แวววาวและสะอาดบริสุทธิ์ เป็นนกที่สวยงามมาก

“กล่าวว่าจักรพรรดินีแห่งต้าเหลียงจงเจริญหมื่นปีสิ!” หลี่จือเจี๋ยแหย่นกแก้วด้วยเมล็ดแตงโมในมือ

นกแก้วเลียนแบบตามทันที “กล่าวว่าจักรพรรดินีแห่งต้าเหลียงจงเจริญหมื่นปีสิ!”

หลี่จือเจี๋ยพยักหน้าอย่างพอใจ เขาป้อนเมล็ดแตงโมให้นกแก้ว จากนั้นลูบศีรษะมันอย่างแผ่วเบา

นี่คือของขวัญที่หลี่จือเจี๋ยจะมอบให้ไป๋ชิงเหยียนในวันพิธีบรมราชาภิเษกของหญิงสาว แน่นอนว่าหากไป๋ชิงเหยียนได้ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่นนะ

หลี่จือเจี๋ยชอบสิ่งมีชีวิตที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ล้วนเป็นเช่นนั้น

หลี่จือเจี๋ยเฟ้นหานกแก้วยักษ์สีน้ำเงินเหลืองตัวนี้มาอย่างยากลำบาก เลี้ยงได้ไม่กี่วันก็ต้องมอบมันให้ผู้อื่นแล้ว หลี่จือเจี๋ยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ทว่า เมื่อคิดได้ว่าเขามอบมันให้แก่สาวงามอย่างไป๋ชิงเหยียน หลี่จือเจี๋ยจึงไม่ได้รู้สึกเสียดายมากเท่าใดนัก

ลูกน้องของหลี่จือเจี๋ยเดินเข้ามาทำความเคารพ จากนั้นกล่าวรายงาน “ท่านอ๋อง ไป๋สุ่ยอ๋องเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพกองกำลังรักษาพระองค์ฝ่ายของฟ่านอวี๋ไหวที่ถูกฟ่านอวี๋ไหวทิ้งไว้ที่เมืองหลวงบางส่วนยอมรับไม่ได้ที่สตรีจะขึ้นครองบัลลังก์ ทว่า กองกำลังในมือของไป๋ชิงเหยียนมีมากเกินไป พวกเขาจึงไม่กล้าทำสิ่งใด ไป๋สุ่ยอ๋องคือคนของราชวงศ์หลิน เขามีกองกำลังอยู่ในมือ เขาพอมีอำนาจในการทำให้คนเหล่านั้นยอมรับใช้เขาได้ขอรับ”

“ดี…” หลี่จือเจี๋ยกล่าวอย่างไม่รีบร้อน ประเด็นสำคัญคือไป๋สุ่ยอ๋องอายุหกสิบกว่าแล้ว ใบหน้าของเขาไม่ได้น่ามองนัก หลี่จือเจี๋ยจึงไม่ค่อยสนใจเขาสักเท่าใดนัก “ไป๋สุ่ยอ๋องวางแผนไว้เช่นไร”

“ทูลท่านอ๋อง ไป๋สุ่ยอ๋องสั่งให้คนดักซุ่มอยู่บริเวณตำหนักใหญ่ในวันพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว จากนั้นจะแก้ปัญหาที่ต้นตอโดยการสังหารจักรพรรดิราชนีแห่งต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงจักรพรรดินีแห่งต้าโจวสิ้นพระชนม์ ไป๋สุ่ยอ๋องจะขึ้นครองบัลลังก์แทนในวันนั้นทันทีพ่ะย่ะค่ะ ไป๋สุ่ยอ๋องกล่าวว่าเขาคือคนของราชวงศ์หลิน แม้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเปลี่ยนแคว้นเป็นต้าโจวแล้ว ทว่า ทุกคนเคยเป็นชาวบ้านของแคว้นต้าจิ้นมานาน ขอเพียงเขาไม่คิดโค่นล้มอ๋องคนอื่นๆ อ๋องอีกสี่คนต้องสนับสนุนเขาขึ้นเป็นจักรพรรดิแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ เขาต้องการให้ท่านอ๋องช่วยเหลือเขาอีกแรงพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่จือเจี๋ยหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก้มหน้าเขี่ยเมล็ดแตงในมือ “ได้ ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปได้!”

หลี่จือเจี๋ยทำหน้าที่ในส่วนของเขาในแคว้นต้าจิ้นอย่างเต็มที่แล้ว

หากไป๋สุ่ยอ๋องทำไม่สำเร็จ เขาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น เขาแค่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว กระทั่งเตรียมของขวัญล้ำค่ามามอบให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจว ของขวัญล้ำค่านั้นคือเมืองตั้งสิบห้าเมืองเชียวนะ แน่นอนว่าเป็นเพราะซีเหลียงมีเรื่องอยากขอร้องให้ต้าโจวช่วยเหลือ

แม้มีเรื่องขอร้องให้ช่วย ทว่า จะมีแคว้นใดใจกว้างมอบของขวัญล้ำค่าถึงเพียงนี้ให้แคว้นอื่นกัน

พวกเขายอมมอบของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ให้ต้าโจว พวกเขาจะไปร่วมมือกับไป๋สุ่ยอ๋องทำร้ายจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้อย่างไรกัน ไป๋สุ่ยอ๋องต้องการก่อกบฏเอง หลี่จือเจี๋ยไม่ได้ใช้มีดจ่อคอบังคับให้เขาก่อกบฏเสียหน่อย

หากไป๋สุ่ยอ๋องสังหารไป๋ชิงเหยียนได้ก็ถือเป็นเรื่องดี

เช่นนี้เขาจะได้ไม่ต้องมอบเมืองทั้งสิบห้าเมืองที่ฝ่าบาททรงสั่งให้นำมามอบให้ต้าโจวออกไป

เพราะเมื่อไป๋สุ่ยอ๋องสังหารไป๋ชิงเหยียนได้แล้ว เขาไม่คิดว่าไป๋สุ่ยอ๋องจะสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้ ไม่แน่ต้าโจวอาจเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่หลวงขึ้นอีกครั้งก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นแคว้นต้าโจวหรือต้าจิ้น ขอเพียงพวกเขาเกิดความวุ่นวายภายในแคว้น ซีเหลียงจึงจะมีเวลาพักหายใจ

พวกเขาจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาระหว่างอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและอ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋ที่ว่าเมื่อหรงตี๋บุกโจมตีซีเหลียง ต้าเยี่ยนห้ามเข้ามาวุ่นวายได้

ต้าจิ้นเกิดความวุ่นวายภายในแคว้นจนไม่มีเวลาสนใจแคว้น ต้าเยี่ยนห้ามเข้ามาวุ่นวาย เช่นนี้หากซีเหลียงตั้งใจโจมตีหรงตี๋ ไม่แน่พวกเขาอาจมีโอกาสรบชนะและยึดครองหรงตี๋ได้!

หากซีเหลียงทำลายหรงตี๋ได้ พวกเขาจึงจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับต้าจิ้นและต้าเยี่ยนได้ บางทีพวกเขาอาจเป็นแคว้นที่รอดชีวิตในท้ายที่สุด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท